“เ้าหนุ่ม ดูจากท่าทางของเ้าแล้ว เ้าน่าจะสงสัยว่าทำไมตัวเ้าเองจึงปฏิเสธการมอบอาชีพทั้งเจ็ดนั่นใช่หรือไม่? เ้าสามารถพิชิตเหรียญผู้กล้ามาได้ ดังนั้นการเกิดเื่แบบนี้จึงไม่ใช่เื่แปลก เพราะหากผู้กล้าที่แท้จริงต้องรองรับอาชีพธรรมดาก็คงจะเป็การทำลายพร์และพลังของเขาเสียเปล่าๆ ดังนั้นจึงเกิดการปฏิเสธโดยสัญชาติญาณ เช่นเดียวกับอู๋ิในตอนนั้น เขาก็ปฏิเสธการมอบอาชีพพื้นฐานทั้งเจ็ดเช่นเดียวกัน” ข่งซิวมองไปยังหยกแปดเหลี่ยมที่ส่องแสงสีขาวตรงหน้าพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ถ้าเขาไม่ได้เพิ่งะโออกไปเมื่อกี้นี้ล่ะก็ ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของเย่เทียนเซี่ยก็คงจะเป็ชายชราที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนเหมือนเซียนเต๋าคนหนึ่ง
“แล้ว..... สุดท้ายแล้วอาชีพของอู๋ิคืออะไรเหรอครับ?” เย่เทียนเซี่ยถาม คำว่า “อาชีพลับ” แวบเข้ามาในใจของเขาทันที อาชีพลับ.....เป็อาชีพพิเศษที่เหนือกว่าอาชีพพื้นฐานทั้งเจ็ด สำหรับผู้เล่นแล้วอาชีพพวกนี้ถูกเรียกว่า “อาชีพลับ” อาชีพลับนั้นไม่ได้แข็งแกร่งกว่าอาชีพพื้นฐานเสมอไป แต่พวกมันล้วนมีความพิเศษในตัวมันเอง ในขณะเดียวกันอาชีพลับก็จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และจะมีจำนวนน้อยมากๆ ในเกม Atlas กับ Killing God ก็มีอาชีพลับเช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าเกมเสมือนจริงเกมไหนๆผู้ที่มีอาชีพลับก็มักจะมีไม่เกิน 10 คน และในจำนวนตัวเลขเ่าั้ก็ดันไม่มีเขาซะด้วยสิ จะพูดอีกอย่างก็คือเย่เทียนเซี่ยไม่เคยเปลี่ยนเป็อาชีพลับมาก่อนเลย เพราะแค่เล่นอาชีพธรรมดาตามปกติเขาก็สุดยอดจนไม่มีใครเทียบได้แล้ว
“หมาป่าเดียวดาย!” คำถามของเย่เทียนเซี่ยทำให้ข่งซิวหวนนึกถึงร่องรอยความทรงจำครั้งอดีตที่ยากจะลืมเลือน
“หมาป่าเดียวดาย?” ชื่อของอาชีพนั้นทำให้เย่เทียนเซี่ยถึงกับขมวดคิ้ว ชื่อแบบนี้เหมือนชื่อของมอนสเตอร์มากกว่า จะเป็อาชีพไปได้ยังไง
“แปลกมากใช่หรือไม่?” ข่งซิวหัวเราะออกมาพร้อมสีหน้ามีความสุขแล้วพูดต่อไป “หมาป่าเดียวดาย...... นั่นคืออาชีพของเขา และยังเป็อาชีพของเขาเพียงคนเดียวด้วย เพราะอาชีพแบบนี้กำเนิดมาจากพลังที่อยู่ในกายของเขา ชื่อของอาชีพก็คือนามิญญาของตัวเขาเอง และพลังของเขาก็ถูกดึงออกมาภายใต้ความช่วยเหลือของข้า พูดอีกอย่างก็คืออู๋ิผู้ซึ่งไม่มีใครกล้าต่อกรด้วยนั้นถือกำเนิดขึ้นมาในทวีปที่สาบสูญแห่งนี้ได้ก็เพราะข้านั่นเอง”
ประโยคแรกๆที่ข่งซิวพูดขึ้นมานั้นดูเหมือนจะจริงจัง แต่ประโยคหลังๆนี่เขาแทบจะเก็บซ่อนสีหน้าภาคภูมิใจจนตัวลอยเอาไว้ไม่มิด เย่เทียนเซี่ยจึงลอบลดคะแนนความประทับใจที่มีต่อชายชราคนนี้ลงไปอีกห้าคะแนน
ปรมาจารย์เวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุด เซียนเต๋าผู้สูงส่ง.......... เซียนเต๋ากับผีน่ะสิ!
