่บ่ายของวัน
“เมจิไม่เอานี่ไปด้วยหรอลูก” แม่ถามขึ้นก่อนจะเดินตรงมาหาเธอพร้อมกับชูเสื้อสูทตัวเล็กที่อยู่บนไม้แขวนให้ดู
“เอาค่า เมลืม แหะๆ” เธอเป็คนแขวนไว้เองแท้ๆ ว่าจะหยิบไปด้วยกลับลืมซะงั้น…
คนตัวเล็กที่วันนี้นั่งเคลียร์งานของที่บ้านั้แ่เช้ากว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป่บ่ายแล้วถึงเพิ่งได้กลับเข้าห้องมาเช็กของของตัวเองอีกทีเผื่อลืมหรือมีอะไรสำคัญที่ยังไม่ได้เอาไป
หลังจากที่เธอกับแม่ช่วยกันดูช่วยกันเช็กจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรก็พากันเดินออกมาจากห้องแล้วลงบันไดมาพร้อมกัน พอถึงด้านล่างร่างบางก็เดินตรงเข้าไปหาพ่อและพี่สาวที่นั่งกันอยู่ที่ห้องโถงส่วนกลางของบ้าน
“เมไปแล้วนะทุกคนดูแลตัวเองดีๆ นะเข้าใจไหม” เมจิพูดบอกก่อนที่ท้ายประโยคจะย้ำทุกคนด้วยความเป็ห่วง
“เราอะดูแลตัวเองดีๆ เถอะอย่าดื้อ ที่พงที่พักอะไรก็ดูที่มันปลอดภัยไว้ก่อน” เสียงเข้มของผู้เป็พ่อพูดย้ำกับลูกสาวตนเองด้วยความเป็ห่วงไม่ต่างกัน
“ค่า ไม่ดื้อ ไม่ต้องห่วงน้าไว้พอมีเวลาเมจะรีบบึ่งรถมาหาเลย” เสียงหวานตกปากรับคำก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ อีกทีอย่างคนรับปาก
สามชั่วโมงให้หลัง
17:45 น.
กึก กึก กึก กึก เสียงนิ้วเรียวของเมจิที่กำลังเคาะพวงมาลัยรถอย่างคนไม่รู้จะทำอะไรเพราะเธอติดแหง็กอยู่กับไฟแดงแยกข้างหน้าแค่แยกเดียวมาเกินสามสิบนาทีได้แล้ว แต่ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือจากตรงเธอไปคอนโดเหลืออีกแค่ไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น…ความรู้สึกที่เหมือนอยู่แค่เอื้อมแต่ก็ไปไม่ถึงนี่มันทรมานใจเหลือเกิน!
โอ๊ะ! ไฟเขียวแล้วดวงตาสวยเบิกโพลงมองสีไฟแห่ง์ข้างหน้า มือเล็กรีบเข้าเกียร์เดินหน้าพร้อมกับรถที่ขยับเคลื่อนตัวไป
“คันหน้ารีบหน่อยซี้…” ปากบางเอ่ยออกมาอย่างคนใจร้อน
“ว้าย ไฟเขียวจะหมดแล้ว อีกคันๆ เหลือฉันอีกคัน…”
“เฮ้อออ ค่อยยังชั่ว ~” เมจิพ่นลมออกจากปากหลังจากเธอหลุดออกมาได้จากแยกไฟแดงนั้นเป็คันสุดท้ายแบบพอดิบพอดี นี่กำลังขับรถหรือลงแข่งโอลิมปิกกันนะเรา
รถคันสีขาวเปิดไฟเลี้ยวก่อนจะค่อยๆ เบี่ยงซ้ายเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าคอนโดที่จะถึงในอีกไม่กี่สิบเมตรข้างหน้า
เอี๊ยด!! ปี๊นๆ เสียงล้อรถของเมจิบดกับถนนหลังจากที่เท้าเรียวรีบแตะเบรกชะลอรถอย่างกะทันหันก่อนจะบีบแตรเป็การเตือนเพราะอยู่ดีๆ ก็มีรถหรูข้ามเลนมาตัดหน้ารถของเธอและโชคยังดีที่เบรกทันไม่งั้นคงได้ชนกันไปแล้ว
คนตัวเล็กหันมองรถที่เพิ่งตัดหน้าเธอเลี้ยวเข้าไปยังคอนโดก่อนจะจอดนิ่งอยู่ตรงทางเข้าแล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเดินลงมาจากรถทำท่าเหมือนจะตรงมายังรถของเธอ
“เฮ้ย! มึงบีบแตรอะไร! ลงมาดิวะ!”
