ดอกบัวน้ำแข็งสองดอกปรากฏขึ้นพร้อมกัน อุณหภูมิในห้องก็ลดลงอีกครั้ง ผนังห้องมีเกล็ดน้ำแข็งสีน้ำเงินเกาะอยู่ทั่ว
พอเฮยจีได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตกตะลึงไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะ้าหลอมรวมดอกบัวน้ำแข็งสองดอกเข้าด้วยกันในคราเดียวเลย
ในความเป็จริงแล้ว ดอกบัวน้ำแข็งเป็ยาสำหรับผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญาไว้ใช้งานอยู่แล้ว ิอวี่เองก็มีพลังจิตที่แข็งแกร่งมากกว่าคนอื่น ร่างกายและจิตใจของเขาทำให้ดอกบัวน้ำแข็งมีความแข็งแกร่งแน่วแน่มากขึ้น
เพราะเหตุนี้ ิอวี่ถึง้าใช้ดอกบัวน้ำแข็งทำการฝึกฝนในคราวเดียว
ดอกบัวน้ำแข็งสองดอกถูกดูดเข้าไปในหยกโบราณพร้อมกัน ทันทีทันใดนั้นเองมันก็กลายเป็คลื่นพลังงานที่พุ่งเข้าสู่จิตใจของิอวี่อย่างบ้าคลั่ง และเสริมความแข็งแกร่งให้พลังิญญาของเขาอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้พลังงานที่เย็นะเืนี้ ร่างกายของิอวี่ถูกแช่แข็งทั่วทั้งตัวจนเป็ก้อนน้ำแข็ง
ิอวี่อยู่ในก้อนน้ำแข็ง ราวกับสิ่งมีชีวิตใหม่ได้รับการหล่อเลี้ยงในเปลือกไข่ ราวกับดักแด้ที่กำลังจะกลายเป็ผีเสื้อและกำลังรอการเปลี่ยนแปลงอย่างบ้าคลั่ง!
เมื่อมองจากภายนอกของก้อนน้ำแข็ง เห็นิอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย อาจเป็ไปได้ว่าเขากำลังอดทนต่อความหนาวสุดขั้วและความเ็ป แต่เขาก็ยังเด็ดเดี่ยวต่อสิ่งที่ตนเองเลือก เพราะในใจของเขานั้นมีความหนักแน่นและแน่วแน่อย่างมาก
เฮยจีมองไปที่ิอวี่ด้วยความชื่นชม จากนั้นก็คิดจะยกสุราขึ้นดื่ม แต่พบว่าถ้วยเหล้านั้นเกาะตัวแข็งอยู่บนโต๊ะ เหล้าในถ้วยก็เป็ก้อนน้ำแข็งไปแล้ว
“เหล้าก็ไม่มีให้ดื่มแล้ว เ้าเองก็พูดคุยกับข้าไม่ได้อีก”
เฮยจีเบะปากแล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ นางค่อยๆ เดินออกไปนอกห้อง รวบรวมพลังลมปราณให้ไปอยู่ที่ปลายเล็บ จากนั้นก็สลักอักษรไปที่ประตูว่า “ข้ากำลังฝึกยุทธ์ ห้ามรบกวนเด็ดขาด”
พอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เฮยจีก็ปิดประตูแล้วเดินไปนั่งข้างๆ ิอวี่ นางเอามือชันคางที่ริมโต๊ะแล้วมองไปที่ิอวี่ที่มีแต่น้ำแข็งเกาะและกำลังหลับตาอยู่
อาจเป็เพราะนางเหมือนจะเมาเล็กน้อย จึงได้ใช้ปลายนิ้วลูบไปยังใบหน้าและลำคอของิอวี่ จากนั้นก็เป่าลมไปที่ใบหน้าของเขาเบาๆ พอเห็นว่าิอวี่ยังคงหลับตาอยู่นางก็หัวเราะออกมา
แค่ล้อเล่นนิดหน่อย เฮยจีก็เหมือนรู้สึกเหนื่อยแล้ว นางเบะปากแล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยความเหม่อลอย
ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้หล่อจนฟ้าถล่มดินทลาย แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เก่งกาจที่สุด แต่ทำไมถึงมองอย่างไรก็รู้สึกว่ายังไม่พอเลย?
