การนอนของหร่านซวี่จือหลายวันมานี้ไม่นับว่าดีมากเพราะเขาฝันเื่เดิมติดๆ กัน
นั่นก็คือคำพูดของปิงโหยวจี้ที่บอกกับเขาในคืนก่อนที่ตนเองจะจากมา
หร่านซวี่จือคิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้จะส่งผลกับตนเองมากมายเช่นนี้
หร่านซวี่จือเป็คนที่ชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง ก็เหมือนเอ็ดเวิร์ดกับเหวยิ่ ที่พอพวกเขามีท่าทีอ่อนโยนต่อหร่านซวี่จือก็ทำให้หร่านซวี่จือก็ใจอ่อนไปไม่ถูก
แต่ปิงโหยวจี้นั้นแตกต่างจากคนทั้งหมด
แม้หร่านซวี่จือจะรู้ดีในใจแต่ก็ไม่เคยปริปากมาก่อน
เขาไม่อยากยอมรับว่าตนเองจะชอบคนในโลกเสมือนจริง
แม้ว่าคนคนนี้จะจำเขาไม่ได้ แต่เขาก็ต้องพยายามทุกวิธีเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับตนเอง
“อาหร่านซวี่จือ ฉันรู้ว่านายชอบมาเดินเล่นที่สวนไปทั่ว” อิงซางเอ่ย “แต่นายอย่าขึ้นไปห้องในสุดบนชั้นสองนะ คุณเฉินต้องโกรธเป็ฟืนเป็ไฟแน่ แม้กระทั่งฟู่หลิงยังไม่กล้าเข้าไปเลย”
หร่านซวี่จือถาม “เข้าไปไม่ได้หรือ? ทำไมกัน? ”
“ได้ยินพวกชวนอวิ๋นบอกว่าในนั้นมีข้อมูลคนรักในอดีตของคุณเฉิน” อิงซางเอ่ย “สรุปก็คือ ปมในใจในอดีตของคุณเฉินนั้น ขอแค่นายอย่าเอ่ยถึงต่อหน้าเขาก็พอ”
“ฉัน”
เฉินหนานมักจะพาฟู่หลิงออกไปข้างนอก จวบจนตอนค่ำถึงจะกลับมา หร่านซวี่จือมักจะอาศัย่ที่ไม่มีคนแล้วไปนั่งเล่นในสวนกับซาจือและเล่นโยนจานบินกัน
เ้าขนทองชอบชื่อนี้มาก ทุกครั้งที่หร่านซวี่จือเรียกมันก็มักจะดีใจ ส่ายหางและกระดิกหางอย่างชอบใจ
“เฮ้ นายรู้จักทังเหวยไหม? ” หร่านซวี่จือมองดูก็มีความสุข เขาจึงเอ่ยถามมัน
ซาจือส่งเสียงร้อง จากนั้นก็ใช้ศีรษะซอกไซร้ขากางเกงของหร่านซวี่จือ
“ฉันเหลือแค่แกแล้ว” หร่านซวี่จือลูบศีรษะของมัน
หลายครั้งที่ได้ยินอิงซางกล่าวถึงห้องนั้น เขาจะเกิดความวู่วามอยากจะไปเปิด แต่เมื่อนึกถึงสถานะของตนเองตอนนี้ก็เลยถอดใจ
เขานั้น้าจะตรวจสอบเื่ราวที่เกิดขึ้นจริงๆ
ซาจือวิ่งวนรอบตัวเขา มันเงยศีรษะขึ้นแล้วมองไปทิศทางที่หร่านซวี่จือมองอยู่ จากนั้นก็เอียงศีรษะด้วยความสงสัย
มีครั้งหนึ่งที่หร่านซวี่จือกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ในห้องของตนเอง ซาจือก็มักจะกางอุ้งเท้ามาเกาะขอบหน้าต่างห้องของเขา
หร่านซวี่จือหันศีรษะมองไป พอเปิดหน้าต่างออก ก็เห็นซาจือก็คาบอะไรบางอย่างไว้ในปากแล้วะโเข้ามาจากหน้าต่างด้านนอก มันวางของไว้บนพื้นแล้วก็ออกไป
เมื่อหร่านซวี่จือหยิบขึ้นมาดูก็ถึงกับตาโต
นี่มันข้อมูลของเฉินหนานงั้นหรือ?
