หากช่วยด้วยการแต่งงาน น้ำใจครั้งนี้...
น้ำใจเช่นนี้มันหนักหนาเกินไป นางจะรับมันได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้น...
ทำไมเขาถึงช่วยนาง?
ฉู่ชิงไม่คิดว่าการป้องกันของเหนียนยวี่จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เขาพลันแย้มยิ้มเบาบาง พูดจาอย่างผ่อนคลายว่า “ช่วยเ้า? เหตุใดข้าต้องช่วยเ้า?”
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ไม่นานหลังจากนั้น นางก็ได้ยินเสียงของฉู่ชิงดังขึ้นอีกครั้ง...
“สำหรับเ้า เ้า้าแต่งงานเพื่อสะบัดให้พ้นจากปัญหาในตอนนี้ สำหรับข้า...ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกับสตรีคนไหน ทว่ามารดาของข้า้าลูกสะใภ้ และจวนแม่ทัพเอกก็้าฮูหยินน้อยสักคน แต่ละคนได้สิ่งที่้าก็เพียงเท่านี้ ยิ่งกว่านั้น เ้าเห็นหน้าข้าแล้ว สำหรับข้า ข้าไม่้าให้ใครเห็นหน้าของข้าภายใต้หน้ากากนี้อีก ดังนั้นตำแหน่งภรรยา เ้าเป็คนที่เหมาะสมที่สุด”
"อย่างนั้นหรือ?"
เหนียนยวี่จ้องมองฉู่ชิง ทั้งเชื่อทั้งสงสัย
นางเห็นหน้าเขาแล้ว รู้ความลับของเขาแล้ว ด้วยนิสัยที่รอบคอบของเขา เขาคงมิอาจปล่อยนางออกจากการควบคุมของเขาได้จริงๆ แต่ว่า...
“หรือว่าเ้าอยากจะเอาความลับของข้า...ไปตายมากกว่า? อย่าลืมว่าเ้ายังติดหนี้ชีวิตข้าอยู่เล่า” ฉู่ชิงหรี่ตาลง ั์ตาเป็ประกาย รัศมีน่าเกรงขามแฝงอันตรายนั้น ทำให้เหนียนยวี่ชะงักไปเล็กน้อย ราวกับนางได้เห็นบุรุษบนหลังม้า ผู้ซึ่งขว้างกริชใส่นางในคืนนั้นอีกครั้ง นี่ช่างอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกเสียอีก
เหนียนยวี่พลันสั่นสะท้าน ทว่าเพียงครู่เดียวเท่านั้น เสียงของฉู่ชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เ้าไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ อีกสิบวันกว่าจะถึงวันเกิดเ้า สิบวันนี้เ้าครุ่นคิดให้รอบคอบ ถึงตอนนั้นค่อยให้คำตอบข้าก็ยังไม่สาย”
ครั้นเอ่ยจบ ร่างสูงในชุดดำจึงก้าวเดินออกจากศาลาไป
เหนียนยวี่ก้าวไปข้างหน้า ้าจะหยุดเขา ทว่าก้าวไปเพียงก้าวเดียว นางกลับหยุดฝีเท้าลง
เหนียนยวี่เฝ้ามองแผ่นหลังที่เดินไกลออกไป จนกระทั่งแผ่นหลังนั้นลับหายไปจากสายตา และนางยังคงยืนอยู่ที่เดิม คำพูดของฉู่ชิงดังก้องอยู่ในหัว นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ฉู่ชิง...
นางรู้สึกว่าเขา้าช่วยนาง ทว่าด้วยรัศมีน่าเกรงขามแฝงอันตรายเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่าหากนางไม่ทำในสิ่งที่เขา้า และยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ นางอาจต้องตายจริงๆ
ฉู่ชิง...
