“แต่ในรถของข้าน้อยมียาชั้นดีมากมาย ข้าจะนำไปส่งที่เมืองหลวง หากว่าพวกท่านทำมันพัง ข้าเกรงว่าจะยาก...” โจวอวี่ชางมีสีหน้าลำบากใจ
“หลบไป” บุรุษที่เป็ผู้นำไม่สนใจจะเสวนา จึงยื่นมือออกไปดึงโจวอวี่ชางลงจากรถม้า
เมื่อบุรุษผู้นั้นได้จับตัวโจวอวี่ชาง ก็รู้สึกได้ถึงความแน่นของกล้ามเนื้อ เขาขมวดคิ้ว หันหน้ากลับไปด้วยความสงสัย
“เ้าเป็บุรุษหรือ?” เขาเดินเข้าไปใกล้ แผ่รังสีอำมหิตออกมา “พวกเ้าไม่ต้องยืนนิ่ง เข้าไปค้นในรถม้าให้ละเอียด”
เมื่อเขาออกคำสั่ง บุรุษที่อยู่ใกล้สองสามคนก็รีบเข้าไปตรวจสอบในรถม้าทันที
“ข้า...ข้าน้อยจะเป็บุรุษได้เช่นไรเ้าคะ ข้าเพียงแค่ฝึกวิทยายุทธมาั้แ่เด็ก จึงมีร่างกายบึกบึนไม่เหมือนสตรีทั่วไปก็เท่านั้น”
“ตระกูลเย่ของเราเสาะหายาสมุนไพรอยู่ด้านนอกตลอด หากไม่ฝึกวิทยายุทธบ้างจะเอาตัวรอดยากน่ะเ้าค่ะ”
โจวอวี่ชางหาเหตุผลที่พอจะฟังขึ้น บุรุษผู้นั้นมองเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ไม่นานก็ละสายตาไป
โจวอวี่ชางถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วมองกลับไปที่รถม้า
คนเ่าั้ตรวจค้นอย่างละเอียดทั้งภายในและภายนอก แม้แต่บนหลังคารถก็ไม่เว้น สัมภาระทั้งหมดก็ถูกนำออกมา เปิดออกและโยนลงกับพื้น
มีขวดโหลยา บุรุษพวกนั้นนั่งยองแล้วเปิดขวดออกอย่างระมัดระวัง เมื่อดมกลิ่นยาแล้วก็เก็บกลับเข้าที่เดิม
“เหตุใดถึงมีเพียงเสื้อผ้าของบุรุษ?” หลังจากที่เห็นเสื้อผ้า บุรุษผู้นั้นก็เกิดความสงสัยขึ้นอีกครา
“ในเวลากลางวันข้ามักจะแต่งกายเป็บุรุษน่ะเ้าค่ะ การทำการค้ามีน้อยคนนักที่จะยอมรับสตรี หากทำเช่นนี้จะสะดวกกว่ามากเ้าค่ะ”
“ตระกูลเย่ของเ้าไม่มีผู้อื่นแล้วหรือ?”
“ย่อมมีสิเ้าคะ เพียงแต่คนตระกูลเราบุรุษสตรีเท่าเทียมกัน ผู้ที่มีความสามารถได้เป็ใหญ่”
โจวอวี่ชางตอบทุกคำถามอย่างสมเหตุสมผล
บุรุษผู้นั้นเอาของทุกอย่างมากองรวมกันพลันใส่เข้าไปในรถม้า “เ้ารีบไปเสีย”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวอวี่ชางก็รู้สึกราวกับถูกปล่อยตัว
เขาระงับความสุขในแววตา และพูดอย่างอ่อนโยน “ลำบากพวกท่านแล้ว ขอบคุณเ้าค่ะ”
“ไม่ลำบาก รีบไปเสีย”
“เ้าค่ะ”
เขากลับขึ้นไปบนรถอีกครา ก่อนที่รถม้าจะค่อยๆ วิ่งผ่านกลุ่มคนออกไป โจวอวี่ชางจึงแอบแสยะยิ้ม
อีกด้านหนึ่งในมุมมืด เวินซีที่มองดูอยู่อย่างกระสับกระส่ายก็ถอนหายใจโล่งอก
หากผ่านตรงนี้ไปได้ ที่เหลือก็ไม่มีอันใดต้องกังวลแล้ว
“กลับกันเถิด”
ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เมื่อเห็นว่ารถม้าออกไปได้สำเร็จ เวินซีก็ยิ้มพลันเอ่ยเสียงเบา แล้วเตรียมตัวจะกลับไปกับจ้าวต้าน
“รอเดี๋ยว”
แต่แล้ว เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันก็ทำให้ทุกคนหยุดชะงัก แล้วหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน
หลานเยว่เฉิงค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับทหารลับหลายสิบคน คบเพลิงส่องสว่างไปทุกทิศทาง ภายใต้แสงไฟ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและเยือกเย็นมาก
“คุณชายซู”
บุรุษที่เป็ผู้นำเมื่อครู่รีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ส่วนทหารลับคนอื่นๆ ก็พากันคุกเข่าลงตามกัน
รถม้าถูกสกัดไว้อีกครั้งเพราะคำพูดของเขา
เวินซีขมวดคิ้วแน่นขณะมองดูหลานเยว่เฉิง
เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่?
