การประลองในโลกมายามรกตจัดขึ้นสิบปีครั้งเกี่ยวพันกับสี่สำนักและยี่สิบห้าตระกูลของเจ็ดเมือง
เมืองทั้งเจ็ดที่อยู่ในระดับเดียวกับเมืองเฮยอวิ๋นมีทั้งหมดยี่สิบห้าตระกูลบางตระกูลที่ทำคุณูปการใน่ที่ผ่านมาสี่สำนักก็จะมอบอัตราให้เป็รางวัล
ตระกูลเ่าั้จะจัดหาเด็กรุ่นเล็กที่มีพร์มากที่สุดเดินทางเข้าไปในโลกมายามรกตพร้อมกับบุคคลที่เก่งกาจของสี่สำนัก
ขณะที่การประลองในโลกมายามรกตครั้งนี้ใกล้จะเริ่มขึ้น ยี่สิบห้าตระกูลในเจ็ดเมืองต่างก็เตรียมพร้อมนำทรัพยากรทั้งหมดในตระกูลมาใช้กับตัวของเด็กรุ่นเล็กที่จะเข้าร่วมการประลอง
เด็กรุ่นเล็กบางคนอาวุธวิเศษระดับสูงในสำนัก บางคนได้รับยาล้ำค่าต่างก็เตรียมพร้อมแสดงศักยภาพออกมาในโลกมายามรกต
ทว่าเนี่ยตงไห่เป็เพราะว่าหลายปีมานี้ตกอยู่ในภาวะยากแค้นสิ่งที่เขาสามารถมอบให้เนี่ยเทียนได้มีเพียงความเป็ห่วงและคำแนะนำเท่านั้น
วันที่สอง
เนี่ยตงไห่พาเนี่ยเทียนมารออยู่หน้าประตูจวนเนี่ยั้แ่เช้าตรู่
“อันซืออี๋ผู้นั้นแม้จะอำมหิตโเี้ ทว่านางยังเป็คนเคารพกฎอยู่มาก นางมีเส้นบรรทัดฐานของตัวเองเคารพตัวตนของตัวเอง ไม่มีทางลงมือกับเ้าแน่นอน” เนี่ยตงไห่สีหน้าสงบพูดต่อไปอีกว่า “มอบเ้าให้กับนางข้าวางใจมาก ขอแค่เ้าจำไว้ว่าเมื่ออยู่ในโลกมายามรกตต้องระวังตัวให้มาก อย่าเปิดเผยความลับของตัวเองออกมาก็พอ”
เนี่ยเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “ท่านตาท่านวางใจเถิดขอรับข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”
“อืม” เนี่ยตงไห่หรี่ตามองไปทางตำแหน่งที่ตั้งในเมืองของตระกูลอวิ๋น“อวิ๋นซงลูกชายอวิ๋นจื้อกั๋วครั้งนี้ก็ได้ไปโลกมายามรกตด้วย หยวนชิวอิ๋งสตรีชั่วช้าผู้นั้นเกลียดเ้าเข้ากระดูก ข้ากังวลว่านางจะกำชับให้อวิ๋นซงลงมือโเี้กับเ้าในโลกมายามรกต”
“อวิ๋นซงหรือขอรับ?” เนี่ยเทียนมุ่ยปากกล่าวอย่างดูถูกว่า “ตอนที่ข้าหลอมลมปราณสี่ก็โจมตีจนเขากระอักเื นี่เพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่เดือนเขาน่าจะยังอยู่ในขั้นหลอมลมปราณหก ส่วนข้า... ตอนนี้ก็หลอมลมปราณหกเช่นกัน ตัวเขาเองมากกว่าที่ควรภาวนาว่าอย่าให้เจอข้าในโลกมายามรกต!”
“ที่ข้ากังวลไม่ได้มีเพียงแค่เขา หยวนเฟิงแห่งตระกูลหยวนเมืองหานสือมีความสัมพันธ์อันดีกับหยวนชิวอิ๋ง ั้แ่เด็กเ้าเด็กคนนั้นต่างหากถึงจะเป็คนที่โเี้อย่างแท้จริง” เนี่ยตงไห่มีสีหน้าเคร่งขรึม “เมื่อหนึ่งปีก่อนหยวนเฟิงก็ฝ่าไปถึงขั้นหลอมลมปราณเก้า ถูกหุบเขาเทารับตัวไปอย่างเป็ทางการแล้วอีกอย่างในหุบเขาเทาเขาก็ได้รับความสำคัญยิ่งนัก ผู้นำทัพการประลองครั้งนี้ของหุบเขาเทาก็คือหยวนเฟิง!”
