"ถ้างั้นผมเองก็จะดูแลทุกคนตราบจนลมหายใจสุดท้ายเช่นกัน ดีไหมเอ่ย" รอยยิ้มหวานที่สดใสเหมือนโลกทั้งใบถูกส่งมายังเฟลิกซ์ ถึงแม้ว่าจะอยู่มานานแต่ไม่เคยมีใครทำตัวแบบกับเขาเลยสักครั้ง ทำให้เสียงข้างในหัวใจเต้นแปลกไปจากที่เคยเป็ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำเหมือนคนออกกำลังกายมาอย่างหนัก
"เป็อะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงจัง" นิ้วเรียวยาวจิ้มหน้าผากอีกฝ่ายด้วยความสงสัยโดนที่เ้าตัวไม่รู้เลยว่าเป็ต้นเหตุที่ทำให้ลูกครึ่งแวมไพร์เขินขนาดนี้
"ไม่เป็ไรขอรับ เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมน้ำให้อาบ นอนดึกไม่เป็ผลดีเท่าไหร่"
"แล้วผมไม่ต้องนอนกลางวันแล้วตื่นกลางคืนเหรอ แบบนั้นต้องเรียกว่านอนเลยวันไม่ดีเท่าไหร่" ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจสถานการ์ณแล้วว่าเด็กตรงหน้าคือลูกหลานของตาแก่ไม่ผิดอย่างแน่นอน การใช้คำ การพูดจา การมองทะลุปรุโปร่งแบบนี้
การคัดสรรคนมาดูแลริค ไวท์ บุตรชายบุตรธรรมของเชื้อพระวงศ์อย่างตระกูลริคเสร็จสิ้นภายในสามวันเพราะถ้ายิ่งล้าช้า การเรียนการสอนต่างๆ ก็จะช้าตามไปด้วย โดยคนที่จะมาสอนนั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็คือเหล่าบรรดาที่คัดเลือกมาว่าจะให้ใครมาเป็คนดูแลนั่นเอง อันได้แก่เฟลิกซ์ ได้รับตำแหน่งเป็คนสนิทที่ใกล้ชิดกับคุณชายริค ไวท์มากที่สุด ดำรงตำแหน่งเอิรล์
คัสซัส พ่อบ้านประจำพระราชวังที่คอยดูแลงานในวังรวมถึงต้อนรับแขกทั้งหมด ดำรงตำแหน่งไวเคานต์
คีเซิน หัวหน้าคนดูแลเื่อาหารการกินประจำวัง ดำรงตำแหน่งบารอน
คลาวน์ หัวหน้าอัศวินประจำวัง ดำรงตำแหน่งเซอร์
"อรุณสวัสดิ์ขอรับ คุณชายไวท์" มาร์แชลทักทายอย่างเป็กันเองเพราะตนได้ข่าวมาว่าวันนี้บุตรบุญธรรมของตระกูลริคจะมาส่งเอกสารด้วยตนเอง เื่การทำพิธีแต่งตั้งคนสนิทจากตำแหน่งสำคัญต่างๆ ของพระราชวัง ซึ่งถือเป็เอกสารสำคัญ หากตกหล่นกลางทางอาจจะสร้างความเสียหายให้กับเชื้อพระวงศ์ได้ ั้แ่ก้าวลงจากรถม้ามา ก็มีหลากหลายสายตาจับจ้องมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพากันชื่นชมในความสง่างามของร่างสูงโปร่ง
"อรุณสวัสดิ์ครับ คุณชายบลัฟเฟอร์ มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ" เสียงทุ้มนุ่มถามด้วยความอยากรู้ ดวงตาเปล่งประกายนั้นส่องสว่างออกมาจากดวงตากลมโตอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางที่แปลกประหลาดของเ้าตัวทำให้ถูกมองได้ง่ายยิ่งนักแต่เหมือนคนที่ถูกมองจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว
"พอดีมาจัดการเอกสารของทางพระราชวังหลวงเลยเดินทางมาขอรับ บังเอิญจังเลยที่ได้เจอกันแบบนี้" มาร์แชลบอกพลางยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดี
"ไม่ใช่ว่าคุณชายแอบดูตารางงานที่ประกาศหน้าบอร์ดพระราชวังหลวงเลยรู้กำหนดการล่วงหน้า แล้วมาดักรอเจอนะขอรับ ถ้าเป็แบบนั้นคงจะเสียมารยาทแย่เลย"
เฟลิกซ์ แอบจิกกัดไปไม่น้อยเพราะดูไม่เหมือนคนมาส่งงานแต่เหมือนคนมาดักรอเจอเสียมากกว่า และความหมายแฝงก็คือแอบดูตารางงานของริค ไวท์แล้วมาดักรอเจอหน้าพระราชวังหลวงนั่นเอง
"ไม่คิดเลยว่าคนสนิทที่เพิ่งได้รับตำแหน่งเอิรล์ไปได้ไม่นานจะมีนิสัยแบบนี้ด้วย ระมัดระวังตัวหน่อยดีไหม ตอนนี้ไม่ใช่แค่ดูแลหมู่บ้านลูกครึ่งแวมไพร์เมื่อแต่ก่อนแล้วนะ เป็ถึงขุนนางคนสนิทที่ต้องคอยปกป้องคุณชายจากตระกูลเชื้อพระวงศ์แล้ว" ความหมายที่มาร์แชลตอบกลับมาคือเป็ขุนนางไม่นานควรจะทำตัวให้มีมารยาทมากกว่านี้ และจงรู้ด้วยว่าชาติกำเนิดตนเองเป็อย่างไร
"ถ้าจะมาเถียงกันแบบนี้มันไม่ได้หรอกนะ ข้าคิดว่าควรหยุดทั้งคุณชายบลัฟเฟอร์ที่ดูไม่เป็ผู้ใหญ่รังแกเด็กแบบนี้ ส่วนเฟลิกซ์รู้ทั้งรู้ว่าต่อกรไม่ได้จะไปต่อปากต่อคำให้มันเปลืองน้ำลายทำไม ไปส่งเอกสารกันเถอะ"
คำพูดของไวท์ตอกหน้าทั้งลอร์ดผู้สูงศักดิ์และขุนนางคนสนิทที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน ทั้งคู่หน้าชาไปตามๆ กันเพราะโดยคนที่อายุน้อยที่สุดด่าได้เจ็บขนาดนี้ เกิดมาเพิ่งจะเคยเจอคำด่าที่แปลกและเจ็บในเวลาเดียวกัน มือขาววางเอกสารลงแล้วปั๊มตราที่เป็ชื่อของตนเองบนเอกสารพลางเซ็นกำกับเอาไว้อย่างดี เนื่องจากเคยอยู่ชมรมภาษาญี่ปุ่นมาก่อนทำให้ลายเซ็นของเขามีทั้งภาษามนุษย์ในดินแดนแห่งนี้ ภาษาจักรวรรดิและภาษาญี่ปุ่นจากโลกที่เคยอาศัยอยู่มาก่อน ช่างเป็ลายเส้นที่แปลกและมีหลายอันมากที่สุด และเป็ที่แน่นอนว่าไม่มีใครปลอมลายเซ็นได้เพราะแพ้ทางภาษาญี่ปุ่นกันหมด
ภาษามนุษย์ของแดนจักรวรรดิคือภาษาอังกฤษซึ่งไม่ใช่อุปสรรคเท่าไหร่ ส่วนภาษาจักรวรรดิค่อนข้างเขียนลากวนไปมาแต่มีหลากหลายคำดี ส่วนภาษาญี่ปุ่นนั้นแน่นอนว่าทุกคนไม่เคยเจอและไม่มีใครเขียนออกเพราะจงใจเขียนด้วยตัวอักษรคันจิที่มีที่มาแปลกประหลาดลงไปด้วยเพื่อยากต่อการแกะภาษาเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นลืมเื่ที่จะถูกปลอมแปลงเอกสารไปได้เลย ไหนจะตราปั๊มที่ลวดลายพญานาค ลายเซ็นหลากหลายภาษานั้นทำให้พ่ายแพ้กันไปหมด เนื่องจากตอนแรกเห็นว่ามาจากต่างโลกอาจจะสามารถแทรกแซงงบประมาณหรือใช้ตราปั๊มกับลายเซ็นปลอมลงไป ซึ่งในตอนนี้ความคิดเ่าั้ได้ถูกลบออกไปจนหมดสิ้น หนทางในการจะแอบกินเล็กกินน้อยหมดไปในทันที
