“หากเ้าไม่อยากกลายเป็อย่างเหมือนศิษย์จากสำนักรวมสมบัติิญญาคนนั้น ก็อย่าได้คิดจะเข้าไปร่วมด้วยเลย!” ประโยคที่แสนใจเย็นของเซียวหลิงอวิ๋นกลับทำให้หม่าิฮุ่ยที่กำลังจะก้าวเดินออกไปต้องหยุดชะงักทันที!
หม่าิฮุ่ยก็ถามกลับไปทันที “เ้าหมายความว่าหมาป่าที่หรูเยียนกำลังไล่ล่าอยู่นั้นที่หลังของมันมีแมงมุมล่องหนที่ทำให้ผู้ใช้พลังิญญาเป็อัมพาตและตัวแข็งทื่อได้เกาะอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“อืม!”
“แล้วทำไมหรูเยียนถึงไม่เป็อะไรล่ะ?” หม่าิฮุ่ยเบิกตากว้างขึ้นทันที
“อาจจะเป็เพราะสายเืโบราณของนางก็ได้!” เซียวหลิงอวิ๋นให้เหตุผลราวกับเป็การคาดเดา แต่แท้จริงแล้วเป็ความจริง
สายเืโบราณ! หม่าิฮุ่ยถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย เมื่อมองไปที่หรูเยียนที่อยู่ไกลๆ แล้ว สายตาของนางก็แฝงไปด้วยความอิจฉา
จนผ่านไปหนึ่งชั่วก้านธูป! ฉินหรูเยียนก็กลับมาพร้อมกับหมาป่าสีขาวที่ยอมแพ้อย่างหมดรูป โดยมีเ้าแมงมุมเงาดูดิญญาที่ถูกเล่นงานจนหมดสภาพอยู่บนหลัง นางเดินกลับมาด้วยแววตาที่เปล่งประกาย!
สัตว์อสูรทั้งสองที่ดุร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้นี้ กลายเป็แกะเชื่องๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงงามไร้เทียมทานฉินหรูเยียนคนนี้ ในเวลานี้หากสั่งให้ไปทางตะวันออก มันก็ไม่กล้าที่จะไปทางตะวันตกแล้ว
ทุกคนเห็นหมาป่าตัวใหญ่ที่เดินตามหลังฉินหรูเยียนราวกับลูกสุนัขเชื่องๆ แล้ว พวกเขาต่างก็อ้าปากค้างไปนานจนหุบไม่ลง แม้แต่เซียวหลิงอวิ๋นที่พอจะรู้ผลั้แ่แรกแล้ว ก็ยังไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉินหรูเยียนสั่งให้แมงมุมเงาดูดิญญาปลดสภาพตัวชาและแข็งทื่อของหลินอิ๋ง เมื่อนางฟื้นขึ้นมาและเห็นสัตว์อสูรทั้งสองหมอบอยู่แทบเท้าของหรูเยียนอย่างเชื่อฟัง นางก็ถึงกับแทบพูดอะไรไม่ออก
จากนั้นหลินอิ๋งก็รู้สึกยินดีขึ้นมา
ในที่สุดนางก็พ้นจากอันตรายแล้ว แต่นางก็ยังไม่ลืมว่านางยังมีพี่น้องอีกสามคนที่ยังไม่ทราบชะตากรรม
เมื่อได้ยินเื่ราวอันโหดร้ายที่หลินอิ๋งเล่าแล้ว ทุกคนจึงรีบเก็บข้าวของทันที ส่วนฉินหรูเยียนยิ่งกว่านั้น ง้างมือตบด้วยฝ่ามือที่อัดด้วยพลังิญญาใส่ร่างอ้วนกลมของเ้าแมงมุมเงาดูดิญญาจนมันกระเด้งขึ้นราวกับลูกบอล
“รีบนำทางไปเดี๋ยวนี้ ถ้าหากหาสหายของเ้าไม่เจอ เ้านายของเ้าคนนี้จะอัดเ้าจนกระดูกแหลกด้วยหมัดเดียวเลย! นี่คือโอกาสให้เ้าได้ไถ่บาปแล้ว...เ้ามัวกลัวอะไรอยู่ หากยังชักช้า ข้านี่แหละจะเชือดเ้าเป็คนแรก...มีเพียงการช่วยชีวิตพี่น้องของข้าเท่านั้นที่ชีวิตน้อยๆ ของเ้าถึงจะมีชีวิตรอด ถ้าเข้าใจแล้วก็รีบนำทางไปเดี๋ยวนี้!”