“หยวนเฟิงอายุมากกว่าเ้าขอบเขตก็สูงกว่าเ้า ในฐานะที่เป็ผู้นำทัพของหุบเขาเทาครั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมประลองของหุบเขาเทาทุกคนล้วนฟังคำสั่งเขาทั้งสิ้น”
“เ้าจำเอาไว้ว่าต้องอยู่กับผู้ประลองของหอหลิงเป่าเข้าไว้พยายามอย่าแยกห่างออกไปเป็อันขาด”
“หากพลัดหลงกันโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเป็ไปได้เ้าก็ไปหาเนี่ยเสียนและรวมกลุ่มกับผู้ประลองของสำนักหลิงอวิ๋น แม้ว่าเ้าจะเข้าไปกับหอหลิงเป่าแต่อย่างไรเสียตระกูลเนี่ยก็เป็ตระกูลในสังกัดของสำนักหลิงอวิ๋นผู้นำของสำนักหลิงอวิ๋นน่าจะยอมรับเ้า”
“เมื่ออยู่ในโลกมายามรกตการรวมกลุ่มกันเป็เื่ที่สำคัญมาก พลังของตัวเองเป็เพียงด้านหนึ่งเท่านั้นจำเอาไว้ให้ดี!”
เนี่ยตงไห่กำชับด้วยความจริงจัง
เนี่ยเทียนตั้งใจฟังคอยพยักหน้าอยู่ตลอดเวลา และยิ่งรอคอยการประลองในโลกมายามรกตมากขึ้น
เขาชื่นชอบการแข่งขันเช่นนี้มาั้แ่เกิดอยู่แล้ว!
มองเนี่ยเทียนที่เต็มไปด้วยปณิธานในการรบเนี่ยตงไห่แอบพยักหน้าอยู่กับตัวเอง ก็พลันรู้สึกขึ้นมาว่าการประลองในโลกมายามรกตบางทีอาจจะทำให้เนี่ยเทียนมีความคิดใหม่ เข้าใจได้ถึงความอันตรายและความโหดร้ายในโลกของผู้ฝึกลมปราณอย่างแท้จริงก็เป็ได้
เขาแอบรู้สึกว่าเนี่ยเทียนสามารถปรับตัวเข้ากับที่นั่นได้อย่างแน่นอน
“ท่านผู้าุโเนี่ยคุณหนูของข้าให้ข้ามารับเนี่ยเทียนไปที่โลกมายามรกตขอรับ” อันเหอข้ารับใช้เก่าแก่ตระกูลอันขี่รถม้าคันหนึ่งมาตามทางที่เงียบสงบในยามเช้า
“รบกวนท่านแล้ว” เนี่ยตงไห่กล่าวขอบคุณจากนั้นก็หันไปกล่าวกับเนี่ยเทียนว่า “เรียกท่านลุงอันสิ”
“ท่านลุงอัน!” เนี่ยเทียนรีบทำความเคารพ
อันเหอที่รูปร่างอ้วนฉุสีหน้าไร้อารมณ์พยักหน้าให้เนี่ยเทียนบอกเป็นัยให้เขาขึ้นรถ
เนี่ยเทียนเองก็ไม่ชักช้าเดินเข้าไปนั่งในรถม้าท่ามกลางสายตามองส่งของเนี่ยตงไห่
หลังจากที่เขาขึ้นรถไปแล้วอันเหอก็พูดกับเนี่ยตงไห่ว่า “ท่านผู้าุโไม่ต้องเป็กังวลข้าจะเป็คนปกป้องเนี่ยเทียนให้ไปร่วมการประลองแห่งโลกมายามรกตเอง ระหว่างทางไม่มีทางมีเื่ชั่วช้าอย่างการลอบโจมตีเกิดขึ้นแน่นอน”
อันเหอมองไปทางทิศที่ตั้งของจวนตระกูลอวิ๋นด้วยสายตาคล้ายตั้งใจแต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ
“ขอบคุณมาก” เนี่ยตงไห่ประสานมือคารวะ
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ถึงตำแหน่งของอันเหอในตระกูลอันเป็อย่างดีและก็รู้ถึงความสามารถของอันเหออีกด้วยดังนั้นจึงวางใจเป็อย่างมาก
“ครึ่งปีต่อมาข้าจะพาเนี่ยเทียนกลับมาส่งอย่างปลอดภัย” กล่าวจบอันเหอก็ไม่พูดอะไรมากสะบัดแส้ลงไปบนม้าสีดำบึกบึนสี่ตัวอย่างแรง
บนถนนที่เงียบสงบมีเสียงอันทรงพลังของเกือกม้าที่กระทบพื้นดังขึ้นมาทันทีและรถม้าก็ค่อยๆ เคลื่อนห่างออกไปไกลไม่นานก็หายไปจากเส้นสายตาของเนี่ยตงไห่
......
