บทที่ 21 ปะทะสัตว์ปีศาจ
เมื่อเงาของสัตว์ปีศาจปรากฏขึ้น ฉู่อวิ๋นก็ะโขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่
โชคดีที่ฉู่อวิ๋นตื่นตัว หากเขาตอบสนองช้ากว่านี้คงถูกรายล้อมไปด้วยสัตว์ปีศาจเหมือนมู่หรงเหิงกับหลินหล่างแล้ว
เขาเหลือบมองลงไปจากกิ่งไม้ ยังคงมีเงาของสัตว์ปีศาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็สิบตัว ทั้งหมดเป็สัตว์ปีศาจระดับห้า ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ขนหัวลุกได้
สัตว์ปีศาจระดับห้านั้นเทียบเท่ากับพลังของนักรบขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับห้า
“ที่นี่มีสัตว์ปีศาจมากมายถึงเพียงนี้! คงเป็เพราะทะเลแห่งโอสถกระมัง!”
ใบหน้าของฉู่อวิ๋นเคร่งขรึม เขาจ้องมองไปยังทิศทางของพวกหลินหล่าง ทำให้เห็นว่าพวกเขาถูกล้อมรอบด้วยสัตว์ปีศาจแปดตัว นอกจากนี้ยังมีสัตว์ปีศาจระดับห้าสองตัว คือ พยัคฆ์เตโช และหมีลายโลหิตต่างวิ่งไปทางมู่หรงซินหมดแล้ว
ในเวลานี้ เมื่อมองดูสัตว์ปีศาจที่อยู่รอบตัว มู่หรงเหิงก็แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาบ้าง เขาอยู่ในระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณทั้งยังมีพลังยุทธ์สูงส่ง แม้ว่าเขาจะหยิบธนูกระดูกเหล็กขึ้นมาแต่ก็อดมือสั่นไม่ได้ แล้วรีบเดินไปหาหลินหล่าง
ทันใดนั้น มู่หรงเหิงก็เงยหน้าขึ้นและพบว่าฉู่อวิ๋นกำลังสังเกตการณ์อยู่บนต้นไม้ เขาพูดอย่างกังวล "เ้าดาวหายนะ...ไม่สิ ฉู่...ฉู่อวิ๋น! เ้ายังไม่รีบมาช่วยพวกข้าอีก? ถ้า...ถ้าพวกข้าถูกสัตว์ปีศาจฆ่าตาย เ้าก็อย่าคิดที่จะออกไปจากป่าเลย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินหล่างก็เห็นฉู่อวิ๋นมองลงมาที่พวกเขา จึงรีบะโ "ทำไมเ้ายังไม่รีบลงมาช่วยกันต้านพวกสัตว์ปีศาจนี้อีก? น้องหญิงซินยังตกอยู่ในอันตราย เ้ากลับคิดนั่งดูอยู่เฉยๆ งั้นหรือ? น่ารังเกียจนัก เ้ายังนับว่าเป็คนอยู่อีกหรือ?”
ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาทั้งสี่อยู่ด้วยกัน หลินหล่างและมู่หรงเหิงได้เห็นฉู่อวิ๋นฆ่าสัตว์ปีศาจระดับห้ากับตา
แม้ตอนนี้คำพูดอาจไม่น่าฟังนัก แต่ในใจพวกเขาไม่ได้ถือว่าฉู่อวิ๋นเป็นักรบระดับสี่ทั่วไปของขอบเขตควบแน่นพลังปราณอีกต่อไป
หากเป็เพียงนักรบขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับสี่ธรรมดาทั่วไป จะฆ่าสัตว์ปีศาจระดับห้าเพียงลำพังได้หรือ?
