ฉินเฟิงยืนตัวตรงแบบสบายๆสีหน้าของเขาไม่ต่างอะไรกับน้ำ เขามองดูทั้งสองอย่างไร้อารมณ์“ฟังนายน้อยผู้นี้ให้ดี มีแค่ฉันเท่านั้นที่สามารถเล่นกับผู้หญิงของฉันได้ไม่ว่านายจะมีเงินแค่ไหน อย่าแม้แต่จะคิดแตะต้อง”
มุมปากของไป๋ชิงกระตุกตลอดมาเธอคิดว่าปากสุนัขของฉินเฟิงจะพูดอะไรดีๆ ไม่เป็เลย
“ฮ่าๆๆ ไอ้หมอนี่มันโง่สินะ” พี่เพลิงที่มีหัวสีแดงะเิเสียงหัวเราะออกมา“เหมิ่งจือ อาเวย จับไอ้เด็กนี่โยนลงทะเลไปเป็อาหารปลาซิแล้วพานางนั่นมาที่เรือข้า ข้าจะสอนบทเรียนพวกเอ็งวันนี้แทนที่จะโยกในรถหรือโยกบนม้า ข้าจะให้เอ็งรู้สึกถึงคลื่นทะเลบนเรือ”
ั์ตาของฉินเฟิงสว่างวาบเขามองไป๋ชิงและบอกตรงๆ “ชิงชิง โยกในทะเลก็ดีนะ อยากลองไหม?”
...
เสร็จสิ้นคำสั่งของพี่เพลิงเหมิ่งจือกับอาเวยก็ไม่ลังเลอีกต่อไปพวกนั้นเืพล่านแกว่งแขนและพุ่งมาหาฉินเฟิงจากทั้งสองด้านพร้อมกับท่อนไม้ที่อยู่ในมือ
ฉินเฟิงไม่อยากทำให้เป็เื่ใหญ่ถ้าคนพวกนั้นฉลาดและหลีกไปหลังจากที่เ้าลิงผอมโดนเตะตกทะเลฉินเฟิงก็จะไม่ยุ่มย่ามกับพวกมัน
แต่ตอนนี้สายตาของฉินเฟิงเย็นะเือาเวยมาจากด้านซ้ายด้วยความเร็วกว่าเล็กน้อยเขากำท่อนไม้และกำลังจะฟาดลงไปที่หัวของฉินเฟิง เหมิ่งจืออยู่ด้านขวาตามมาติดๆและกวาดไปที่น่องของฉินเฟิง
ทั้งคู่เป็นักสู้มากประสบการณ์และก็สู้ด้วยกันบ่อยๆการร่วมมือกันของพวกเขานั้นไร้พ่าย คนหนึ่งอยู่ด้านขวาส่วนอีกคนอยู่ด้านซ้ายคนหนึ่งโจมตี้าส่วนอีกคนโจมตีด้านล่าง และพวกเขาจู่โจมกันบนทะเล ดังนั้นคนธรรมดาจึงไม่มีทางหนี
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเมื่อไม้กำลังจะโดนตัวเขา จู่ๆ เขาก็ทะยานขึ้นสู่อากาศขณะที่กอดไป๋ชิงไว้
การะโนี้ไม่สูงนักแค่ประมาณเมตรเดียวหลังจากะโเสร็จฉินเฟิงก็เอี้ยวตัวตามแนวนอนและหมุนหลายตลบกลางอากาศหลบการโจมตีของทั้งสองคน
ท่อนไม้ทั้งสองวืดโดนอากาศพร้อมกันเมื่อฉินเฟิงลงพื้น เขายืนอยู่บนกระดานอย่างแม่นยำและความเร็วคงที่
ฉากนี้ทำให้อาเวยกับเหมิ่งจือใจนยืนเซ่อพวกนั้นตัวแข็งทื่อและลืมที่จะโจมตีฉินเฟิงต่อทั้งสองคนก็เชี่ยวชาญเวคบอร์ดเช่นเดียวกัน แต่เวคบอร์ดบนคลื่นมันก็ยังไม่ง่ายเหมือนกับยืนบนพื้นดินการเคลื่อนไหวของฉินเฟิงเมื่อกี้เป็สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้แม้จะอยู่บนพื้นดินก็ตามอย่าว่าแต่บนพื้นทะเลเลย
“กรี๊ด!”