“จริงด้วยสิ เ้าสัตว์อสูรมากขา เ้าสามารถควบคุมสัตว์อสูรระดับต่ำได้ใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็รีบหาพาหนะมาให้เ้านายของเ้าเดี๋ยวนี้!”
ชั่วครู่ต่อมา หมาป่าสีขาวห้าตัววิ่งเข้ามาหาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
พอมาถึงก็ออกวิ่งทันที
ด้วยพลังของฉินหรูเยียน เฉียนหม่านควง และถังเซียว รวมถึงการบังคับของแมงมุมเงาดูดิญญา หมาป่าสีขาวห้าตัวก็ทำหน้าที่เป็พาหนะเช่นเดียวกับตัวแรก! แล้วฉินหรูเยียน หลินอิ๋ง หม่าิฮุ่ย ถันหย่า รวมถึงหยวนอิ่งกับถังเซียว ต่างก็ขี่หมาป่ากันคนละตัว! ในขณะเซียวหลิงอวิ๋นกับอีกสี่คนไล่ตามไปด้วยเท้าเปล่า
ผู้ใช้พลังิญญาสิบเอ็ดคและสัตว์อสูรหกตัว กลุ่มประหลาดๆ นี้ก็วิ่งบนธารน้ำแข็งด้วยความเร็วสูง
...
ที่ด้านนอกโลกเร้นลับ จูเหวินฝูสีหน้าหมองคล้ำอย่างที่สุด
ป้ายชื่อที่แตกอยู่ในมือมีมากถึงเจ็ดแผ่นแล้ว แม้แต่บุตรชายของตระกูลเฉาเองก็รวมอยู่ในนั้นด้วย!
หลินอิ๋งกับเฉาหมั่งเป็ศิษย์คนสำคัญรองมาจากจูเหว่ยเจีย เฉียนเจียซิน และอีกสามคนอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนแรกจูเหวินฝูกับผู้าุโคนอื่นๆ ต่างก็กำลังคาดเดาว่าบางทีพวกเขาอาจจะพบกับสมบัติล้ำค่าอะไรสักอย่างเข้าสองกลุ่มพร้อมกันจึงได้เผชิญหน้ากัน แต่พอเฉาหมั่งตาย จูเหวินฝูก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปทันที
ในการเข้าสู่โลกเร้นลับเมืองโบราณหลิงกุยครั้งนี้ เหล่าศิษย์ไม่เพียงแต่จะเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่เท่านั้น แต่บรรดาผู้าุโที่มีฐานะร่ำรวยก็ยังมอบสมบัติป้องกันตัวที่ดีให้กับลูกหลานของตนเองด้วย บุตรชายของตระกูลเฉาคนนั้นจะต้องมีะเิกัมปนาทอย่างน้อยหนึ่งลูกแน่นอน ดังนั้นต่อให้เผชิญหน้ากับบรรดาผู้เข้าร่วมที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างสำนักภูติิญญาน้ำแข็งลี้ลับก็ตาม ก็ไม่น่าทำให้ฝ่ายของตนเองตายไปถึงเจ็ดคน ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ตายแม้แต่คนเดียวแน่
เมื่อะเิกัมปนาทถูกใช้ ย่อมไม่มีศิษย์หนุ่มสาวในกลุ่มนั้นสักคนถึงสองคนที่สามารถทนทานต่อพลังะเิอันน่าสะพรึงนั้นได้แน่
เกิดอะไรขึ้นในโลกเร้นลับกันแน่ ที่ทำให้ลูกศิษย์จากกลุ่มเดียวกันเสียชีวิตในคราวเดียวถึงเจ็ดคนเช่นนี้?
