เมื่อเตาปาได้ฟังคำพูดของเย่เฟิงแล้วก็ตอบด้วยใบหน้าจริงจังทันที “พี่เย่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะตั้งใจคัดเลือกเต็มที่ คนที่ไม่มีคุณสมบัติก็คัดออกไป!”
ในเมื่อเย่เฟิงไว้ใจเขามากจนถึงกับนำวิชาพลังภายในมาให้เขาฝึกฝน และยังอนุญาตให้คนอื่นฝึกฝนด้วยกันได้ มันชัดเจนแล้วว่าชายหนุ่ม้าบ่มเพาะกำลังอำนาจของตัวเอง และเตาปาก็รู้ว่ากลุ่มของพวกเขาจะเป็กองกำลังกลุ่มแรกของเย่เฟิง!
ขณะเดียวกัน เขาก็เคารพและชื่นชมเย่เฟิงมากขึ้น เย่เฟิงออกไปตอนกลางคืนเพียงครู่เดียวก็ได้วิชาพลังภายในกลับมาแล้ว ช่างยิ่งใหญ่และทรงพลัง!
“อืม มีอีกเื่” เย่เฟิงครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าว “ฉันหาิญญาของเ้าเปยเจอแล้ว แต่พวกนายจะยังเจอกันไม่ได้สักพัก สักวันฉันจะใช้พลังภายในบ่มเพาะิญญาแล้วปลุกเขาตื่นขึ้นมา ถึงเวลานั้น แม้เขาจะไม่มีร่างกาย แต่ดวงจิตก็จะยังอยู่และสามารถต่อสู้ไปกับพวกเราได้!”
พลังสมานิญญามีคุณค่ามากในโลกเทวะ เย่เฟิงไม่รู้ว่าวันนั้นจะยาวนานแค่ไหน แต่เขาจะทำให้ดีที่สุด
“อะไรนะครับ ิญญา? บ่มเพาะ?” เมื่อเตาปาได้ยินแล้วก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ
ิญญาก็สามารถฝึกฝนได้เหรอ? มั่วหรือเปล่า! เย่เฟิงสามารถนำเคล็ดวิชาซิวหลัวอะไรสักอย่างมาได้และยังให้พวกเขาฝึกวรยุทธ์อีก แค่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่าสุดยอดมากแล้ว ตอนนี้ยังหาวิธีบ่มเพาะิญญาได้อีก?
“เพราะตอนเ้าเปยยังอยู่ก็เป็แค่คนธรรมดา ไม่ได้มีพื้นฐานการฝึกฝนเลย จึงสามารถฝึกฝนพลังสมานิญญาได้” เย่เฟิงส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ตอนนี้นายรู้เท่านี้ก็พอ จะให้ใครรู้เื่นี้ไม่ได้เด็ดขาด”
หลังจากผู้ฝึกวิถีเซียนเสียชีวิต แม้จะพลังสมานิญญา แต่ก็ไม่สามารถฝึกฝนได้ ส่วนผู้ฝึกวรยุทธ์จะเป็อย่างไร เย่เฟิงก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะเขาไม่เคยทดลอง...
“ผมเข้าใจแล้ว” สีหน้าของเตาปาขรึมลงนิดหน่อย ใบหน้าดุดันซึ่งประดับด้วยรอยแผลฉายแววหนักแน่นอย่างยิ่ง ความลับนี้หากไม่ใช่เพราะเกี่ยวข้องกับจ้าวอี้เปย เย่เฟิงก็คงไม่บอกเขาสินะ?
เขาจะเก็บเื่นี้เป็ความลับ!
ตอนนี้ตนยกเย่เฟิงให้เป็พี่ใหญ่แล้ว ดังนั้นก็จะเชื่อฟังแค่คนคนนี้เท่านั้น อีกฝ่ายว่าอย่างไร เขาก็จะว่าตามนั้น ไม่พูดมาก!