ตอนนี้ ฉู่อวิ๋นได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของทั้งคู่ แต่เขาก็ไม่แยแสและเอ่ยอย่างใจเย็น "โหมวายุของคุณชายหลินหล่างทรงพลังเสียขนาดนั้น คงจัดการกับสัตว์ปีศาจพวกนี้ได้โดยง่าย ข้าว่าพวกเ้าคงไม่้าความช่วยเหลือจากข้าหรอก”
“นอกจากนี้ ั้แ่ต้นจนจบ ข้าตกลงที่จะช่วยค้นหาสมุนไพรกับมู่หรงซินเท่านั้น เ้าสองคนไม่ใช่เพื่อนของข้า”
ทันทีที่พูดจบ ฉู่อวิ๋นก็ไม่หันกลับมามองอีก และผละจากตรงนั้นไปทันที ะโเปลี่ยนกิ่งไม้ต้นไม้เพื่อรีบไปหามู่หรงซิน
“อยากทำลายการล้อมโจมตีมีแต่ต้องช่วยมู่หรงซินก่อน! ไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตาย” ฉู่อวิ๋นแอบวิเคราะห์ในใจ
มู่หรงซินเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเขา หากจะเอาชนะหมีลายโลหิตสัตว์ปีศาจระดับหก เรายังต้องพึ่งนางอยู่ ส่วนมู่หรงเหิงและหลินหล่างคงต้องปล่อยให้พวกเขาช่วยเหลือตัวเองไปก่อน ขอแค่พวกเขาสามารถถ่วงเวลาออกไปได้สักครู่ก็โชคเข้าข้างแล้ว
พวกเขาทั้งคู่ต่างเยาะเย้ยและมีเจตนาฆ่าเขา ฉู่อวิ๋นไม่ฆ่าพวกเขาก็ถือเป็ความเมตตากรุณาอย่างที่สุดแล้ว
คำตอบที่ว่าควรช่วยใครก่อนนั้น คิดแล้วก็ง่ายมาก
“เ้า...เ้าจะไปจริงๆ หรือ?!” เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นทอดทิ้งพวกเขา มู่หรงเหิงและหลินหล่างก็ได้แต่กัดฟัน เบิกตาโตด้วยความโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สัตว์ปีศาจหลายตัวรอบตัวพวกเขาพากันแยกเขี้ยวกางกรงเล็บใส่พร้อมทั้งรีบวิ่งเข้าหา บังคับให้พวกเขาต่อต้านอย่างสุดกำลัง
ทั้งคู่ทำได้เพียงแอบสาปแช่งฉู่อวิ๋น
ไกลออกไป มู่หรงซินจ้องมองไปที่สัตว์ปีศาจที่เดินเข้ามาหา คิ้วของนางขมวดมุ่น ใบหน้านวลเคร่งขรึม นางหยิบธนูหยกเล็กๆ ออกมาจากด้านหลังโดยตั้งใจจะง้างคันธนูยิงเพื่อไล่หมีลายโลหิตออกไป
แต่ในขณะที่นางยกมือขวาขึ้น ก็รู้สึกเ็ปจากอาการหักทันที นางจึงกัดฟันแน่น หยาดเหงื่อสองสามหยดไหลอาบแก้มผ่องขาว
“เจ็บ...เมื่อกี้ข้าประมาทไปแล้ว! เ้าหมีเหม็นนี่…” มู่หรงซินพยายามยกคันธนูหยกขึ้นอีกครั้ง แต่ความเ็ปรวดร้าวก็ยังคงเกิดขึ้น รู้สึกหน้ามืดกะทันหันจนเกือบจะเป็ลมไป
“ให้ตายเถอะ! ถ้ารู้ว่าจะเป็เช่นนี้เมื่อครู่ข้าคงไม่บุ่มบ่ามออกไปอย่างนั้น!” เมื่อมองไปที่คันธนูกระดูกหยกอันวิจิตร ตาคู่งามของมู่หรงซินก็เป็ประกาย
“ดูเหมือนจะใช้พลังิญญาได้เท่านั้น!”