พอเสียง ‘เปรี๊ยะ!’ ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าผู้าุโผมแดงของสำนักแม่มดเพลิงร้อนต้องเปลี่ยนไป เมื่อความคิดของเขาปรากฏขึ้น ป้ายชื่อก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บรรดาผู้าุโมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็แผ่นป้ายิญญาเต๋าของลูกศิษย์สำนักแม่มดเพลิงร้อน
แล้วสีหน้าของจูเหวินฝูก็เปลี่ยนไปทันที และกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “ตาเฒ่าเลี่ยหั่ว ศิษย์สำนักแม่มดเพลิงร้อนของเ้าช่างอำมหิตย์เสียจริง ก่อนที่จะเข้าสู่โลกเร้นลับก็ได้ย้ำเตือนกันอย่างชัดเจนไปแล้ว แล้วดูผลลัพธ์สิ นี่เพิ่งผ่านไปไม่เท่าไรเอง แค่สิบสองวัน วันนี้เพิ่งวันที่สิบสองเท่านั้นเอง ยังเป็ไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเข้าไปถึงเขตเมืองชั้นใน
คราวนี้ เ้าควรจะภาวนาให้ศิษย์สำนักแม่มดเพลิงร้อนของเ้าสังหารศิษย์ที่ไร้ความสามารถของข้าให้หมดเสีย ไม่เช่นนั้นหากมีใครคนใดคนหนึ่งหนีรอดไปได้และให้การยืนยันว่าเป็ฝีมือของพวกเ้าแล้ว ข้าจูเหวินฝูคนนี้ก็ยินดีจะสละเนื้อหนังสองร้อยชั่งนี้เข้าสู้กับเ้าเอง!”
ผู้าุโเลี่ยหั่วแห่งสำนักแม่มดเพลิงร้อนก็เผยเขี้ยว แล้วส่งเสียงเย็นะเืน่ากลัวออกมา “ตาเฒ่าจู การบรรลุขึ้นสู่ขั้นาาิญญาขั้นสูงของเ้า ไม่เพียงแต่ทำให้ความทะเยอทะยานของเ้าเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้ความกล้าเพิ่มขึ้นด้วยสินะ อยากสู้มากนักหรือ? ได้เลย วันนี้ข้าจะเป็คู่ซ้อมให้กับเ้าเอง!”
ตี๋จั๋วรื่อจึงรีบห้ามปราม “พวกเ้าทั้งสองอายุอานามปาไปหลายร้อยปีแล้ว แต่ทำไมถึงหุนหันพลันแล่นกันนัก ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกเร้นลับแห่งนี้กันนี้ ทั้งสัตว์อสูร ทั้งหุ่นเชิดิญญาระดับสูง หรือแม้แต่ทางลับที่ซ่อนอยู่ก็ล้วนแล้วแต่มีความเป็ไปได้ทั้งนั้น พวกเ้าจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วรีบต่อสู้กันอย่างงั้นหรือ?”
“ท่านตี๋พูดถูกแล้ว พวกท่านทั้งหลายก็พักผ่อนก่อนเถอะ อีกหกเดือน เมื่อเด็กกลุ่มนี้กลับมา สถานการณ์ต่างๆ ก็จะกระจ่างชัดเอง!” ผู้าุโสูงสุดแห่งสำนักภูติิญญาน้ำแข็งลี้ลับ โหยวต๋าจวิ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
เมื่อผู้าุโตี๋กับโหยวพูดออกมา จูเหวินฝูกับเลี่ยหั่วก็เงียบเสียงลงพร้อมกันทันที
และก่อนที่เลี่ยหั่วกับจูเหวินฝูจะโต้เถียงกันต่อ ครึ่งชั่วถ้วยชาต่อมา!