เป็ไปตามคาด…ผู้ชายรูปร่างดีใส่สูทที่ดูน่าจะมีฐานะอยู่พอสมควรกำลังใช้มือกระชากประตูรถของเมจิส่วนอีกข้างก็เอามือตีกระจกไปด้วยอย่างคนไม่พอใจ
เฮ้อออ!! เป็ประสาทหรือไงนะตัวเองเป็คนขับปาดหน้าคนอื่นเขาแท้ๆ แต่กลับมาไม่พอใจที่โดนบีบแตรใส่เนี่ยนะ…แล้วเื่อะไรเธอจะต้องลงไปเสียเวลากับคนประเภทนี้ด้วย!
พอคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ไม่สนใจเตรียมจะเคลื่อนตัวรถขับเข้าไปยังคอนโด
ปึง ปึง! เสียงจากผู้ชายคนเดิมที่ตอนนี้เปลี่ยนมายืนขวางหน้ารถพร้อมกับใช้กำปั้นทุบกระโปรงรถของเธอก่อนจะะโขึ้นมาอีกครั้ง
“เฮ้ย! ก็บอกให้ลงมาไงวะ!!”
ร่างบางที่เริ่มหมดความอดทนกับไอ้ผู้ชายตรงหน้าที่ไม่ยอมจบสักทีเลยตัดสินใจจะลงจากรถ มือบางคว้าหมับเข้ากับที่จับประตูแน่นก่อนจะเปิดออกอย่างไม่ลังเล
ปึก!! ประตูรถของเมจิที่กำลังเปิดออกแต่ถูกดันกลับเข้ามาเหมือนเดิมจากด้านนอกแทบจะทันที ทำให้ใบหน้าสวยหันมองออกไปถึงเห็นเป็พี่วินที่อยู่ดีๆ โผล่มาจากไหนไม่รู้ยืนอยู่ข้างรถของเธอ แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรขายาวก็สาวเท้าเดินเข้าไปหาชายคนนั้นที่ตอนนี้หยุดใช้กำปั้นทุบรถของเมจิแล้ว
ดวงตากลมนั่งอยู่ภายในรถพลางมองผ่านกระจกไปยังชายร่างสูงที่คุ้นเคยที่ตอนนี้กำลังพูดอะไรกับอีกคนอยู่โดยที่เธอก็ไม่สามารถรู้ได้…แต่ไม่นานนักผู้ชายที่หาเื่เธอก่อนหน้านั้นก็เดินกลับไปที่รถของตัวเองก่อนจะวนรถขับกลับออกไปด้วยความรวดเร็ว
วินหันมามองเมจิผ่านกระจกรถก่อนจะทำท่าทางบอกให้เธอขับรถเข้าไปยังคอนโดก่อนที่เขาจะขับตามเข้ามาเหมือนกัน…
“เมื่อกี้พี่พูดอะไรกับคนนั้นหรอ” เสียงหวานเอ่ยถามหลังจากลงมาจากรถกันแล้วทั้งคู่
“ก็ไม่มีไรหรอกคงเห็นพี่เป็ผู้ชายมันเลยไม่กล้าน่ะ”
“แล้ว…”
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก…ไปดูห้องกันดีกว่า” เสียงทุ้มเอ่ยตัดบทเมจิก็เลยไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ
ติ๊ง! ชั้น 24
คนตัวสูงเดินนำเธอไปยังห้องห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากลิฟต์มากก่อนจะใช้คีการ์ดแตะแล้วเปิดประตูเข้าไป…
ตาเรียวสวยมองรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งไว้แล้วพร้อมเข้าอยู่ มีการแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็ห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่นและระเบียงห้องขนาดกลาง ใช้คำว่ากว้างขวางและดูดีเกินกว่าที่เธอคิดไปมาก
“เป็ไง โอเคไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เปิดเข้าห้องนั้นทีห้องนี้ที
“ชอบมาก แต่ว่าราคานี้จริงๆ หรอพี่” คอนโดหรูห้องดีขนาดนี้กับราคาต่ำกว่ามาตรฐานแบบนี้มันจะมีจริงๆ หรอ…
“อืม เ้าของห้องไม่ได้อยู่ไทยแค่อยากหาคนเช่าหารายได้เฉยๆ”
“เอ่อ คือไม่ได้คนตายหรือผะ…”
“ไม่มี ถ้ากลัวก็ไปนอนห้องพี่” วินเอ่ยสวนก่อนที่เมจิจะถามจบพร้อมกับเสนอทางเลือกอื่นให้เธอ
“โอเคงั้นเมเช่าห้องนี้แหละ”
“หึ…ตามนั้น”
19:30 น.
หลังจากที่ตกลงเช่าห้องเป็ที่เรียบร้อยร่างหนาก็ช่วยเธอขนสัมภาระของใช้ต่างๆ เข้าห้องทั้งหมดโดยที่เธอแทบไม่ได้หยิบจับอะไรเลย
“ขอบคุณน้าพี่วิน ~ ทั้งเื่รถเมื่อ่เย็นแล้วก็เื่ที่หาห้องให้แถมยังช่วยเมขนของอีก”
“เราต้องตอบแทนพี่โดยการมากินข้าวด้วยกันทุกเย็น…ลืมหรอ?”