แม้ในใจของเย่เทียนเซี่ยจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็ยังคงแสดงออกแต่สิ่งที่ควรแสดงเท่านั้น เย่เทียนเซี่ยปรับสีหน้า เขาใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและคาดหวังมองไปยังข่งซิว ท่าทางของเย่เทียนเซี่ยในตอนนี้ทำให้ข่งซิวพอใจอย่างยิ่ง ใบหน้าของเขาแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่ทวีความอ่อนโยนมากขึ้น “เ้าหนุ่ม เ้าสามารถพิชิตเหรียญผู้กล้ามาได้ด้วยคุณสมบัติและระดับเท่านี้ ทั้งยังมีพลังปฏิเสธการมอบอาชีพพื้นฐานทั้งเจ็ดอีก พูดให้ชัดเจนก็คือเ้าจะต้องมีพลังอันยิ่งใหญ่แฝงอยู่ภายในเหมือนดังเช่นอู๋ิในตอนนั้นเป็แน่ เพียงแค่ตัวเ้าเองยังไม่อาจค้นพบขุมพลังนั้นได้เท่านั้นเอง เ้าหนุ่ม ข้าพูดถูกหรือไม่?”
เย่เทียนเซี่ยพยักหน้า พลังอันแข็งแกร่ง....... หรือว่าจะเป็สิ่งที่ติดตัวเขามาั้แ่เกิด พลังอันแปลกประหลาดกว่าคนธรรมดาทั่วไปส่งผลมายังตัวเขาเองในโลกนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ? หรือมันจะเป็เพราะสาเหตุอื่นกัน?
“ฮ่าๆ ไม่เป็ไร จริงๆแล้วข้ารอคอยผู้กล้าอย่างเ้ามาโดยตลอด เพราะผู้กล้าที่สามารถพิชิตเหรียญแห่งผู้กล้าได้เท่านั้นจึงจะเป็ผู้กล้าที่แท้จริง และการปฏิเสธการมอบอาชีพพื้นฐานก็ยิ่งหมายถึงสุดยอดผู้กล้าท่ามกลางบรรดาผู้กล้าทั้งหมด ดังนั้นเมื่อข้าได้เห็นเ้าในวันนี้ความรู้สึกของข้าจึงยากที่จะควบคุมได้....... นั่นเพราะบางทีอาจจะมีคนเช่นอู๋ิอีกคนถือกำเนิดขึ้นมาเร็วๆนี้ก็เป็ได้!”
“..........” เย่เทียนเซี่ย
“หยกก้อนนี้มีนามว่า ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ สามารถพูดได้ว่ามันเป็ก้อนหยกที่ล้ำค่าที่สุดและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในทวีปที่สาบสูญ ทั่วทั้งทวีปที่สาบสูญแห่งนี้มีเพียงก้อนเดียวเท่านั้น มันเป็สิ่งที่เทพธิดาซีเหยาซึ่งเป็เทพสูงสุดของทวีปที่สาบสูญมอบให้เมืองเทียนเฉินของเราไว้เมื่อนานมาแล้ว ท่านเ้าเมืองผู้ทรงเกียรติจึงได้นำมันมามอบให้ข้า เพื่อให้ข้าใช้มันชี้แนะผู้กล้าที่แท้จริง ที่อู๋ิกลายเป็อู๋ิในทุกวันนี้ได้ก็ด้วยความช่วยเหลือของมันนี่ล่ะ”
ข่งซิวพาเย่เทียนเซี่ยเดินมาถึงด้านหน้าของก้อนหยกประหลาด เขาเดินไปด้วยพร้อมกับพยายามอธิบายเื่ต่างๆให้เย่เทียนเซี่ยฟังอย่างช้าๆ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ความรู้สึกที่อบอุ่นมากขึ้นเรื่อยๆก็พุ่งเข้ามา เมื่อระยะห่างเหลือเพียงน้อยนิดภายใต้แสงสีขาวสว่างไสวทำให้สามารถมองเห็นก้อนหยกขนาดมหึมาที่ถูกเรียกว่า ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ ได้อย่างชัดเจน แท้จริงแล้วหยกก้อนนี้มีลักษณะโปร่งใส ส่วนแสงที่ส่องประกายออกมาเป็สีขาวนั้นก็ล้นทะลักออกมาจาก้าของวัตถุโปรงใสชิ้นนี้อย่างประหลาด
“ความศักดิ์สิทธิ์ของ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’คือ.......เพียงเชื่อมต่อพลังของตัวเองเข้ากับมัน มันก็จะสามารถแสดงความแข็งแกร่งของพลังที่คนๆนั้นมีออกมาได้อย่างแม่นยำ และยังรวมไปถึงศักยภาพทั้งหมดที่แฝงอยู่ในพลังนั้นด้วย ขณะเดียวกันเมื่อเพิ่มการชี้นำจากพลังเวทย์ของข้าเข้าไปอีกก็จะสามารถปลุกศักยภาพของพลังที่อยู่ในตัวของคนๆนั้นขึ้นมาได้ ตอนนั้นอู๋ิก็ถูกปลุกพลังขึ้นมาด้วยวิธีการเช่นนี้ล่ะ ั้แ่พลังของเขาถูกปลุกขึ้นมาจนกระทั่งมันผสมผสานและกลายเป็พลังของเขา ทั้งหมดใช้เวลาแค่ไม่ถึงสามปี เขาช่างเป็คนที่มีพร์จริงๆ”
