บทที่ 107 การทำลายล้าง!
ภายใต้แสงตะวันตกดิน มีคลื่นลมอีกระลอกพัดโชยมาที่นี่ กลุ่มนักรบจากจวนมู่หรงต่อสู้กับสัตว์ปีศาจจากทั้งสองฝ่ายที่สลับกันรุกเข้ามา เป็สถานการณ์ที่วุ่นวายมาก
“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง——” อาวุธถูกปล่อยออกมาอย่างดุเดือด พลังปราณท่วมท้น สัตว์ปีศาจหลายตัวถูกสับละเอียด เสียงโหยหวนอย่างน่าสังเวชโชยมาให้ได้ยิน หมอกเืล่องลอยไปในอากาศ
ในเวลาเดียวกัน บางคนก็รบจนสิ้นชีพ กระดูกของพวกเขาแตกละเอียด นักรบชั้นมหาสมุทรที่เหลือก็คุ้มกันมู่หรงเต๋อออกไป พวกเขาวิ่งอย่างรวดเร็วบนเส้นทางนองเื
แต่แม้ว่าที่นี่จะมีสัตว์ปีศาจมากมายรวมตัวกันหนาแน่นเพียงใด แต่พวกมันกลับต่อสู้กันเอง ดังนั้นมนุษย์จึงไม่กลายเป็เป้าโจมตีเท่าใดนัก
นักรบจากจวนมู่หรงจึงมีโอกาสได้พักหายใจและจำนวนผู้เสียชีวิตก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ในไม่ช้า พวกเขาก็จะสามารถหาทางออกและค่อยๆ ออกจากพื้นที่รกร้างแห่งนี้ไป
อีกด้านหนึ่ง สถานการณ์ที่หน้าเสาศักดิ์สิทธิ์กลับไม่มีสัตว์ปีศาจเข้ามาใกล้เลย ท่ามกลางความวุ่นวาย ณ ตรงนี้กลับเงียบสงบมาก แต่ระดับความอันตรายกลับไม่น้อยลงเลย
ตอนนี้ ฉู่อวิ๋น ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิต และัทองยังคงพัวพันกันยุ่งเหยิง มองแวบแรกสถานการณ์ดูเหมือนจะสมดุล ไม่มีใครสามารถทำอะไรใครได้ แต่ในความเป็จริง ทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป สมดุลแห่งชัยชนะจะเอนเอียงไปมาอยู่เสมอ นั่นคือ่เวลาสำคัญแห่งชีวิต
“โฮก--!!”
ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตนอนอยู่บนพื้นด้วยความเ็ป หดหู่อย่างยิ่ง ลิ้นของมันติดอยู่กับกระบี่ชื่อยวนของฉู่อวิ๋น เพดานปากของมันก็ถูกทิ่มแทง ทำให้เือันมีค่าจำนวนมากไหลริน ในขณะเดียวกัน หัวของมันก็ถูกัทองรัดไว้ สะบัดยังไงก็ไม่หลุด
สำหรับาาแห่งป่าสีเืนี้ ่เวลานี้เ็ป เกลียดชัง และไม่เต็มใจยิ่งนัก นี่มันน่าละอายเกินไป มันเป็ถึงาาแห่งสัตว์ปีศาจที่เป็ใหญ่ไปทั่วบริเวณนี้ ไม่มีใครเทียบมันได้ แต่ตอนนี้ หลังจากมนุษย์หนุ่มนี่พลิกสถานการณ์ได้ มันทำได้เพียงดิ้นรนเหมือนสุนัขจนตรอก
“โฮก!” ราชันย์ราชสีห์เขี้ยวโลหิตร้องโหยหวน สบถสาปแช่งในใจหลายร้อยครั้ง แต่เพราะฉู่อวิ๋นทิ่มกระบี่ค้ำไว้ระหว่างลิ้นและเพดานปาก ทำให้มันไม่สามารถส่งเสียงได้ สิ่งนี้ทำให้มันยิ่งโกรธมากขึ้น ครานี้ ถึงคราวนอนรอความตายแล้วจริงๆ!
