“เสี่ยวมี่เฟิง ไหนบอกไม่ได้มีอะไรกันไง!” เมื่อโอวบีเห็นซูเมิ่งหานเดินมาคุยกับเย่เฟิงก็ใจนยืนขึ้นทันที
เย่เฟิงกดตัวเธอนั่งลง จากนั้นยืนขึ้นพูดว่า “มีเื่อะไรก็พูดตรงนี้”
“นายไม่กล้าออกไปกับฉันหรือไง?” ซูเมิ่งหานโมโหและยื่นมือสวยดั่งหยกคว้าข้อมือของอีกฝ่าย เธอพยายามลากเขาออกจากห้องเรียนด้วยเเรงทั้งหมดที่มี
ตอนนี้เย่เฟิงมีวรยุทธ์ระดับ 5 เดือน ซูเมิ่งหานดึงเขาได้ก็เเปลก แต่เมื่อเห็นท่าทางเธอเหมือนเกิดเื่อะไรจริงๆ เย่เฟิงก็ยอมตามออกไป
ดูสิว่าเธออยากบอกอะไร ทันทีที่ทั้งสองคนออกไป เสียงจอแจในห้องเรียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมดาวโรงเรียนถึงเข้าหาเย่เฟิงก่อน ทั้งยังจูงมือเขาวิ่งออกไปอีก พวกเขาจะคุยอะไรกันนะ
วันนี้โรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยนมีเื่น่าใเกิดขึ้นมากมาย เื่แรกคือเย่เฟิงถูกจับเพราะค้าประเวณี ซึ่งน่าใมากพอแล้ว ยังตามมาด้วยเถียนโหย่วเลี่ยงมีหางงอกจากก้น เื่สุดท้ายซูเมิ่งหานดาวโรงเรียนที่ไม่ค่อยยุ่งกับผู้ชาย เป็ฝ่ายเข้าหาเย่เฟิงและลากเขาออกไปนอกห้อง
เสียงนินทาดังขึ้นทั่วโรงเรียน คนบางกลุ่มพยายามแอบฟังว่าทำไมซูเมิ่งหานถึง้าคุยกับเย่เฟิง แต่ก็ล้มเหลวเมื่อทั้งคู่เดินไปทางสนามกีฬา ทำให้คนเ่าั้ผิดหวัง พวกเขาแอบฟังอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ เพราะยังจำเหตุการณ์เมื่อวานตอนเช้าที่เย่เฟิงซัดอันธพาลสองคนกระเด็นได้ดี พวกเขาไม่อยากเจอเื่แบบนี้กับตัวเองแน่
ซูเมิ่งหานลากเย่เฟิงออกจากห้องเรียน ในที่สุดก็เดินมาถึงสนามกีฬา ดวงอาทิตย์ส่องแสงใน่บ่าย ในสนามกีฬาไม่มีใครอยู่เหมาะสำหรับการคุยกันที่สุด
“เอาล่ะ มีเื่อะไรจะพูดกับฉันงั้นหรือ?” เย่เฟิงถามขณะเดินตาม
“ฉัน…” ซูเมิ่งหานมองคนตรงหน้า ชายคนนี้อาศัยอยู่บ้านข้างๆ แต่เธอไม่คุ้นเคยกับเขานัก นี่เป็ครั้งแรกที่เธอสังเกตว่าเขาหน้าตาไม่เลว
เด็กสาวส่ายหัวไล่ความคิดเ่าั้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเื่แบบนี้ เธอลังเลเล็กน้อยแล้วหันหน้าไปด้านข้างเพื่อเลี่ยงการสบตากับเย่เฟิงโดยตรงแล้วพูดว่า “ไปทำธุระกับฉันหน่อย แล้วฉันจะให้โอกาสนายได้จีบฉัน พ่อฉันจะไม่คัดค้านเื่ของเราอีก นายจะว่าไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฟิงก็หัวเราะทันที เขามองใบหน้าเรียวของดาวโรงเรียน เลยไปถึงเรือนร่างที่บริสุทธิ์และน่าดึงดูดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าเธอพูดแบบนี้กับเด็กหนุ่มคนอื่นในโรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยน คนพวกนั้นคงดีใจจนเก็บไม่อยู่ และไม่ว่าจะมีธุระมากขนาดไหนก็คงรีบตอบรับข้อเสนอนี้แบบไม่ลังเล น่าเสียดายที่เธอไม่ได้พูดกับผู้ชายพวกนั้นแต่เป็เย่เฟิง
“โทษทีนะ แต่ฉันไม่ได้สนใจเธอ” เย่เฟิงหัวเราะร่วนพลางส่ายหัวเล็กน้อยก่อนหันหลังเดินจากไป
เมื่อซูเมิ่งหานได้ยินคำตอบก็ถึงกับพูดไม่ออก เธออดตกตะลึงไม่ได้ กระทั่งเย่เฟิงกำลังหันหลังเดินไปจึงได้สติและรีบรั้งเขา
“นี่!” หญิงสาวคว้าแขนอีกฝ่าย นี่มันเื่ตลกอะไรกันเนี่ย ในเมื่อเธอเจรจากับพ่อสำเร็จแล้วแท้ๆ จะยอมพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร ซูเมิ่งหานคิดในใจ หรือเย่เฟิง้าฉวยโอกาสกับเธอ อย่างนั้นเขาก็น่ารังเกียจมาก!
