เกม Killing God ณ ที่ราบโยวเฟิง
สถานที่แห่งนี้เป็ที่อยู่อาศัยของพวกมอนสเตอร์อ่อนแอที่มีเลเวลต่ำกว่า 15 พวกมันจะมีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยน นอกจากนั้นที่แห่งนี้ยังเป็พื้นที่เก็บเลเวลของบรรดาผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งออกมาจากเมืองเริ่มต้น แต่เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นปัจจุบันก็มากกว่า 70 แล้ว ดังนั้นที่แห่งนี้จึงแทบไม่มีผู้เล่นเข้ามาเลย
เย่เทียนเซี่ยอยู่ในชุดแปลกตาทอประกายสีขาวเรืองรอง ในมือของเขาถือธนูรูปทรงแปลกที่ส่องแสงสีทองออกมา มีผ้าคลุมสีอ่อนคลุมศีรษะของเขาเอาไว้ทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ ตอนที่เขามาถึงที่นี่คนที่ควรจะมารอเขาก่อนตามที่นัดเอาไว้ก็ดันยังมาไม่ถึงซะนี่
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวินาทีจนกระทั่งเข็มวินาทีชี้เลขศูนย์บอกเวลาสิบโมงตรง สุดท้ายแล้วเย่เทียนเซี่ยก็มองโลกแห่งนี้ ก่อนเขาจะค่อยๆ สลายไปภายในกลุ่มแสงสีขาว
เมื่อออกมาจากแคปซูลเขาก็ใช้มือกดลงบนปุ่มด้านหน้าแคปซูลเบาๆ สักพักก็มีเสียงแตกหักดังขึ้นเสียงดัง ตามมาด้วยส่วนใจกลางของแคปซูลที่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์ เย่เทียนเซี่ยตัดสินใจว่าจะไม่เข้าไปใน Killing God อีกแล้ว เพราะเขาคิดว่าไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องเข้าไปในนั้นอีก และการพบกันครั้งสุดท้ายของเขากับใครอีกคนก็จบสิ้นลงเช่นเดียวกัน ไม่ว่าใครก็ตามหากต้องรอเขาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนก็สมควรรอ แต่เขาจะไม่มีวันรอใครแม้แต่วินาทีเดียว ถ้าถึงเวลานัดแล้วยังไม่โผล่หัวมา เขาก็จะหันหลังจากไปอย่างไม่ลังเลไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็ใครก็ตาม นี่คือความหยิ่งทระนงของเขา
“ปีศาจจันทร์สีเื เจอกันใน Fate ก็แล้วกันนะ จริงๆ แล้วเธอน่าจะเป็คนแรกที่รู้ชื่อใหม่ของฉัน แต่น่าเสียดายที่เธอพลาดโอกาสนั้นไปแล้ว”
ณ Killing God หลังจากที่เย่เทียนเซี่ยจากไปได้สามวินาที เงาสีดำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากที่ห่างไกลราวกับสายฟ้าฟาด ร่างนั้นค่อยๆ ร่อนลงต่ำ แม้รอบกายของผู้มาใหม่จะแผ่ไอเย็นะเืออกมาแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอก็คือหญิงสาวคนหนึ่ง เธออยู่ในชุดสีดำเรียบง่ายพอดีตัว ใบหน้าถูกคลุมไว้ด้วยผ้าคลุมสีดำเผยให้เห็นแค่ใบหน้าส่วนบนั้แ่จมูกขึ้นไป แต่ถึงกระนั้นผิวขาวราวหิมะที่น่าหลงใหลของเธอก็ทำให้ผู้คนไร้ข้อกังขากับความงามที่เธอมี
เธอหยุดยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่เย่เทียนเซี่ยเคยยืนอยู่ สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างสับสนจนในที่สุดเธอก็ถอนหายใจออกมา เธอรู้แล้วว่าเธอมาสาย มาสายไปเพียงแค่ไม่กี่วินาทีแต่ผู้ชายจอมหยิ่งคนนั้นคงไม่มีทางรอใครสักวินาทีแน่ๆ ท่ามกลางสายลมแ่เบา ความงามอันเย้ายวนของเธอก็ถูกเปิดเผยออกมา ชุดรัดรูปสีดำของเธอเผยให้เห็นสะโพกสวย อีกทั้งยังขับให้หน้าอกและเอวของเธอเด่นชัด ภายใต้ชุดรัดรูปสีดำนี้เป็เรือนร่างที่งดงามั้แ่หัวจรดเท้า ซึ่งปรากฏออกมาเป็หุ่นรูปตัว S ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องเหลียวหลังมองและคิดว่ามันช่างสุดยอด!