แผนการของพวกนางเป็ความลับแท้ๆ...
นางหยิบผงพิษขึ้นมาแทนกริชที่อยู่ในมือ เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ
“เหตุใดถึงปล่อยรถม้าคันนั้นไป?” หลานเยว่เฉิงหยุดอยู่ตรงหน้าบุรุษที่เป็คนออกคำสั่ง
เขาตัวสั่น ก่อนจะรีบตอบไปว่า “คุณชายซู รถม้าคันนั้นไม่มีสิ่งใดผิดปกติขอรับ บนรถมีเพียงสตรีคนเดียว”
“ไม่ผิดปกติ? มีเพียงสตรี? เ้ามั่นใจได้เช่นไรว่านางมิใช่ลูกน้องของคนผู้นั้น? ข้าเคยบอกหรือไม่ว่าก่อนที่จะตามหาเขาเจอ ห้ามปล่อยให้ผู้ใดเล็ดลอดไปเด็ดขาด”
“ข้า...คุณชายซูโปรดอภัยให้ข้าด้วยขอรับ ขอโอกาสให้ข้าได้ชด...ชด...ใช้...”
เขาเอ่ยคำสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและยังไม่อยากตาย ร่างกายของเขาล้มลงบนพื้น ตายตาไม่หลับ ที่คอมีลูกธนูยาวปักอยู่
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทหารลับคนอื่นๆ ต่างก้มหน้าลง ไม่กล้าส่งเสียงใด
หลานเยว่เฉิงแย้มริมฝีปาก สอดส่ายสายตาไปรอบๆ
“ผู้ที่หลบอยู่จะดูอีกนานเท่าใด? จะไม่ออกมาพบข้าหน่อยหรือ?”
จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นมา ทำให้เวินซีสะดุ้ง
เขารู้หรือ?
แต่...สายตาของเขามิได้มองมาทางนี้
หรือจะพยายามหลอกล่อให้พวกนางออกไปกันนะ?
เวินซีไม่ขยับ นางเงยหน้าขึ้นมองจ้าวต้าน
จ้าวต้านส่ายศีรษะเล็กน้อย เขาคิดเหมือนกันกับนาง
“ไม่อยากออกมาก็ตามใจ แต่ข้าคิดว่าพวกท่านคงจะเป็พวกเดียวกับคนที่อยู่บนรถสินะ หากนางเป็อันใดไป พวกท่านจะยังทนดูอยู่ได้หรือไม่?”