“แค่ไป ‘เมืองหลางฝาง’ กับฉันก็ไม่ได้เหรอ?” เธอบอกจุดประสงค์ของตัวเอง
หลางฝางเป็เมืองที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ไม่ห่างจากเมืองเยี่ยนจิงมากนัก แค่ไปด้วยกันกับเธอไม่น่าจะเป็เื่ใหญ่ ผู้ชายคนอื่นคงรีบตอบตกลงแบบไม่ลังเลสินะ น่าเสียดายที่เย่เฟิงไม่มีเวลาเล่นกับเธอมากขนาดนั้น ตลกชะมัด เขาไม่สนใจเธอเลยสักนิด ทำไมถึงต้องไปกับเธอด้วยล่ะ
“เธอชวนคนอื่นเถอะ” เย่เฟิงส่ายหัวพร้อมดึงมือของเธอออก แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เขาต้องรีบกลับไปปรึกษาโอวบีเื่ไปหาวัตถุโบราณที่บ้านของอีกฝ่าย หญิงสาวกระทืบพื้นด้วยความโมโหเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเดินจากไปไกลเเล้ว
ไอ้บ้าเย่เฟิง ไม่รู้จริงๆ ว่านายคิดอะไรอยู่!
สิ่งเดียวที่ซูเมิ่งหานยังประทับใจเย่เฟิงคือการที่เขาช่วยเธอหนีจากพวกแก๊งอสรพิษ์ที่ย่านบาร์ นอกนั้นก็ดูน่ารำคาญไปหมด หากไม่จำเป็ เธอไม่มีวันเข้าใกล้เย่เฟิงแม้สักก้าว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าหาเขาก่อนเลย เพียงแต่เมื่อคืน เธอตกลงกับพ่อแล้วว่าตราบที่เธอกับเย่เฟิงเป็เเฟนกัน เธอจะได้รับอนุญาตให้กลับไปเมืองหลางฝางเพื่อเยี่ยมคุณยาย
ภรรยาคนใหม่จากตระกูลเซี่ยที่ซูซิ่นชางแต่งงานด้วยมีนิสัยดุร้ายและใจแคบ อีกทั้งไม่ชอบซูเมิ่งหาน ตอนที่แต่งงานกับซูซิ่นชาง เธอตั้งเงื่อนไขว่าถ้าเขาอยากให้ลูกสาวอยู่กับเขา ซูเมิ่งหานต้องไม่กลับไปพบครอบครัวฝั่งมารดาอีก
ซูซิ่นชางมีลูกสาวคนเดียว เขารู้ว่าหากลูกของตนไปอยู่กับครอบครัวฝั่งมารดา ชีวิตของเธอจะแย่กว่านี้ จึงตกลงกับภรรยาใหม่ของตัวเองว่าจะไม่อนุญาตให้ลูกสาวกลับไปเมืองหลางฝาง รวมทั้งแยกเธอออกมาและตัดขาดจากครอบครัวฝั่งนั้นด้วย นี่จึงเป็สาเหตุหลักของความขัดแย้งระหว่างซูเมิ่งหานกับพ่อของเธอนั่นเอง
ครั้งนี้ซูซิ่นชางยอมให้เธอพบคุณยาย แต่มีเงื่อนไขว่าเย่เฟิงต้องไปด้วย ในเมื่อเป็แบบนี้เธอจะยอมทิ้งโอกาสได้อย่างไร?