ภายในระยะเวลาสั้นๆเย่เทียนเซี่ยได้ยินชื่อของ “อู๋ิ” จากปากของข่งซิวครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งเมื่อพูดถึงชื่อนี้ใบหน้าของชายชราก็อดไม่ได้ที่จะแสดงถึงการยกย่องและชื่นชมออกมาอย่างชัดเจน และอีกอย่างที่ชัดเจนมากก็คือความภาคภูมิใจ...... เห็นได้ชัดว่าทุกครั้งที่เขาพูดถึงชื่ออู๋ินั้นไม่ได้เป็การยกย่องยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปที่สาบสูญ แต่เป็การพูดถึงความสุดยอดของตัวเองที่สามารถปลุกพลังของอู๋ิขึ้นมาได้
“ท่านจะบอกว่า......” เย่เทียนเซี่ยอ้าปากถาม
“ถูกต้อง! เ้ามีพลังที่แข็งแกร่งบางอย่างแฝงอยู่ในร่างแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ให้ข้าดูศักยภาพที่แฝงอยู่ในพลังของเ้าหน่อยเถอะว่ามันจะเป็พลังที่แข็งแกร่งขนาดไหน ...... และจะใกล้เคียงกับอู๋ิในตอนนั้นหรือไม่!” ข่งซิวพยักหน้าแล้วพูดขึ้น เย่เทียนเซี่ยเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อของ “อู๋ิ” ออกมาจากปากของชายชราอีกครั้ง
ไปเปลี่ยนชื่อเป็อู๋ิเลยไหมล่ะ!
“ต้องทำยังไงบ้างเหรอครับ?”
“มาเถอะ วางมือของเ้าลงบน ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ แล้วหลับตาลง ขจัดความฟุ้งซ่าน สงบนิ่งห้ามเคลื่อนไหว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว” ข่งซิวยืนอยู่ด้านข้างของเย่เทียนเซี่ยแล้วพูดกับเขา
เย่เทียนเซี่ยพยักหน้า เดินเข้าไปอีกสองสามก้าวแล้วยื่นมือออกไป เขาวางมือลงบนหยกก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นเขาก็ััได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่พุ่งวาบมาจากฝ่ามือ แต่ก็ไม่มีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้น เย่เทียนเซี่ยยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น หายใจเข้าออกเบาๆสองครั้งหัวใจที่เคยเต้นถี่รัวของเขาก็สงบนิ่งลง
“เหตุผลที่ ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ มีแปดด้านเพราะมันถูกสร้างขึ้นจากแร่พลังที่ต่างกันแปดก้อน เมื่อเชื่อมต่อกับพลังของคนๆหนึ่ง ความแข็งแกร่งของพลังที่แตกต่างก็จะทำให้หินแร่แห่งพลังทั้งแปดก้อนมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ต่างกับไป สำหรับคนธรรมดาแล้วพลังของพวกเขาไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อหินแร่แห่งพลัง แต่ยอดฝีมือคนหนึ่งสามารถทำให้หินแร่แห่งพลังชั้นต่ำสุดสว่างไสวขึ้นมาได้ และยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือ......เช่นข้า สามารถทำให้หินแร่แห่งพลังสว่างไสวขึ้นมาได้ถึงสองก้อน แล้วเ้ารู้หรือไม่ตอนนั้นพลังของอู๋ิทั้งหมดทำให้หินแร่แห่งพลังมีปฏิกิริยาตอบสนองทั้งหมดกี่ก้อน?”
“..........” เย่เทียนเซี่ย
เย่เทียนเซี่ยยังคงหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น รักษาท่าทางสงบเยือกเย็น รู้สึกถึงพลังของตัวเองที่ไหลผ่านฝ่ามือและแทรกซึมเข้าสู่ก้อนหยกตรงหน้าอย่างช้าๆ