เมื่อเย่เฟิงเห็นอย่างนี้แล้วก็พยักหน้า “นายกลับไปคัดเลือกคนเถอะ ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่าเขาซื่อสัตย์และภักดี จากนั้นค่อยบอกพวกเขาเื่วรยุทธ์ ฉันกลับก่อนนะ”
“ครับ พี่เย่เดินทางดีๆ นะครับ” เตาปาเอ่ยด้วยความเคารพ
เย่เฟิงหัวเราะแล้วตบบ่าคนตรงหน้า “ไม่ต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นก็ได้ ทุกคนต่างเป็พี่น้อง”
เมื่อสิ้นคำพูด เขาก็เข้าห้องไปหยิบไหกักิญญาแล้วจากไปเงียบๆ
เตาปามองตามแผ่นหลังอีกฝ่ายด้วยสายตาตื่นเต้นและฮึกเหิม ในที่สุดเขาก็จะได้เริ่มฝึกวรยุทธ์แล้วใช่ไหม?
…………
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า เย่เฟิงก็ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจรอบบ้าน และพบว่าซูเมิ่งหานกำลังอาบน้ำ เขาพลันรู้สึกร้อนรุ่มในใจอย่างอดไม่ได้ แม้การใช้จิตหยั่งรู้สำรวจสภาพรอบๆ จะไม่เท่ากับการเห็นสิ่งนั้นโดยตรง แต่แค่จินตนาการก็ทำให้เืเดือดพล่านได้แล้ว ตอนที่เย่เฟิงเพิ่งฟื้นคืนชีพในโลกนี้ ก็ได้เห็นเรือนร่างทั้งหมดของสาวน้อยคนนี้ ดังนั้นตอนนี้แค่คิดเรื่อยเปื่อยถึงร่างกายขาวเนียนน่าดึงดูดนั้น ก็ยิ่งทำให้เืกำเดาของเขาแทบพุ่งออกมา
นับั้แ่เขามีความสัมพันธ์ทางกายกับหลงหว่านเอ๋อร์ทีู่เาฉางไป๋ ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกกระตุ้นกับเื่แบบนี้ได้ง่ายมาก มันไม่ใช่เื่ที่ดีเอาเสียเลย เย่เฟิงเตือนตัวเองในใจ ส่ายหัวสลัดความคิดออกไป ก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อหาตำราเคล็ดวิชาซิวหลัวสี่เล่มที่ซูเมิ่งหานซ่อนไว้
ซูเมิ่งหานไม่ใช่คนโง่ ของสำคัญขนาดนั้น ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะทิ้งไว้ตามห้องโถงในบ้าน เธอจึงนำตำราสี่เล่มไปซ่อนที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน หากเย่เฟิง้าหาก็ง่ายนิดเดียว เขาแค่ใช้จิตหยั่งรู้ก็หาเจอแล้ว
เมื่อได้กลิ่นหอมของหญิงสาวที่ลอยอบอวลในห้องนอน เย่เฟิงก็ถือตำราสี่เล่มมานั่งบนโซฟา แล้วถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย ผลการยับยั้งพลังลมปราณจากปืนระงับชีพจรหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาาแไฟไหม้ที่หลังของตนได้แล้ว จากนั้นค่อยลงไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
เื่ราวเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน ทำให้เขาเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อนึกถึงแผลที่โดนไฟไหม้แล้วก็อดนึกถึง่เวลาที่ตัวเองกดหลินซือฉิงไว้ใต้ร่างไม่ได้ เขารับรู้ความอวบอิ่มและนุ่มนิ่มของหน้าอก...
“อะแฮ่ม คิดไปไกลแล้ว ลองศึกษาเคล็ดวิชาซิวหลัวดีกว่า” ชายหนุ่มส่ายหน้า พยายามสลัดภาพเรือนร่างของหลินซือฉิงออกไป
เมื่อลองสุ่มเปิดตำราขึ้นมาหน้าหนึ่ง เขาก็พบข้อบกพร่องบางอย่างในเคล็ดวิชานี้ ‘เคล็ดวิชาซิวหลัว’ ขึ้นชื่อว่า ‘ซิวหลัว’ แล้วก็ััได้ถึงความกระหายเืและความรุนแรงของวิชาพลังภายในนี้ ส่วนตำราอื่นๆ อีกสามเล่ม เขาพอจะเดาแบบแผนกระบวนยุทธ์ทั้งวงจรได้ และเพราะว่ามันบรรจุความกระหายเืและความรุนแรง เย่เฟิงจึงคิดว่ามันมีข้อบกพร่องอยู่เล็กน้อย
ชายหนุ่มนึกถึงพลังภายในวิถีเซียนที่ตนเคยเห็น หากลองนำมารวมกันจะเป็อย่างไร เมื่อคิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบสมุดบันทึกและปากกาแล้วแก้ไขเคล็ดวิชาซิวหลัว
เคล็ดวิชาซิวหลัวที่ผ่านการแก้ไข หลังจากฝึกฝนแล้วความกระหายเืจะลดลง แต่พลังความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเต็มที่ เหมาะที่จะให้เตาปาฝึกฝนอย่างยิ่ง! เดิมทีเมื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาซิวหลัวจนถึงระดับหนึ่งแล้ว มีความเป็ไปได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อสติปัญญาของผู้ฝึก แต่ฉบับแก้ไขนี้จะไม่พบปัญหาดังกล่าวแล้ว
ถ้าเย่เวิ่นเทียนเห็นการกระทำของเย่เฟิงเวลานี้ เขาจะต้องใจนกรามค้างอีกรอบแน่นอน
บ้าเอ๊ย วิชาพลังภายในมันสามารถแก้ไขตามใจชอบได้เหรอ?
