ในศาลาอันเงียบสงบ ชายหนุ่มรูปงามและหญิงสาวที่แต่งกายเป็บุรุษต่างสบตากัน ทว่าฝ่ายชายกลับซ่อนเร้นแววเสน่หาในดวงตาไว้ในส่วนลึกไม่แสดงออกมา ส่วนดรุณีน้อยมีพันคำหมื่นวาจาอยากเอื้อนเอ่ย แต่สุดท้ายกลับแปรเปลี่ยนเป็เสียงทอดถอนใจเบาๆ ไม่มีผู้ใดทำลายความเงียบงันชั่วขณะนี้ ต่างคนต่างเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขอันหาได้ยากยิ่ง
ทันใดนั้นพ่อบ้านสกุลหลี่ก็วิ่งมาทางนี้ พอคนผู้นั้นเห็นทั้งสองคนอยู่ในศาลา ก็ะโร้องเรียกมาแต่ไกล "ท่านหมอถัง... ท่านหมอถัง..."
ถังชิงหรูไม่ค่อยชอบคนในจวนสกุลหลี่เท่าไรนัก แค่เห็นก็รู้สึกว่าพวกเขาน่ารำคาญ นางย่นหัวคิ้ว รอให้พ่อบ้านผู้นั้นวิ่งมาถึง ก่อนมองเขาด้วยแววตาเยียบเย็น "มีเื่อันใด"
พ่อบ้านสีหน้าว้าวุ่น เขาวิ่งมาอย่างเร่งร้อน จนถึงตอนนี้ก็ยังหอบไม่หยุด เปล่งวาจาไม่ออกไปชั่วขณะ ถังชิงหรูอดทนรอให้เขาหายเหนื่อย
"ท่านหมอถัง เมื่อครู่คนของจวนชิ่งอ๋องมาแจ้งว่าชิ่งอ๋องโรคเก่ากำเริบ ตอนนี้ใกล้จะไม่ไหวแล้วขอรับ" ในที่สุดพ่อบ้านก็เอ่ยถ้อยคำที่อยากพูดออกมา
ถังชิงหรูอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนถามเขาอย่างร้อนใจ "รถม้าเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง"
"เตรียมพร้อมแล้วขอรับ" พ่อบ้านพยักหน้าติดๆ กัน
ถังชิงหรูหมุนกายวิ่งไปทันควัน น่าหลันหลิงเอ่ยกับพ่อบ้านว่า "ข้าจะไปด้วย หากคุณชายทั้งสองถามถึง เ้าก็บอกว่าข้ากลับบ้านไปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาชี้แจงกับพวกเขาอีกที"
พ่อบ้านรู้ว่าน่าหลันหลิงมีความสัมพันธ์กับจวนชิ่งอ๋อง ย่อมไม่กล้าขัดขวาง ยามนี้ทุกคนในจวนั้แ่เ้านายถึงบ่าวไพร่ต่างทราบว่าเขาใกล้ชิดสนิทสนมกับชิ่งอ๋องมาก จึงไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน
ยามถังชิงหรูกับน่าหลันหลิงนั่งรถม้าไปถึงจวนชิ่งอ๋อง ก็พบกับพ่อบ้านหลินเดินวนเวียนอยู่หน้าประตูอย่างร้อนใจ พอเห็นถังชิงหรูะโลงจากรถ ก็รีบวิ่งเข้ามาต้อนรับ ยามนี้ใบหน้าของเขาขาวซีด ั์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่ไรมาเขามักจะควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีแต่ยามนี้กลับไม่อาจสงบใจได้ "แม่นางถัง บรรพบุรุษน้อย ในที่สุดท่านก็มาแล้ว หากท่านไม่มา ข้าก็อยากไปตายจริงๆ "
"อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ ข้าจะเข้าไปดูคนก่อน" ถังชิงหรูกล่าวกับพ่อบ้านหลิน
"ใช่แล้วๆ รีบเข้าไปเถิด" พ่อบ้านหลินพาพวกเขาไปที่ห้องของเฉินิ
ยามถังชิงหรูได้พบกับเฉินิ ก็เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาซูบลงไปมาก สีหน้าดูไม่ดีนัก ขณะนี้มีผื่นแดงเห่อเต็มไปหมด ริมฝีปากก็เริ่มกลายเป็สีม่วงคล้ำ
"ไฉนถึงเป็เช่นนี้" ั้แ่ทั้งสองคนมีเื่แตกหักกันคราก่อน ถังชิงหรูก็ไม่ได้พบเขาอีกเลย เฉินิเองก็มิเคยมาหานาง
ยามนี้พอได้เห็น ก็รู้สึกว่าเหมือนเปลี่ยนไปเป็คนละคน
พ่อบ้านหลินมองพังชิงหรูด้วยแววตาเศร้าสลดแฝงไปด้วยการตัดพ้อ ก่อนถอนใจกล่าวว่า "พูดแล้วเื่มันยาว ท่านตรวจอาการให้ท่านอ๋องก่อนดีกว่า ครานี้ท่านอ๋องเอาแต่ใจเกินไป ถึงขนาด..."