ทันใดนั้น มู่หรงซินก็ถือคันธนูด้วยมือซ้ายอย่างไม่เต็มใจ แต่มือขวาของนางกลับไม่ขยับ นางนึกคิดอยู่ครู่หนึ่งก็มีลูกศรขนหางสีสันสดใสปรากฏขึ้นข้างหลัง
ิญญายุทธ์ที่มู่หรงซินปลุกขึ้น คือิญญายุทธ์ระดับห้าปัญจศร
พร์ิญญายุทธ์ของนางค่อนข้างพิเศษซึ่งแตกต่างจากผู้ฝึกธนูทั่วไป ในพลังยุทธ์ระดับล่าง นางสามารถใช้พลังปราณเปลี่ยนเป็ศรขนนกห้าดอกแทนที่จะใช้ลูกศรจริง ซึ่งใช้งานได้ดีมาก
ยิ่งกว่านั้น ศรจากพลังปราณสามารถยิงได้ด้วยความคิด แม้ว่าจะไม่ได้ง้างคันธนู แต่ก็ยังสามารถทำร้ายคนได้ เพียงแต่พลังสังหารจะลดลงเท่านั้น
แต่การใช้พรประเภทนี้ต้องใช้พลังปราณจำนวนมากในการควบแน่นให้เป็ลูกศรและเวลาในการใช้ก็มีจำกัด
ตอนนี้มู่หรงซินยกคันธนูหยกด้วยมือซ้าย ควบแน่นลูกศรห้าดอกและเล็งไปที่ร่างของหมีลายโลหิต หรี่ตาลงแล้วใช้พลังจิตควบคุมปราณลูกศรที่จะยิงออกไป
“ฟิ้ว——”
ศรห้าดอกวิ่งฉิวพุ่งผ่านความว่างเปล่า และบินไปปักกลางอกของหมีลายโลหิตอย่างแม่นยำ
"โกรวว!"
แม้ว่าหมีลายโลหิตจะทรงพลังแต่ก็ไม่ได้ว่องไวนัก เมื่อเห็นว่ามันไม่สามารถหลบลูกศรได้ จึงเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อต้านทานศรห้าดอกที่แม่นยำและทรงพลัง!
"ฟึ่บ!"
ลูกศรยิงเข้าถูกหมีลายโลหิตทำให้มู่หรงซินมีความสุขยิ่งนัก แต่ต่อมานางก็พบว่าลูกศรทำอะไรหมีลายโลหิตไม่ได้เลย ทำได้เพียงแค่หยุดไม่ให้มันก้าวต่อเท่านั้น
"ให้ตายเถอะ!"
มู่หรงซินกัดริมฝีปากแล้วยิงธนูอีกหลายดอกใส่หมีลายโลหิต แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งของมันได้
ในไม่ช้า หมีลายโลหิตก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับพลังของลูกศรได้ และเริ่มก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่ดุร้าย
"หากยังเป็แบบนี้อยู่ข้าต้องหมดพลังก่อน พวกพี่ชายก็ต้องตายแน่!" มู่หรงซินกังวลและเริ่มตื่นตระหนก
มู่หรงซินสดใสมาั้แ่เด็กและมีความสามารถโดดเด่น นางกับฉู่เฟยเป็ที่รู้จักร่วมกันในนาม "คู่งามแห่งไป๋หยาง" นางมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ทั้งยังไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมานมากเท่าตอนนี้
แต่วันนี้เพราะความประมาทของนางเอง มือขวาถูกกระแทกจนหัก ความสามารถในการต่อสู้ก็ลดลงอย่างมาก จึงได้แต่เฝ้ามองตัวเองจนปัญญาอย่างช่วยไม่ได้
“วันนี้ข้าจะต้องตายอยู่ที่นี่หรือ? ท่านแม่...”
เมื่อมองดูพยัคฆ์เตโชระดับห้าสองตัวที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับหมีลายโลหิตระดับหกที่มีเจตนาฆ่านาง มู่หรงซินเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย ทำได้เพียงยิงธนูออกไปเพื่อยืดชีวิตสักชั่วขณะหนึ่ง...
หลังจากนั้นไม่นาน แม้ว่าหมีลายโลหิตจะยังไม่เข้าใกล้มู่หรงซิน แต่พยัคฆ์เตโชก็ค่อนข้างฉลาดและเข้าใจว่าเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าเหนื่อยเกินกว่าจะจัดการกับหมีลายโลหิตได้ จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับมันนัก
“โฮ! โฮก!”