เป็แบบนี้อยู่นานจนหมดเวลาของร่างแปลงิญญาของเฮยจี นางเข้าไปกระซิบแบบไม่อยากจากลาที่ข้างหูของิอวี่ว่า “สู้ๆ นะ ข้าเชื่อว่าเ้าต้องทำสำเร็จ”
ในขณะที่พลังความสามารถของิอวี่แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะหยกโบราณกับเืของเขามีความเชื่อมโยงกับดวงิญญาของเฮยจี ดังนั้น ความสามารถของเฮยจีนั้นก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย เมื่อความสามารถของนางแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าอย่างนั้นนางก็จะสามารถปล่อยพลังลายเส้นอักขระได้น่ากลัวขึ้น!
ิอวี่ยังไม่รู้ว่าเฮยจีที่เปลือกนอกดูอ่อนแอ ที่จริงแล้วนางเป็นักร่างอักขระที่แข็งแกร่งมากขนาดไหน!
มองิอวี่ไปอีกสักพักนางก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ เฮยจีหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็กลายร่างเป็แสงสีดำ แล้วกลับเข้าไปในหยกโบราณที่อยู่บริเวณหน้าอกของิอวี่
ระหว่างที่ิอวี่ทำการฝึกนั้น เขาเข้าสู่ภวังค์ไปนานแล้ว ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขารู้แต่สมาธิของเขาอยู่ที่การฝึกและหลอมบัวหิมะน้ำแข็งเท่านั้น และพลังของเขาก็กำลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในวันแรก เพราะอักษรที่หน้าประตูคำว่า “ข้ากำลังฝึกยุทธ์ ห้ามรบกวนเด็ดขาด” เลยไม่มีบ่าวไพร่คนไหนกล้าเข้ามารบกวนเลย
แต่ว่าวันที่สอง ิอวี่ก็ยังไม่ออกมาจากห้องอีก พวกบ่าวไพร่จึงลองเจาะหน้าต่างดู ใครจะคิดว่าแค่แตะไปที่กระดาษบนหน้าต่างก็รู้สึกหนาวเย็นจนลึกไปถึงกระดูกแล้ว
ไม่รู้ว่าิอวี่กำลังฝึกวิชาอะไรอยู่ แต่บ่าวไพร่พวกนี้รวมถึงหยางเสวี่ยหรงเองก็เลือกที่จะไม่ไปรบกวนเขา
เพราะเดิมิอวี่ก็ทำตัวลึกลับอยู่แล้ว พวกเขาก็เลยไม่ได้ถามให้มากความ
เื่เป็ไปด้วยดีจนผ่านไปหกวันเต็ม ในเช้าวันที่เจ็ด ก้อนน้ำแข็งของิอวี่ก็เริ่มค่อยๆ มีรอยร้าวเล็กๆ จากนั้นมันก็ค่อยๆ ขยายจนะเิออกในที่สุด
ิอวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเขาก็เปล่งแสงสีน้ำเงินของบัวหิมะน้ำแข็งออกมา จนผ่านไปสามวินาทีถึงได้สลายหายไป
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในหัวของิอวี่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง
เดิมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของิอวี่นั้นมีความลึกแค่สามเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น แต่ตอนนี้มันขยายใหญ่ขึ้นจนมีความลึกห้าเมตร กว้างสองเมตร น้ำสีดำในบ่อเคลื่อนไหวไปตามจิตสำนึกของิอวี่ ซึ่งมันแฝงไปด้วยพลังจิตอันมหาศาล
ตอนที่ิอวี่เปิดััแห่งิญญาขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่ารอบตัวของเขานั้นชัดเจนขึ้นอย่างมาก และขอบเขตที่เขาสามารถมองเห็นจากเดิมสามลี้ก็เพิ่มเป็ห้าลี้!
