ซั่งกวานจือหนิงแข็งแกร่งกว่าจูชิงมาก แม้ว่าขั้นบำเพ็ญเพียรจักถูกยับยั้งเหลือเพียงขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ หากก็หาได้อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
แสงสีแดงเพลิงลุกโชนโชติ่ดุจกระบี่ยาว อีกากระหายเืตัวใดก็ตามที่เข้าใกล้ล้วนถูกผลาญเผาไม่เหลือชิ้นดี กายามอดไหม้เป็ตอตะโก
จอมยุทธ์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณสามารถแยกลมปราณออกจากร่างกายได้ มีทักษะความสามารถในการสังหารศัตรูระยะไกล จูชิงเองก็อิจฉาในความสามารถดังกล่าวเช่นกัน
ทว่าสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือโล่เพลิงที่ปกป้องร่างของซั่งกวานจือหนิงเอาไว้ ถึงจักมีอีกากระหายเืข้ามผ่านแนวป้องกันของนางไปได้ แต่เมื่อใดที่มันััโล่เพลิงเข้า ทั้งร่างพลันถูกกลืนกิน ตัวดับสูญไม่เหลือกระทั่งกระดูกในพริบตาเดียว!
“พลังการต่อสู้ของนางไม่ธรรมดาเลย มิน่าล่ะเหตุใดถึงเอาตัวรอดมาได้จนถึงป่านนี้” จูชิงใจถอนหายเล็กน้อย
เพลานี้พวกอีกากระหายเืคลุ้มคลั่งไปแล้ว พวกมันจู่โจมซั่งกวานจือหนิงอย่างไม่กลัวตาย ถ้าเป็จูชิงถูกรุมโจมตีเฉกเช่นนี้คงทนได้ไม่กี่ลมหายใจ
ซั่งกวานจือหนิงเองก็ร้อนรนเช่นกัน ปกติแล้วอีกากระหายเืจักไม่ออกจากรังนานเท่าไหร่นัก แต่คราวนี้อีกากระหายเืนับพันกลับไล่ล่าสังหารนางอย่างไม่คิดชีวิต ซึ่งก็ไล่ออกมาไกลหลายสิบลี้แล้ว
แลที่ทำให้ซั่งกวานจือหนิงโกรธยิ่งกว่าก็คืออีกากระหายเืเอาแต่ไล่ตามนาง ไม่สนใจจูชิงเลยแม้แต่น้อย!
สถานการณ์เริ่มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ว่านางจักแข็งแกร่งก็จริง ทว่าจักเผาผลาญลมปราณเฉกเช่นนี้มิได้ มิว่าเป็แสงกระบี่หรือเกราะเพลิง ด้วยขั้นบำเพ็ญเพียรนี้ใช่ว่าจักคงอยู่ได้นาน
ซั่งกวานจือหนิงไม่กล้าคิดจินตนาการ ถ้าลมปราณถูกผลาญจนหมดจักกลายเป็เยี่ยงไร
“อั่ก!” บรรดาอีกากระหายเืพุ่งชนเกราะคุ้มกันกายของซั่งกวานจือหนิง ขาทั้งสองข้างของหญิงสาวสั่นสะท้านจวนเกือบจะล้ม
“แย่ล่ะสิ!” ซั่งกวานจือหนิงตื่นตระหนกเข้าให้แล้วจริงๆ นางประเมินร่างกายของตัวเองสูงเกินไป ยิ่งลมปราณถูกผลาญมากเท่าไหร่ ปฏิกิริยาตอบสนองก็เริ่มช้าลง
เมื่อเผชิญหน้ากับการล่าสังหารของอีกากระหายเืหลายพันตัว แม้เป็แค่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็เพียงพอแล้วที่จักทำให้ชีวิตหาไม่ เป็เพราะการเคลื่อนไหวของซั่งกวานจือหนิงที่ช้าลงไปครึ่งหนึ่งและเพราะครึ่งจังหวะที่ช้าลงไปนั้น พริบตาเดียวอีกากระหายเืนับร้อยตัวก็บินเข้ามารุมล้อมนางแล้ว
“ให้ตายเถอะ!” ซั่งกวานจือหนิงแค่นเสียงสบถ สะบัดกระบี่ยาวในมือ แสงเพลิงสาดส่องดุจดั่งไฟโลกันตร์
“ตู้ม!” แสงกระบี่เพลิงะเิปะทะกับเหล่าอีกากระหายเืกลางอากาศ พริบตาเดียวอีกากระหายเืนับสิบตัวก็ถูกเผาจนมอดไหม้
“นางยังมีพลังที่น่าพรั่นพรึงแอบซ่อนอยู่ด้วยงั้นหรือ!” ครั้นเห็นพลานุภาพของแสงกระบี่ จูชิงถึงกับเบิกตาทั้งสองกว้าง ถึงเป็เขาก็คงยากต้านทานอานุภาพของแสงนั่นได้
ทว่าพละกำลังอันเข้มแข็งเกรียงไกรของซั่งกวานจือหนิงนั้นเสื่อมทรุดจนเป็ม้าตีนปลายแล้ว แม้ว่าพลานุภาพจักน่าสะพรึงปานไหน สังหารอีกากระหายเืไปแล้วเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีความหมาย ในทางกลับกันเพราะกระบี่นั้นนางได้สูญเสียโอกาสสุดท้ายที่จะหนีออกไปจากวงล้อมนี้ไปเสียแล้ว อีกากระหายเืนับพันตัวพุ่งเข้ามาปิดล้อมทุกทิศทาง!