ในฐานะที่เจอกับตัวเองไป๋ชิงใมากจนกรีดร้องไม่หยุด
แม้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะยากระดับห้าดาวแต่ฉินเฟิงก็ยังกอดเธอได้และยืนบนกระดานได้อย่างปลอดภัยอีกครั้งทว่าความระทึกใจมันคงเป็ไปไม่ได้ที่จะทำให้หัวใจคนสงบลงหัวใจของเธอยังเต้นรัวและเหมือนกับมันกำลังจะเด้งออกจากคอ
ความรู้สึกขวัญเสียที่เพิ่งผ่านไปยังอยู่ในหัวของเธอทั้งตัวของเธอและฉินเฟิงติดกันแน่น พวกเขาอยู่กลางอากาศหลายวินาทีและมันก็ลุ้นระทึกจนหัวใจตกไปที่ตาตุ่ม มันน่ากลัวกว่าในสวนสนุกอีกอย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวโลดโผนทำให้ไป๋ชิงเขิน ในเวลานี้ทั้งสองคนตัวติดกันแน่นเธอรู้สึกว่าฉินเฟิงมีปฏิกิริยาและขยับไปรอบๆ อย่างไม่หยุดสองสามครั้งเธอคิดว่าเขาน่ารังเกียจมาก
ฉากที่บ้าคลั่งและเร้าใจนี้ไม่สามารถหลบหนีสายตาของคนดูที่กำลังชื่นชมอยู่บนหาดได้
กลุ่มคนเล็กๆที่กำลังมองคนอื่นเล่นเซิร์ฟอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นก็อ้าปากค้างจนยัดไข่เป็ดเข้าไปได้ทั้งฟอง
“ทุกคนดูสาวสวยชุดบิกินีที่กำลังเล่นเวคบอร์ดนั่นสิ หนุ่มล่ำกำลังกอดสาวสวยคนนั้นตีลังกาล่ะ!”
ผู้คนบนหาดมาดูฉินเฟิงกับไป๋ชิงมากขึ้นตอนแรกไป๋ชิงก็เป็จุดสนใจของผู้คนอยู่แล้วแต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเธอไปเล่นเวคบอร์ดผู้ชายบนหาดก็เริ่มจินตนาการว่ามันคงจะเยี่ยมไปเลยหากพวกเขาเป็กระดานให้เธอเหยียบ
“บัดซบเอ๊ย ไอ้เด็กนี่ก็มีดีนี่หว่า มิน่าล่ะถึงได้กวนโอ๊ยนัก...พี่เพลิงขอขวดเบียร์เปล่าให้ผมหน่อย พ่อจะปาให้มันร่วงลงทะเลเลย”อาเวยกับเหมิ่งจื่อรู้สึกตัว พวกนั้นัักับความเร็วของฉินเฟิงแล้วจึงไม่มั่นใจที่จะเข้าไปใกล้เขา ครั้งนี้พวกเขาได้ถังขวดเบียร์เปล่าจากพี่เพลิงและพร้อมจะปามันในอากาศ
“ฮ่าๆๆ ครั้งนี้แกตายแน่ ฉันล่ะเกลียดคนที่มันอวดเก่งอย่างแกมากที่สุด”ด้วยถังเบียร์ในมือ อาเวยมีท่าทางสง่าผ่าเผยทันทีเขามองฉินเฟิงด้วยรอยยิ้มขี้เล่นราวกับว่าฉินเฟิงเป็ลูกแกะที่เข้าถ้ำหมาป่ามาให้เชือด
หลังจากพูดถ้อยคำเกรี้ยวกราดจบอาเวยก็เริ่มหยิบขวดมาปา แต่เพราะลมในทะเลแรงมาก ขวดจึงถูกพัดหลังจากที่เขาปาไปฉินเฟิงแค่เอี้ยวตัวเล็กน้อยก็หลบได้แล้ว
