เหนียนยวี่ร้องเรียกเสียงเบา
และดูเหมือนว่าการร้องเรียกในครานี้ ทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินที่เดิมกำลังดิ้นรนอยู่ก็หยุดทันทีหันกลับมามองเหนียนยวี่ รอยยิ้มบนใบหน้าเบ่งบาน "จี้เยวี่ย...ลูก...ลูกอยู่ที่นี่งั้นหรือ?ลูกสาวข้า..."
ยามเอ่ยเอื้อน ฮองเฮาอวี่เหวินดึงเหนียนยวี่เข้ามากอดในอ้อมอกพลางลูบปลอบหลังนางเบาๆ
เหนียนยวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าครู่ต่อมาสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง...
"เสด็จแม่...ช่วยลูกด้วย...ลูกเจ็บ..."
ด้านนอกถ้ำ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ดังเข้าไปในหูของฮองเฮาอวี่เหวินร่างกายฮองเฮาอวี่เหวินสั่นเทา ทันใดนั้นก็ผลักเหนียนยวี่ออกจากอ้อมแขนหันมองตามทิศทางของเสียงที่ดังมาจากนอกถ้ำ สีหน้านางเปลี่ยนไปในทันที
นางจ้องมองเหนียนยวี่ พลางฟังเสียงร้องเรียกนั่นใบหน้านางเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายพาดผ่าน ทั้งกังวล...สงสัย...หวาดกลัว และในที่สุดความสับสนบนใบหน้านั้น แม้เหนียนยวี่ที่มองดูเหมือนจะเข้าใจความเ็ปรวดร้าวของนางในยามนี้ได้อย่างลึกซึ้ง
"ไม่ เ้าไม่ใช่จี้เยวี่ยเ้าไม่ใช่...ข้า้าลูกสาวข้า ข้าต้องช่วยลูกสาวข้า..."ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยปากขึ้นในฉับพลัน ไม่รู้ว่ามีเรี่ยวแรงมาจากที่ใด ผลักเหนียนยวี่ลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง
การต่อสู้กับเสือตัวนั้น ทำให้เหนียนยวี่หมดกำลังไปอย่างมากเพียงแค่แรงของฮองเฮาอวี่เหวินก็ทำให้เหนียนยวี่ถอยหลังโซเซไปก้าวหนึ่ง
และนางใช้ประโยชน์จาก่เวลานี้ฮองเฮาอวี่เหวินก็วิ่งออกจากถ้ำไปในชั่วพริบตา
"ฮองเฮา..." เหนียนยวี่ะโอย่างเห็นท่าไม่ดีเสียงร้องของเด็กนั่น เห็นได้ชัดว่าจงใจล่อฮองเฮาอวี่เหวินออกไป และเป้าหมายคือ...
เหนียนยวี่ไม่มีเวลาคิดมากนักเร่งรีบตามออกไปทันที
ในป่าของสวนร้อยสัตว์ค่อนข้างจะมืดมาก เสียงที่ดังมาบางครั้งก็ดูเหมือนจะไกล ทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก
เหนียนยวี่ตามเสียงนั้นไปถึงที่โล่งแห่งหนึ่งทว่ายังไม่ทันก้าวไปข้างหน้า
"ออกมา"เหนียนยวี่เอ่ยอย่างเ็า ยืนอยู่กลางทุ่งโล่ง ดวงตาที่เ็าคู่นั้นในค่ำคืนที่มืดมิดเช่นนี้ราวกับเสือที่ปราดเปรียวกล้าหาญ
เพียงครู่หนึ่ง บนต้นไม้รอบๆ ในพื้นที่โล่งคนชุดดำนับสิบคนะโลงมา ล้อมรอบเหนียนยวี่อย่างแ่า ราวกับว่าคนชุดดำทั้งสิบคนเหล่านี้ที่เผชิญหน้าเหนียนยวี่ไม่กล้าแม้แต่จะหละหลวม
เมื่อครู่...ใช่สตรีผู้นี้ที่ล้มเสือตัวนั้นในป่าพุ่มหนามหรือไม่?
