เอาเงินปันผลปลายปีไปให้หมดอย่างนั้นหรือ?
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 40 วันก็จะเป็วันตรุษจีนแล้ว หลานเฟิ่งหวงจะเปิดทำการอย่างน้อยถึงก่อน่หยุดตรุษจีน ซึ่งยังมีเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
แน่นอนว่าก่อนวันตรุษจีนผู้คนมักจะมาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่
สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องใช้ตั๋วซื้อผ้า ผู้คนที่ปกติรู้สึกเสียดายเงินค่าเสื้อผ้า มักจะซื้อชุดใหม่เพื่อเตรียมฉลองตรุษจีน หนึ่งเดือนก่อนตรุษจีนจึงเป็อีกหนึ่ง่ขายดีของร้าน
สำหรับเสื้อผ้าฤดูหนาว นี่คือโอกาสขายดีครั้งสุดท้าย เพราะหลังผ่านตรุษจีนไป แม้อากาศจะเหน็บหนาวเหมือนเดิม แต่เสื้อกันหนาวและเสื้อขนเป็ดที่แขวนอยู่บนราวของร้านคงแทบไม่มีใครสนใจ
การลดราคาเพื่อโละสินค้าในคลังเป็วิธีการแก้ไขอีกอย่างหนึ่ง แต่โชคดีที่ธุรกิจของหลานเฟิ่งหวงนั้นดีพอ ปริมาณสินค้าที่สั่งมาก็ถูกควบคุมไว้อย่างเหมาะสม อีกทั้งมักจะทำกิจกรรมแถมสินค้าอยู่เป็ประจำ แต่ราคาจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก ‘ลดราคาแค่่ปลายฤดูกาลเท่านั้น’ กลายเป็ภาพจำของลูกค้าไปแล้ว
ปีนี้หลานเฟิ่งหวงเน้นขายเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวเป็หลัก เสื้อโค้ทขนแกะสำหรับสุภาพบุรุษขายดีเป็เทน้ำเทท่า เสื้อขนเป็ดและเสื้อกันหนาวบุฝ้ายความยาวปานกลางสำหรับสุภาพสตรีก็เป็ที่นิยมเช่นกัน จากยอดขายของร้านในปัจจุบัน เงินปันผลปลายปีนี้คงได้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
หลิวหย่งบอกให้เซี่ยเสี่ยวหลานรับเงินปันผลปลายปีนี้ทั้งหมดไปคนเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานจึงปฏิเสธทันที
“แล้วจะหมุนเงินเพื่อสั่งสินค้าอย่างไรคะ ป้าสะใภ้ทำงานมาทั้งปี ปลายปีกลับไม่ได้เงินปันผล...”
“ทำไมจะไม่มีเล่า เงินปันผลครั้งก่อนๆ นั้นไม่ใช่เงินหรือ? บอกให้หลานเก็บไว้ หลานก็รับไปเถิด มันสมควรแล้ว”
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการปันผล โดยเฉพาะ่ขายเสื้อผ้าฤดูร้อนสองสามเดือนนั้นได้เงินมาจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หลิวหย่งที่ทำตกแต่งภายในอยู่เผิงเฉิงจำเป็ต้องมีเงินทุนจำนวนมาก หลี่เฟิ่งเหมยจึงเอาเงินปันผลที่ได้จากร้านเสื้อผ้าให้เขาไปทั้งหมด นอกเหนือจากการซื้อบ้านที่ปักกิ่งแล้ว นี่ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลิวหย่งไม่มีเงินสดสักเท่าไร
ร้านเสื้อผ้าที่ซางตูต้องมีเงินหมุน เื่นี้หลิวหย่งไม่กลัว เนื่องจากพอถึงปลายปี หลายโครงการที่เขารับไว้ในเผิงเฉิงก็จะถึงกำหนดชำระเงินแล้วน่ะสิ
ต่างจากทางด้านเซี่ยเสี่ยวหลาน หลังเปิดเรียนที่หัวชิง เธอก็ทุ่มเทให้กับการเรียน ไม่มีโอกาสหาเงินเพิ่มอีก เงินที่หามาได้ก่อนหน้านี้ก็นำไปซื้อเรือนสี่ประสานแล้ว ตอนนี้หาก้าเปิดร้านที่ปักกิ่งคงบริหารเงินลำบากอยู่บ้างอย่างแน่นอน
หลิวหย่งยืนกรานที่จะมอบเงินปันผลทั้งหมดให้ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องรับไว้อย่างยอมจำนน เงินเก็บที่มีบวกกับเงินปันผลจากร้านเสื้อผ้ารวมๆ กันแล้วคงได้สักแสนหยวน เปิดร้านใหม่ได้ไม่มีปัญหา
หลังคุยกับกงหยางเื่แบบตกแต่งภายในเสร็จ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่จำเป็ต้องดูแลเื่นี้อีก มอบงานให้หลิวหย่งจัดการย่อมไว้ใจได้อย่างแน่นอน
หลิวหย่งย้ายคนงานที่มีฝีมือมาที่ปักกิ่ง และหาคนท้องถิ่นเพิ่มจำนวนหนึ่ง เพื่อเริ่มลงมือตกแต่งร้าน ‘Luna’ กับร้านใหม่ของเซี่ยเสี่ยวหลานไปพร้อมๆ กัน สำหรับร้านใหม่ของเซี่ยเสี่ยวหลานนี้หลิวหย่งทำโดยไม่หวังผลกำไร เนื่องจากราคาที่เขาเสนอให้เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นช่างน่าใเหลือเกิน ความจริงตอนถึงกำหนดชำระเงินเขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่เก็บเงิน ต่างจาก ‘Luna’ ซึ่งคืองานของบริษัทอย่างแท้จริง คนรู้จักย่อมได้ส่วนลด แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจ คงจะขาดทุนทุกงานไม่ได้!
