พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าเบื้องหน้าของตนจะเป็หุบเขาแห่งหนึ่ง และกลางหุบเขาแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยบรรดาสมุนไพรนานาชนิด กลิ่นหอมของสมุนไพรกำลังลอยอบอวลไปทั่วหุบเขา
กลางหุบเขาแห่งนี้คือลานสมุนไพร!
“สมุนไพรขั้นสองหญ้าจันทราหม่น สมุนไพรขั้นสามรากสามร้อย ยังมีนั่นสมุนไพรขั้นสี่ใบเก้าิญญา!”
ทุกคนเบิกตากว้าง จ้องมองไปยังบรรดาต้นสมุนไพรกลางหุบเขาด้วยสายตาตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาพลันลุกวาวขึ้นทันที ความละโมบฉายชัดในแววตาของพวกเขา
“ไปเอามันมาเร็วเข้า...!”
กลุ่มคนทั้งหมดต่างก็รีบวิ่งไปยังลานสมุนไพรด้วยความละโมบทันที ด้านมู่เฟิงเองก็เดินตามพวกเขาเข้าไปยังลานที่อยู่กลางหุบเขาด้วยเช่นกัน
คาดไม่ถึงเลยว่าในบริเวณชั้นสองของวังโบราณจิ่วซานจะเป็ลานสมุนไพรเช่นนี้ ทว่าหุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวและตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้นมันสามารถคาดเดาได้ว่าสถานที่แห่งนี้จะต้องเป็สถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งท่านนั้นเคยอาศัยอยู่มาก่อนอย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกันบนเส้นทางเดินสายอื่นก็เริ่มมีผู้คนทยอยออกมาแล้วเช่นกัน ดังนั้นเวลานี้จึงมีผู้คนมารวมตัวกันค่อนข้างมาก แน่นอนว่าสายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังลานสมุนไพรกลางหุบเขาด้วยความตื่นเต้นยินดี ก่อนที่คนกลุ่มใหญ่จะรีบวิ่งเข้าไปที่ลานสมุนไพรทันที
ก่อนหน้านี้มีคนนับพันคนมุ่งหน้าเข้าสู่ทางเดินแต่ละสาย แต่เวลานี้คนที่รอดมาถึงที่นี่ได้กลับมีเพียงสองร้อยกว่าคน เห็นได้ชัดว่าระหว่างทางมีคนต้องจบชีวิตไปไม่น้อย ส่วนผู้ที่สามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้คาดว่าก็คงมีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นเก้าขึ้นไปเท่านั้น
ข่งย่วน ข่งเซวียนเอ๋อร์และบัณฑิตคนอื่นๆ ต่างก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ในตอนแรกมีเพียงมู่เฟิงที่หายไปจากกลุ่ม ดังนั้นจำนวนที่เหลือภายในกลุ่มจึงควรจะมีทั้งหมดสิบเก้าคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงสิบห้าคนเท่านั้น คาดว่าอีกสี่คนคงเสียชีวิตไประหว่างทางแล้ว
คนกลุ่มนี้ช่างน่าขันนัก หากว่าพวกเขาไม่ทอดทิ้งมู่เฟิงไปในตอนนั้น ไหนเลยจะต้องมีคนล้มตายเช่นตอนนี้
“สมุนไพรมากมายนัก”
ดวงตาคู่สวยของข่งเซวียนเอ๋อร์เบิกกว้างด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“ฮ่าๆ นับว่าไม่เสียเปล่า สมุนไพรเหล่านี้ล้วนแต่เป็สมุนไพรล้ำค่าที่มีราคาสูงทั้งสิ้น”
โจวเหวินเฉวียนหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะรีบกระโจนร่างไปยังลานสมุนไพรอย่างว่องไวเพื่อลงมือแย่งชิงสมุนไพรเ่าั้ แน่นอนว่าเหล่าบัณฑิตคนอื่นๆ เองก็เช่นกัน
ผู้คนนับร้อยกระโจนเข้าไปในลานสมุนไพรราวกับตั๊กแตน สมุนไพรที่เติบโตเต็มที่แล้วเหล่านี้จะต้องถูกพวกเขาเก็บเกี่ยวไปทั้งหมด
มู่เฟิงเองก็รีบพุ่งตัวเข้าไปยังลานสมุนไพรเช่นกัน เขาทำการเก็บเกี่ยวสมุนไพรคุณภาพดีที่พบเห็นและค้นหาหญ้าโลหิตมรกตไปด้วย
หุบเขาแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ตรงใจกลางของหุบเขาที่มีความยาวและความกว้างหลายลี้ล้วนมีสมุนไพรปกคลุมอยู่ทั้งหมด นับว่าเป็ดินแดนแห่งทรัพย์สมบัติเลยก็ว่าได้
กลิ่นหอมประหลาดของสมุนไพรชนิดหนึ่งโชยมาแตะจมูก เมื่อมู่เฟิงมองตามไปกลิ่นก็พบว่าเบื้องหน้าหน้าของเขามีหญ้าต้นเล็กสีขาวขุ่นที่กำลังปล่อยพลังิญญาอันเข้มข้นออกมา
สมุนไพรขั้นสาม หญ้าบ่มเพาะพลังปราณ!
