ณ หอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า
ด้านนอกอาคารมีเหล่าผู้ฝึกตนและเ้าของร้านค้าต่างๆ มากมายของเมืองอิ๋นเยวี่ย ที่มารวมตัวกัน เพื่อจับตาดูสถานการณ์ภายในหอกู่ฉินแห่งนี้อย่างสนอกสนใจ
คุณชายอาน? ท่านถังจู่แห่งหออี้ผิน? ทั้งสองฝ่ายต่างชักดาบเข้าหากันแล้ว!
ศิษย์หออี้ผินสองพันคนบุกเข้าไป ทว่าในอาคารกลับมีพลธนูสามพันคนรออยู่... ดูท่า ทั้งสองฝ่ายคงจะเปิดศึกกันแน่
เดิมที ก็เกือบจะเป็การปะทะกันของสองผู้นำ แต่ตอนนี้... กู่ไห่กำลังจะทำอะไรกันแน่?
ที่แท้พวกขี้แพ้กลุ่มนั้น ล้วนเป็คนของเขาหรือ?
นี่เป็ลูกน้องแบบไหน? แล้วคนผู้นั้นล่ะ เป็เ้านายแบบใด? ผู้แพ้กลุ่มนั้นใช้เงินโจมตีเ้าของร้านค้า แต่กู่ไห่กลับกล้าใช้เงินฟาดคุณชายอาน? เ้าคิดว่าเขาไม่เคยเห็นเงินหรืออย่างไร?
เหตุใดสถานการณ์ในยามนี้จึงแปลกนัก?
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างเบิกตากว้าง
ภายในหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า เหล่าศิษย์สังกัดไม้พากันเบิกตากว้าง... ท่านหัวหน้าสังกัดวารี อย่าได้อวดดีเกินไปได้หรือไม่?
“ไถ่ตัว? ข้าบอกเ้าหรือไร ว่าจะยอมให้เ้าไถ่คนเหล่านี้?”คุณชายอานมองกู่ไห่ด้วยสายตาเยียบเย็น
“อะไรกัน คุณชายอานไม่กล้าเสนอราคาอย่างนั้นหรือ?” กู่ไห่กล่าวพลางหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ
“หึๆ! หัวหน้าสังกัดวารีแห่งหออี้ผิน? เ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าไม่เคยเห็นเงิน?” คุณชายอานกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“คุณชายอาน ในเมื่อพื้นที่ของท่านมีกฎ ซึ่งข้าก็ไม่เข้าใจมันเท่าใดนัก จึงเพียงอยากรู้ว่า หากจะไถ่ถอนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมด ต้องใช้เงินเท่าใด?” กู่ไห่กล่าว
คุณชายอานมองอีกฝ่ายอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆ แสยะยิ้มเยาะหยัน “ดี! ถ้าเ้าอยากไถ่คน เช่นนั้นก็จ่ายหินิญญาระดับสูงหนึ่งหมื่นก้อนต่อหนึ่งคนก็แล้วกัน”
“อะไรนะ?” หลงหว่านชิงอุทานด้วยความใ
“หนึ่งหมื่น?” มู่เฉินเฟิงได้ฟังเช่นนั้น ก็เบิกตากว้าง
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนในพื้นที่รอบนอก ต่างก็พากันส่งเสียงฮือฮาอย่างตื่นตระหนกเช่นกัน
คนใต้อาณัติระดับก่อกำเนิดกลุ่มนี้ เ้าสามารถซื้อชีวิตของพวกเขาได้ ทว่าแต่ละชีวิตที่ต่ำต้อยนี้ กลับมีราคาสูงลิ่ว ต้องจ่ายหินิญญาถึงหนึ่งหมื่นก้อน? ทั้งยังหินิญญาระดับสูงอีกด้วย? นั่นเท่ากับหินิญญาระดับต่ำหนึ่งร้อยล้านก้อน!
เพื่อไถ่ตัวคน ต้องจ่ายหินิญญาระดับสูงเพิ่มอีกสิบเท่า? เ้าล้อข้าเล่นหรืออย่างไร?