บนนั้นมีรูปถ่ายของเฉินหนานกับแสงจันทร์ขาวแปะไว้แล้วยังมีเขียนวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย
หร่านซวี่จือมือสั่น ข้อมูลที่แม้กระทั่งระบบเองก็ยังค้นหาไม่ได้ แล้วในนี้จะมีไหมนะ?
หร่านซวี่จือเปิดออก
ด้านในว่างเปล่า
ทำไมกัน?
ทำไมถึงว่างเปล่า?
หร่านซวี่จืองงเป็อย่างมาก
หรือว่าซาจือแค่หยิบของมาเรื่อยเปื่อย? หร่านซวี่จือมองเ้าขนทองที่อยู่ด้านนอกด้วยความสงสัย
คิดในใจอยู่นานครึ่งค่อนวันก็คิดอะไรไม่ออก สุดท้ายหร่านซวี่จือก็เก็บข้อมูลเอกสารไว้ในลิ้นชักของตนเอง เขาหันหลังขึ้นเตียงแล้วนอนหลับไป
พอวันรุ่งขึ้น เขาตื่นขึ้นด้วยความสะลึมสะลือเพราะถูกใครบางคนเขย่าตัว เมื่อหร่านซวี่จือลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าอิงซางมีน้ำตาอาบแก้ม และมีท่าทางหวาดหวั่นแล้วเอ่ย “อาหร่านซวี่จือ! อาหร่านซวี่จือ! ทำอย่างไรดี! คุณชายเฉินจะฆ่าซาจือแล้ว”
หร่านซวี่จือตกตะลึงแล้วรีบลุกพรวดขึ้นจากเตียงอย่างกระวนกระวาย
ชุดนอนก็ไม่ได้เปลี่ยนแต่เขาก็เปิดประตูและพุ่งตัวออกไป
ในสวนมีคนล้อมอยู่มากมาย ทุกคนอยู่ตรงนั้นทั้งหมด สีหน้าของเฉินหนานโเี้ ดูแล้วน่าหวาดกลัวเป็พิเศษ
ตรงกลางสุดคือซาจือที่ถูกขังอยู่ในกรง เดิมทีขนทองเป็แพขณะนี้จับตัวเป็ก้อน มันปิดตาแน่นราวกับว่าตายไปแล้ว
หร่านซวี่จือหัวใจหล่นไปอยู่บนตาตุ่ม ชายหนุ่มผลักคนอื่นออกแล้ววิ่งเข้าไปตรงหน้ากรง เขายื่นมือเข้าไปในกรงแล้วกดลงที่ท้องของมัน เหมือนว่ายังมีลมหายใจ
หร่านซวี่จือโล่งอก
“ถ้าเป็แบบนี้ คนร้ายที่อยู่เื้ัก็จะออกมา” ฟู่หลิงยืนอยู่ข้างเฉินหนาน ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยกับเฉินหนาน “กล้องวงจรปิดในบ้านก็ยังพอมีประโยชน์บ้าง”
หร่านซวี่จือเงยศีรษะ มองไปและกำลังจะพูดอะไร ก็เห็นเฉินหนานโบกมือ
“พาตัวไป”
น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้ สายตานั้นราวกับใบมีดคมกริบ พร้อมที่จะปักเข้าที่ร่างกายของหร่านซวี่จือได้ทุกเมื่อ
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างเฉินหนานเดินมาตรงหน้าแล้วจับตัวหร่านซวี่จือไว้
เฉินหนานให้คนพาหร่านซวี่จือมาที่ห้องใต้ดินแล้วขังไว้ในสถานที่ที่คล้ายกับคุก
“นายเก่งกาจเหลือเกินนะที่กล้าติดสินบนของของฉัน” เฉินหนานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ขาไขว่ห้าง ศอกข้างหนึ่งชันคางไว้แล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น
“นายมีแผนการอะไร? ”
หร่านซวี่จือหายใจแล้วเอ่ย “คุณชายเฉิน ผมไม่...ไม่ได้มีแผนการอะไร เพียงแต่แค่สงสัย
“ใครส่งนายมากันแน่? ” เฉินหนานไม่เชื่อคำพูดของหร่านซวี่จือ