...
ภายในโลกเร้นลับธารน้ำแข็ง ศิษย์ทั้งสิบคนของสำนักแม่มดเพลิงร้อนผู้วิเศษต่างก็ตาเป็ประกาย กลุ่มสิบคนนี้ตรงกันข้ามกับสมาชิกของหลินอิ๋งพอดี นั่นคือชายเจ็ดหญิงสาม! ผู้นำคือชายหนุ่มร่างสูงสง่า!
“ศิษย์พี่หลง กลุ่มของเราต้องเป็ผู้ที่ได้ของวิเศษมากที่สุดในบรรดาทุกกลุ่มของห้าสำนักแน่ๆ! พวกเราได้ถล่มรังของสัตว์อสูรระดับสองถึงสองแห่ง และยังได้วัตถุดิบิญญาระดับสี่มาตั้งสองชิ้น กับวัตถุดิบิญญาและยาสมุนไพรระดับสามถึงยี่สิบสามชิ้นอีกด้วย!” ชายหนุ่มผอมบางกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“น่าเสียดายที่จนถึงตอนนี้ยังไม่เจอกับกลุ่มของศิษย์สำนักคุมสัตว์ิญญาเลย!” ชายหนุ่มร่างกำยำอีกคนกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม
“เื่ความแค้นระหว่างข้าและตระกูลหลง ข้าจะเป็คนสะสางเอง นอกจากนี้หากไม่ใช่กลุ่มของหลงเจียงแล้ว คนอื่นๆ ของสำนักคุมสัตว์ิญญาก็อย่าไปยุ่งด้วยโดยพลการเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพอออกไปแล้วจะโดนหาว่าพวกเราไปรังแกคนอ่อนแอกว่าได้!” ชายหนุ่มร่างสูงที่สง่างามผู้นี้ก็คือศิษย์คนสำคัญของสำนักแม่มดเพลิงร้อนในครั้งนี้ หลงเฮ่อ
กลุ่มนี้เป็กลุ่มที่รวบรวมผู้ที่เป็ศิษย์หลักทั้งห้าคนของสำนักแม่มดเพลิงร้อน และเป็กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นคือคณะเพลิงร้อน!
ซึ่งนอกจากหลงเฮ่อแล้ว ก็ยังมีอีกสี่คนได้แก่ ชายหนุ่มร่างผอมบางเลี่ยวเคอ ชายหนุ่มร่างกำยำหลิ่วเฉิงิ่ และสาวงามอีกสองคน ซูเหม่ยกับเยี่ยหนาน
ฮ่าๆๆ! เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของหัวหน้าตนที่ว่า “รังแกคนอ่อนแอกว่า” แล้ว ลูกศิษย์สำนักแม่มดเพลิงร้อนอีกเก้าคนที่เหลือก็พากันหัวเราะออกมาพร้อมกัน
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากไกลๆ
เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว ทุกคนก็หันไปมองทางด้านซ้าย พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งลงมาจากเนินหิมะทางด้านซ้าย ห่างออกไปหนึ่งพันหมี่!
ทำไมนางถึงได้ดูหวาดกลัวเช่นนั้น?
ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกใ!
ฟิ่วๆๆ...ร่างของลิงหิมะหกตัวก็ปรากฏขึ้น!
เมื่อเห็นลิงหิมะหกตัวนี้แล้ว พวกเลี่ยวเคอไม่เพียงแต่จะไม่กลัว แต่ดวงตาของพวกเขากลับเปล่งประกาย แม้แต่หลงเฮ่อเองก็เช่นกัน กล่าวออกมาเสียงเย็นะเื “ฆ่าให้หมด!”