สามวันต่อมาท่ามกลางบึงน้ำที่เงียบสงัดไร้ผู้คนซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองจิงเหลย
พืชหนีท่านเสี่ยน[1]ผืนใหญ่กระจายอยู่เต็มบึงน้ำตรงทะเลสาบขนาดเล็กที่น้ำค่อนข้างใสแห่งหนึ่ง อันซืออี๋รู้สึกร้อนอบอ้าวมือเรียวยาวราวลำเทียนโบกสะบัดพัดกระดาษที่อยู่ในมือ กำลังอธิบายถึงเื่ที่จำเป็ต้องระวังในโลกมายามรกตให้หนุ่มสาวที่แต่งกายประณีตทั้งสิบสี่คนฟัง
หนุ่มสาวอ่อนเยาว์สิบสี่คนเ่าั้มีทั้งคนที่มาจากหอหลิงเป่าและผู้ที่มาจากตระกูลซึ่งพึ่งพาหอหลิงเป่า
ขอบเขตของพวกเขาส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่หลอมลมปราณขั้นเจ็ดและขั้นแปดมีเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่หลอมลมปราณขั้นเก้า
สามคนนั้นสวมอาภรณ์สะอาดสะอ้านสีเหลืองสดตรงหน้าอกข้างซ้ายปักคำว่า “เป่า” เอาไว้ อาภรณ์ของพวกเขาแตกต่างไปจากอีกสิบเอ็ดคนอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาล้วนเป็ลูกศิษย์ที่ได้รับการยอมรับจากสำนักหลิงเป่าแล้ว
ลูกศิษย์ของสำนักหลิงเป่าชายสองหญิงหนึ่ง ผู้นำกลับเป็สาวน้อยที่งดงามผู้หนึ่ง
หญิงสาวผู้นั้นมีลักษณะเหมือนอันซืออี๋อยู่หลายส่วนถึงแม้อายุยังน้อย แต่ก็มีทรวดทรงองค์เอวเว้าโค้งชัดเจน การกระทำมีลักษณะของผู้สูงศักดิ์อย่างเห็นได้ชัดว่าเคยชินกับการออกคำสั่ง
“พอทีๆ พูดมากขนาดนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร?” หญิงสาวที่มีชื่อว่าอันอิ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ “เื่พวกนั้นที่เ้ากำชับก่อนจะมาที่นี่ผู้าุโในหอก็เคยพูดแล้ว ไม่จำเป็ต้องให้เ้ามาพูดซ้ำอีกรอบ!”
“เ้านั่นแหละที่พูดมาก!” อันซืออี๋ถลึงตาใส่นางหนึ่งที
อันอิ๋งหัวเราะเบาๆ เสียงใสกังวานราวนกจาบร้อยตัว “ใครใช้ให้เ้าเป็พี่สาวข้าเล่า? พวกเขารำคาญเ้าแต่ไม่กล้าพูดข้าก็ต้องพูดให้พวกเขาอย่างไรเล่า”
ไม่รอให้อันซืออี๋กล่าวสั่งสอนนาง นางก็แย่งพูดขึ้นมาอีกว่า “เ้าเด็กตระกูลเนี่ยนั่นเมื่อไหร่จะมาถึงรึ? เขาไม่ใช่คนของหอหลิงเป่าพวกเราสักหน่อยให้พวกเราหลายคนมารอเขาคนเดียวเช่นนี้ช่างวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก!”