“ล้อเล่นน่า! หินิญญาระดับสูงหนึ่งหมื่นก้อนต่อคน? ชีวิตของพวกเขา สามารถที่ซื้อเรือเหาะทองคำได้เชียวนะ!”
“ใช่แล้ว! ชีวิตเหล่านี้มีค่ามหาศาลนัก สามารถซื้อเรือเหาะทองคำได้เลยทีเดียว”
“คุณชายอานช่างทำให้กู่ไห่ลำบากใจจริงๆ!”
“กู่ไห่ผู้นั้น ไม่มีวันจ่ายแน่!”
“คนเจ็ดสิบคน หินิญญาชั้นสูงเจ็ดแสนก้อน? เขาจะจ่ายได้อย่างไร?”
ทุกคนต่างขบขันกู่ไห่ เหมือนเขาเป็ตัวตลก
เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ แม้แต่มู่เฉินเฟิงยังสั่นสะท้าน หินิญญาระดับสูงเจ็ดแสนก้อน? หรือเท่ากับหินิญญาระดับต่ำเจ็ดพันล้านก้อน กู่ไห่จะมีได้อย่างไร?... เป็ข้า ข้าก็ไม่จ่าย
เหล่าศิษย์สังกัดไม้ต่างตกตะลึง
แม้จะเคยเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของกู่ไห่พกเงินเยอะ แต่ก็ไม่อาจเรียกเงินเกินจริงเช่นนี้กระมัง? ได้ยินมาว่า พวกเขามาจากดินแดนแร้นแค้นในทะเลพันเกาะมิใช่หรือ?
ได้ยินเช่นนั้น หลงหว่านชิงก็โมโหทันที หินิญญาระดับสูงหนึ่งหมื่นก้อน ซื้อชีวิตผู้ฝึกตนระดับก่อกำเนิดหนึ่งคน นี่ล้อเล่นหรืออย่างไร?
หลงหว่านชิงแทบจะะเิโทสะแล้ว!
ครืน!
เบื้องหน้าของกู่ไห่ พลันมีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น
เพียงเขาพลิกมือ หินิญญาระดับสูงก็ปะทุออกมาราวกับสายน้ำหลาก
หินิญญาระดับสูง กลิ้งตกลงมาไม่ขาดสาย หลั่งไหลแผ่กระจายไปทั่วทุกมุม ดั่งสายน้ำที่ไหลผ่านทุกแห่งหน รอบบริเวณหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า
“หิน... มีหินเยอะแยะเลย!”
“หินิญญา... ทั้งหมดล้วนเป็หินิญญาระดับสูง? นี่ข้าตาฝาดไปแล้วหรือ?”
“นี่... นี่คือหินิญญาระดับสูงมากมาย กองกันเป็ูเาลูกเล็ก!”
“มากขนาดนั้น... ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”
“กู่ไห่? เขามีเงินมากมายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ช่างร่ำรวยนัก!”
หินิญญาเ่าั้ มีจำนวนมหาศาลจริงๆ เหล่าผู้ฝึกตนจากบริเวณรอบนอกต่างเบิกตากว้าง รู้สึกว่าร่างสั่นสะท้าน ประหนึ่งสิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็เพียงเงินตราธรรมดาไม่ใช่หินิญญา
แม้จะทำงานอย่างหนักถึงหนึ่งปี แต่ก็หาหินิญญาระดับสูงเช่นนี้ ได้แค่หลายร้อยก้อนเท่านั้น
แต่ของกู่ไห่ เหมือนผุดขึ้นมาเองจากพื้นดินกระนั้น
กู่ไห่ผู้นี้คือใคร? มาจากไหน? ร่ำรวยขนาดนี้เชียวหรือ?
ผู้ฝึกตนหลายคนที่อยู่ด้านนอก ดูเหมือนจะคลั่งไปเสียแล้ว
...
