แต่เมื่อมองไปที่ประตูที่เปิดออกเล็กน้อยของสวนร้อยสัตว์สีหน้าของเหนียนยวี่ก็ไม่น่ามองมากขึ้นเรื่อยๆ นางมาช้าไปก้าวหนึ่ง
ฮองเฮาอวี่เหวินเข้าไปแล้ว!
"ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย...ท่านแม่..."
ในสวนร้อยสัตว์ เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กน้อยบางคราเสียงนั้นราวกับว่ามันอยู่ไกลออกไป
เหนียนยวี่ได้ยินแว่วเข้ามาในหู นางไม่ชอบจัดการเื่เช่นนี้ทว่านางรู้สึกว่าเื่นี้อาจมีการสมคบคิด นั่นทำให้นางตัดสินใจได้ ก้าวฝีเท้ายาวๆตามขึ้นไปสวนร้อยสัตว์...
ภายในสวนร้อยสัตว์ปกคลุมด้วยความมืดมิด
เหนียนยวี่ลืมข้อความที่ขันทีบอกนางก่อนหน้านี้
นอกสวนร้อยสัตว์ หลังจากเหนียนยวี่เข้าไปในูเาจำลองภายในถ้ำของูเาจำลองสามารถมองเห็นทุกอย่างนอกสวนร้อยสัตว์ ร่างของคนสองคนยังคงแอบสั่นไหว
"อื้อ...อื้อ..."ฟางเหอที่มองไปทางประตูของสวนร้อยสัตว์ถูกมือหนึ่งเข้ามาปิดปากนางแน่นแทบจะหายใจไม่ออก
เสียงร้องที่นางร้องออกมาฉับพลันนั้นก็ทำให้เหนียนอีหลานที่อุดปากนางได้สติขึ้นมาทันที รีบปล่อยมือออกบางครั้งบางคราวก็ยังได้ยินเสียงเด็กแว่วเข้ามาข้างหู เหนียนอีหลานรู้สึกถึงความหวาดกลัวในใจแต่ในไม่ช้าความกลัวนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยสิ่งอื่น
เมื่อคิดถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหนียนอีหลานเหลือบมองและตำหนิฟางเหอ "เ้ารู้หรือไม่เมื่อครู่ที่เ้าส่งเสียง มันจะส่งผลให้เกิดอะไรขึ้น?"
สวนร้อยสัตว์นี้เดิมเป็พื้นที่ต้องห้ามหากถูกฮองเฮาอวี่เหวินเจอ...นางจะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดนางถึงได้มาอยู่ที่นี่?
เมื่อคิดถึงแผนการของตนตอนแรกยามที่นางเห็นฮองเฮาอวี่เหวินอยู่ที่นี่ นางคิดว่าวันนี้ทุกอย่างคงจะสูญเปล่า แต่นางไม่คาดคิดเลยว่า...
“เมื่อครู่...นั่นใช่คุณหนูรองหรือเ้าคะ?” ฟางเหอมองไปที่เหนียนอีหลาน และตอนนี้เสียงร้องของเด็กน้อยราวกับมาจากสวนร้อยสัตว์และเหนียนยวี่...
"คุณหนูรอง นาง...เข้าไปข้างในแล้วเ้าค่ะ"ฟางเหอพึมพำ
มุมปากของเหนียนอีหลานยกยิ้มในรอยยิ้มนั้นยากจะหลบซ่อนความตื่นเต้น "ใช่ นางเข้าไปแล้ว"
นางเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าความหวังที่หายไปจะเปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้งในฉับพลัน และก่อนที่นางจะต้องใช้แผนอื่นมาหลอกล่อเหนียนยวี่ก็เข้าไปด้วยตัวเองแล้ว
"นอกจากคุณหนูรอง ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็..." ฟางเหอนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้น อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ ท่าทางของฮองเฮาอวี่เหวินนั้นราวกับคนไม่มีสติภาพนั้นยังคงค้างคาอยู่ในหัวนาง
ทว่าในหัวของเหนียนอีหลานกลับคิดแต่เื่เหนียนยวี่ ตอนนี้เหนียนยวี่เข้าไปแล้วถ้าในสวนร้อยสัตว์แห่งนี้มีสัตว์ป่าดุร้ายจริงๆ ละก็ หึเกรงว่านางคงจะได้กลับออกมาแบบไม่มีชีวิต!