หลังออกแบบ ‘Luna’ เสร็จยังต้องให้เฉินซีเหลียงดูแบบร่างด้วย เพราะร้านที่หยางเฉิงก็จำเป็ต้องตกแต่งด้วยรูปแบบเดียวกัน หากสามารถลอกเลียนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยยิ่งดี ต่อไปทุกร้านจะต้องตกแต่งแบบนี้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กับลูกค้า
เฉินซีเหลียงไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ เขาจึงยินดีทำตามผู้เชี่ยวชาญทุกอย่าง
เื่การเสนอราคายิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าเขาไปหาคนอื่นมาตกแต่งจะได้ร้านรูปแบบเดียวกันหรือเปล่ายังไม่แน่ ทว่าที่แน่ๆ ราคาคงสูงกว่ามากทีเดียว
ส่วน ‘หย่วนฮุย’ ถ้า้าทำกำไรจากการตกแต่งภายในก็เป็เื่สมควรแล้ว!
น้ำใจส่วนน้ำใจ ธุรกิจส่วนธุรกิจ เฉินซีเหลียงร่วมงานกับเซี่ยเสี่ยวหลานหลายต่อหลายครั้ง เขายังไม่เคยบอกว่าจะให้ราคาทุนของโรงงานแก่หลานเฟิ่งหวงเลย สิทธิพิเศษที่มอบให้กับคนรู้จักได้คือสามารถเปลี่ยนสินค้ากลางฤดูกาลเท่านั้น
ดังนั้นหย่วนฮุยจะทำกำไรจากการตกแต่งภายใน เฉินซีเหลียงย่อมเข้าใจดี หลิวหย่งได้งานนี้ก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน การวิ่งงานระหว่างปักกิ่งกับหยางเฉิงไม่ยุ่งยากสักนิด แน่นอนว่าหากในอนาคต ‘Luna’ จะเปิดร้านสาขาอีก การตกแต่งภายในย่อมเป็ของหลิวหย่ง นี่ก็คือการซื้อขายระยะยาว
เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าตอนนี้เปิดแค่ 2 สาขา หากว่าในอนาคตจะพัฒนาจนเปิดได้ 20 สาขาก็คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วน 200 สาขาต้องพยายามอีกหน่อย แต่ถ้า 2,000 สาขาล่ะ นั่นก็คงต้องแล้วแต่โชคชะตา
หลิวหย่งเชื่อคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานมาโดยตลอด ตอนได้ยินว่าเธอจะเปิด 20 สาขาเขายังเชื่ออยู่... แต่ 2,000 สาขา? จะมีคนซื้อเสื้อผ้าเยอะขนาดนั้นเลยหรือ!
แบรนด์เสื้อผ้าลำลองของประเทศจีน ใน่เจริญรุ่งเรืองที่สุดมีสาขามากถึง 5,000 สาขา หาก ‘Luna’ ้าขยายธุรกิจจนมี 2,000 สาขาย่อมมีทางเป็ไปได้อย่างแน่นอน ด้านการผลิตเสื้อผ้าเฉินซีเหลียงมีพร์เป็อย่างยิ่ง ชาติก่อนไม่มีเซี่ยเสี่ยวหลานมาช่วยเช่นนี้ เถ้าแก่เฉินยังสามารถหาเงินจนร่ำรวยเป็ร้อยล้านได้ และชาตินี้พวกเขาสองคนจะร่วมมือกันได้นานแค่ไหน เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ตั้งตารอ
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตามมา
ปัจจุบันธุรกิจเสื้อผ้าของประเทศจีนยังเป็พื้นที่เวิ้งว้าง ทว่าอนาคตจะมีแบรนด์เสื้อผ้าลำลองและเสื้อผ้ากีฬาที่มีชื่อเสียง โดยส่วนใหญ่จะก่อตั้งขึ้นใน่ยุค 90 ทั้งสิ้น หาก ‘Luna’ เปิดตัวก่อนหลายปีเช่นนี้ ย่อมสามารถยึดพื้นที่ตลาดมาได้ก่อนไม่ใช่หรือ
การยึดครองพื้นที่ตลาดเป็เื่ยาก ผู้บริโภคในปี 1985 จะยอมรับเสื้อผ้าที่มีแบรนด์ได้หรือไม่?