"ทั้งลายบนตราปั๊มทั้งลายเซ็นช่างแปลกประหลาดมากขอรับ ตอนแรกที่ข้าเห็นคุณชายออกแบบได้แต่ตกตะลึงเพราะคิดว่าไม่มีใครน่าจะลอกเลียนแบบได้สักคนเดียว" มันพิลึกขนาดนั้นคนในจักรวรรดิไม่มีทางเข้าใจอย่างแน่นอน เป็เครื่องยืนยันว่าเด็กคนนี้มาจากต่างโลก
"ข้าคิดว่าจะมีการแทรกแซงผ่านชื่อของข้า เลยคิดวิธีป้องกันเอาไว้แล้ว ป่านนี้พวกขุนนางคงรู้แล้วว่าไม่สามารถหลอกข้าได้ง่ายๆ " จะมาหลอกคนอย่างจีนมันเร็วไปร้อยปีเ้าพวกคนแก่
"ถ้าไม่รังเกียจรบกวนไปรับประทานอาหารนอกวังกับข้าได้ไหมขอรับ"
"ก็ดีนะ เพราะข้าไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากอยู่ในวังด้านในของรัชทายาท" ั้แ่แต่งตั้งตำแหน่งนี้มาสถานที่อยู่คือพระราชวังส่วนตัวของรัชทายาทที่อยู่ในเขตวังหลวง ไม่ได้ถูกย้ายให้ไปอยู่วังใหม่อย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ จนทำให้มีข่าวลือว่าได้รับความโปรดปรานเป็อย่างมากถึงขนาดที่ให้อยู่วังเดียวกันแต่ยังไม่ได้เข้าพิธีอย่างเป็ทางการ
"ไม่ได้นะขอรับ กลิ่นเืของคุณชายแรงมากขนาดนี้ ข้ากลัวว่าคนภายนอกจะทนไม่ไหว" เพราะนับวันยิ่งส่งกลิ่นหอมมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องรอจนกว่าสร้อยเวทย์มนตร์ปกปิดกลิ่นเสร็จก่อนถึงจะเดินทางออกไปด้านนอกได้
"ถ้าเช่นนั้นเชิญมาที่วังแล้วกันครับ เดี๋ยวทำของหวานให้กิน"
ลับหลังร่างสูงโปร่งที่เดินนำบุคคลทั้งสองไปแล้วนั้นไม่ได้ล่วงรู้เลยมีว่ามีาสายตาส่งหากันไปมาตลอดทาง เพราะอีกคนอยากพาไปเที่ยวแต่อีกคนไม่อยากให้ไปไกลเกินวังหลวง จนเดินทางมาถึงพระราชวังส่วนตัวของรัชทายาทเสียงทุ้มนุ่มก็ขอตัวเข้าครัวไปทำของมากินอย่างเคย ได้โอกาสที่จะปะทะคารมกันทันที
"คุณชายมาร์แชลไม่เข้าใจหรือขอรับว่าตอนนี้กลิ่นเืของคุณชายมันเริ่มอันตรายมากขึ้นทุกวัน จนกว่าสร้อยปกปิดกลิ่นจะมาหรือเรียนจนสามารถปกปิดกลิ่นตนเองได้ถึงจะได้รับอนุญาตออกไปด้านนอก ท่านฝึกฝนมานานหลายปีย่อมทำได้แต่คนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ไม่มีทางฝึกได้ภายในไม่กี่เดือนหรอก โปรดเข้าใจตรงนี้ไว้ด้วย"
"มีเอิรล์เฟลิกซ์ เซอร์คลาวน์ ลอร์ดมาร์แชล และไหนจะคนของข้าอีก เ้าคิดว่าข้าจะยอมปล่อยให้เกิดเื่แบบนั้นหรือไงกัน คิดง่ายเกินไปแล้ว" เขารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ มีขุนนางคอยปกป้องมากขนาดนี้ใครจะกล้ามากินเืของเด็กคนนี้กัน ถ้ามีมันคงจะตายก่อนได้ลิ้มรสเป็แน่