ภายในหอกู่ฉิน
บรรดาคนของสังกัดไม้ที่นำโดยมู่เฉินเฟิง ต่างเบิกตากว้าง อีกทั้งปากของพวกเขาก็ไม่อาจหุบลงได้ จึงอ้ากว้างจนยัดไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง
ภาพหินิญญาระดับสูง ที่แผ่กระจายราวกับสายน้ำหลากตรงหน้า เป็สิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต
แม้ข้าจะแข็งแกร่ง แต่กลับได้รับค่าตอบแทนเป็หินิญญาระดับสูงเพียงไม่กี่ร้อยก้อนต่อปีเท่านั้น ทว่ากู่ไห่ผู้อ่อนแอ ทั้งยังมาจากสถานที่แร้นแค้นเช่นนั้น กลับมีหินิญญาระดับสูงหลายล้านก้อน?
พลธนูชั้นบนต่างเบิกตากว้าง มองลงไปยังคลื่นหินิญญาที่กลิ้งเข้ามา จนทำให้มือไม้อ่อน เผลอปล่อยลูกธนูไป ทันใดนั้น ลูกธนูยาวก็พุ่งออกมา
เสียงะเิดังกึกก้อง
เถ้าแก่ร้าน เจียงเทียนอี้ เบิกตากว้าง ใช่ว่าไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน แต่แค่ไม่คาดคิด ว่ากู่ไห่จะเอาเงินออกมาได้มากขนาดนี้ ในชั่วพริบตา
ในใจของเจียงเทียนอี้ คิดว่าหินิญญาของหออี้ผินทั้งหมดรวมกัน ยังมีไม่มากเท่าตรงหน้าเขาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“คุณชายอาน?” เจียงเทียนอี้หน้าถอดสี ก่อนหันไปมองคุณชายของตน
ดวงตาของหลงหว่านชิงฉายแววไม่พอใจเท่าใดนัก แต่ไต้ซือหลิวเหนียวกลับยกยิ้มอย่างชอบใจ ดูจากสถานการณ์ในยามนี้ นี่ถือเป็ความสุขชนิดหนึ่งของกู่ไห่สินะ
บนระเบียง คุณชายอานมองลงมาด้วยความเจ็บใจ
เมื่อเห็นกู่ไห่พลิกมือ จากนั้นหินิญญาก็ปรากฏขึ้นมา พร้อมแผ่กระจายออกไป คุณชายอานก็รู้แล้ว ว่าท่าจะไม่ดีแน่!
ก่อนหน้านี้ นายน้อยอานไม่เคยสนใจอีกฝ่ายมาก่อน ดังนั้น การเรียกหินิญญาระดับสูงหนึ่งหมื่นก้อนต่อหนึ่งคนเช่นนี้ ก็แค่้าสร้างความอัปยศอดสูให้คนถือดีตรงหน้าเท่านั้น
แต่บัดนี้ กู่ไห่กลับพลิกมือ นำหินิญญาเจ็ดแสนก้อนออกมาโยนใส่เขา มันจึงไม่ใช่ความอับอายของอีกฝ่าย แต่กลับเป็การเสียหน้าของเขาเอง
หินิญญาหลายหมื่นก้อนนี้ มิใช่กำลังตบหน้าเขาอยู่หรอกหรือ?
ครืนๆ!
ในที่สุด ูเาหินิญญาก็ก่อตัวขึ้น เมื่อมองมาจากที่ไกลๆ เหล่าผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนก็รู้สึกตื่นตะลึง กับความมหาศาลของหินิญญาระดับสูงเหล่านี้
“เอาละ! ขอบคุณคุณชายอานมาก นี่คือหินิญญาระดับสูงเจ็ดแสนก้อน เช่นนี้แล้ว ก็ส่งคนของข้ามาเถอะ ข้าจะได้พาพวกเขากลับไป” กู่ไห่กล่าว พลางยกยิ้มด้วยท่าทีอันนิ่งเฉย ราวกับว่าหินิญญาหลายหมื่นก้อนนี้ ไม่ใช่ของตนแต่อย่างใด
“เ้า... เ้า! เพื่อคนระดับก่อกำเนิดกลุ่มนี้ เ้ายอมใช้หินิญญาระดับสูงถึงเจ็ดแสนก้อนมาไถ่ถอนเลยหรือ?” คุณชายอานจ้องกู่ไห่เขม็ง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ
“นี่ไม่ใช่กฎของท่านหรอกหรือ? คุณชายอานพูดเช่นนี้ คงไม่คิดที่จะกลับคำหรอกกระมัง? เพราะท่านคือคุณชายอาน!” กู่ไห่ยกยิ้ม
“ปล่อยคน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณชายอานจึงร้องสั่งเสียงเข้ม
“ไปกันเถอะ!”