ชายที่ยืนหน้าสุดมองประเมินนาง
ยามที่ชายหนุ่มมองเหนียนยวี่ เหนียนยวี่ก็เผชิญกับดวงตาคู่นั้นพอดี
นางมองไม่เห็นใบหน้าเขาทว่าประกายอันน่าทึ่งในดวงตาสีดำคู่นั้น ทำให้ดวงตาของเหนียนยวี่หรี่ลงนางระวังตัวขึ้นมาทันที
"ผู้ใดส่งพวกเ้ามา?"เหนียนยวี่ถาม แม้ว่าเสียงของสตรีจะฟังดูนุ่มนวลทว่าน้ำเสียงของนางก็แข็งแกร่งจนผู้คนไม่กล้ามองข้าม
สวนร้อยสัตว์แห่งนี้ ตรงจุดนี้เป็เพียงทางเข้าการจะมาถึงที่นี่ได้ จำเป็ต้องผ่านป่าพุ่มหนาม หมายความว่าอย่างไรที่คนเหล่านี้สามารถมาปรากฏตัวที่นี่ได้?
ไม่ต้องคิดเยอะ ในใจเหนียนยวี่ก็มีคำตอบ
ในบรรดาคนกลุ่มนี้มีคนเก่งกาจเื่ค่ายกลดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสทะลุผ่านป่าพุ่มหนามและมาถึงที่นี่ได้
เก่งกาจค่ายกลหรือ?
ในโลกนี้ มีคนไม่มากที่เก่งกาจเื่ค่ายกลนางรู้จักปรมาจารย์ด้านค่ายกลเพียงไม่กี่คน
"แม่นาง เ้าไม่ควรยุ่งเื่ผู้อื่น"คนที่อยู่ด้านหน้าสุดเอ่ยปาก เสียงนั้นกดให้ต่ำลงอย่างจงใจ ราวกับว่าไม่้าให้คนอื่นได้ยินเสียงที่แท้จริง
การกระทำเล็กน้อยนี้ เหนียนยวี่กลับสังเกตได้อย่างว่องไวและเฉียบแหลมอดไม่ได้ที่เหลือบมองเขา นาง...รู้จักเขาหรือไม่?
“แต่ยามนี้ข้าก็เข้าไปยุ่งเื่ผู้อื่นแล้วเช่นนั้นเ้าลองบอกมาว่าข้าควรทำอย่างไร?” เหนียนยวี่หรี่ตาลงพลางคาดเดาคนผู้นี้ว่าเป็ใคร ในใจเองก็รู้ว่าเป้าหมายของพวกเขาคือฮองเฮาอวี่เหวินทว่าในเมื่อนางก็ยื่นมือไปยุ่งเื่นี้แล้ว นางก็จะไม่มีทางทิ้งฮองเฮาอวี่เหวินไว้เช่นนี้เด็ดขาด
นอกจากนี้ เพียงแค่คืนนี้อาศัยสิ่งที่นางได้ยินได้เจอมาทั้งหมดในสวนร้อยสัตว์นี่ตรองดูแล้ว คนพวกนี้เป็ไปไม่ได้ที่จะปล่อยนางไปจากที่นี่ พวกเขาจะต้องสังหารนางอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นการเผชิญหน้าในยามนี้จะต้องเป็พวกมันที่ตายและเป็นางที่รอด!
ทันทีที่เหนียนยวี่เอ่ยจบ คมดาบในมือของชายคนนั้นก็พุ่งเข้าหาเหนียนยวี่ ราวกับว่าอากาศแน่นจนเหมือนะเิในครั้งแรกที่ัั
เหนียนยวี่กำกริชในมือในขณะที่ดาบพุ่งตรงมาที่นาง นางเอี้ยวตัว หลบหลีกอย่างว่องไวราวกับงูน้ำและในวินาทีต่อมา
ภายในอากาศ มีเสียงะโอย่างเ็ปเล็กน้อยเืพุ่งออกมาและมีหลายคนคุกเข่าลงบนพื้น
่เวลานั้นเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ทุกคนตื่นตะลึงดูเหมือนว่าสตรีนางนี้จะมีความสามารถ
และในเวลานี้ เหนียนยวี่เริ่มโจมตีร่างของนางก็วาววับราวกับผี เมื่อนางไปถึงด้านข้างของใครคนหนึ่ง กริชก็พุ่งไปที่ลำคอของชายชุดดำเืไหลทะลัก ในเวลาเดียวกันศพก็ล้มลงไป เหนียนยวี่แย่งชิงดาบในมือนั้นมา
"หึ..."ชายที่เป็หัวหน้าพ่นลมเสียงเบา ในเสียงพ่นลมนี้ ราวกลับแฝงอารมณ์ไว้มากมาย
มองดูสตรีที่ยืนอยู่ไม่ไกล มือข้างหนึ่งถือดาบอีกมือหนึ่งถือกริช ั์ตาราวกับเสือที่กำลังต่อสู้...