ปกติแล้วผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพจะสามารถมีประสาทััการรับรู้แค่ไม่เกินสองลี้ แต่ิอวี่กลับทำได้มากกว่าถึงสองเท่าตัว
อีกทั้งคราวนี้ิอวี่เองก็ตั้งใจกดพลังฝีมือของเขาเอาไว้ ไม่ได้เลือกทะลวงมันในทันที แต่ทำให้พื้นฐานของเขาแข็งแกร่งหนักแน่นก่อน ดังนั้น ตอนนี้ิอวี่จึงมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกในระดับสูงสุด!
จากนั้นอีกไม่นานเท่าไร ิอวี่ก็จะสามารถเข้าสู่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ด ถึงเวลานั้นเขาก็จะสามารถเรียนรู้เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงกระบวนท่าที่เจ็ดได้!
“ไหนลองดูสิว่า ตอนนี้ข้ามีพลังแบบไหนกันบ้างแล้ว”
พูดจบิอวี่ก็ลุกขึ้น เขากำหมัดแล้วชกออกไป เสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ประตูใหญ่กลายเป็รู
“ตอนนี้ข้ามีพลังเทียบเท่าราชสีห์สามพันสองร้อยตัวเลยหรือนี่! บวกกับผลาญโลหิต พลังของข้าก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นแล้ว”
ิอวี่กำหมัดแน่น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
ปกติแล้ว ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญาโดยทั่วไปจะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์ห้าร้อยตัว แต่ิอวี่กลับมีพลังมากกว่าถึงหกเท่าตัว และเมื่อมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง อย่างน้อยก็จะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งพันห้าร้อยตัว และมันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงขีดจำกัดสูงสุดของร่างกายก็จะเกิดการปรากฏการณ์ต่างๆ ขึ้น บางคนอาจจะะเิแสงออกมาทั่วตัว บางคนอาจจะมีไฟท่วมตัว หรือบางคนอาจจะเปล่งเสียงสายฟ้าออกมาจากในร่างกาย ...
เมื่อเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้น นั่นก็หมายถึงว่าได้เข้าสู่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วแล้ว!
เมื่อถึงระดับผนึกขั้วแล้วพลังจะไม่เพิ่มอีก พลังงานที่แข็งแกร่งที่สุดนี้ เราเรียกว่า ขั้วพลังสูงสุด
ขีดจำกัดของขั้วพลังสูงสุดคือพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว ั้แ่โบราณมายังไม่เคยมีใครทำได้ถึงระดับนั้นเลย พลังการต่อสู้ของผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วคนหนึ่ง มันมีความเกี่ยวพันกับขั้วพลังสูงสุดอย่างมาก
หากมีความแตกต่างกับขั้วพลังสูงสุดไม่มาก ก็จะไปดูจากทักษะการต่อสู้ ศาสตราวุธ ลายเส้นอักขระ แล้วก็ประสบการณ์การต่อสู้แทน!
ิอวี่ส่ายหน้าแล้วก็เลิกคิดอะไรพวกนี้ ตอนนี้คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ค่อยๆ เดินไปทีละก้าวน่าจะดีกว่า!
ิอวี่หยิบม้วนคัมภีร์ยุทธ์ออกจากถุงเก็บของมาวางไว้ตรงหน้า
บนม้วนคัมภีร์ยุทธ์นี้มีอักษรเขียนว่า ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้!
ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้เป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูงที่มีอานุภาพรุนแรงมาก ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้ไม่ได้เน้นกระบวนท่า แต่จะเป็การรวบรวมพลังงานเอาไว้บนฝ่ามือ เมื่อประชิดตัวคู่ต่อสู้เมื่อไหร่ค่อยปล่อยพลังะเิปลิดิญญาออกไป!
