ให้ตาย คิดจะใช้การทรมานให้ยอมรับหรือ?
มาถึงตอนนี้หากเสิ่นม่านยังไม่รู้ว่านี่คือแผนของสองพี่น้องตระกูลเฉียน นางก็คงโง่เป็หมูแล้ว!
มีคนเข้ามาและบังคับให้นางคุกเข่า เสิ่นม่านขัดขืนและฟาดกลับไปตามสัญชาตญาณ
มือปราบคนนั้นถูกตบ ชั่วขณะนั้นเขานึกว่าคิดไปเอง!
ขัดขืนหรือ? ผู้หญิงคนนี้! ต่อต้านการจับกุม!
เสิ่นม่านก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
บ้าจริง! ในสมัยโบราณถ้าทำร้ายเ้าหน้าที่จะถูกจับไปบั่นคอหรือเปล่านะ?
แม้ว่านางจะวิตกกังวลในใจ แต่นางก็ยังทำใจแข็งเหมือนเช่นเคย
“การฆาตกรรมผู้อื่นต้องมีหลักฐาน พวกเ้าไม่มีหลักฐานแต่กลับจะทรมานให้ข้ายอมรับ! หากรู้ไปถึงนายอำเภอ พวกเ้าไม่มีใครหนีพ้นแน่!”
“บังอาจ!”
กุนซือเฉียนนั่งอยู่ตรงที่นั่งประธาน เขาโมโหจนหนวดแทบจะตั้งขึ้น
“หญิงชาวบ้านชั้นต่ำ! ผู้ตายเสียชีวิตบนที่ดินของเ้า และเคยมีความขัดแย้งกับเ้า หากไม่ใช่เ้าแล้วจะเป็ใคร? หรือว่าจะเป็ฝีมือข้าหรือไร?! ใครก็ได้! เอาเครื่องหนีบมา! วันนี้ต้องให้นางสารภาพให้ได้!”
หลังจากนั้นมือปราบทั้งหมดก็กรูกันเข้ามาล้อมตัวเสิ่นม่านไว้
เสิ่นม่านขมวดคิ้ว ขณะที่คิดว่าหากเปิดโหมดแข็งแกร่งเต็มขั้นตอนนี้จะสามารถปกป้องครอบครัวจากปัญหาในภายหลังได้หรือไม่
ครั้นแล้วนางยังไม่ทันลงมือ จู่ๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนิงโม่ เขาเคลื่อนตัวมาขวางด้านหน้านาง จากนั้นเปล่งเสียงแหบต่ำแฝงด้วยอันตรายออกมา
“ใครกล้าแตะต้องนาง?”
เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นม่านจ้องใบหน้าด้านข้างของเขาอยู่นานสักพัก
สมัยก่อนไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าเ้าหมอนี่ก็พูดจาน่าหวั่นเกรงเช่นนี้ได้ ตอนนี้เขาก้าวออกมาคนแรกและปกป้องนางไว้ข้างหลัง นี่มันช่างหล่อได้ใจโคตรๆ ไปเลย!
เสิ่นม่านรู้สึกว่า ต้องเป็เพราะชุดที่ตนเคยซื้อให้เขาหลายวันก่อนแน่นอน จึงทำให้ในที่สุดเ้าหมอนี่เกิดความซาบซึ้งต่อนาง!
ดูเหมือนว่าการให้ชุดนั้นไม่ได้เสียเปล่า!
ก่อนที่นางจะทันได้ปลื้มปีติไปกว่านี้ ด้านกุนซือเฉียนก็สติขาดผึง วันนี้เขาจับตัวอะไรกันมาแน่? แต่ละคนไม่คุกเข่าไม่พอ ยังต่อต้านคำสั่งเขาอีก? แล้วนี่ยังต่อต้านการจับกุมอีกด้วยหรือ?
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นายอำเภอ แต่อย่างน้อยก็เป็กุนซือเชียวนะ? อย่าทำเหมือนกุนซือไม่อยู่ในสายตาได้ไหม!
ความอดทนของเขาหมดลง จากนั้นออกคําสั่งเด็ดขาด
“ต่อต้าน! พวกต่อต้าน! รีบจับพวกอันธพาลให้หมดเดี๋ยวนี้!”