มู่เฟิงรู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่ง เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยิบหญ้าบ่มเพาะพลังปราณต้นนั้น สมุนไพรขั้นสามนี้สามารถใช้กลั่นเป็ตัวยาบ่มเพาะพลังปราณขั้นสามออกมาได้ และเพียงแค่หนึ่งต้นก็มีมูลค่าสูงเกือบถึงหนึ่งหมื่นเหรียญตำลึงทองเลยทีเดียว
“เ้าหนู สายตาของเ้าช่างหลักแหลมนัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะค้นพบหญ้าบ่มเพาะพลังปราณขั้นสาม จงมอบมันออกมาให้ข้าเสีย”
ชายในชุดคลุมสีครามเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวอย่างเ็า เขามองหญ้าบ่มเพาะพลังปราณในมือของมู่เฟิงด้วยเจตนามุ่งร้าย
สีหน้าของมู่เฟิงยังคงเรียบเฉย เขาเก็บหญ้าบ่มเพาะพลังปราณลงไปในกล่องไม้ และเก็บเข้าไปในแหวนเฉียนคุนทันทีโดยไม่คิดจะสนใจอีกฝ่าย
“เ้าหนู เ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”
ดวงตาของชายในชุดคลุมสีครามทอประกายเ็า ทันใดนั้นเขาก็ะเิพลังกังหยวนออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าหามู่เฟิงหมายจะจับตัวอีกฝ่ายเอาไว้
แววตาของมู่เฟิงมีร่องรอยของความใเล็กน้อย เขาถอยกลับก่อนจะปล่อยหมัดออกไป หมัดที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงพุ่งเข้าปะทะกับพลังกังหยวนที่โจมตีเข้ามาเข้าอย่างจัง
เปรี้ยง...!
หมัดของเด็กหนุ่มบีบให้ชายในชุดคลุมสีครามต้องถอยออกไปสองสามก้าว เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กลับตาลปัตร เขาก็มองมู่เฟิงด้วยความประหลาดใจ
“ในหุบเขาแห่งนี้มีสมุนไพรตั้งมากมาย เ้าหาเอาเอง อย่ามายุ่งกับข้า!”
ั์ตาสีโลหิตของมู่เฟิงทอประกายเ็า เขาจ้องมองชายผู้มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังขั้นหนึ่งตรงหน้าด้วยสายตาอันตราย สายตานี้ทำให้หัวใจของชายผู้นั้นสั่นสะท้าน และยังรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ไม่สามารถอธิบายได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไปยั่วยุมู่เฟิงอีก
จากนั้นมู่เฟิงก็ทำการค้นหาต่อไป หากมีสมุนไพรใดดึงดูดสายตาเขา เขาก็จะเก็บมันเข้าไปในแหวนเฉียนคุน และมองหาหญ้าโลหิตมรกตต่อ
ภายในหุบเขาแห่งนี้มักจะเกิดการปะทะเพื่อแย่งชิงสมุนไพรกัน ไม่ว่าใครที่ค้นพบสมุนไพรคุณภาพดีก็มักจะตกเป็ที่ริษยาของผู้อื่น ดังนั้นย่อมมีการแย่งชิงกันเกิดขึ้นเป็ธรรมดา
“สมุนไพรขั้นสี่!”