ิอวี่เปิดม้วนคัมภีร์ยุทธ์ออกแล้วเริ่มฝึกฝน
เดิมทีก่อนจะไปถึงระดับกระชากิญญา พลังจิตของิอวี่ก็แข็งแกร่งมากั้แ่เกิดอยู่แล้ว พอมาถึงระดับกระชากิญญาสูงสุดแล้ว พลังจิตของิอวี่ก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก ต่อให้ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้จะซับซ้อน แต่ิอวี่ก็อ่านเข้าใจทั้งหมด
“แบบนี้ แล้วก็ แบบนี้ จากนั้นก็รวมลมปราณ”
ิอวี่ลองทำท่าทาง แล้วฝึกพลังฝ่ามืออยู่ในห้อง ลมปราณทั่วร่างกายของเขาไหลเวียนไปตามจุดต่างๆ และสุดท้ายก็มารวมกันอยู่บนฝ่ามือ
เพราะอยู่ในห้องไม่สามารถปล่อยพลังออกไปได้ ิอวี่เลยคิดว่าไปที่ป่าหลังวังหลวงดีกว่าจะได้ฝึกการปล่อยพลังฝ่ามือนี้ด้วย จนกระทั่งกลางดึกในคืนวันเดียวกัน เขาก็สามารถฝึกฝนฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้ในเบื้องต้นได้แล้ว
ิอวี่ยืนอยู่ห่างจากูเาลูกหนึ่งที่ป่าหลังวังหลวงประมาณสิบเมตร เขาพลิกข้อมือขวา แล้วะโปลายเท้าแตะพื้น แล้วซัดฝ่ามือออกไปแตะที่ผนังหิน
แต่ว่า พลังฝ่ามือของเขานั้นกลับอ่อนปวกเปียกไม่มีพลังสังหารอยู่เลย
ฝ่ามือขวาของิอวี่ที่แนบอยู่บนผนังหิน พอลองมองดูอย่างละเอียดแล้วแทบจะไม่เห็นร่องรอยอะไรเลย
“ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้”
แต่จากนั้น ิอวี่ก็เดินลมปราณจากชีพจรสามสิบหกจุดในร่างกายไปไว้ที่แขนขวา กล้ามเนื้อบนแขนเป่งจนเป็รอยเส้นเื จากนั้นก็ะเิพลังออกไปที่บนฝ่ามือขวา
พลังงานสีขาวะเิออก มือขวาของิอวี่บนผนังหินหายไปแล้ว เหลือเพียงรูเส้นผ่าศูนย์กลางห้าเมตร และมีความลึกถึงสิบเมตร!
“นี่มัน ... ”
ิอวี่ยืนอึ้งอยู่กับที่ หากพลังะเินี้ซัดอยู่ที่ตัวคนก็จะสามารถะเิเนื้อของคนๆ นั้นได้เลย
เมื่อครู่ิอวี่ตกตะลึงเกินไป ตอนนี้เขาถึงได้รู้สึกว่ามือขวาของเขานั้นปวดเมื่อย เมื่อมองไปก็พบว่าบนฝ่ามือของเขานั้นเริ่มแดง และเหมือนมีแสงสีทองกำลังไหลเวียนอยู่ด้วย
“โชคดีที่ข้าฝึกเกราะจักจั่นปีกบาง ไม่อย่างนั้นหากร่างกายไม่แข็งแกร่งมากพอเกรงว่าต่อให้ฝึกฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้ได้ แต่พลังที่รุนแรงของมันคงทำให้มือพิการเป็แน่” ิอวี่พูดอย่างโล่งใจ
ตอนนี้ิอวี่ฝึกฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้แค่เบื้องต้นเท่านั้น หากฝึกจนถึง่หลังๆ ขอบเขตการะเิของฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้ก็จะเล็กลงเรื่อยๆ พลังงานจะมารวมกันอยู่ที่จุดกึ่งกลาง พลังทะลุทะลวงนั้นยากที่จะคาดเดาได้เลย และถ้าหากฝึกจนสำเร็จก็จะสามารถส่งลมปราณจากชีพจรเจ็ดสิบสองจุดไปที่แขน อานุภาพของมันก็จะเพิ่มขึ้นเป็เท่าตัว!
แต่ว่า ต่อให้สามารถทะลวงใช้ลมปราณจากชีพจรได้แค่สามสิบหกจุด อานุภาพของฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้ก็แข็งแกร่งมากแล้ว!
ิอวี่เตรียมที่จะกลับไปยังตำหนักลั่วฮวาแล้วร่างลายเส้นอักขระเอาไว้เป็ไพ่ไม้ตายรักษาชีวิตอีกสักหน่อย แล้วก็ให้เฮยจีสอนกระบวนท่าสุดท้ายในคาถาค่ายกลกันไฟให้เขาด้วย เพราะพรุ่งนี้ิอวี่จะต้องแอบตามขบวนใหญ่เดินทางไปยังดินแดนอสูรว่านโซ่วแล้ว!