เหนียนยวี่เอ๋ยเหนียนยวี่หากเ้าตายในสวนร้อยสัตว์แห่งนี้ เช่นนั้น...หึ...นึกอะไรบางอย่างได้ ในดวงตาของเหนียนอีหลานก็ฉายแววดุร้ายก้าวเดินออกไปข้างหน้า ตรงมายังหน้ากลไกประตูสวนร้อยสัตว์
ถ้าไม่ใช่เพราะนางเห็นฮองเฮาอวี่เหวินเปิดประตูตรงนี้ นางก็คงไม่รู้ตำแหน่งของกลไก
หึ ท่านปู่บน์เองก็ช่วยนางหรือ
ในเมื่อเป็เช่นนี้ เกรงว่าครั้งนี้ถึงเหนียนยวี่จะโชคดีแค่ไหนก็คงหนีไม่รอดแล้ว
ฟางเหอเห็นการกระทำของเหนียนอีหลาน จึงเข้าใจเจตนาของนางอย่างชัดเจนคุณหนูคิดจะขังเหนียนยวี่ไว้ข้างใน แต่...
"คุณหนู ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็อยู่ข้างใน..." ฟางเหอก้าวไปข้างหน้าคิดอยากจะขัดขวาง คุณหนูขังเหนียนยวี่ไว้ในเวลาเดียวกันก็เป็การขังฮองเฮาอวี่เหวินด้วย นี่...
ฟางเหอนึกถึงภาพลักษณ์น่าเกรงขามของฮองเฮาอวี่เหวินในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก การวางแผนลอบทำร้ายฮองเฮาโทษหนักถึงขั้นปะาเก้าชั่วโคตร โทษนี้ ผู้ใดก็คงทนรับไม่ไหว ทว่าคุณหนูของนาง...
เหนียนอีหลานไม่กลัวฮองเฮาอวี่เหวินงั้นหรือ?
วันนี้ไม่ว่าจะในตำหนักชีอู๋ หรือที่งานเลี้ยงฉีเฉี่ยว แม้ว่าฮองเฮาอวี่เหวินจะปฏิบัติกับตระกูลหนานกงอย่างสุภาพทว่าในใจของฮองเฮาอวี่เหวินยังคงหวังให้อวี่เหวินหรูเยียนจากแคว้นตงหลีคนนั้นได้เป็มู่อ๋องเฟย
อย่างไรก็เป็เพียงอุปสรรคของตนถึงจะเป็ฮองเฮาแล้วอย่างไร? ทำลายให้หมดในครั้งเดียวไปเลยก็ดี!
"ที่นี่มีแค่เราสองคนเ้าไม่บอก ข้าไม่บอก ผู้ใดจะไปรู้ว่าใครปิดประตูนี้" เหนียนอีหลานหรี่ตาและจ้องไปที่ฟางเหออย่างฉับไว "เ้าจะบอกงั้นหรือ?"
ความโเี้ในดวงตา ทำให้ในใจฟางเหอสั่นสะท้านถูกขู่ขวัญให้ใไปครู่หนึ่ง
"หึ ถ้าเ้ากล้าเอ่ยออกมาเช่นนั้นข้าก็จะให้เ้าเข้าไปเป็เพื่อนพวกนาง...เป็อย่างไร?" เหนียนอีหลานกัดฟัน สีหน้าบนใบหน้างดงามนั้น ท่ามกลางแสงสีในค่ำคืนนี้ ดูน่ากลัวเป็พิเศษ
จู่ๆ ฟางเหอก็ได้สติคุกเข่าลงบนพื้นอย่างตื่นตระหนกหวาดกลัว "บ่าวไม่พูด บ่าวไม่กล้าพูดไม่กล้าพูดแล้วเ้าค่ะ"
เหนียนอีหลานยกยิ้มมุมปากพ่นลมหายใจออกมาอย่างเ็า ถอนสายตาออก มือที่เดิมควรจะขยับกลไก ก็ดึงกลับมา
ฟางเหอที่กำลังงุนงงสงสัยการกระทำของนางก็ได้ยินเสียงนางสั่งขึ้นมาว่า "เ้ามานี่!"