“ฮ่าๆ! สิงโตน้อย เ้าออกอาละวาดมาตั้งนานนม แต่ตอนนี้กลับถูกมนุษย์ตัวจ้อยของขอบเขตควบแน่นพลังปราณปรามเข้าให้ รู้สึกอย่างไรบ้าง? อะแฮ่ม…” ัทองหัวเราะเยาะ แม้ว่าลมหายใจมันจะอ่อนแรง แต่เมื่อเห็นสภาพของราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิต มันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ทำให้ต้องกระอักเืสกปรกออกมาสองสามคำ
“โฮก! โฮ่ก!”
ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตโกรธมากแต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทำได้เพียงปล่อยเสียงคำรามของสัตว์อสูรออกมา
ตอนนี้ มันทนมามากพอแล้วจริงๆ ในที่สุดมันก็อดทนต่อความเ็ปแสนสาหัสแล้วกลิ้งตัวบดขยี้ัทองที่พันอยู่รอบตัว
“ตึง ตึง ตึง---”
ก้อนเงาอสูรที่กลิ้งอยู่บนพื้นทำให้เกิดฝุ่นละอองขนานใหญ่ แต่ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตไม่มีทางอื่น เพราะสูญเสียเือันมีค่าและาเ็สาหัส มันใกล้จะหมดแรงแล้ว นี่คือหนทางสุดท้าย
“ซืด—!” หลังจากที่ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตเคลื่อนไหวเช่นนั้น ัทองก็ถูกโจมตีอย่างแรงจนดวงตาเห็นดาว มันกรีดร้องด้วยความเ็ป เกล็ดสีทองชิ้นใหญ่ร่วงหล่นลงมา พลังเองก็ลดลงอย่างมาก
“เ้าสิงโตเหม็น!”
ฉู่อวิ๋นยังสาปแช่งอยู่ในใจ เขาที่นอนอยู่บนลิ้นของราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตย่อมกลิ้งไปด้วย ศีรษะของเขามึนงงจากการกระแทก พ่นเืออกมาสองสามคำ หมดสิ้นซึ่งเรี่ยวแรง
แต่เพื่อปกป้องชีวิต ฉู่อวิ๋นทำได้เพียงใช้กำลังสุดท้ายคว้าจับกระบี่ชื่อยวนไว้ หากโชคไม่ดีตกลงไปในท้องของราชันราชสีห์ เขาก็จะถูกกลืนหายไปทันที
“กร๊อบ แกร๊บ——”
ขณะที่ร่างของสัตว์อสูรกลิ้งไปมา ร่างกายก็มีเสียงแตกร้าวดังขึ้น อาการาเ็ของฉู่อวิ๋นแย่ลง เขาไอออกมาเป็เืที่มุมปาก ดวงตาที่ไม่ยอมอ่อนข้อค่อยๆ หรี่ลง ภายใต้การพลิกตัวอย่างต่อเนื่องของราชันราชสีห์ จิตสำนึกของเขาก็เริ่มเลือนรางไปบ้าง
“แค่ก——”
ัทองเองก็กระอักเืออกมาเช่นกัน ร่างกายของมันเต็มไปด้วยาแ เกล็ดสีทองกลายเป็สีแดง มันที่พันตัวรอบราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตเป็ผู้ที่ได้รับความเสียหายหนัก ทุกครั้งที่กระแทกลงมา มันเองก็ทรมานมากเช่นกัน
ในทางกลับกัน ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตนั้นย่ำแย่ที่สุดในตอนนี้ เพราะมันถูกโจมตีจากทั้งในนอก มีเพียงกระแทกพื้นเท่านั้นที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายาเ็ได้ มันสูญเสียเือันมีค่ามากเกินไปและเข้าใกล้ความตายอยู่รอมร่อ
“โฮก……”
หลังจากนั้นไม่นาน ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็ค่อยๆ สูญเสียเรี่ยวแรงไป มันกังวลมาก หากยังเป็เช่นนี้ต่อไปมันคงเป็ตัวแรกที่จะตายเพราะเสียเืมาก
เมื่อคิดดังนั้น ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็เผยแววตาดุเดือด มันไม่คิดชีวิต กระทืบเท้าลงบนพื้นแล้วดีดตัวทะยานขึ้นฟ้า ก่อนจะพุ่งตัวลงมาบนพื้นด้วย้าแลกชีวิต!