“จริงสิ แม่ทัพต้าน ท่านก็คงอยู่ใกล้ๆ ด้วยสินะขอรับ นานเช่นนี้แล้วยังไม่ออกมารำลึกความหลังกับข้าหน่อยหรือ? ปล่อยให้ข้าเฝ้าคิดถึงท่านฝ่ายเดียว”
ภายในป่า เสียงของหลานเยว่เฉิงฟังดูน่าขนลุก ราวกับดังมาจากนรก
สายตาของเขายังคงมองไปรอบๆ มิได้หยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เวินซีจึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะหลอกล่อให้ออกไป
หลานเยว่เฉิงเป็คนเ้าเล่ห์อย่างที่สืออีบอกจริงๆ หากเป็คนทั่วไปคงจะโดนหลอกั้แ่ที่เขาเอ่ยคำแรก
เมื่อมิได้รับการตอบสนองใดๆ รอยยิ้มของเขาก็หุบลง ก่อนจะละสายตาที่เยือกเย็นพลันก้าวเท้าเดินไปที่รถม้า
ม้าตื่นตระหนกมาก มันโยกตัวหลบหลีกไปมาไม่หยุด
เขาเดินไปที่รถม้า ยื่นมือออกไปเปิดม่านหน้าต่าง
ภายในนั้น โจวอวี่ชางที่คอยฟังความเคลื่อนไหวจากข้างนอกอยู่ตลอดกำผงยาพิษไว้แน่น
แสงตะเกียงส่องเข้ามา ทั้งสองสบตากัน
“ท่าน...” หลานเยว่เฉิงกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่จู่ๆ เหล่าทหารลับที่นิ่งเงียบอยู่ก็โวยวายขึ้น
“หยุดนะ”
“เร็วเข้า เขาอยู่ตรงนั้น ข้าเห็นเขาแล้ว มีร่างหนึ่งแวบออกไป”
“เขาไปทางนั้นแล้ว”
หลานเยว่เฉิงหันกลับไปมองพวกทหารลับอย่างไม่พอใจ “เกิดอันใดขึ้น?”
“คุณชายซู เมื่อครู่...มีร่างหนึ่งไปทางนั้นขอรับ” ทหารลับคนหนึ่งตอบ
หลานเยว่เฉิงเหลือบมองโจวอวี่ชางที่อยู่ในรถม้าครู่หนึ่งพลันปล่อยมือจากม่าน
“พวกเ้าตามข้ามา คนอื่นดูรถม้าให้ดี อย่าให้คนในรถหนีไปได้ หากนางขัดขืน ลงมือได้ทันที”
ความหมายคือ ฆ่านางได้เลย
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็แผนล่อเสือออกจากเขา แต่หลานเยว่เฉิงก็สงสัยว่าร่างที่แวบผ่านไปนั้นจะเป็ต้านอวี้เสวียน เขาจึงเลือกที่จะตามไป
“ขอรับ คุณชายซู” ทหารลับหลายคนล้อมรอบรถม้าไว้อีกครั้ง
หลานเยว่เฉิงพาคนตามไป เวินซีที่หลบซ่อนอยู่จึงจุดเครื่องหอมที่อยู่ในมือ
กลิ่นค่อยๆ กระจายไปในอากาศ ทหารลับหลายคนล้มลงกับพื้น ส่วนคนอื่นๆ ที่ตอบสนองได้ทันพลันเอามือปิดจมูกและปาก ถือดาบมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง
โจวอวี่ชางเปิดม่านรถม้า ใช้กริชที่ซ่อนอยู่ในรองเท้าปาดคอทหารลับที่อยู่ใกล้และไม่ทันระวังทั้งสามคน
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้ทหารลับเกาะกันเป็กลุ่ม เมื่อมีคนล้มไปสองคน พวกเขาก็ได้สติพลันหันกลับไปโจมตีโจวอวี่ชางพร้อมกัน
เวินซีถือกริชวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อโอกาสมาถึง แทงทหารลับคนหนึ่งตาย
“ทางนี้ ทางนี้ยังมีอีกคน”
“มีสองคน”
“พวกเขามีกันสองคน”
......
ทหารลับที่มิได้ไหวตัวป้องกันพากันแตกตื่น ครึ่งหนึ่งตายไปเพราะได้รับพิษ ส่วนอีกครึ่งตายเพราะถูกฆ่า
เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น โจวอวี่ชางเห็นเวินซีมีเืเปื้อนเต็มตัวก็หยิบผ้าเช็ดหน้าจะช่วยเช็ดให้
“ข้าเช็ดเองเ้าค่ะ” เวินซีเพียงแค่ยื่นมือออกไปหยิบผ้า “รีบไปเถิดเ้าค่ะ หลานเยว่เฉิงจะกลับมาแล้ว ไม่มีเวลาแล้วเ้าค่ะ”
“ได้ เ้าระวังตัวด้วย”
โจวอวี่ชางขึ้นรถม้าไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล เขาขับรถม้าเองพลันออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเขาหายเข้าไปในป่า เวินซีก็หันตัววิ่งกลับไปทางที่หลานเยว่เฉิงออกไป
แม้ว่าจ้าวต้านจะช่วยหลอกล่อเขาได้สำเร็จ แต่ในร่างกายยังมีพิษหนอนกู่ นางต้องรีบตามไปช่วยเขา