ทันใดนั้นก็มีคนผู้หนึ่งอุทานออกมา แน่นอนว่าเสียงของเขาดึงดูดความสนใจของมู่เฟิงได้เป็อย่างดี
บริเวณใจกลางของหุบเขา ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ เบื้องหน้าของพวกเขาคือต้นหญ้าสีน้ำเงินที่มีความสูงเทียบเท่ากับมนุษย์ผู้หนึ่ง บนต้นของมันมีดอกไม้สี่กลีบสีน้ำเงินเข้มที่กำลังส่งกลิ่นหอมเจือจางออกมาอยู่หนึ่งดอก
“นั่นมันสมุนไพรขั้นสี่ กล้วยไม้แห่งห้วงฝัน!"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบมองดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝันด้วยสายตาลุกวาว สมุนไพรขั้นสี่นั้นมีมูลค่าสองถึงสามหมื่นเหรียญตำลึงทองเลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงดึงดูดใจของผู้คนได้ไม่น้อย
ทุกคนมองดูผู้คนที่กำลังรายล้อมอยู่รอบๆ กล้วยไม้แห่งห้วงฝันนั้นออกดอกมาเพียงหนึ่งดอกเท่านั้น แต่ผู้ที่้าจะมันกลับมีมากมายถึงเพียงนี้ เช่นนั้นมันควรจะตกเป็ของใครกัน?
วินาทีนั้นไม่มีใครกล้าเก็บดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝันก่อนเป็คนแรกเลยสักคน
“ฮ่าๆ ไม่มีใครกล้าหรือ? เช่นนั้นเหลาจื่อเอง”
ชายในชุดคลุมสีเหลืองผู้มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังขั้นเจ็ดกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน เขาดีดฝ่าเท้าทะยานร่างขึ้นไปอย่างรวดเร็ว หมายจะคว้าดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝันมาไว้ในมือ
แต่ในขณะที่เขากำลังจะทำสำเร็จนั้น ประกายแสงสีขาวหลายสายก็พุ่งมาทางเขาเสียก่อน เป็ชายในชุดคลุมสีน้ำเงินผู้หนึ่งที่ขว้างมีดบินที่อัดแน่นไว้ด้วยพลังกังหยวนหลายเล่มออกมาโจมตีชายในชุดคลุมสีเหลือง
สีหน้าของชายในชุดคลุมสีเหลืองเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขารีบหลบการโจมตีนั้นในทันที ทว่ายังคงช้าเกินไป เขาจึงถูกมีดบินเล่มหนึ่งแทงเข้าที่หัวไหล่จนกลายเป็แผล
“อึก…”
ชายในชุดคลุมสีเหลืองเผลอครางออกมาด้วยความเ็ป เขายกมือขึ้นกุมหัวไหล่และรีบถอยห่างออกไปทันที ก่อนที่เขาจะจ้องไปทางชายที่อยู่ในชุดคลุมสีน้ำเงินด้วยสายตาขุ่นเคือง และตวาดออกมาอย่างเ็าว่า “ซ่งสวิน เ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
“เฮ้อ ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่อยากได้ดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝันดอกนั้นก็เท่านั้นเอง”
ซ่งสวินเหยียดยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือออกไปหมายจะเด็ดดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝัน
ฟิ้ว!
แต่ทันใดนั้นลำแสงกระบี่สีครามก็พลันกวาดออกมาเสียก่อน ทำให้ซ่งสวินใจนต้องถอยหลบออกไปอย่างรวดเร็ว
เงาร่างหนึ่งพลันทะยานเข้ามาอย่างกะทันหัน และเด็ดดอกกล้วยไม้แห่งห้วงฝันไปด้วยมือข้างเดียว คนผู้นี้เป็เพียงชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขาสวมชุดคลุมสีครามและถือกระบี่ยาวสีดำเอาไว้ในมือ ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่น และคนผู้นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็เว่ยอี้อวิ๋น บัณฑิตจากสำนักศึกษาเทียนอวิ่น
“เ้าหนุ่ม เ้าเป็ใครกัน กล้าดีอย่างไรมาชิงสมุนไพรไปจากข้า!”