ด้วยคําสั่งนี้ คู่ต่อกรที่เหล่ามือปราบต้องเผชิญได้เปลี่ยนจากเสิ่นม่านคนเดียว กลายเป็สี่คน
โจวฉี่เซียนต่อสู้ไม่เป็ จึงถูกจับเป็คนแรก ส่วนเสิ่นม่าน หนิงโม่ และเยี่ยนชี ที่เหลือทั้งสามคนนี้กำลังปะทะหมัดและแข้งขากับเหล่ามือปราบ
เยี่ยนชีและหนิงโม่ต่างฝึกยุทธ์มาก่อน เสิ่นม่านยังไม่ทันลงมือ ก็ได้แต่จ้องมองดูคนทั้งสองเหินขึ้นกลางอากาศราวกับที่เคยเห็นในหนังจอมยุทธ์ เหล่ามือปราบแทบไม่ได้ััชายเสื้อของพวกเขาด้วยซ้ำ ก็ถูกล้มคว่ำจนช้ำเืช้ำหนองเสียแล้ว
สองคนนี้เปรียบดั่งลูกข่างที่ปลิวขึ้นลง วรยุทธ์ล้ำเลิศดั่งวายุพัดคลื่นลมกระหน่ำ ทำให้เหล่ามือปราบที่วรยุทธ์ไม่อาจทัดเทียมพวกเขาถึงกับไร้หนทางต่อกร!
ก่อนที่เสิ่นม่านจะรู้สึกตัวอีกที มือปราบทั้งห้องก็นอนกองกับพื้นเป็ูเาและส่งเสียงร้องโอดโอย
ยามนี้กลายเป็กุนซือเฉียนที่อึ้งจนตาค้างไป เขามองดูผู้ใต้บังคับบัญชาถูกล้มจนหมด ชั่วขณะนั้นเขาใจนหันขวับและคิดวิ่งหนีออกจากที่ว่าการอำเภอ
น่าเสียดายที่ยังไม่ได้ก้าวออกจากโถงก็ถูกเยี่ยนชีที่เหินมากระชากคอเสื้อไว้ จากนั้นลากกลับมาตลอดทางและโยนลงบนพื้น
กุนซือเฉียนใจนเข่าอ่อน จากนั้นใช้พัดบังใบหน้าชราของตนไว้และอ้อนวอนเสียงสั่น
“จอมยุทธ์หนุ่ม จอมยุทธ์หนุ่มทั้งหลายโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
ไว้ชีวิตของเ้า? หนิงโม่หรี่ตาลง
นึกว่าจะวางอำนาจได้เพียงใด ที่แท้ก็เป็พวกกระดูกอ่อน เก่งแต่กับคนอ่อนแอกว่า!
หนิงโม่เยาะเย้ยอย่างเ็า จากนั้นชิงพัดจากมือเขาและเคาะศีรษะของกุนซือเฉียน ั์ตาดำขลับคู่นั้นราวกับมีความมืดอนธการไหลเวียนอยู่
“ข้าประเมินนายอำเภออย่างจางหงอี้สูงเกินไป ถึงได้มีกุนซือใต้บังคับบัญชาที่ไร้ประโยชน์เช่นเ้า เ้าสืบสวนคดีเป็จริงหรือ? ไม่มีหลักฐานแต่กลับปรักปรำผู้บริสุทธิ์? หืม?”
กุนซือเฉียนอึ้งจนตาค้าง เขาตัวสั่นเป็เ้าเข้าและตอบอย่างระมัดระวัง
“ข้า ข้าน้อยเลินเล่อเอง ไม่ได้ดูสถานการณ์ให้ชัดเจนและปรักปรำพวกท่าน ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว!”
“สำนึกผิดจะมีประโยชน์อันใด?”
เสิ่นม่านแทบรอไม่ไหวที่จะลุกขึ้นไปเตะชายชรา
“เ้ากับน้องชายเฉียนซานเจียง สังหารคนและใส่ร้ายป้ายสีข้า แล้วยังจัดฉากปลอมขึ้นมา จุดประสงค์ก็เพื่อไม่อยากให้ข้าเปิดร้าน เพียงแค่สำนึกผิดแล้วคิดว่าจะจบเื่ได้หรือ?”
ไม่รู้เพราะมีหนิงโม่คอยหนุนหลังหรืออย่างไร เดิมทีนางยังกังวลว่าการที่ตนต่อต้านขัดขืนจะนำภัยไปสู่ครอบครัว เพราะถึงอย่างไรนางก็ยังไร้ที่ค้ำจุนในตำบลนี้
แต่เื่มาถึงตอนนี้ นางจะมัวกลัวนั่นกลัวนี่อยู่ไม่ได้แล้ว คนตระกูลเฉียนตั้งใจเล่นงานนางให้ตาย หากนางยังไม่ตอบโต้กลับ หรือต้องรอให้อีกฝ่ายกลืนกินนางจนไม่เหลือกระดูกก่อนหรือไร?
บนโลกนี้มีเื่ดีเช่นนั้นด้วยหรือ!
กุนซือเฉียนถูกด่าจนหัวหดจนเริ่มปั้นสีหน้าไม่อยู่ แต่ก็ยังทำปากแข็ง
“เสิ่นม่านเหนียง ศพถูกพบในพื้นที่ของเ้า หวังเอ้อร์โก่วนั่นก็มีปมขัดแย้งกับเ้า เ้ายังกล้าบอกว่าเ้าไม่ได้ฆ่าเขาหรือ?”