ทำไมนางถึงรู้สึกว่า ฉู่ชิงในวันนี้ค่อนข้างแปลก ทว่าความแปลกนั้น กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเข้าใจยากและคาดเดาไม่ได้
ไม่นานหลังจากที่ฉู่ชิงกลับออกไป จ้าวอิ้งเสวี่ยผู้ซึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมด ในที่สุดนางก็ถอนสายตาคืน และหันหลังเดินกลับไปยังทิศทางของเรือนหรูอี้ โดยมีผิงเอ๋อร์คอยประคอง
ในวันนี้ จ้าวอิ้งเสวี่ยสั่งให้คนปล่อยข่าวเื่เหนียนยวี่ ในไม่ช้าเื่นี้ก็ดังสะพัดไปทั่วทั้งจวนเหนียน ว่ากันว่า ท่านแม่ทัพหลวงฉู่ชิงคอยติดตามอย่างใกล้ชิดและปกป้องดูแลเหนียนยวี่ให้ปลอดภัย
เหนียนยวี่กลับไปที่หอชิงยวี่ เหนียนอีหลานกำลังนั่งเฝ้าหญ้านั้นอยู่ในลานอย่างเพลิดเพลิน
หลายวันมานี้ เหนียนยวี่คอยดูแลหญ้านี่อยู่ตลอด นางรู้สึกมานานแล้วว่าหญ้าธรรมดาเยี่ยงนี้ ทว่าเหนียนยวี่กลับคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แท้จริงทำไปเพื่ออะไรกันแน่?
ขณะที่ครุ่นคิด เหนียนอีหลานยื่นมือออกไป คิดจะััมัน ทว่ายังไม่ทันได้แตะใบหญ้า นางพลันได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง...
“ท่านพี่ กำลังทำอะไรอยู่หรือ?”
เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เหนียนอีหลานใ นางคุ้นเคยกับเสียงนี้ เหนียนยวี่!
ดวงตาของเหนียนอีหลานพลันฉายแววเฉียบคม นางรีบดึงมือกลับทันที ยามที่หันหลังไปหาเหนียนยวี่ เหนียนอีหลานราวกับสามารถเปลี่ยนใบหน้าได้
ดวงตาของเหนียนอีหลานส่องประกายอย่างไร้เดียงสา "พี่ขอโทษ ยวี่เอ๋อร์ พี่...พี่แค่อยากรู้ว่านี่คือหญ้าชนิดใด?"
อยากรู้หรือ?
ยามที่เหนียนอีหลานกล่าว นางเดินเข้าไปใกล้เหนียนยวี่ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “ยวี่เอ๋อร์ ท่านหญิงอิ้งเสวี่ยไม่ได้ทำให้เ้าต้องลำบากอะไรใช่หรือไม่? เมื่อครู่นี้ พี่ได้ยินว่าน้องถูกท่านหญิงอิ้งเสวี่ยพาตัวไป ในใจพี่เป็กังวลสุดจะพรรณนา ยังดี...ยังดีท่านแม่ทัพหลวงมาที่นี่พอดี ข้ารู้ว่า หากมีท่านแม่ทัพหลวงอยู่ด้วย เ้าคงไม่เป็อะไรแน่ ท่านหญิงอิ้งเสวี่ย ไม่ว่านางจะไร้เหตุผลเพียงใด อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงฐานะและอำนาจของท่านแม่ทัพหลวงอยู่แล้ว”
เหนียนยวี่จ้องมองท่าที ‘วางใจ’ ของพี่สาวผู้นี้ของนาง ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย้ยหยัน
สตรีผู้นี้ไม่เบื่อที่ต้องทำตัวเยี่ยงนี้ตลอดเวลาบ้างหรือ?
หากเป็ไปตามที่นางคาดเดา การลักพาตัวจ้าวอิ้งเสวี่ยและเหนียนเฉิงครานี้ต้องเป็แผนการของหนานกงเยวี่ยที่คิด ‘ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว’ อย่างแน่นอน แล้วเหนียนอีหลานมีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยหรือไม่?
เหนียนยวี่จ้องมองเหนียนอีหลาน เหนียนอีหลานที่ถูกเหนียนยวี่จ้องมองพลันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง
"ยวี่เอ๋อร์ น้องมองพี่แบบนี้ มีอะไรหรือ?" ในใจของเหนียนอีหลานรู้สึกมึนงงอย่างอธิบายไม่ถูก ั้แ่ที่เหนียนยวี่กลับมาสวมชุดอย่างสตรี ความรู้สึกของเหนียนยวี่ที่นางรู้สึกก็เริ่มแปลกไปและอันตรายมากขึ้นทุกวัน
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว เหลือบมองหญ้าด้านข้าง “ท่านพี่ ท่านไม่ได้แตะต้องสิ่งนั้นใช่หรือไม่?”
“ไม่ได้แตะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะ...”
“ไม่ก็ดีแล้ว ไม่ก็ดีแล้ว” เหนียนยวี่พึมพำ เดินไปที่หญ้ากองนั้น “นี่ไม่ใช่ของดีที่จะจับต้องได้ง่ายๆ”
ครั้นเอ่ยออกไป เหนียนอีหลานพลันตื่นใ จ้องมองเหนียนยวี่อย่างหยั่งเชิง "นี่...มันคืออะไร?"