ทันใดนั้น พยัคฆ์เตโชทั้งสองก็เปิดปากที่เปื้อนเื เผยให้เห็นเขี้ยวที่ดุร้ายและวิ่งตรงมาที่มู่หรงซินพร้อมกัน!
“ท่านแม่...ข้าขอโทษ!” เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย น้ำตาแห่งความสิ้นหวังก็ไหลออกมา
เมื่อพยัคฆ์เตโชกำลังจะกัดเข้าที่คอของมู่หรงซินที่เรียบเนียนราวกับหยก ทันใดนั้น แสงเย็นสีม่วงก็ส่องผ่านท้องฟ้าราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์บนท้องนภา! เกิดเสียงลมพัดดังกึกก้อง!
"ควั่บ--"
ฉู่อวิ๋นรีบะโลงจากกิ่งไม้ สองมือถือกระบี่ไว้แน่น ก่อนจะฟาดท่าดาราจรัสแสงไปในอากาศเพื่อฟันใส่พยัคฆ์เตโชทั้งสองตัว!
"ฉับ!ฉับ!"
ร่างของพยัคฆ์เตโชถูกฟันด้วยดาราจรัสแสงและทิ้งาแไว้ พวกมันก้าวถอยหลังทันทีไม่กล้าที่จะเร่งรุดเข้าหาอีก สายตาดุร้ายจับจ้องไปยังฉู่อวิ๋นที่ร่อนลงมาจากท้องฟ้า
ฉู่อวิ๋นยืนถือกระบี่ในแนวขวาง กระบี่เศวตรรุ้งยังคงกะพริบแสงสีม่วงออกมา
“อ๊า? ข้า...ยังไม่ตาย?” มู่หรงซินเงยหน้าขึ้นและเห็นฉู่อวิ๋นคอยปกป้องตนอยู่ตรงหน้า ทั้งสูงส่งและสง่างาม จนนางไม่อยากจะเชื่อ
ฉู่อวิ๋นคนนี้ช่วยข้าไว้หรือ?
ทั้งๆ ที่เขาเป็เพียงนักรบในระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แล้วเหตุใดเขาจึงสามารถขับไล่พยัคฆ์เตโชระดับห้าสองตัวได้?
มู่หรงซินเหม่อลอยเล็กน้อย ดวงตาพราวระยับคู่งามสั่นไหว
“นี่ ยิงธนูต่อไป! ถ้าหมีลายโลหิตตัวนั้นเข้ามาได้ เ้ากับข้าได้ตายอยู่ที่นี่ทั้งคู่แน่!”
คำพูดของฉู่อวิ๋นทำให้มู่หรงซินได้สติขึ้นมา นางรับรู้ถึงสถานการณ์ระหว่างเขาทั้งคู่ทันที ดวงตาของนางหรี่ลง ก่อนจะควบคุมจิตใจแล้วยิงธนูหลายลูกติดต่อกันอีกครั้งเพื่อหยุดหมีลายโลหิต
ส่วนฉู่อวิ๋นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกันจับกระบี่เศวตรรุ้งไว้แน่น พลางครุ่นคิด "ดาราจรัสแสงฟันเข้าเนื้อของพยัคฆ์เตโชได้ เช่นนั้นก็ใช้ดาราจรัสแสงฆ่าสักตัวหนึ่งก่อนแล้วกัน!”
ทันทีจากนั้น ฉู่อวิ๋นก็รวบรวมพลังปราณของเขาถ่ายเทเข้าสู่กระบี่เศวตรรุ้ง ก่อนจะดึงให้เกิดคลื่นกระบี่สามคลื่นที่มีความกว้างห้าหมี่ติดต่อกัน โจมตีหนึ่งในพยัคฆ์เตโชโดยตรง!
"ควั่บ!"
เห็นได้ชัดว่าพยัคฆ์เตโชกลัวปราณกระบี่นี้จึงรีบะโออกห่าง แต่หนีไม่พ้นจากระยะการโจมตีของดาราจรัสแสง มันถูกโจมตีด้วยปราณกระบี่สามคลื่นที่มีพลังปราณเต็มที่เข้าไป ร่างเสือก็ถูกฟันเป็แผลลึกยาว เืสาดกระเซ็นเต็มพื้น ไร้แล้วซึ่งชีวิต!
เมื่อเพื่อนถูกฆ่า พยัคฆ์เตโชอีกตัวก็ไม่ลังเล มันกระโจนเข้าใส่ฉู่อวิ๋นทันที ปล่อยกรงเล็บเปลวไฟสีแดงสองดวงออกมา!
“ฟิ้ว——”
ฉู่อวิ๋นก้าวถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงเปลวไฟ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้พยัคฆ์เตโชโจมตีโดนมู่หรงซิน เขาทำได้เพียงต้านทานกรงเล็บอีกข้างหนึ่งไว้เท่านั้น ทันใดนั้น เสื้อผ้าของเขาก็ฉีกขาด พร้อมทั้งมีรอยกรงเล็บเปื้อนเืปรากฏอยู่บนไหล่ ร้อนมาก!
ฉู่อวิ๋นส่งเสียงครวญออกมาทันที จากนั้นก็ยกกระบี่ขึ้นฟัน! ปราณกระบี่แสงดาวสามสิบหกมรรคาปรากฏประปรายเต็มท้องฟ้า!
“ประกายทมิฬ!”
"ควั่บ!"
ทันใดนั้น ปราณกระบี่แสงดาวสีม่วงก็พุ่งทะยานไปทุกทิศทาง พัดฝนบนนภาสลายเมฆ ไร้ผู้ใดเทียบได้! โปรยลงมาปกคลุมพยัคฆ์เตโชกลางอากาศจนมิด!
“ชิ้งชิ้งชิ้ง!”
พยัคฆ์เตโชถูกโจมตีด้วยปราณในระยะใกล้ ปรากฏาแขนาดใหญ่ที่ลึกถึงกระดูกจำนวนมาก เืไหลทั่วตัวและเสียชีวิตในทันที!
“เจ็บชะมัด! สัตว์ปีศาจพวกนี้ไม่ได้อ่อนแอเลยจริงด้วย” เมื่อมองดูรอยกรงเล็บที่ลาดไหล่ถึงหน้าอก ฉู่อวิ๋นก็กัดฟันหยิบหญ้าระงับความรู้สึกออกมาจากแขนเสื้อแล้วทาลงบนาแ เขาหันกลับมาทันทีและจ้องมองหมีลายโลหิตที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล
ตอนนี้ ในขณะที่มู่หรงซินกำลังสกัดกั้นการรุกคืบของหมีลายโลหิตอยู่ นางก็เห็นฉู่อวิ๋นสังหารสัตว์ปีศาจระดับห้าสองตัวได้พร้อมๆ กัน ใบหน้างามนิ่งค้างตกตะลึงอย่างยิ่ง
แข็งแกร่งมาก! ฉู่อวิ๋นที่อยู่ในระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ จริงๆ แล้วกลับมีพลังยุทธ์เกินระดับขั้นของตนเองไปแล้ว!
ถ้าเมื่อครู่ฉู่อวิ๋นไม่ปกป้องนางเอาไว้ เขาคงไม่ได้รับาเ็
เมื่อเห็นท่าทีของฉู่อวิ๋น มู่หรงซินรู้สึกเหลือเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“อย่ามัวแต่เหม่ออยู่ อีกเดี๋ยวเ้าคอยช่วยข้า ข้าอยากรู้ว่าจะจัดการเ้าหมีตัวนี้ได้หรือไม่?!” ฉู่อวิ๋นมองดูหมีลายโลหิตแสนดุร้ายที่อยู่ไม่ไกลข้างหน้า ดวงตาของเขาฉายแววจริงจังออกมา
มู่หรงซินใเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าและพูดว่า "ได้!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้