“ไม่ลืมๆๆ นี่ไงเราไปกันเลยไหมพี่อยากกินอะไร”
เสียงหวานรีบเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับจับแขนแกร่งให้ลุกขึ้นเดินตามเธอออกมา
“เรานี่น้า เผลอทีไรหาเื่โดนตัวพี่ตลอดเวลาเลย”
“…!” เป็งั้นไป…
“5555 ไปๆ กินในคอนโดก็ได้มีหลายร้านอยู่”
ด้วยความที่เป็คอนโดหรูภายในเลยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่ทำให้เธอร้องว้าวออกมาก็เพราะไม่คิดว่าบริเวณั้แ่ชั้นหนึ่งถึงสามของที่นี่นั้นกลับไม่ใช่นิติคอนโดหรือห้องพักแต่กลับเป็ห้างขนาดย่อมๆ ที่มีร้านค้าต่างๆ แต่จะเน้นไปทางของกินมากกว่า
“กินนี่ไหม พี่เคยมากินอร่อยดี” วินชี้นิ้วไปทางซ้ายมือของคนตัวเล็ก
“อื้ม เอาสิตามใจพี่เลย”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังร้านอาหารกึ่งบาร์อิซากายะ ก่อนจะมีพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามารับและพาไปยังโต๊ะมุมด้านในที่ว่างอยู่
ผ่านไปเพียงยี่สิบนาทีอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ…
“ซัปโปโรเบียร์ค่ะคุณผู้ชาย” เสียงพนักงานหญิงดังขึ้นก่อนจะวางแก้วที่มีเครื่องดื่มเย็นๆ ลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณครับ”
“อื้อ! อันนี้อร่อยมาก”
เมจิหยิบเนื้อย่างเสียบไม้อีกอันแล้วส่งให้คนตรงข้าม คนตัวสูงวางเครื่องดื่มในมือลงแล้วรับไม้ที่เมจิส่งให้ก่อนจะส่งอาหารในมือเข้าปากตัวเอง
“อืมม อร่อยจริง…ลองนี่ไหม” วินพูดพร้อมกับยื่นแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันส่งให้
“ไม่ดีกว่า เมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ” ฝ่ายหญิงตอบก่อนจะส่งยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท
“จริงหรอ? ไม่ชอบหรือแพ้?”
“อืม ไม่ชอบค่ะ มันดูย้อนแย้งกับหน้าแล้วก็บุคลิกเมใช่ไหมล่ะ”
เธอชินแล้วล่ะด้วยความที่เป็คนหน้าเหวี่ยงแล้วก็ชอบแต่งตัวคนส่วนมากก็จะคิดว่าเธอเป็ผู้หญิงแรงๆ เที่ยวกลางคืนทั้งๆ ที่ความจริงแล้วแทบจะเป็ยัยเมผู้ทรงศีล
“ก็ไม่เชิงนะ แต่แค่ถ้ามองจากภายนอกก็ดูก่ำกึ่ง”
“แล้วในความคิดพี่ คิดว่าเมดูแรงดูกร้านโลกผ่านผู้ชายมาเยอะไหม”
“อืม เื่นี้มันวัดกันแค่รู้จักผิวเผินไม่ได้หรอก” ั์ตาคมมองกลับมาที่เธอก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นกระดก
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กินอาหารกันไปพูดคุยเล่นกันไปอย่างออกรสออกชาติจนเวลาล่วงเลยไปสี่ทุ่มกว่าใกล้เวลาปิดร้าน…
“ดึกแล้ว…พี่ว่าเราไปกันดีกว่า” เสียงทุ้มเอ่ยชวนคนตัวเล็กหลังจากคุยกันเพลินจนลืมเวลา
ใบหน้าสวยพยักหงึกหงักก่อนที่เธอจะรีบแย่งเขาจ่ายเพราะั้แ่เจอกับพี่วินมาเขาแทบไม่ให้เธอออกอะไรเลย แต่วันนี้ขอยืนกรานว่าจะไม่ยอมเพราะเขาช่วยเธอไว้หลายเื่มากจริงๆ
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งเราที่ห้อง”
“ไม่ต้องๆ เมส่งตัวเองได้ค่ะ” เธอหันไปตอบเขาก่อนจะมองคนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังถอดแว่นตาออกมาเช็ด
“ส่งไม่ดีเท่าพี่หรอก” พี่วินพูดขึ้นพร้อมกับใส่แว่นเข้าที่เดิมแล้วหันมามองเธอ
หล่อตลอดไป! นั่นเสียงในหัวฉันเองแหะๆ
“คือ…เมไปห้องเองได้พี่กลับห้องพี่ไปเลย”
“เข้าไปในลิฟต์เร็วๆ” เขาได้สนใจที่เธอพูดไหมนะ…