หลังจากผ่านไปเพียงสองรอบขณะนี้ยังไม่มีใครกล้าดูถูกสตรีนางนี้ ชายที่เป็หัวหน้าออกคำสั่ง และคนอื่นๆโจมตีเหนียนยวี่อีกครั้ง...
เสียงดาบฟาดฟันรุนแรงในป่า
ความแข็งแกร่งของเหนียนยวี่เพียงอย่างเดียว ต้องเผชิญกับคนมากกว่าสิบคนนั่นไม่ธรรมดาสักนิด ศพคนชุดดำจำนวนมากค่อยๆ นอนอยู่บนพื้น
ชายผู้เป็หัวหน้ายืนอยู่นอกการต่อสู้มองดูร่างเล็กท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แววตาทอประกายชื่นชมท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็ความมืดมน
ทันใดนั้น ดวงตาของชายผู้นั้นเคร่งขรึมขึ้น ราวกับรอ่เวลาสุดท้ายชายคนนั้นก็ะโขึ้น และดาบในมือของเขาอยู่ใกล้กับหว่างคิ้วของเหนียนยวี่ เมื่อชายชุดดำคนอื่นๆ จับกุมเหนียนยวี่...
เหนียนยวี่ตระหนักได้ทันที ด้วยกำลังทั้งหมดของเขาเตรียมที่จะหลีกเลี่ยงสุดกำลัง แต่ได้ยินเสียงดัง ดาบในมือของชายผู้นั้นสะบัดและเบี่ยงออกไปทันที
มีใครบางคนช่วยนาง!
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจของเหนียนยวี่ และร่างสีดำก็ปรากฏขึ้นในสายตาของนางหน้ากากสีเงินทำให้หัวใจของเหนียนยวี่สั่นไหวทันที...
เป็เขา...
ฉู่ชิง!
ทำไม...เขาถึงอยู่ที่นี่?
นางไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเื่นั้นและตอนนี้พวกเขาต้องออกจากปัญหานี้ให้ได้ก่อน
เหนียนยวี่หยุดคิด เข้าไปช่วยฉู่ชิงต่อสู้ทันทีสถานการณ์ดูเหมือนจะเป็ไปในทางที่ดีมากขึ้นสำหรับเหนียนยวี่
หัวหน้ากลุ่มเมื่อพิจารณาสถานการณ์ใบหน้าภายใต้ผ้า เริ่มมืดมนมากขึ้น...
"จี้เยวี่ย...ลูกอยู่ที่ไหน?"
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นเหนียนยวี่ใและมองไปที่ฮองเฮาอวี่เหวินโดยไม่รู้ตัว ในขณะนี้ดูเหมือนว่าฮองเฮาอวี่เหวินยังคงมองหาองค์หญิงจี้เยวี่ยและกำลังเดินมาตรงนี้
ผู้คนที่สังเกตเห็นว่าฮองเฮาอวี่เหวินกำลังใกล้เข้ามานั้นมีมากกว่าเหนียนยวี่...
มีรอยยิ้มจางๆ ในดวงตาของชายผู้เป็หัวหน้าและมีชายชุดดำคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้าหาฮองเฮาอวี่เหวิน นางตระหนักได้และไล่ตามไปแต่ไม่ได้สังเกตว่าชายที่เป็หัวหน้าคนชุดดำทิ้งดาบในมือและหันไปด้านหลังเหนียนยวี่