เหนียนยวี่เหลือบมองเหนียนอีหลาน แต่ไม่ตอบคำถามของเหนียนอีหลาน นางสั่งให้ชิวตี๋นำหญ้าเข้าไปในเรือน แล้วตัวนางก็เดินขึ้นไปบนชั้นสอง
เหนียนอีหลานเห็นท่าทีลึกลับของนางก็ยิ่งรู้สึกว่าหญ้านี่ไม่ธรรมดา รอจนสองนายบ่าวขึ้นไปชั้นสองแล้ว ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้านางพลันจางหายไป ทั้งั์ตายังฉายอารมณ์ดุดัน
เหนียนยวี่!
เหนียนอีหลานสูดหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วเดินออกจากหอชิงยวี่
รอจนเหนียนอีหลานกลับออกไป หน้าต่างชั้นบนของหอชิงยวี่แง้มเปิดเล็กน้อย จากนั้นก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว ชิวตี๋เหลือบมองสตรีที่นั่งอยู่บนตั่งตัวยาว พลางเอ่ยว่า “คุณหนู คุณหนูใหญ่ไปแล้วเ้าค่ะ ดูเหมือนว่านางจะเดินไปทางหอหลานเยวี่ยนะเ้าคะ”
เหนียนยวี่เลิกคิ้ว เป็อย่างที่คิดเลยมิใช่หรือ?
หอหลานเยวี่ย...
ครั้นนึกถึงถ้อยคำที่นางพูดกับจ้าวอิ้งเสวี่ยในศาลา สีั์ตาของเหนียนยวี่พลันเข้มขึ้น ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
หอหลานเยวี่ย
ทันทีที่เหนียนอีหลานเดินเข้าประตูไป โทสะที่พยายามข่มไว้มิอาจควบคุมได้อีกต่อไป ครั้นเห็นถ้วยชาบนโต๊ะ นางแทบไม่คิดถึงสิ่งใด เหนียนอีหลานก้าวไปข้างหน้า ยกมือขึ้นกวาดถ้วยชาตกระเนระนาดดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ทั้งยังแตกเป็เศษเล็กเศษน้อยเกลื่อนเต็มพื้น
หนานกงเยวี่ยเฝ้ามองท่าทางกรุ่นโกรธของเหนียนอีหลาน และเมื่อนางนึกถึงข่าวที่นางเพิ่งได้ยินมา นางพลันเข้าใจในทันทีว่า เหตุใดเหนียนอีหลานถึงโกรธ
“อีหลาน เ้าจะโกรธหญิงต่ำต้อยนั่นไปเพื่ออะไร? เหนียนยวี่นั่นรอดมาได้ แค่เพราะมีท่านแม่ทัพหลวงอยู่ด้วย จ้าวอิ้งเสวี่ยรู้แล้วว่าเหนียนยวี่เป็คนทำร้ายนางให้เป็แบบนั้น ครั้งนี้นางไม่ได้ทำอะไรเหนียนยวี่ นางจะยอมหยุดแค่นี้ได้อย่างไร?”
หนานกงเยวี่ยพ่นลมหายใจเ็า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเฉียบขาด พลางเอ่ยเกลี้ยกล่อมเหนียนอีหลานให้คลายโทสะ ทว่าตัวนางกลับมิอาจระงับโทสะในใจของตนเองได้
เหนียนยวี่นั่นไม่โชคดีไปตลอดหรอก!
“แม่ไม่เชื่อว่าฉู่ชิงจะสามารถปกป้องนางไปได้ตลอดชีวิต”
หนานกงเยวี่ยเอ่ยอย่างเฉียบขาดดุดัน ครั้นนึกถึงชายเฒ่าขายเนื้อคนนั้นแล้ว จึงหันไปเอ่ยปลอบเหนียนอีหลาน “อีหลาน พวกเราไม่ต้องกังวลไป แม่กับท่านย่าของเ้าตกลงกันแล้ว วันเกิดของนางวันนั้นจะตกลงให้นางแต่งงานกับคนขายเนื้อ คนขายเนื้อชอบกดขี่ข่มเหง รอเหนียนยวี่แต่งเข้าไป คนขายเนื้อแซ่จูนั่นจะจัดการนางแทนพวกเราเอง คงจะทุบตีนางจนพิการ มาดูกันว่าผู้ใดจะช่วยชีวิตนางได้อีก!”