ดวงตาเย็นเยียบภายใต้ผ้าสีดำบางเบาหม่นแสงลง มือสวยราวกับหยกยกดาบสั้นโปร่งใสขึ้นมา ใบดาบราวกับน้ำแข็งบริสุทธิ์ปราศจากคราบเืหรือร่องรอยใดๆ
ขณะนั้นเองก็ปรากฏร่างของคนสองคนกำลังเดินเข้ามาจากที่ไกลๆ เมื่อพวกเขาทั้งสองคนมองเห็นเธอก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาเร็วยิ่งขึ้น มือขวาของเธอยกดาบสั้นโปรงใสนั้นขึ้นมา หลับตาลงแล้วโยนดาบสั้นที่ทำให้ผู้เล่นใน Killing God แทบเป็บ้าออกไปไกลก่อนที่ตัวของเธอจะหายไปในกลุ่มแสงสีขาว
บนหัวของคนสองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาปรากฏชื่อสองชื่อที่คล้ายกัน “โดเรม่อน A, โดเรม่อน B”
ผู้เล่นที่มีชื่อบนหัวว่าโดเรม่อน A วิ่งเข้ามาไม่กี่ก้าวก็คว้าดาบที่ถูกทิ้งนั่นไว้ได้ ในตอนแรกนั้นเขาใจนแทบบ้าเมื่อมองเห็นคุณสมบัติของมัน ดวงตาของเขาสั่นไหวแล้วะโออกมาด้วยเสียงดัง “ผะ...ผนึกเขี้ยวน้ำแข็งโลหิต! นะ...นี่มันอาวุธของปีศาจจันทร์สีเืนี่! นี่ฉันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย...”
คนที่อยู่ในชุดดำเมื่อครู่นี้เป็ผู้หญิงแน่ๆ หรือว่าจริงๆ แล้วเธอคือปีศาจจันทร์สีเื!?
เมื่อนายโดเรม่อน B เดินมาถึงก็มองดาบสั้นเล่มนั้นด้วยความสงสัย ก่อนเอ่ยปากถาม “ปีศาจจันทร์สีเื? ใช่ผู้เล่นที่สุดยอดคนนั้นหรือเปล่า?”
นายโดเรม่อน A มองเพื่อนตัวเองด้วยความเหยียดหยามก่อนจะส่ายหัว “แกนี่มันเป็ไอ้เนิร์ดจริงๆ คนที่ไม่รู้จักปีศาจจันทร์สีเืก็น่าจะมีแต่คนอย่างแกนี่แหละ”
“แหะๆ” โดเรม่อน B ได้แต่ยิ้มเจื่อน รอคอยคำตอบต่อไป
โดเรม่อน A เงยหน้าขึ้น มือที่ถือผนึกเขี้ยวน้ำแข็งโลหิตอยู่ยังคงสั่นน้อยๆ “ในโลกเกมเสมือนจริงของประเทศหัวเซี่ยเราเนี่ย มีการจัดอันดับผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ตลอดเวลา สิบคนที่แข็งแกร่งที่สุดจะถูกเรียกว่ายอดฝีมือแห่งหัวเซี่ย รายชื่อในรายการจะถูกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ว่า...มีแค่สามชื่อเท่านั้นที่ไม่เคยเปลี่ยน! สามคนนั้นถูกเรียกว่าสามตำนานแห่งหัวเซี่ย และ ‘อาชูร่าเ้าเสน่ห์’ ปีศาจจันทร์สีเืน่ะ ก็คือหนึ่งในสามนั่นไงล่ะ ชื่อของเธอยังอยู่ในเกม Atlas เมื่อสองปีก่อนด้วยนะ แล้วนับแต่นั้นมาก็จะมีชื่อของเธออยู่ในเกมตลอด!”
“อาชูร่าเ้าเสน่ห์? นั่นชื่อเธอเหรอ?”
“ใช่แล้วละ เธอเป็ผู้เล่นโซโล่ที่ค่อนข้างหยิ่งเลยละ เธอไม่เคยเดินทางร่วมกับใครและจำนวนคนที่เธอฆ่าก็มากกว่าที่แกจินตนาการไว้เยอะเลย เธอฆ่าไปเยอะมากจนได้รับฉายาว่า อาชูร่า แล้วเธอก็ไม่ได้แค่หยิ่งนะ แต่เธอยังลึกลับมากๆ ด้วย นอกจากจะรู้ว่าเธอคือปีศาจจันทร์สีเืแล้วก็ไม่มีใครรู้เลยว่าจริงๆ แล้วเธอหน้าตาเป็ยังไง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าในโลกความจริงเธอเป็ใคร แต่ว่ากันว่าเธอจะต้องเป็ผู้หญิงที่สวยมากแน่ๆ เพราะอย่างนั้นถึงเป็ที่มาของคำว่า ‘เ้าเสน่ห์’ ไงล่ะ” นายโดเรม่อน A อธิบายอย่างช้าๆ
“เอ่อ...เดี๋ยวนะ แกบอกว่าไม่เคยมีใครเห็นปีศาจจันทร์สีเืว่ามีหน้าตาเป็ยังไงไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมถึงบอกได้ว่าเธอสวยล่ะ?” นายโดเรม่อน B ถามไม่หยุด