ซั่งกวานจือหนิงหน้าซีดเซียว กายอรชรสั่นสะท้านอย่างอดมิได้ ความหวาดกลัวต่อความตายเข้าครอบงำจิตใจ
นางเป็จอมยุทธ์หญิงแห่งขุนเขากระบี่เทียนหยวน เกิดมาพร้อมกับพร์ล้ำเลิศ นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจักต้องตาย ไม่คิดมาก่อนเลยว่าความตายจักอยู่ใกล้ถึงเพียงนี้
“ไม่! ข้ายังไม่อยากตาย!” ซั่งกวานจือหนึ่งใช้ลมปราณเฮือกสุดท้ายต่อต้านอีกากระหายเือย่างสุดกำลัง ทว่านางรู้สึกเพียงว่าแขนเริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ กระบี่ยาวที่อยู่ในมือเริ่มกวัดแกว่งช้าลง!
“ดูเหมือนนางจักทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!” เฒ่าปีศาจพูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?” จูชิงกลอกตา
“เ้าทนมองสาวงามถูกอีการุมทึ้งได้รึ?” เฒ่าปีศาจเอ่ยถาม
“นางเคยจะฆ่าข้าตั้งหลายครั้ง แต่ท่านอยากให้ข้าช่วยนางอย่างนั้นรึ!” จูชิงแค่นเสียงหึ
“ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย เ้าตัดสินใจเองสิ” เฒ่าปีศาจยิ้ม จากนั้นก็หายเข้าไปในศิลาผนึกิญญาพิชิต์เหมือนเคย
“เฮ้อ!” จูชิงมองซั่งกวานจือหนิงที่กำลังสิ้นหวังพลางถอนหายใจแล้วพุ่งปราดเข้าไปในทันที!
ครั้นััถึงกลิ่นไอับนร่างจูชิง พวกอีกากระหายเืละม้ายคล้ายเห็นผี พวกมันแผดเสียงร้องแล้วรีบบินหนีไป!
ลมปราณของซั่งกวานจือหนิงแห้งเหือดไม่เหลือแล้ว หากจูชิงมาช้ากว่านี้ก้าวหนึ่ง ซั่งกวานจือหนิงคงกลายเป็ศพไปแล้ว!
เขามองซั่งกวานจือหนิงที่หมดสติพลางกลอกตาแล้วพูดว่า “เ้าเป็หนี้ชีวิตข้า”
จูชิงอุ้มซั่งกวานจือหนิงกลับเข้ามาในป่าอีกาโลหิต สำหรับคนทั่วไปป่าอีกาโลหิตเปรียบเสมือนขุมนรก แต่สำหรับจูชิงนั้นมันคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด มิว่าเป็มนุษย์หรือว่าอสูรดึกดำบรรพ์ล้วนยากยิ่งที่จักข้ามผ่านถ้ำมาถึงหุบเขา
“ไม่...ไม่!” ทันใดนั้นซั่งกวานจือหนิงก็กรีดร้อง!
“ตื่นแล้วหรือ” จูชิงกวาดสายตามองซั่งกวานจือหนิง
“อะ…ไอ้หัวขโมย เ้า...” ซั่งกวานจือหนิงลืมตามาเห็นจูชิงก็เกรี้ยวกราดเหลือแสน นางอยากฉีกร่างของจูชิงให้แหลกเป็ชิ้นๆ จนแทบทนไม่ไหว ทว่าไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จักทำเช่นนั้น
“เ้า...เ้าทำอะไรกับข้า?” ซั่งกวานจือหนิงมองจูชิงด้วยความกลัว มือและเท้าของนางถูกมัดเอาไว้ั้แ่เมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้
“เปล่า ข้าแค่กลัวว่าเ้าจะเกิดคลั่งขึ้นมาก็เลยมัดเ้าเอาไว้ก่อน” จูชิงยักไหล่
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็ใคร กล้าทำแบบนี้กับข้า ไม่กลัวตายไร้ที่กลบฝังหรือ?” ซั่งกวานจือหนิงแผดเสียงเย็น
“ถ้าข้าปล่อยเ้า ข้าจักตายโดยมีที่กลบฝังหรือไร!” จูชิงกลอกตาแล้วตักน้ำในลำธารใส่หม้อหินต้มไข่อีกากระหายเื