ทันใดนั้น เหล่าศิษย์สังกัดไม้ต่างก็รีบปรี่เข้าไปรับเหล่าขุนนางเจ็ดสิบคนอย่างรวดเร็ว
“กู่ไห่? ฮ่าๆ! ดีๆ! ข้าประเมินเ้าต่ำเกินไป แต่ใช้หินิญญาระดับสูงหนึ่งหมื่นก้อน เพื่อซื้อผู้ฝึกตนระดับก่อกำเนิดเช่นนี้ อย่าได้เสียใจทีหลังล่ะ!” คุณชายอานกล่าวอย่างเ็า
“เสียใจ? คุณชายอานล้อเล่นหรืออย่างไร? พวกเขาเป็คนในปกครองของข้า คนใต้อาณัติของข้า ล้วนมีค่ามากกว่าหินิญญาเหล่านี้! พวกเขาล้ำค่านัก!” กู่ไห่เอ่ยเสียงเย็น
“ล้ำค่า? ฮึ่ม! ปากแข็งนัก! หินิญญาเจ็ดแสนก้อน… หึๆ! ยินดีต้อนรับ หากพวกเ้าจะกลับมาอีกในคราวหน้า!” คุณชายอานกล่าวเสียงเรียบ
“ได้สิ!” กู่ไห่ยกยิ้ม ก่อนพยักหน้าตอบรับ
“ใช่แล้ว! เถ้าแก่เจียงเทียนอี้” ทันใดนั้น กู่ไห่ก็มองไปที่เถ้าแก่ร้าน
“หืม?” เจียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น พลางมองกลับไปยังอีกฝ่าย
“ข้าอยากจะถามเ้าว่า กู่ฉินที่ทำจากไม้ธรรมดา ซึ่งไม่ใช่ไม้ิญญาที่ดีที่สุดที่พวกเ้ามี ขายราคาเท่าใด?” กู่ไห่ถามด้วยความอยากรู้
ผู้ฝึกตนต่างมองกู่ไห่อย่างงุนงง คนผู้นี้โง่เขลาหรือไร? เพิ่งล้วงหินิญญาเจ็ดแสนก้อนออกมาจ่าย แต่ยังคิดที่จะซื้อกู่ฉินอีกหรือ?
ทุกคนในร้าน ต่างมองกู่ไห่อย่างสงสัย ไม่แน่ใจว่าเขากำลังคิดที่จะทำอะไรอีก
“หอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า มีกู่ฉินทุกชนิด แม้แต่เครื่องดนตรีอื่นๆ ก็มี ทั้งพิณ กลอง ขลุ่ย และอื่นๆ
นี่คือกู่ฉินที่ทำจากไม้ธรรมดา เป็กู่ฉินป่านเสี่ยน ซึ่งปรมาจารย์ด้านกู่ฉินได้สร้างและปรับแต่งด้วยตัวเอง กู่ฉินตัวนี้ มีราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยหินิญญาระดับกลาง” เจียงเทียนอี้ชี้ไปยังกู่ฉิน ที่แขวนอยู่บนผนังไม่ไกลนัก
“กู่ฉินบนกำแพงนั้น ข้าก็เคยเห็น แต่ไม่มีใครซื้อมัน!”
“ใช่แล้ว! เป็แค่ไม้และสายธรรมดา ยังต้องใช้หินิญญาระดับกลางถึงหนึ่งร้อยก้อน... ข้าไม่ซื้อเด็ดขาด!”
“ถึงแม้จะเป็กู่ฉินของปรมาจารย์ แต่ข้าได้ยินมาว่าวางขายมาสิบปีแล้ว แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะแพงเกินไป!”