หญิงสาวเดินกลับห้องเรียนอย่างโมโห เธอจ้องเย่เฟิงที่นั่งตรงโต๊ะของเขาเองโดยไม่สนใจสายตาและเสียงกระซิบจากเพื่อนร่วมชั้น เธอกำลังคิดหาวิธีพาเย่เฟิงไปเยี่ยมคุณยายกับตนให้ได้
“เสี่ยวมี่เฟิง เมื่อกี้นายคุยอะไรกับเธอเหรอ ท่าทางเหมือนจะหักคอนายอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าเธอหึงที่นายซื้อผูหญิงขายบริการ” โอวบีนั่งข้างเย่เฟิงและถามเขาไม่หยุด
“อย่าพูดเพ้อเจ้อ เธอแค่อยากให้ฉันไปเมืองหลางฝางด้วยกันเท่านั้น แต่ฉันไม่ว่างพอจะทำแบบนั้นหรอก” เย่เฟิงส่ายหัว เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“ไปหลางฝางกับเธอเนี่ยนะ?” โอวบีแปลกใจเมื่อได้ยิน เขาเป็คนนอกจึงไม่รู้เกี่ยวกับครอบครัวของเธอ ทำได้เพียงส่ายหัวและไม่พูดอะไร เด็กหนุ่มเชื่อว่าเย่เฟิงเป็เพื่อนสนิทของตนมาั้แ่เด็ก ไม่มีทางโกหกเขาหรอก
ตกเย็น คาบเรียนสุดท้ายจบลงในที่สุด เย่เฟิงตัดสินใจไปบ้านของโอวบีเพื่อหาวัตถุโบราณที่มีพลังฟ้าดินมาใช้เพิ่มระดับวรยุทธ์ให้เร็วที่สุด
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายุ่งยาก หลังเลิกเรียนทั้งสองคนรีบวิ่งออกจากห้องเรียนทันที ซูเมิ่งหานแอบวิ่งตามพวกเขาแต่ก็ตามไม่ทัน ทำได้เพียงกระทืบเท้าด้วยความโมโหขณะมองพวกเขาวิ่งออกจากโรงเรียน
จากนั้นโรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยนก็เริ่มมีข่าวซุบซิบกระจายไปทั่ว ดาวโรงเรียนซูเมิ่งหานตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อเย่เฟิงจริงๆ!
ซูเมิ่งหานไม่รังเกียจข่าวลือนี้นัก พ่อของเธออาจจะดีใจ ถ้าเป็อย่างนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจอนุญาตให้เธอไปเยี่ยมคุณยายที่เมืองหลางฝางโดยไม่ต้องให้เย่เฟิงไปด้วย ยังไงข่าวลือพวกนี้ก็ไม่เป็ความจริง เธอจะสนใจทำไม
เย่เฟิงและโอวบีวิ่งออกจากโรงเรียน พวกเขาหยุดทันทีเมื่อเจออันธพาลสามคนที่คุ้นเคย
“ครั้งที่แล้วยังเจ็บไม่จำอีกหรือไง?” เย่เฟิงมองฝ่ายตรงข้ามและพูดเสียงต่ำ
เเก๊งอสรพิษ์กัดไม่ปล่อยจริงๆ เขาหยิบขวดใส่ยาพิษที่ทำจากหญ้าจินเย่จากกระเป๋ากางเกง รอเขาออกจากบ้านของโอวบีก่อน มันจะเป็เวลากวาดล้างเเก๊งอสรพิษ์
เย่เฟิงและอันธพาลทั้งสามเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ดึงดูดความสนใจคนจำนวนมาก ต่างก็คาดเดาว่าครั้งนี้เย่เฟิงต้องโชคร้ายมากแน่ แต่เหตุการณ์ถัดไปกลับทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง อันธพาลสามคนเดินไปหยุดตรงหน้าเย่เฟิง จากนั้นะโอย่างพร้อมเพรียง “พี่เย่!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้