จากระดับรายได้ของพวกเขา จะสามารถประคับประคองความ้าเสพความมียี่ห้อได้นานแค่ไหน?
หากทำธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปชั้นสูงในยุค 80 คงล้มละลายอย่างแน่นอน และเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ไม่เคยคิดอยากทำสินค้าแบรนด์เนม เธอกับเฉินซีเหลียงตั้งใจให้ ‘Luna’ เป็จุดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูประดับกลาง แม้จะแพงกว่าแผงข้างทาง แต่ก็ถูกกว่าห้างสรรพสินค้า อีกทั้งแบบชุดยังต้องมีหลากหลายและแปลกใหม่
ต่อไปจะขยายสาขาได้ถึง 2,000 แห่งหรือเปล่านั้นยังไม่แน่นอน แต่ถ้า 200 สาขาเซี่ยเสี่ยวหลานค่อนข้างมั่นใจ
—---------------------------------------------------
ฮ่องกง โรงพยาบาลแมรี
เซี่ยต้าจวินถูกส่งตัวจากหยางเฉิงมาที่ฮ่องกงเพื่อเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สอง
ตู้เ้าฮุยยินดีทุ่มเงินให้เขา แพทย์หัวหน้าทีมผ่าตัดคือผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ ตู้เ้าฮุยทุ่มเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อช่วยเซี่ยต้าจวินให้รอดพ้นจากความพิการอย่างแน่นอน จนเหลือโอกาสพิการแค่ 50% เท่านั้น
โอกาสที่จะหายดีกับพิการนั้นมีอยู่ครึ่งต่อครึ่ง
เซี่ยต้าจวินโง่แค่ไหนก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ถ้าาเ็ไม่ร้ายแรง คุณชายใหญ่จะส่งตัวเขากลับมาผ่าตัดรอบสองที่ฮ่องกงหรือ?
ทว่าผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษเอาแต่พูดภาษาต่างชาติ เซี่ยต้าจวินฟังไม่ออกสักคำ ทีมแพทย์ถูกกำชับว่าห้ามแพร่งพรายอาการาเ็ของเซี่ยต้าจวินให้ใครรู้ แม้แต่เซี่ยต้าจวินเองก็ไม่รู้อะไรมากนัก
โรงพยาบาลแมรีแม้จะเป็โรงพยาบาลรัฐของฮ่องกง แต่การบริการและเงื่อนไขทางการรักษานั้นดีเยี่ยมเป็อย่างมาก เซี่ยต้าจวินได้รับการดูแลแบบที่ชาวบ้านทั่วไปไม่มีวันได้รับ โดยเฉพาะการได้แพทย์จากอังกฤษมาผ่าตัดให้... เซี่ยต้าจวินาเ็เพราะคุณชายใหญ่มาแล้วสองครั้ง และทุกครั้งก็ยิ่งมีความเจริญก้าวหน้า โชคชะตาของคนเราช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน
สรุปคือเซี่ยต้าจวินเจ็บตัวอย่างคุ้มค่า คนที่สมองโง่เขลา ไม่มีหัวนอนปลายเท้า อยากสร้างผลงานล้วนต้องพึ่งพาโชคชะตาด้วยกันทั้งนั้น เมื่อโอกาสมาถึงต่อให้ต้องเสียเืเนื้อก็ต้องคว้าเอาไว้ให้ได้
ตู้เ้าฮุยเป็พวกยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อใจคน ดังนั้นคนที่อยู่ข้างกายเขา ถ้าใครยอมบุกน้ำลุยไฟไปกับเขา คนคนนั้นก็จะได้เลื่อนขั้น!
คนที่มีชีวิตรอดจะได้รับเงินเดือนมากขึ้น ส่วนคนที่ตายไปครอบครัวจะได้รับการดูแล ตู้เ้าฮุยใช้วิธีการที่สืบทอดต่อกันมาเป็พันๆ ปี และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผล แม้แต่คนติดตามก็ได้รับการดูแลเช่นนี้ ตู้เชิงหรงผู้เป็เองก็ไม่คัดค้าน อีกทั้งยังคิดว่าลูกชายของตนทำถูกต้องแล้ว
ตอนนี้ตู้เ้าฮุยอยู่ในห้องทำงานของตู้เชิงหรง เขาตั้งใจกลับมาที่ฮ่องกงเพื่อปรึกษาเื่ธุรกิจค้าของเถื่อนกับผู้เป็พ่อ แต่การถูกลอบฆ่าระหว่างทางทำให้เขาเปลี่ยนใจ
“ผมคิดว่าคุณลุงหลิวเป็คนมีความสามารถครับ ให้เขามาช่วยงานผมออกจะน่าเสียดายไปหน่อย ไม่สู้มอบหมายหน้าที่สำคัญกว่าให้เขา... พ่อครับ ผมอยากเสนอให้มอบหมายธุรกิจบางอย่างของเครือให้คุณลุงหลิวเป็คนดูแลครับ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้