ดวงตาของซ่งสวินทอประกายเ็าและแฝงด้วยแรงอาฆาต
เว่ยอี้อวิ๋นชำเลืองมองซ่งสวิน จากนั้นเขาก็เก็บสมุนไพรและหันหลังเตรียมจะจากไปโดยไม่สนใจอีกฝ่าย
“เ้ากำลังรนหาที่ตาย!"
ซ่งสวินคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขาสะบัดแขนเสื้อเพื่อเหวี่ยงมีดบินหลายเล่มให้โจมตีไปทางเว่ยอี้อวิ๋นทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
แกร๊ง!
เว่ยอี้อวิ๋นพลิกตัวกลับมาโดยพลัน เมื่อเขาเริ่มขยับกายก็ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้อีก และเห็นเพียงเงาร่างของเขาที่อยู่ในตำแหน่งเดิมเท่านั้น ชายหนุ่มสามารถใช้ฝักกระบี่สกัดกั้นมีดบินเ่าั้ได้ในทันที นอกจากนี้ภายในชั่วพริบตานั้นเขายังสามารถชักกระบี่ยาวออกจากฝักและชี้ไปยังลำคอของซ่งสวินอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของกระบี่นี้น่าตื่นตะลึงเป็อย่างยิ่ง มีดบินที่ซ่งสวินโจมตีออกไป เว่ยอี้อวิ๋นสามารถสกัดกั้นมันได้ทั้งหมด
ชายหนุ่มถือกระบี่ด้วยสองมือ เขาส่งพลังกังหยวนสีครามให้หลั่งไหลเข้าไปในตัวกระบี่ ก่อนจะฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
“แปดวายุทำลาย!”
ลำแสงสีครามอันน่าสะพรึงทั้งแปดสายพลันปรากฏขึ้น และพุ่งออกไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของซ่งสวินเปลี่ยนไปเป็อย่างมาก เขายกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะใช้พลังกังหยวนทั้งหมดในร่างสร้างเกราะป้องกันขึ้นมา แต่ลำแสงกระบี่ทั้งแปดนั้นก็คมกริบมากเช่นกัน เกราะป้องกันพลังกังหยวนของเขาจึงแตกเป็เสี่ยงๆ ราวกับฟองสบู่ในพริบตา จากนั้นคมกระบี่ก็พุ่งตรงไปที่ร่างของซ่งสวินต่อทันที
“ไม่นะ…!”
ซ่งสวินกรีดร้องโหยหวนออกมา ลำแสงกระบี่ทั้งแปดเล่มเฉือนผ่านร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ร่างของชายผู้นั้นถูกหั่นออกเป็แปดท่อนทันที หยดเืไหลนองไปทั่วพื้น กลายเป็สภาพที่น่าอเนจอนาถ
ชิ้ง!
เว่ยอี้อวิ๋นเก็บกระบี่กลับเข้าฝัก ในขณะที่ผู้คนที่อยู่โดยรอบกำลังมองเขาด้วยสายตาสยดสยองและหวาดกลัว
“ซ่งสวินมีวรยุทธ์ระดับหนิงกังขั้นเจ็ด แต่เขากลับถูกสังหารด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ชายผู้นี้มีพลังที่แข็งแกร่งมากจนน่าสะพรึงกลัวเลยทีเดียว”
ผู้คนต่างก็แสดงความคิดเห็นออกมาด้วยความหวาดหวั่น เพียงเหลือบตามองสภาพศพที่น่าอนาถบนพื้นพวกเขาก็รู้สึกสยดสยองแล้ว ชายในชุดคลุมสีเหลืองลอบปาดเหงื่อ โชคดีที่เขาไม่ได้หุนหันพลันแล่นทำสิ่งใด
“เว่ยอี้อวิ๋น...”
ดวงตาของมู่เฟิงลุกโชนไปด้วยจิติญญาแห่งการต่อสู้ เว่ยอี้อวิ๋นเป็คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีพร์เป็อย่างมาก
“ให้เวลาข้าอีกสองปี หลังจากสองปีความแข็งแกร่งของข้าจะไม่ทำให้เ้าต้องผิดหวังแน่!”