"บ่าวหรือเ้าคะ?" ฟางเหอชี้มาที่ตัวเองรู้สึกถึงกลิ่นอายมืดมนที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเหนียนอีหลาน นางลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว ราวกับกลัวว่าจะไปกระตุ้นความไม่พอใจของนางขึ้นมาอีกครั้งฟางเหอไม่กล้าเฉยเมยแม้สักนิด รีบลุกขึ้นทันที ก้าวเดินไปที่ประตูแล้วดึงกลไกประตู
เสียงกระแทกนั้น ไม่ดังแต่ก็ไม่เบา
ประตูถูกปิดลงและมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเหนียนอีหลาน เหลือบมองไปที่สวนร้อยสัตว์และหันหลังกลับด้วยความพึงพอใจ
ภายในสวนร้อยสัตว์
ทันทีที่เข้าไปในสวนร้อยสัตว์ ฮองเฮาอวี่เหวินไล่ตามเสียงร้องของเด็กน้อยคนนั้นวิ่งตามอย่างไม่หยุดพัก เสื้อผ้าหรูหราที่ผ่านป่าทึบและพุ่มไม้หนามขาดรุ่ยเละเทะทว่าในป่าทึบแห่งนี้ แม้นางจะไล่ตามเต็มที่เท่าไร ก็มิอาจไล่ตามเสียงนั้นทันและไม่เจอลูกสาวของนาง!
ท้ายที่สุด แม้แต่เสียงนั้นก็ยังหายไป
ฮองเฮาอวี่เหวินหลงทางไประยะหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ฝีเท้าเท่านั้นในใจเองก็สับสน
ทว่าในหัวของนาง เสียงร้องขอความช่วยเหลือนั้นยังคงดังก้องไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“จี้เยวี่ย...เ้าอยู่ที่ไหน? บอกแม่มาว่าเ้าอยู่ที่ไหน...แม่มาช่วยเ้าแล้ว...” ฮองเฮาอวี่เหวินะโไปรอบๆ สีหน้ากังวล นางในยามนี้มิใช่ฮองเฮาผู้สง่างามน่าเกรงขามที่ปกครองวังหลังเช่นปกติคนนั้นนางเป็เพียงมารดาคนหนึ่งที่มีหัวใจห่วงหาลูกของตน
ทว่าไม่ว่านางจะะโออกไปอย่างไร ก็ไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย
เหนียนยวี่ไล่ตามเสียงะโของนางมาจากทางด้านหลัง
"ฮองเฮา..."ยามที่เหนียนยวี่เจอฮองเฮาอวี่เหวิน ท่าทีของฮองเฮาอวี่เหวินทำให้นางตกตะลึงไปเล็กน้อย เพียงแค่มองแผ่นหลังนางรู้สึกเหมือนว่าตนเองสามารถรับรู้ได้ถึงความเ็ปรวดร้าวของสตรีนางนี้
เสียงที่ดังขึ้นมากะทันหัน ทำให้แผ่นหลังนั้นสะดุ้งใจากนั้นฮองเฮาอวี่เหวินก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ดูให้ชัดว่าเป็ใคร นางรีบก้าวมาข้างหน้าและคว้ามือของเหนียนยวี่สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "เ้าเห็นจี้เยวี่ยหรือไม่? เห็นลูกสาวข้าหรือไม่?"
คำถามนี้ทำให้เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ฮองเฮาอวี่เหวินคิดจริงๆหรือว่าเสียงเมื่อครู่เป็เสียงขององค์หญิงจี้เยวี่ย?
นางอยากกล่าวว่าองค์หญิงจี้เยวี่ยสิ้นพระชนม์ไปแล้วนางสิ้นพระชนม์ไปั้แ่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เสียงนั่นไม่มีทางเป็องค์หญิงจี้เยวี่ยได้ทว่าดูสภาพของฮองเฮาอวี่เหวินในยามนี้...
เหนียนยวี่สูดหายใจลึก และเอ่ยปลอบประโลมอย่างนุ่มนวลว่า"ข้าเห็นเพคะเหนียงเหนียง ข้าจะพาท่านไปหาองค์หญิงจี้เยวี่ย...เป็อย่างไรเพคะ?"