“ตูม--“
ด้วยเสียงตกกระแทกอันกึกก้อง ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็ร่วงลงไปบนพื้นดิน ฝุ่นควันตลบฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า พัดพาหินทรายให้ปลิวว่อน ก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นดิน
ในที่สุด ยามนี้ ไม่ว่าจะเป็ัทองหรือราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิต ร่างของพวกมันต่างก็แหลกลาญ หมอกเืก็ะเิออก พวกมันทั้งหมดเข้าสู่สภาวะแห่งความตาย นอนนิ่งอยู่บนพื้น ไม่สามารถขยับไปไหนได้
ฉู่อวิ๋นเองก็เช่นกัน ร่างกายของเขากระแทกกับผนังปากของราชันย์ราชสีห์ การมองเห็นของเขาดับวูบลงจนเกือบจะหมดสติ เหลือเพียงลมหายใจเดียว เขานอนอย่างโรยแรงโดยในมือขวายังจับกระบี่ชื่อยวนอยู่
แน่นอนว่าเพราะราชันราชสีห์นอนตะแคง ทำให้เขายังไม่ตกลงไปในท้องมัน
“ซืด--!”
ัทองเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและส่งเสียงซืดออกมา มันกระอักเื ปล่อยพลังที่เหลืออยู่ของาาปีศาจออกมา จากนั้นพลังชีวิตของมันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามันถึงขีดจำกัดแล้ว ดวงตาใหญ่โตปิดลงอย่างช้าๆ มันกำลังจะตาย
“โฮก... ข้าชนะแล้ว...”
เมื่อเห็นว่าร่างของสัตว์อสูรอีกตัวกำลังคลายลง ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็ตื่นเต้นและคำรามทันที แม้ว่ามันเองก็กำลังจะตาย แต่ัทองก็ตายก่อนหนึ่งก้าว ซึ่งหมายความว่าราชันราชสีห์จะเป็ผู้ชนะในครั้งนี้
สำหรับราชันราชสีห์ตัวนี้ ตราบใดที่มันดูดซับแก่นพลังปราณของฉู่อวิ๋น มันก็สามารถกลืนิญญาไฟศักดิ์สิทธิ์และใต้หล้าได้!
“ตาเ้าแล้ว…"
หลังจากคำรามเสียงดัง ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็หันเหความสนใจไปที่ฉู่อวิ๋นด้วยแววตาที่ดุร้าย มันอ้าปากอันใหญ่โต พยายามยืดกรงเล็บราชสีห์ออกมาดึงกระบี่ด้วยความเกลียดชัง จากนั้นก็อ้าปากพร้อมที่จะกัดฉู่อวิ๋น!
“ไปตายเสีย!”
เมื่อตระหนักว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ฉู่อวิ๋นที่เดิมหมดสติไปแล้วก็กลับมามีสติสัมปชัญญะทันที แววตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ นี่คือ่เวลาเป็ตายที่แท้จริง!
เขาแลกด้วยชีวิต อดทนต่อความเ็ปแสนสาหัส จับกระบี่ด้วยมือเดียวแล้วแทงราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตที่กราม้า มือซ้ายของเขาระดมพลังปราณเฮือกสุดท้ายในร่างกาย และใช้กระบวนท่าที่สองของฝ่ามือัพเนจร ัหมอบเคลื่อนภพ!
“โฮก!”
ยามนี้เอง เสียงคำรามดังลั่นก็สะท้อนออกมาจากปากของราชันราชสีห์ มันเป็เสียงคำรามของัและเสียงวิชาฝ่ามือที่โจมตีอย่างสิ้นหวังของฉู่อวิ๋น
ทันใดนั้น เืของราชันราชสีห์ก็ทะลักออกมา ปากและกรามบนของมันชุ่มไปด้วยเื อัศจรรย์นัก มันที่เป็ถึงสัตว์อสูรกลับถูกเด็กหนุ่มทำร้ายเอาได้ เ็ปใจจริงๆ
เดิมที ด้วยความแข็งแกร่งของฉู่อวิ๋น ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็คงไม่สามารถทำร้ายสัตว์อสูรระดับสูงได้ แต่ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตาเ็สาหัส ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก และร่างปีศาจก็โดนัทองแช่แข็งไปบางส่วน ฉู่อวิ๋นจึงมีโอกาสขึ้นมา
“แก...เ้ามนุษย์หนุ่มน่ารังเกียจ!!”
ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตหงุดหงิดแล้วจริงๆ เสียงคำรามนั้นเศร้าและอ่อนแอมาก ไม่เคยคิดเลยว่าในฐานะเ้าแห่งป่าสีเื ชีวิตของมันจะถูกคุกคามโดยฉู่อวิ๋น นักรบขอบเขตควบแน่นพลังปราณตัวน้อย
มันคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที ศักดิ์ศรีของาาสัตว์ปีศาจไม่สามารถถูกคนอื่นเหยียบย่ำได้!
“โฮก--!!!”
ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตคำราม พลังปีศาจของมันพลุ่งพล่าน ใช้ประโยชน์จากกระบี่ของฉู่อวิ๋นม้วนลิ้นเข้าไปในหลอดอาหารของมันเอง!
ลิ้นของสัตว์อสูรย่อมแข็งแกร่ง นี่เป็การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของมันหลังจากการต่อสู้อย่างหนักมาเมื่อครู่ ฉู่อวิ๋นเองก็หมดแรงแล้ว ในยามนี้ เขาไม่สามารถขยับได้ ทำได้เพียงรอความตาย!
ทันใดนั้น ชั่วเวลาฟ้าผ่า ัทองที่รัดพันอยู่กับราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตก็เปิดตาจ้องมองอย่างดุเดือด ที่แท้มันยังไม่ตาย!
“สิงโตน้อย ตายเสีย——!”
ัทองเปล่งแสงพร้อมกับใช้ลำตัวยืดยาวรัดปากของอีกฝ่าย พ่นลมหายใจน้ำค้างแข็งออกมาอย่างแรง! เกล็ดของมันร่วงหล่นจนเกือบหมด เืกระเซ็นไปทั่วทุกที่ ต่อให้มันจะตาย มันก็ขอตายไปพร้อมกับราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิต!
“ฉึก--”
พร้อมกับเสียงฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ดวงตาของัทองเบิกกว้าง จากนั้นก็ตายสนิท
ในขณะเดียวกัน ปากอันใหญ่โตของราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตที่ถูกรัดแน่นก็ปิดลงในฉับพลัน กระบี่ชื่อยวนอันแหลมคมเจาะทะลุกราม้าของมันทันที คราบเืกระเซ็นไปทั่ว สถานการณ์อันตรายถึงชีวิต!
“โฮก——”
ยามนี้ เสียงคำรามดังลั่นสั่นสะท้านแผ่นดิน โศกเศร้า เ็ป โหยหวน ดังก้องอยู่เป็เวลานาน
ทันใดนั้น สัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ล้มลงกับพื้น ดวงตากลมโตของมันเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ
ราชันราชสีห์เขี้ยวโลหิตตายแล้ว!
ราชันสัตว์ปีศาจทั้งสองได้สิ้นชีพแล้ว!
“แค่ก... เ้าสิงโตเหม็น แกร่งกว่าเหล็กหรือ? เ้ายังตามหลังอยู่อีกมาก… แค่ก…” ฉู่อวิ๋นกระอักเืซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาหรี่ตาลง พยายามดึงกระบี่ชื่อวนออกและคลานออกไป ลากร่างที่ใกล้จะหมดแรงออกไปจากปากของราชันราชสีห์
ในที่สุด เขาก็มองเห็นแสงอาทิตย์อีกครั้ง ร่างกายนอนแผ่อยู่ในหลุมขนาดใหญ่ มองขึ้นไปยังท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน
ยามนี้ ฉู่อวิ๋นหมดแรงแล้วจริงๆ ลมหายใจก็ค่อยๆ อ่อนระโหย จิตสำนึกของร่างกายก็ค่อยๆ หายไป หลังจากการต่อสู้ที่โหดร้ายในรอบนี้ เขาก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง ร่างกายทรุดโทรมลงจวนจะตาย
“พี่หญิง... ข้าคงไม่รอดแล้ว...”
“ขอโทษ”
“ขอ... โทษ...”