แต่ว่า ตอนที่ิอวี่กลับมาถึงตำหนักลั่วฮวากลับพบว่ามีแขกมารออยู่
ชายวัยกลางคนสวมชุดราชการสีดำ คิ้วหนาตาโต กำลังพูดคุยยิ้มแย้มอยู่กับหยางเสวี่ยหรง
“นี่คือชาชั้นดีชามู่อวินเซียน ไม่เพียงรสชาตินุ่มคอเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงเื เป็ของบำรุงชั้นยอดเลย แม้แต่ในวังหลวงยังไม่มีของดีเช่นนี้เลยนะพะยะค่ะ”
“แบบนี้ไม่ดีกระมัง” หยางเสวี่ยหรงส่ายหน้าแล้วพูด
ชายวัยกลางคนยิ้มแล้วพูดว่า “พระสนมหยางทรงอย่าได้ปฏิเสธเลย เรามิได้มีเจตนาอื่นใด เป็สินน้ำใจเล็กน้อยจากทางเมืองใต้ดินหวังเฉิงของเราเท่านั้นเอง ทรงรับไว้เถอะ”
ระหว่างที่พูดก็ยื่นเอากล่องเหล็กสีทองอมเขียวไปให้หยางเสวี่ยหรงด้วยสองมือ
หลังจากที่เห็นิอวี่ ชายวัยกลางคนนั้นก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหาิอวี่พร้อมกับยิ้มอย่างตื่นเต้น
ิอวี่รู้สึกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนประเภทนี้เขาจำต้องดุดันจริงจังประมาณหนึ่ง หากเขายิ้มมันจะทำให้เขารู้สึกแปลกๆ แต่ก็คิดว่าคงไม่ทำลายเจตนาดีแน่นอน
“องค์ชายสิบเจ็ด ท่านเสด็จกลับมาได้จังหวะ เรากำลังพูดถึงท่านพอดีเลย”
ชายวัยกลางคนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “กระหม่อมแซ่ซ่งชื่ออวินเป็ผู้ดูแลของเมืองใต้ดินหวังเฉิง ทรงเรียกกระหม่อมว่าผู้ดูแลซ่งก็ได้พะยะค่ะ”
“หือ?” ิอวี่กระดกคิ้ว “เ้ามีธุระอะไร พูดมาเลย”
ซ่งอวินคิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เขาเลยกระแอมไอสองทีแล้วพูดว่า “ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมาก ท่านเ้าเมืองของเรานั้นชื่นชมท่านมานาน อยากจะขอพบท่านั้แ่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว เพียงแต่ท่านฝึกวิชาอยู่ตลอด วันนี้ได้ยินว่าทรงว่าง ก็เลยคิดอยากจะ ...”
“ไม่ไป ... ”
ิอวี่ตอบอย่างไม่คิดแล้วเดินตรงกลับไปยังห้องนอนตัวเองเลยในทันที
“ไม่ได้นะพะยะค่ะ ... ” ผู้ดูแลซ่งวิ่งหน้าตั้งแล้วกระซิบข้างหูิอวี่ว่า “ครั้งนี้ท่านเ้าเมืองของพวกเราแสดงความจริงใจโดยการนำของบำรุงในการฝึกกับของขวัญอีกจำนวนมากมามอบให้ด้วยนะพะยะค่ะ”
ผู้ดูแลซ่งมองไปรอบๆ แล้วกระซิบข้างหูิอวี่ว่า “เอาอย่างนี้ดีไหม เราเตรียมรถม้าเอาไว้แล้วด้านนอก เราจะอำนวยความสะดวกให้ท่านโดยการไปรับไปส่งท่านเอง ทูลตามตรง คืนนี้ท่านเ้าเมืองอยากจะมอบ ... ของขวัญพิเศษลึกลับอย่างหนึ่งให้ท่านด้วย แต่ว่าเป็อะไรนั้น ... เมื่อท่านไปถึงก็จะได้คำตอบเอง เหอะๆ ...”
พูดจนถึงประโยคสุดท้าย ผู้ดูแลซ่งก็หัวเราะขึ้นมา