“ผมแค่สงสัยจริงๆ นะ คุณชายเฉิน เชื่อผมเถอะครับ” หร่านซวี่จือเอ่ยปาก จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าอยากร้องไห้
เฉินหนานขมวดคิ้วแล้วส่งสายตาไปให้ชายเสื้อดำที่อยู่ข้างๆ
คนคนนั้นพยักหน้าแล้วเดินตรงไปทางหร่านซวี่จือ จากนั้นก็มัดแขนของหร่านซวี่จือที่กำลังดิ้นรนด้วยการใช้กำลัง เผยเส้นเืของเขาออกมาแล้วฉีดอะไรบางอย่างเข้าที่แขนของหร่านซวี่จือ
“ยานี่พอจะช่วยได้ไหม? ” เฉินหนานมองหร่านซวี่จือด้วยท่าทีราบเรียบ
ชายเสื้อดำคนนั้นเอ่ยข้างหูเฉินหนานด้วยน้ำเสียงกึ่งได้ใจ “คุณชายเฉิน นี่คือของที่พวกประธานเยี่ยเพิ่งผลิตออกมา กระทั่งกองกำลังพิเศษยังทนไม่ไหวเลยครับ”
หร่านซวี่จือไม่รู้ว่านี่คืออะไร แต่ยานั้นออกฤทธิ์รวดเร็วมาก ในชั่วพริบตาก็รู้สึกถึงความปวดเมื่อยที่ออกมาจากร่างกาย
ความปวดเมื่อยนี้แปรเปลี่ยนเป็ความเ็ป ราวกับเหมือนมีคนกรอกพิษงูเข้าไปในลำคอ อวัยวะภายในนั้นกำลังถูกเขย่าและพิษก็ซึมเข้าไปจนทั่ว
หร่านซวี่จือกุมศีรษะของตนเอง ดวงตาเบิกโพลงเพราะความทรมาน น้ำตาหลั่งรินออกมาและหยดแหมะลงบนพื้นอย่างควบคุมไม่อยู่
“ฉันขอถามอีกครั้ง ใครส่งนายมา? ” น้ำเสียงของเฉินหนานส่งผ่านเข้ามาอย่างเลือนราง
หร่านซวี่จือเอ่ย “ผม...แค่สงสัย...”
เฉินหนานหน้ามืดมน “เพิ่มปริมาณอีก”
จากนั้นก็มีคนจับตัวเขาไว้แล้วฉีดอะไรบางอย่างเข้าที่คอของเขา หร่านซวี่จือไม่รู้ตัวแต่รู้เพียงว่าแค่เปิดปากก็เหมือนมีเืออกมา ซึ่งเืนั้นมันขย้อนออกมาเอง
สติเริ่มเลือนรางและความเ็ปสาหัสก็ค่อยๆ คืบคลานสู่ดวงิญญา ราวกับโลกทั้งกำลังมืดมนอย่างหาสิ่งใดเทียบไม่ได้
เฉินหนานถามเยอะมาก เริ่มแรกคนตรงหน้านั้นก็ตอบดีๆ อยู่ ต่อมาก็เริ่มพูดอะไรที่ตนเองฟังไม่ค่อยรู้เื่
หร่านซวี่จือไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังพูดอะไร กระทั่งเริ่มฟังคำเตือนในสมองของระบบก็ไม่รู้เื่ ราวกับไกลออกไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกระหว่างพวกเขาก่อเกิดในวันสิ้นโลก สุดท้ายกลับถูกตนเองทำให้ขาดสะบั้นเสียเอง
เด็กหนุ่มที่าเ็สาหัสอยู่กลางทะเลทรายในหลายปีก่อน ดวงตาใสสะอาดบริสุทธิ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก มือคู่ที่อ่อนโยน คำสาบานที่มิอาจกลับคำพูดได้
ราวกับว่ากำลังข้ามมิติย้อนกลับมา ภาพนั้นปรากฏอย่างชัดเจนตรงหน้าอีกครั้ง
“ปิง...ปิงโหยวจี้” เสียงที่หร่านซวี่จือพูดออกมาปะปนกับเืในปากทำให้เขาพูดออกมาไม่ค่อยชัดเจน “นายมัน...ไอ้...ซื่อบื้อ...ฉันจะไม่มีทางไปจด...ทะ...”
คำพูดสุดท้ายนั้นไม่ทันได้พูดจบ หร่านซวี่จือก็ล้มฟุบลงกับพื้น ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เฉินหนานที่ได้ยินคำพูดนี้ จู่ๆ หัวใจก็บีบรัดอย่างรุนแรง และมันก็นำพาความเ็ปมาให้เขาเหมือนถูกแหวกอก