“เวรเอ๊ย พ่อไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่โดนเลย” แม้ว่าเขาจะพลาดไปครั้งหนึ่งอาเวยก็ไม่ได้กังวล
ครั้งนี้เขาคำนวณทิศทางและแรงลมด้วยทันทีที่ขวดเบียร์ถูกปาออกไปมันก็เบี่ยงเบนเล็กน้อยพร้อมกับทิศทางลมและตรงไปที่หัวของฉินเฟิง
อาเวยใช้แรงทั้งหมดปาขวดเขาอยากจะให้มันโดนหัวของฉินเฟิงให้บุบไปเลย
แววความเ็าแวบผ่านั์ตาของฉินเฟิงขณะที่กอดไป๋ชิงอยู่ เขาะโขึ้นสามถึงสี่เมตร พวกเขาอยู่กลางอากาศ่เวลาหนึ่งร่างของไป๋ชิงอยู่ด้านล่าง และฉินเฟิงโอบเอวของเธอแน่นอยู่ด้านหลัง
ทั้งสองหันหน้าเข้าหาทะเลและกลายเป็ฉากคู่รัก
ฉินเฟิงกอดไป๋ชิงเธอกลัวมากจนกรีดร้อง เธอกางแขนโดยสัญชาตญาณเป็ท่ากางปีก
“เวร ท่าไททานิคกลางอากาศเว้ยเฮ้ย!” เหล่าผู้คนบนหาดร้องอย่างบ้าคลั่งพวกเขาอึ้งโดยฉากที่น่าใ
เสียงเชียร์และกรีดร้องดังออกมาอาเวยกับเหมิ่งจื่อก็ได้ยิน
ตอนแรกพวกเขาจะมาสอนบทเรียนฉินเฟิงแต่กลับกลายเป็โชว์ของไอ้เด็กนี่มีคนดูจำนวนมากบนหาด ซึ่งเป็การตบหน้าพวกเขาอย่างง่ายๆตบที่ทำให้ทั้งหูและหน้าของพวกเขาแดงจนกัดฟัน
“เหมิ่งจื่อ อย่านิ่งสิวะ ปาพร้อมกัน มันจะมีโอกาสโดนมากกว่าปาคนเดียวไม่ต้องห่วงว่าแม่งจะโดนหรือเปล่าแค่ปาใส่มันก็พอขวดเยอะขนาดนี้พ่อไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่โดนมันเลย”
อาเวยโกรธจัดเขาะโไปทางเหมิ่งจื่อ เหมิ่งจื่อก็โกรธมากเช่นกันเขาเริ่มปาขวดใส่ฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง
ครั้งนี้ทั้งสองปาขวดใส่ฉินเฟิงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องอากาศเต็มไปด้วยขวดเบียร์เปล่าที่บินว่อนเหมือนกับปลาะโจากทะเลขึ้นมาหายใจก่อนจะกลับลงน้ำ
การโจมตีแบบถาโถมนี้ค่อนข้างรุนแรงฉินเฟิงกอดไป๋ชิงและเคลื่อนไหวในท่าที่น่าทึ่งต่างๆ นานาทั้งสองเหมือนกับนกคู่หนึ่งที่กำลังเต้นพลอดรักกัน
เสียงของคลื่นที่พุ่งขึ้นและตกลงเป็เหมือนเสียงดนตรีส่วนขวดเบียร์เปล่าที่กำลังลอยอยู่ในอากาศเป็แดนเซอร์ไป๋ชิงกลัวจนเครียดั้แ่ต้น เธอจึงปล่อยอารมณ์ปล่อยใจร้องเพลงแก้เครียดออกมาเสียงดัง
เสียงของเธอเหมือนดังมาจากที่ไกลๆเธอยังมีรูปร่างที่สวยงามและอ่อนช้อย เธอเต้นรำและขับร้องราวกับฟังเสียงโลมาจนคนดูที่อยู่บนหาดลืมแม้กระทั่งหายใจ