“ก็ในเกม Atlas เมื่อสองปีก่อนมีชื่อเธอโผล่มาในทำเนียบสาวงามน่ะสิ ทำเนียบนี้ระบบจะรวบรวมเสน่ห์ของผู้เล่นหญิงในเกมแล้วจัดทำเป็ตัวเลขออกมาไงล่ะ แล้วมันก็มีความยุติธรรมมากเลย ตอนนั้นน่ะปีศาจจันทร์สีเืได้ที่หนึ่งด้วย! เพราะฉะนั้นก็พูดได้ว่าตอนนั้นเธอขึ้นชื่อเื่ความงาม ต่อมาก็ขึ้นชื่อเื่ความโเี้ ดังนั้นถ้ามีคนคิดจะทำมิดีมิร้ายเธอละก็ มันผู้นั้นจะต้องถูกเธอฆ่าอย่างเืเย็นแน่นอน” นายโดเรม่อน A อธิบายต่อ
เมื่อคิดไปถึงร่างเ็าที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้น ใบหน้าของโดเรม่อน A ก็แสดงให้เห็นถึงความหวังอยู่ลึกๆ แต่น่าเสียดาย คนระดับเขาคงทำได้แค่เงยหน้าขึ้นมองชื่นชมและเพ้อฝันไปตลอดชาติ
“ทั้งหมด? งั้นเธอก็คือสามตำนานยิ่งใหญ่สินะ ใครก็ไม่สามารถโค่นเธอลงได้อย่างนั้นสิ?” โดเรม่อน B พูดออกไปด้วยความสงสัย อันดับหนึ่งของโลกแห่งเกมกลับเป็ผู้หญิง นี่เป็ความจริงที่ทำให้ตื่นเต้นและแปลกใจในเวลาเดียวกัน
“ไม่! ไม่ใช่!” โดเรม่อน A ส่ายหน้าไปมาอย่างแรง สายตาค่อยๆ ท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่โดเรม่อน B ก็ไม่สามารถอธิบายได้ เขาเองก็ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของทำเนียบวีรบุรุษซะด้วยสิ ความรู้สึกเลื่อมใส สั่นสะท้าน และหวาดกลัว และยังมีความศรัทธาที่แฝงอยู่ในนั้น มันเหมือนกับท่าทางที่กำลังชื่นชมพระเ้าอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“คนคนนั้นมีชื่อเรียกว่าเทียนโม่เซี่ย เป็สุดยอดตำนานที่ไม่มีใครในหัวเซี่ยจะโค่นล้มลงได้ ได้รับฉายาว่า าาปีศาจไร้พ่าย!”
“าาปีศาจไร้พ่าย... เทียนโม่เซี่ย” โดเรม่อน B ทวนซ้ำชื่อนี้อยู่หลายครั้ง ในขณะที่พยายามจะจินตนาการถึงภาพลักษณ์ของวีรบุรุษที่เปรียบเสมือนพระเ้าคนนี้ออกมา หากเรียกว่า “ไร้พ่าย” ก็คือได้รับการยอมรับว่าไม่เคยพ่ายแพ้ คำง่ายๆ สั้นๆ สองคำนี้จะมีคนทำได้จริงๆ น่ะเหรอ ทั้งโลกนี้มันจะมีสักกี่คนกัน?
าาปีศาจไร้พ่าย เทียนโม่เซี่ย ในโลกแห่งเกมซึ่งกลายเป็โลกที่สองของมนุษย์ไปแล้วนั้น คนที่ใช้ชื่อนี้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย
“เทียนโม่เซี่ย แม้ว่าชื่อของเขาจะหมายถึงไร้ความชั่ว แต่เขากลับเป็คนที่เต็มไปด้วยการกระทำที่ชั่วร้ายจริงๆ ได้ยินมาว่าเขาก็เป็ผู้เล่นโซโล่เหมือนกับปีศาจจันทร์สีเื นั่นหมายความว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งมาก ก่อนหน้านี้ถึงจะมีกองกำลังและพันธมิตรที่มีผู้เล่นเป็แสนเป็ล้านคนเคยพยายามจะชวนเขาเข้าร่วมด้วยแต่ก็โดนเขาปฏิเสธไปจนหมดและไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่ไปตามตอแยเขาก็จะได้รับการตอบโต้ที่น่ากลัวจากเขาทั้งหมด แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยกลัวกองกำลังไหนเลย แล้วก็ไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใครด้วย ในโลกแห่งเกมนี้น่ะไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำหรอก แล้วต่อมาก็ไม่มีกองกำลังไหนกล้าไปตีสนิทหรือเชิญเขาเข้ากองกำลังอีกเลย” โดเรม่อน A พูดถึงสุดยอดตำนานที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกแห่งเกมพลางถอนหายใจ คำว่า “ตำนาน” ไม่ได้เป็แค่คำเรียก เขาทำให้เกิดความรู้สึกหวาดผวาและสั่นะเืไปทั่ว ทำให้เขาสามารถเติมเต็มคำสองคำที่เรียกว่า “ตำนาน” ได้อย่างสมบูรณ์