น่าทึ่งเกินไปแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เื่พวกนี้เป็แค่เื่เล็กน้อยสำหรับเย่เฟิง การต่อสู้พลังภายในระดับต้นหรือพลังภายในวิถีเซียน มองเพียงแวบเดียว ชายหนุ่มก็เข้าใจและเห็นแนวทาง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงปรับเปลี่ยนให้มันเหมาะสมมากขึ้น แต่ถ้าเจอพลังภายในระดับกลางถึงระดับสูง เขาก็ไม่มีความสามารถมากพอ เพราะไม่เคยพบพลังภายในระดับกลางและระดับสูง...
เมื่อเย่เฟิงเรียบเรียงตำราซิวหลัวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซูเมิ่งหานก็อาบน้ำเสร็จพอดี เธอเดินขึ้นชั้นบน ผมยาวที่ถูกเป่าจนแห้งสะบัดตามจังหวะการเดิน เธอไม่รู้ว่าเย่เฟิงกลับมาแล้ว เมื่อผลักประตูห้องนอนเข้าไปแล้วเห็นเขาก็อดใไม่ได้ “อ๊ะ นายกลับมาแล้วเหรอ?”
“อื้ม” เย่เฟิงวางปากกาชั่วคราวแล้วหันกลับไปมอง หญิงสาวอยู่ในชุดนอนกระโปรงสีชมพูพร้อมเข้านอนแล้ว ชุดนอนเนื้อบางเบาจนมองเห็นผิวเนียนขาวราวหิมะตรงหน้าอกเลือนราง ช่างเย้ายวนตาเหลือเกิน
เมื่อซูเมิ่งหานเห็นสายตาแทะโลมของเขาก็หน้าเห่อร้อน เธอรีบวิ่งขึ้นเตียงแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่มเพื่อปกปิดร่างกายของตัวเอง เผยให้เห็นเพียงใบหน้าได้รูปดูน่ารักโผล่พ้นออกมาเท่านั้น
“นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” เมื่อสักครู่เธอเห็นเย่เฟิงกำลังเขียนอะไรสักอย่าง จึงอดถามไม่ได้
“ปรับเปลี่ยนเคล็ดวิชาซิวหลัวเล่มนั้นนิดหน่อย” เย่เฟิงพูดอย่างไม่คิดอะไรมาก
“ฮะ? ปรับเปลี่ยนวิชาพลังภายในเหรอ?” ซูเมิ่งหานได้ยินแล้วก็แปลกใจ เย่เฟิงยังมีความสามารถที่ร้ายกาจขนาดนี้อีกเหรอ? หากสิ่งนี้เกิดผิดพลาด คนที่ฝึกฝนจะไม่ต้องขายิญญาอะไรทำนองนั้นใช่ไหม?
เย่เฟิงเก็บสมุดบันทึกและตัดสินใจนำสิ่งนี้ไปให้เตาปาในวันพรุ่งนี้
“ฉันจะลงไปอาบน้ำ เธอนอนเล่นไปก่อน เดี๋ยวฉันจะขึ้นมาหาใหม่นะ” เย่เฟิงยิ้มให้ซูเมิ่งหานที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้องนอน
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าสวยเห่อร้อนจนแดงก่ำ
จะขึ้นมาหาเธออีกเหรอ?
คิดจะทำอะไรน่ะ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้