อันอิ๋งที่ขอบเขตบรรลุถึงหลอมลมปราณขั้นเก้าได้เป็ลูกศิษย์ของหอหลิงเป่านานแล้วและนางก็คือผู้นำในการประลองครั้งนี้ของหอหลิงเป่าอีกด้วย
เมื่อสามวันก่อนตอนที่อันซืออี๋กลับไปยังหอหลิงเป่าก็ได้ไปหานาง บอกให้นางยกจำนวนคนเข้าร่วมการประลองของตระกูลอันให้กับเด็กของตระกูลเนี่ยคนหนึ่งที่ชื่อเนี่ยเทียน
อันซืออี๋ให้นางจับตามองเนี่ยเทียนให้ดีตอนอยู่ในโลกมายามรกตคอยสังเกตความผิดปกติทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนร่างของเนี่ยเทียน
จำนวนคนในการเข้าร่วมประลองของตระกูลอันกว่าจะ่ชิงมาได้ไม่ใช่เื่ง่าย เดิมคิดจะเตรียมยกให้กับน้องชายคนหนึ่งของอันอิ่ง
ทว่าการที่อันซืออี๋ยกรายชื่อนี้ให้กับเนี่ยเทียนจึงทำให้อันอิ่งไม่พอใจเป็อย่างมาก
แม้จะรู้ดีว่าการที่อันซืออี๋ให้เนี่ยเทียนเข้าไปในโลกมายามรกตเพราะมีจุดประสงค์อื่นแต่อันอิ่งก็ยังไม่สบอารมณ์อยู่ดี
และด้วยเหตุนี้ทั้งๆ ที่นางยังไม่ได้เจอเนี่ยเทียนจึงเกลียดเนี่ยเทียนที่ฮุบเอาอัตราของน้องชายนางไปเสียแล้ว
การประลองใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทว่าเนี่ยเทียนยังมาไม่ถึงเสียทีทำให้พวกเขาต้องรอนานขนาดนี้จึงยิ่งทำให้นางไม่พอใจเข้าไปใหญ่
“เมืองเฮยอวิ๋นอยู่ห่างจากที่นี่มากอยู่ มาสายหน่อยก็อยู่ในการคาดการณ์ของข้าอยู่แล้ว ไม่ต้องรีบร้อน คำนวณเวลาดูแล้วพวกเขาก็น่าจะใกล้มาถึงแล้วล่ะ” อันซืออี๋รู้ว่านางมีโทสะอยู่ในใจจึงไม่ถือสา “น้องอิ่ง แม้ว่าเนี่ยเทียนจะไม่ใช่คนของหอหลิงเป่า ทว่าในเมื่อข้ามอบป้ายคำสั่งเชิญเขาเข้ามาในโลกมายามรกตแล้ว ต่อไปเ้าก็ควรจะแสดงความใจกว้างออกมาให้มากหน่อย อย่าให้เนี่ยเทียนต้องลำบากใจมากนัก”
“ข้าใจกว้างจะตายถึงได้ไม่ถือสาเขาอย่างไรเล่า” อันอิ่งทำเสียงขึ้นจมูกเหล่ตามองชายหนุ่มอีกสองคนที่หลอมลมปราณขั้นเก้าซึ่งเป็ลูกศิษย์สำนักหอหลิงเป่าเช่นกัน “ส่วนคนอื่นข้าคงคอยดูแลได้ไม่มากขนาดนั้น”
ชายหนุ่มสองคนนั้นภายใต้การจับตามองของอันอิ่งต่างก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยใบหน้าเต็มไปด้วยความลำพองใจ
“ยายเด็กคนนี้!” อันซืออี๋กล่าวอย่างโมโห
แน่นอนว่านางย่อมรู้ว่าชายหนุ่มที่หอหลิงเป่ารับเข้าเป็ศิษย์สองคนนั้นชื่นชอบอันอิ่งไม่ว่าเื่อะไรก็ฟังนางหมด
ขอเพียงอันอิ๋งแสดงออกว่าไม่ชอบเนี่ยเทียนเ้าเด็กสองคนนั้นที่ชื่อว่าเจิ้งรุ่ยและพันเทาย่อมครุ่นคิดหาวิธีทั้งหมดมาก่อกวนเนี่ยเทียนอย่างแน่นอน
เจิ้งรุ่ยและพันเทาต่างก็เป็หลานของผู้าุโในหอหลิงเป่าต่อให้เป็นางเองก็ยังสั่งการไม่ได้
“กล้าเข้าไปในโลกมายามรกต อีกทั้งยังถือป้ายคำสั่งของหอหลิงเป่าเข้าไปด้วยก็ควรจะคิดมาก่อนแล้วว่าอาจต้องโดนกลั่นแกล้ง...” อันซืออี๋พึมพำอยู่กับตัวเองในใจหนึ่งประโยครู้ว่าต่อให้นางเกลี้ยกล่อมไปก็ไร้ประโยชน์จึงถอดใจจะพูดต่อ
“พี่หญิงท่านวางใจเถอะเมื่ออยู่ในโลกมายามรกตข้าจะ “ดูแล” เขาเป็อย่างดีเชียวล่ะ!” อันอิ่งกล่าวด้วยสีหน้าแน่วแน่
“เขามาแล้ว” และเวลานี้เองอันซืออี๋คิ้วกระตุกน้อยๆ ก็พลันหันไปมองทางที่ห่างออกไป
บนทางดินโคลนเล็กๆ เส้นหนึ่ง อันเหอแห่งตระกูลอันเดินนำเนี่ยเทียนมาปรากฏตัวให้เห็นอย่างช้าๆ พวกเขากำลังเดินมาทางนี้ด้วยความรวดเร็ว
------
[1] พืชหนีท่านเสี่ยน(泥炭藓)คือ มอสส์ตระกูลสแปกนั่ม (SphagnumpalustreL.)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้