ผู้ฝึกตนที่ยืนอยู่ที่รอบนอก ต่างชี้นิ้วไปยังกู่ฉินโบราณราคาแพงตรงหน้า
“โอ้! หินิญญาระดับกลางหนึ่งร้อยก้อน? ช่างถูกจริงๆ เช่นนั้นข้าซื้อ” กู่ไห่กล่าว พลางยกยิ้ม
พูดจบ ก็หยิบหินิญญาระดับกลางออกมาอีกหนึ่งร้อยก้อน แล้ววางลงไปใกล้ๆ กับูเาหินิญญาระดับสูง
คุณชายอานและคนอื่นๆ ต่างมองกู่ไห่ด้วยความสงสัย ขณะพนักงานร้านนำกู่ฉิน ที่แขวนอยู่บนกำแพงออกมาอย่างระมัดระวัง และมอบมันให้กับหนึ่งในขุนนาง
“เช่นนั้น พวกเราต้องขอตัวไปก่อน ไม่รบกวนคุณชายอานแล้ว! ดีไม่ดี เดี๋ยวจะกลายเป็หัวขโมยอีกรอบ!” กู่ไห่มองคุณชายอาน พร้อมคลี่ยิ้มบางๆ
“เ้าไม่รู้สึกเสียดายหินิญญาระดับสูงเจ็ดแสนก้อนเลยหรือ?” คุณชายอานยังคงไม่เข้าใจในความคิดของอีกฝ่าย
“ได้ตัวคนหาเงินกลับมาแล้ว จะเสียดายทำไม ถึงใช้เงินไป เดี๋ยวก็ได้คืนมา!” กู่ไห่ส่งยิ้มเยาะกลับไป
หลงหว่านชิงหันหน้าไปมองกู่ไห่ แล้วจึงพยักหน้าให้อย่างรู้กัน
เมื่อโบกมือ ก็ถือเป็ดั่งสัญญาณ ศิษย์ของหออี้ผินจึงค่อยๆ ถอนกำลังออกจากหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้าทันที
หลังจากทุกคนล่าถอยไปแล้ว ก็เหลือเพียงคนของหอกู่ฉิน และคุณชายอานที่นั่งนิ่งอยู่บนระเบียง เขาพยายามสกัดกั้นอารมณ์อย่างหนัก
แครกๆ!
ถ้วยชาในมือ ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด
ถึงจะได้รับหินิญญาระดับสูงมากถึงเจ็ดแสนก้อน แต่คุณชายอานกลับรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ครานี้ แม้ว่าจะสามารถทำให้คนของหออี้ผินเจ็บได้ก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกไม่ชอบใจอยู่เช่นเดิม
เจียงเทียนอี้มองดูหินิญญามหาศาล ที่กองเป็ูเาอยู่ด้านล่าง ความยินดีพลันปรากฏบนใบหน้า “นายน้อยอาน อย่างไรเสีย ก็ถือว่าท่านหาเงินได้อยู่ดี หินิญญามากมายขนาดนี้ นี่เท่ากับกำไรซึ่งเราทำได้หนึ่งหรือสองปีเลยทีเดียว!”