ถึงขนาดอันใด?" ถังชิงหรูขมวดคิ้ว "พูดมาให้หมดอย่าปิดบัง ข้า้าทราบสาเหตุ มิเช่นนั้น จะรักษาให้หายได้อย่างไร"
"ท่านอ๋องไม่เชื่อว่าตนเองจะััสตรีอื่นมิได้ เมื่อครู่จึงเรียกสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา คิดจะ... ให้นางถวายตัว แต่เพียงแค่ััเส้นผม ยังไม่ทันแตะต้องมือนางด้วยซ้ำ ก็กลายเป็เช่นนี้ไปแล้ว" พ่อบ้านหลินอธิบายด้วยสีหน้าลำบากใจ "หากจะสืบสาวราวเื่ให้ถึงที่สุด แม่นางก็มีส่วนต้องรับผิดชอบอยู่กึ่งหนึ่ง หากท่านไม่แตกหักกับท่านอ๋องตอนนั้น เขาก็คงไม่ทำเื่แบบนี้"
"ข้าไม่เข้าใจ การที่เ้านายของท่านผลีผลามทำเื่แบบนี้เกี่ยวข้องกับข้าตรงไหน ข้าให้เขาไปแตะต้องสตรีรึ? โรคของเขายังไม่หาย รีบร้อนจะเสพกามารมณ์เช่นนี้ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไร" เดิมทีถังชิงหรูก็รู้สึกตื่นตระหนก แต่พอได้ยินพ่อบ้านหลินเล่าสาเหตุ เพลิงโทสะขุมหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจโดยไม่รู้ตัว พลันรู้สึกสมน้ำหน้าที่เขากลายเป็แบบนี้
พ่อบ้านหลินทำปากขมุบขมิบพึมพำเสียงเบา "มิใช่เพราะท่านเข้ามาให้ความหวังแล้วสุดท้ายก็ทอดทิ้งหรอกรึ"
น่าหลันหลิงมองเฉินิซึ่งนอนอยู่ตรงนั้น ยามนี้เขารู้สึกสับสนว้าวุ่น และไม่สบายใจ เดิมทีตัดสินใจว่าจะทำตามที่ฉินรุ่ยวางแผนไว้ คือให้ถังชิงหรูอยู่ดูแลเฉินิ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว หากปล่อยให้นางอยู่ที่นี่ ตนเองคงต้องเสียนางไปจริงๆ
ความรู้สึกที่น่าหลันหลิงมีต่อถังชิงหรูค่อนข้างซับซ้อน สิ่งที่แน่ใจได้คือความรู้สึกชื่นชม หากนานไปมิได้พบเจอ เขาก็จะคิดว่านางกำลังทำสิ่งใดอยู่ นางเป็คนจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก สิ่งที่นางทำเ่าั้ทำให้เขานึกละอายใจ ทำให้คนอีกมากมายต้องละอายใจ ยามเห็นนางช่วยเหลือคนนับครั้งไม่ถ้วน เขาเพียรถามตนเองว่า เ้าไปเก็บเทพธิดาคนนี้มาจากไหน
เขาไม่ชอบที่นางใกล้ชิดกับเฉินิเกินไป สายตาเร่าร้อนของบุรุษผู้นั้นยามจ้องมองนางทำให้เขาทรมานใจนัก อยากพานางไปจากที่นี่ ให้เฉินิหานางไม่พบอีก บางคราก็อดถามตัวเองมิได้ หรือว่านี่คือความรักชายหญิงที่ว่าไว้ในตำรา เมื่อก่อนเขามิเคยัั แต่ไรมาก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้คือความรัก แต่บัดนี้เขาแน่ใจแล้ว
ถังชิงหรูดึงมือของเฉินิขึ้นมาจับชีพจรไป พลางสังเกตว่ายามััตัวนางผื่นบนใบหน้าจะหายไปเหมือนครั้งก่อนหรือไม่
"หายแล้ว" พ่อบ้านหลินถอนหายใจอย่างโล่งอก
"อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนัก ครานี้อาการของเขาค่อนข้างน่าเป็ห่วง" ถังชิงหรูกล่าว "ชีพจรอ่อน หัวใจเต้นช้ามาก ลมหายใจแ่และเบาบาง คล้ายกับเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย"
รอยยิ้มผ่อนคลายของพ่อบ้านหลินพลันชะงัก ความหวาดผวาจับเต็มใบหน้า ละล่ำละลักอย่างตื่นตระหนก "ท่านหมอถัง ท่านหมอเทวดา ท่านต้องช่วยท่านอ๋องให้ได้นะขอรับ อย่าให้เกิดเื่กับเขาเป็อันขาด"
ถังชิงหรูนั่งลงหน้าเตียงเอ่ยว่า "อย่าเสียงดังเอะอะ ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ"
น่าหลันหลิงเห็นสภาพเฉินิแล้ว ก็กล่าวในใจ เฉินิจะตายไม่ได้ หากเขาตาย ฮ่องเต้ต้องโทษว่าเป็ความผิดหรูเอ๋อร์ที่ไม่ดูแลเขาให้ดี แบบนี้หรูเอ๋อร์ก็จะตกอยู่ในอันตราย
"หญิงอัปลักษณ์ เ้ามันหญิงอัปลักษณ์ใจร้ายใจดำ..." เฉินิเพ้อออกมาขณะยังไม่ได้สติ "เ้ายั่วยวนเปิ่นหวาง แล้วก็หนีไป เ้าเห็นเปิ่นหวางเป็อันใด" น่าหลันหลิงหันไปมองถังชิงหรูที่อยู่ข้างกาย
ถังชิงหรูนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นตอนนั้น สีหน้าพลันกระอักกระอ่วน นางรีบฉวยโอกาสเรียกชื่อของเฉินิเพื่อตัดบทการละเมอของเขาเสีย
ตอนนี้นางกำลังร้อนตัวอย่างมาก เฉินิเอาแต่พร่ำถึงเื่นั้น หากเกิดเขาโพล่งอันใดออกมา นางคงไม่มีหน้าไปเจอผู้ใดอีกแล้ว
"ถังชิงหรู..." เฉินิละเมอออกมาครั้ง "ทำไมเ้าถึงไม่ยอมเป็ชายารองของเปิ่นหวาง เปิ่นหวางไม่ดีตรงไหน"
"ชายารอง?" น่าหลันหลิงเอ่ยเรียบๆ "ที่แท้ท่านอ๋องก็เห็นความสำคัญของเ้าถึงเพียงนี้ หรูเอ๋อร์..."
ถังชิงหรูหันมาพูดกับพ่อบ้านหลิน "เขาอ่อนแอขนาดนี้ได้อย่างไร ่นี้เขาไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยหรือ"
"ั้แ่ทะเลาะจนแตกหักกับท่าน ท่านอ๋องก็กินอะไรไม่ลง ทุกวันเอาแต่ติดตามฟังข่าวของท่าน แต่พอฟังแล้วก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย บางครั้งทั้งวันกินแค่มื้อเดียว บางครั้งก็เอาแต่ดื่มสุรา ไม่ยอมแตะต้องอะไรเลย เดิมทีข้าอยากไปเชิญท่านมาดูเขาสักหน่อย แต่ท่านอ๋องไม่อนุญาต ก็เป็เสียอย่างนี้ แง่งอนเหมือนเด็กๆ" พ่อบ้านหลินกล่าวด้วยความรู้สึกปวดร้าวใจ
ถังชิงหรูนึกละอายใจอยู่บ้าง นางไม่คิดว่าเขาจะจริงจังขนาดนี้ นึกพร่ำบ่นในใจ เสี่ยวอีเอ๊ยเสี่ยวอี คราวนี้นายเล่นแรงเกินไปจริงๆ
อย่าเห็นว่าเฉินิดูเหมือนเป็คนแรงๆ แต่แท้จริงแล้วบริสุทธิ์ผุดผ่องมาก เขาไม่เคยแตะต้องสตรีใดมาก่อน นางเป็ผู้หญิงคนแรกที่ััเขาแล้วไม่ทำให้เขาต้องเ็ปทรมาน มิเพียงเท่านั้น ยังเป็ผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาเกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกาย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเกิดความรู้สึกพึ่งพานางทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ถังชิงหรูฝังเข็มให้เฉินิสองสามตำแหน่ง ก่อนหันไปพูดกับพ่อบ้าน "ท่านให้บ่าวไปทำโจ๊กใส่เนื้อมาหน่อย ตอนนี้เขาอ่อนเพลียมาก สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะขาดอาหาร"
"ขอรับ" พ่อบ้านหลินตอบรับอย่างรวดเร็ว
น่าหลันหลิงคอยอยู่เป็เพื่อนนาง เขาเห็นถังชิงหรูดูแลเฉินิอย่างพิถีพิถัน
"้าให้ช่วยอะไรไหม" น่าหลันหลิงเอ่ยถาม
"อื้ม ให้เขาดื่มน้ำสักหน่อย" ถังชิงหรูหันไปบอก
น่าหลันหลิงยกน้ำชาเข้ามา ถังชิงหรูพยุงเฉินิขึ้นมานั่ง ทั้งสองช่วยกันป้อนน้ำให้เขาดื่ม ชั่วขณะนั้นเอง เฉินิก็ลืมตาขึ้น
เขาอ่อนแอเกินไป ตอนแรกยังตาพร่าไม่อาจจับจุดอะไรได้ แต่พอถังชิงหรูเตรียมจะวางเขาลง ก็เหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างจดจ้องนางเขม็ง คว้ามือของนางไว้ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียด "หญิงใจร้าย ใครใช้ให้เ้ามา เ้าตัดขาดความสัมพันธ์กับเปิ่นหวางไปแล้วมิใช่หรือ"
ถังชิงหรูถูกเขาต่อว่าราวกับเป็เฉินซื่อเหม่ย[1] ที่ได้ใหม่ลืมเก่าทอดทิ้งลูกเมีย ก็นึกโมโหอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกขบขัน เขาเป็ถึงท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ ไยถึงมาตัดพ้อต่อว่านางราวกับสตรีคนหนึ่ง
"ตอนนี้อาการของท่านย่ำแย่มาก ใช้แรงให้น้อยลงหน่อยดีกว่า ค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพร่างกาย หากยังใช้อารมณ์แบบนี้ ร่างกายจะรับไม่ไหว" ถังชิงหรูกล่าว
"หากข้าตาย ก็เพราะถูกเ้ายั่วโมโหนี่แหละ เ้าคงกลัวจะถูกพี่ใหญ่ของข้าลงโทษล่ะสิ" เฉินิพูดอย่างอ่อนแรง
"ท่านนี่จริงๆ เลย..." ถังชิงหรูกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "ตามใจ อยากจะคิดอะไรก็เชิญ สรุปแล้ว ต้องฟื้นฟูร่างกายให้หายก่อน แล้วค่อยมาคิดบัญชีกับข้าตกลงไหม"
เฉินิมองถังชิงหรู ก่อนคว้าตัวนางไว้แล้วดึงเข้ามา ทันทีที่ริมฝีปากอุ่นร้อนประกบบนริมฝีปากของนาง ถังชิงหรูก็เบิกตากว้าง นางอยากจะผลักเขาออกไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกอดนางไว้แน่นจนขยับหนีไม่ได้
น่าหลันหลิงอยู่ด้านข้างเห็นทุกอย่างชัดเจน จึงรีบดึงตัวถังชิงหรูออกมา เฉินิร่างกายอ่อนแออยู่เป็ทุนเดิม เมื่อครู่ก็ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายไปจนหมดสิ้น พอน่าหลันหลิงดึงถังชิงหรูออกไป เขาจึงเสียหลักล้มคะมำลงไปทั้งตัว
"ท่านอ๋อง ทรงทราบหรือไม่ว่าตนเองทำสิ่งใดลงไป" น่าหลันหลิงกล่าวอย่างโกรธจัด "หรูเอ๋อร์ช่วยเหลือท่านด้วยความหวังดี แต่ท่านกลับเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนางเช่นนี้หรือ"
"เปิ่นหวางรู้ว่านางมีเจตนาดี ดังนั้นจึงตอบแทนด้วยวิธีการของตนเอง เอาไว้เปิ่นหวางจะร่างหนังสือไปถึงพระเชษฐา มอบตำแหน่งชายารองให้แก่นาง เปิ่นหวางขอรับรอง หลังจากที่นางติดตามเปิ่นหวางแล้ว จะไม่ต้องรับความน้อยเนื้อต่ำใจใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ต้องบากหน้าออกไปทำงานงกๆ อยู่ข้างนอก เปิ่นหวางจะให้ทุกสิ่งที่นาง้า" เฉินิมองถังชิงหรูอย่างเผด็จการ
ถังชิงหรูเช็ดริมฝีปาก สายตามีแต่ความเฉยเมย นางยิ้มเยาะกล่าวว่า "น่าเสียดายที่ท่านไม่ทราบว่าสิ่งที่ข้า้าคืออะไร ใครพิสมัยตำแหน่งชายารองท่านกันฮึ? ข้าอยากได้แต่อิสรภาพเท่านั้น"
พ่อบ้านหลินถือโจ๊กหมูเข้ามา เห็นเฉินิฟื้นแล้ว ก็อุทานออกมาด้วยความดีใจ "ท่านอ๋อง ในที่สุดก็ทรงฟื้นเสียที ช่างดีเหลือเกิน บ่าวรู้อยู่แล้วว่าท่านหมอเป็ดาวนำโชคของท่าน"
เฉินิมองถังชิงหรู ั์ตาฉายแววกร้าว "เ้าไม่ยินดีเป็ชายารองของเปิ่นหวาง หรือว่าเ้าอยากเป็ชายาเอก? ด้วยสถานะของเ้า นี่คือสิ่งที่เป็ไปไม่ได้"
ถังชิงหรูยกมือนวดหน้าผาก สีหน้าแสดงถึงความอ่อนเพลียและสิ้นเรี่ยวแรง "ท่านอ๋องที่เคารพ ท่านดูไม่น่าจะใช่คนไร้เดียงสาขนาดนั้น เหตุใดคำพูดของข้าท่านถึงฟังไม่เข้าใจ ข้าจะบอกท่านให้ชัดเจนอีกครั้ง ข้าไม่อยากเป็สตรีของท่าน ไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อย"
พ่อบ้านหลินมองเ้านายตนเองอย่างเป็กังวล ก่อนหันไปจ้องถังชิงหรูตาปริบๆ พลางเอ่ยในใจ ท่านอ๋องเพิ่งฟื้นมิใช่หรือ ไฉนถึงคุยเื่นี้แล้วเล่า ต่อให้จำเป็ต้องพูด ก็ช่วยคำนึงถึงสุขภาพของคนป่วยก่อนได้หรือไม่ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันดีๆ ไม่เห็นต้องตาต่อตาฟันต่อฟันเช่นนี้เลย
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เฉินซื่อเหม่ยเป็ตัวละครในเื่เปาบุ้นจิ้น เขาเป็บัณฑิตยากจน แต่งงานมีบุตรแล้ว ต่อมาเข้าเมืองหลวงสอบได้เป็จอหงวน เป็ที่หมายตาของน้องสาวฮ่องเต้ ด้วยความโลภเขาจึงบอกว่าตนเองยังโสด และได้เสกสมรสกับองค์หญิงกลายเป็ราชบุตรเขยในที่สุด ต่อมาที่บ้านเกิดเกิดภัยแล้ง ภรรยาของเขาจึงพาบุตรชายเข้าเมืองหลวงตามหาสามี จนรู้ว่าเขาสอบได้เป็จอหงวน เฉินซื่อเหม่ยไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ ยังส่งคนมาสังหารภรรยาและบุตรของตนเองเพื่อปิดปาก เคราะห์ดีที่นักฆ่ามีมโนธรรมจึงชี้ให้นางไปฟ้องร้องเปาบุ้นจิ้น เพื่อทวงถามความเป็ธรรม สุดท้ายเฉินซื่อเหม่ยก็ถูกปะาชีวิต
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้