“เ้าผายลม!”
เสิ่นม่านคว้าชายชุดดำสองคนด้านหลังมาโยนต่อหน้าเขาและสอบถามสองคนนั้น
“พวกเ้าว่ามา! ใครสั่งพวกเ้าไปทำลายหลักฐานในคืนนี้?!”
สองคนนั้นตัวสั่นเพราะเสียงคำราม หลังจากลังเลอยู่หลายวินาที เมื่อไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว ถึงได้ชี้ไปทางกุนซือเฉียนและเอ่ยเสียงค่อย
“คือ คือน้องชายของกุนซือเฉียน เฉียนซานเจียงที่สั่งให้พวกข้าไป…”
“พวกเ้าใส่ความ!”
ก่อนที่จะพูดจบ กุนซือเฉียนลุกพรวดขึ้นและหัวเราะอย่างเ็า
“พวกเ้าทั้งหมด บุกที่ว่าการกลางดึก ทำร้ายมือปราบ แล้วยังป้ายสีญาติขุนนาง! ขอเพียงข้ารายงานต่อราชสำนัก พวกเ้าต้องได้รับโทษปะาชีวิตแน่!”
หลังจากนั้น เขายังข่มขู่เสิ่นม่านต่อ
“เสิ่นม่านเหนียง ข้าประเมินหญิงชาวบ้านอย่างเ้าต่ำเกินไป ไม่รู้ว่าไปหาผู้ช่วยมาจากไหน กระทั่งกล้าลงมือกับคนของทางการ ครั้งนี้เ้าก่อความผิดร้ายแรง! ข้าจะรายงานและขอให้บุกค้นยึดทรัพย์และทำลายล้างพวกเ้าทั้งตระกูล!”
บุกค้นยึดทรัพย์? ทำลายล้างตระกูล?
ช่างกล้าพูดเสียจริง!
หนิงโม่ชักดาบเล่มใหม่ของมือปราบที่อยู่ด้านข้างออกมา จากนั้นวางทาบบนคอของกุนซือเฉียนและเปล่งเสียงข่มขู่อย่างเยือกเย็น
“ถึงอย่างไรก็ต้องตาย เช่นนั้นมิสู้พวกข้าจัดการบั่นคอเ้าั้แ่ตอนนี้ เดี๋ยวค่อยไปจัดการน้องชายเ้า พวกเ้าสองพี่น้องจะได้มีเพื่อนร่วมทางไปยมโลก พวกข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อกำจัดภัยร้ายของชาวบ้าน เดาว่าถึงเวลานั้นชาวตำบลนี้ทั้งหมดคงยินดีไปร่วมดื่มกินในงานเลี้ยงที่บ้านเ้า”
พูดจบ ดาบของเขาก็ขยับเข้าไปใกล้อีกหนึ่งนิ้ว แนบติดกับผิวของกุนซือเฉียนพอดี ความกล้าหาญของกุนซือเฉียนเมื่อครู่อันตรธานหายไปราวกับเมฆหมอกเพราะดาบเล่มนี้
อยากหลบ แต่ใบมีดกลับแนบติดกับลำคอของเขา กระทั่งเริ่มกดเข้ามาในเนื้อหนังของเขาเล็กน้อย
“จอม… ท่านจอมยุทธ เราหาได้มีเื่บาดหมางกันมาก่อน เ้า… เ้าปล่อยข้าไปเถิด?”
“ปล่อยเ้าไปหรือ?” หนิงโม่ถือดาบและโยนให้เยี่ยนชี จากนั้นออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น
“ฆ่าทิ้ง”
เยี่ยนชีผงกศีรษะโดยไม่ลังเล “ขอรับ!”
ดวงตาของเ้านายมิอาจมีเม็ดทรายเล็ดลอดเข้ามาได้ ในเมื่อเจอกับงูเ้าที่เช่นนี้ อย่างมากก็แค่ตัดคอมันเสีย
เพียงแค่บุคคลที่แสนต่ำต้อยก็เท่านั้น มิคู่ควรให้มือของเ้านายเขาต้องมาเปื้อนเืด้วยซ้ำ? เื่แบบนี้ปล่อยให้เป็หน้าที่เขาดีกว่า
เมื่อเห็นเยี่ยนชีถือดาบเข้าใกล้กุนซือเฉียน ดวงตาดำมืดนั้นฉายรังสีสังหารออกมา
ทันใดนั้นเสียงเรียบสงบของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้นหน้าประตู
“อาจารย์หนิง โปรดยั้งมือก่อน!”
-----