น้ำเสียงและรอยยิ้มของฉู่ซินเหยา รวมไปถึงดวงตาอันอ่อนโยนและอบอุ่นของนางแวบขึ้นมาในใจของเขา ฉู่อวิ๋นค่อยๆ หลับตาลง ใกล้จะหมดสติ ร่างกายของเขาแหลกละเอียดอย่างสมบูรณ์ กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกแตกหัก
เขาเองก็ถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน
ไม่ไกลออกไป บริเวณรอบนอกมีกลุ่มสัตว์ปีศาจกำลังต่อสู้กันอยู่ ที่นั่นเต็มไปด้วยไอสังหาร แต่ฉู่อวิ๋นที่นอนอยู่ในหลุมลึก ไม่ได้ยินและมองไม่เห็นอีกต่อไป
จากนั้นไม่นาน เขาก็หมดสติไป และกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต
เสาเพลิงศักดิ์สิทธิ์หดตัวลงจนกลายเป็ภาพติดตา ิญญาศักดิ์สิทธิ์เริ่มโปร่งใสและกำลังจะหายไป ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดรับมันไปได้
“จิ๊ด?”
ในเวลานี้ เสี่ยวหวงที่อ่อนแอมากก็ลากร่างกลมๆ ของมันออกมา เมื่อเห็นท่าทางที่ไร้ชีวิตชีวาของฉู่อวิ๋น ดวงตากลมโตของมันก็รื้นน้ำตาทันที แลดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
มันส่งเสียงร้องแหลมและะโไปมาในอ้อมแขนของฉู่อวิ๋น แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมา จังหวะเต้นของหัวใจที่คุ้นเคยก็กำลังจะหายไป
มันพยายามเป่าฟองอากาศเล็กๆ ออกมา ใสสว่างสวยงาม เย็นชื่นโปร่งสบาย แล้วพัดไปที่ใบหน้าเปื้อนเืของฉู่อวิ๋นด้วยเสียง “ป๊อบ” มันอยากจะเอาใจ มันอยากจะให้เขาัั
แต่อย่างไรก็ยังไม่มีการตอบสนอง
“ฮือ...”
ดวงตาสีเหลืองเล็กๆ คลอไปด้วยน้ำตา ร่างกายของสัตว์ปีศาจก็สั่นเทา ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ฉู่อวิ๋นก็ยังคงนิ่งเฉย
สัตว์ปีศาจตัวน้อยนี้ไม่เข้าใจ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น?
เหตุใดท่านนายน้อยถึงไม่ขยับ?
รังเกียจมันแล้วหรือ?
ไม่อยากเล่นกับมันแล้วหรือ?
จะทิ้งมันไปแล้วหรือ?
ตื่นสิ ตื่นเร็วๆ...
“จิ๊ดจิ๊ด...จิ๊ดจิ๊ด!”
เสี่ยวหวงะโขึ้นลง เสียงของมันดังชัดเจน เสียงกรีดร้องนี้แทบทำให้หัวใจสลาย มันกัด ผลัก ถีบจนเกือบจะหมดแรง แต่ฉู่อวิ๋นก็ยังคงนิ่งเฉย และแทบจะไม่หายใจ
“ฮือ...”
หยาดน้ำตาไหลอาบใบหน้า เสี่ยวหวงรู้สึกเ็ปมาก เมื่อมองย้อนกลับไป มันก็เห็นเสาเพลิงที่กะพริบแสงและกำลังจะหายไป
จากนั้น ด้วยดวงตาโตเบิกกว้าง ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจบางอย่างได้ มันะโสองสามครั้งแล้วผุดเข้าไปในเสื้อคลุมของฉู่อวิ๋น
ทันใดนั้น ร่างกายของฉู่อวิ๋นก็ปกคลุมไปด้วยแสงสีทองบางๆ เสี่ยวหวงในเสื้อคลุมของเขาก็ส่องแสงเจิดจ้าเช่นกัน แสงอันเป็มงคลนี้พร่างพราวราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผา สว่างจ้าอย่างยิ่ง
“ฟุ่บ——”
ครู่ต่อมา ร่างสีทองก็กลายเป็กระสวยแสง ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ปลายหางส่องแสงสีรุ้งที่สวยงาม พุ่งเข้าสู่เสาศักดิ์สิทธิ์ในทันที
หลังจากนั้นไม่นาน พื้นพิภพก็สั่นะเื ฟ้าร้องกึกก้อง ท้องนภาสั่นไหว ด้วยเสียงอันดัง เสาเพลิงศักดิ์สิทธิ์หดตัวลงในฉับพลัน เมฆหมอกสีแดงถูกทำลายล้างและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับไม่เคยมีอยู่จริง...