กู่ไห่และทุกคน ต่างก้าวออกจากหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า
ผู้ฝึกตนจากภายนอกต่างพากันหลีกทางให้ ขณะมองกู่ไห่เป็ตาเดียวด้วยความประหลาดใจ
เวลานี้ เหล่าศิษย์หออี้ผินในต่างก็รู้สึกตะลึงงัน... กู่ไห่ หัวหน้าสังกัดวารีผู้นี้ ใจกว้างเกินไปแล้ว หินิญญาระดับสูงเจ็ดแสนก้อน กลับถูกโยนออกไปในพริบตา
“ฝ่าา! กระหม่อมมีความผิดสมควรตาย โปรดลงโทษด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่าขุนนางต่างพากันคุกเข่าลง เพื่อขอประทานอภัย
กู่ไห่หยุดยืนอยู่หน้าประตูหอกู่ฉิน มองดูแผ่นป้ายของหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้าด้วยใบหน้าเฉยชา ดวงตาส่องประกายเย็นะเื
“ลุกขึ้นเถอะ พวกเ้าไม่ผิด!” กู่ไห่กล่าวเสียงต่ำ
“แต่เป็เพราะพวกเรา ฝ่าาจึงต้องจ่ายหินิญญาชั้นสูงไปถึงเจ็ดแสนก้อน!” เหล่าขุนนางยังคงรู้สึกผิด
“เจ็ดแสนก้อนที่เสียไป จะได้คืนมาในเร็ววัน! พวกเ้าไม่จำเป็ต้องรู้สึกผิด ต่อไปเราจะเปิด ‘หอกู่ฉิน’ กัน” ดวงตาของกู่ไห่เต็มไปด้วยประกายเยือกเย็น
“หอกู่ฉิน?” หลงหว่านชิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง แสดงความแปลกใจ
“ท่านถังจู่ หินิญญาเจ็ดแสนก้อนก่อนหน้านี้ ล้วนเป็ของที่หลี่ฮ่าวหรานทิ้งไว้ ข้าใช้หินิญญาไปหมดแล้ว ตอนนี้หินิญญาที่มีอยู่กับตัว มีน้อยกว่าห้าหมื่นก้อน ข้าอยากซื้อร้านฝั่งตรงกันข้าม เพื่อเปิดหอกู่ฉิน ถ้าเงินไม่พอ...” กู่ไห่มองหลงหว่านชิง
“ราคาร้านที่นี่ถูกมาก ราวสี่หมื่นก้อนหินิญญาระดับกลางเท่านั้น แต่เ้าจะเปิดหอกู่ฉินจริงๆ หรือ?” หลงหว่านชิงมองกู่ไห่ด้วยความสงสัย
“สี่หมื่นหินิญญาระดับกลางหรือ? เยี่ยมมาก! ดูเหมือนข้าจะไม่หมดตัวเพราะซื้อร้าน... ข้าอยากเปิดหอกู่ฉินจริงๆ!” กู่ไห่กล่าวเสียงเรียบ
“กู่ไห่ เ้าบ้าไปแล้วหรือ? เ้าจะขายกู่ฉิน? บนถนนสายนี้ หอกู่ฉินทุกแห่ง ไม่อาจแข่งขันกับหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้าได้
ที่นี่เป็หอกู่ฉินอันดับหนึ่งในเมืองอิ๋นเยวี่ย แล้วเ้ายังจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขาอีก? เ้าเพิ่งจะสูญเงินไปนะ?” มู่เฉินเฟิงจ้องเขม็ง
“ข้ากู่ไห่ ไม่เคยเสียเงินเปล่าไปกับการทำการค้า!” กู่ไห่ส่ายศีรษะ ก่อนเอ่ยอย่างแน่วแน่
“จริงสิ! แล้วหอกู่ฉินของเ้า จะตั้งชื่อว่าอะไรล่ะ?” หลงหว่านชิงเชื่อใจอีกฝ่ายมาก จึงเพียงถามกลับด้วยความสนใจใคร่รู้
กู่ไห่หันกลับไปมองหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า พลันเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้า ก่อนเอ่ย “ข้าจะใช้ชื่อว่า หอกู่ฉินอันดับหนึ่งของถนน”
หอกู่ฉินอันดับหนึ่งของถนนสายนี้? หลงหว่านชิงตาเป็ประกาย เห็นได้ชัด ว่านี่เป็การประชันกับหอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า!
แม้ ‘หอกู่ฉินอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ จะบ่งบอกว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในแดนดิน แต่ชื่อ ‘หอกู่ฉินอันดับหนึ่งของถนน’ นี้ แม้จะฟังดูธรรมดาสามัญยิ่ง ทว่า กลับกดหัวฝ่ายตรงข้ามได้!
“กู่ไห่ นี่เ้าจะขายกู่ฉินจริงๆ หรือ? รนหาที่ตายเสียแล้ว!” มู่เฉินเฟิงมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง