ค่ำคืนอันเงียบสงัด แสงจันทร์กระจ่างสาดส่องไปทั่วผืนป่า แสงสีเงินจางๆ ช่วยเพิ่มความสว่างให้เทือกเขาไปอวิ๋นอันมืดมิด
“ฟู่ ในที่สุดก็สำเร็จ”
เยี่ยเฉินเฟิงใช้เวลาไปห้าชั่วโมงเต็มๆ ในที่สุดก็สามารถดูดซับยาเพลิงผลาญได้ครบสมบูรณ์
หลังจากดูดซับพลังจากเม็ดยาเพลิงผลาญติดต่อกันถึงสองเม็ด ร่างกายของเยี่ยเฉินเฟิงก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เซลล์กล้ามเนื้อทั่วร่างกายแบ่งขยายจนถึงขีดจำกัด ของเสียสีดำจำนวนมากถูกขับออกมาจากร่างกาย
ในยามนี้ กล้ามเนื้อของเยี่ยเฉินเฟิงเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ในปากหอมหวานราวกับมียอดสุราธาราหยกถือกำเนิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายนอกเป็เพียงก้าวแรกของการหลอมกายเท่านั้น หากเขา้าฝึกฝนเทพดาราหกชีพจรให้ถึงระดับขั้นที่สอง จำเป็จะต้องเพิ่มพูนเืลมจำนวนมากจึงจะกระตุ้นพลังแฝงของร่างกายออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ตอนนี้ร่างกายของเขาเปรียบดังทะเลสาบที่สามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ต้องเติมน้ำลงในทะเลสาบแห่งนั้นให้เต็มเปี่ยมจึงจะถือว่าสำเร็จขั้นสุดท้าย
โอสถิญญาที่ใช้ในการบำรุงเืลมก็หาได้ยากมากเหลือเกิน โดยทั่วไปแล้วในแคว้นจื่อจินจะหาได้จากงานประมูลระดับสูงเท่านั้น และราคาก็แพงระยับเสียด้วย ต่อให้จีชิงเสวี่ยนำเงินมาให้เขาอีกเจ็ดแสนตำลึงก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะมีปัญญาซื้อสมุนไพริญญาได้สักต้นไหม
“เื่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือหาวิธีเข้าไปในสำนักอัคคี์ บางที ณ ที่แห่งนั้น ข้าอาจจะหาสมุนไพริญญาบำรุงเืลมเจอก็ได้” เยี่ยเฉินเฟิงตรวจสอบสภาพร่างกายในปัจจุบันแล้วพึมพำกับตัวเอง
หลังจากหลอมกายสำเร็จ เยี่ยเฉินเฟิงก็นั่งขัดสมาธิพักผ่อนอยู่สักพักพร้อมกับหาอะไรกินรองท้อง แล้วหยิบผลึกิญญาระดับต่ำออกมาสองก้อน โคจรทักษะกลืนิญญาดูดซับพลังิญญาจากผลึกเพื่อการบ่มเพาะ
ในตอนที่ความมืดโรยตัวปกคลุมหนาขึ้นเรื่อยๆ เยี่ยเฉินเฟิงที่จมดิ่งอยู่กับการบ่มเพาะพลังก็ถูกเสียงบางอย่างดังรบกวนจนเขาต้องลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงตาล้ำลึกคู่นั้นมองไกลออกไปทางทิศต้นเสียง
“จีชิงเสวี่ย ดูซิว่าพวกเ้ายังจะหนีไปไหนได้อีก” หัวหน้าชายชุดดำที่อยู่ในสภาพาเ็สาหัสบริเวณหน้าอกเป็แผลเหวอะหวะ ก็อาศัยความเร็วที่เหนือกว่าไล่ตามจนในที่สุดก็ขวางอยู่หน้าเด็กสาวทั้งสองได้
แววตาของหัวหน้าชายชุดดำที่าเ็หนักทอประกายน่าหวาดกลัว สายตาจ้องมองสองสาวที่ตื่นตระหนกขวัญหาย กระบี่ยาวในมือไล่ตามโจมตีเด็กสาวทั้งสองราวกับงูพิษที่แลบลิ้นไล่ตามเหยื่อ
“วิหคน้ำแข็ง โจมตี!”
แม้ว่าหัวหน้าชายชุดดำจะาเ็หนักแต่เขาก็เป็ถึงปรมาจารย์อสูรมายา จีชิงเสวี่ยไม่กล้าประมือกับเขาในระยะประชิดตรงๆ จึงทำได้เพียงเรียกจิตอสูรวิหกน้ำแข็งออกมาบินโจมตีฉวัดเฉวียน
“กระบี่แยกเงา!”
วิหคน้ำแข็งกางปีกสีขาวหิมะหอบลมหนาวะเืบินโฉบเข้าโจมตีอีก หัวหน้าชายชุดดำที่มีประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างโชกโชนก็ไม่ได้เบี่ยงตัวหลบ เขาแทงกระบี่ยาวในมือสวนออกไป ปราณกระบี่แยกเงาพุ่งตัดความมืดโจมตีจิตอสูรวิหคน้ำแข็งด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ปราณกระบี่คมกริบทำลายเกราะป้องกันร่างิญญาของจิตอสูรวิหคน้ำแข็ง ก่อนจะแทงผ่าทะลุร่างของมันจนสลายหายไปในอากาศ
“พรวด”
หลังจากจิตอสูรวิหคน้ำแข็งถูกทำลาย จีชิงเสวี่ยก็ถูกพลังิญญาสะท้อนกลับจนกระอักเืออกมา โลหิตสีแดงเปื้อนกระจายเต็มพื้น ร่างกายอ่อนแออย่างถึงขีดสุด
“อสรพิษขาว รัดมันซะ”
ระหว่างที่หัวหน้าชายชุดดำใช้เคล็ดิญญาโจมตีวิหคน้ำแข็ง ไป๋ซีหย่าก็ควบคุมจิตอสูรอสรพิษขาวเข้าไปใกล้ๆ อีกฝ่าย อาศัยจังหวะม้วนร่างที่ยาวเกินสิบเมตรและปกคลุมไปด้วยเกล็ดโอบล้อมรัดตัวของเขาไว้ อ้าปากแยกเขี้ยวแหลมคมโจมตีศีรษะของอีกฝ่าย
ในขณะที่อสรพิษขาวกำลังจะโจมตีศีรษะของหัวหน้าชายชุดดำให้าเ็หนัก เสียงคำรามดุร้ายก็ดังสนั่นไปทั่วผืนป่าอันมืดมิด
“จิตอสูรหมีดำ”
พลังิญญาในห้วงสมองของชายชุดดำะเิออกมาก่อร่างเป็จิตอสูรหมีดำ มันะเิพลังิญญาชวนให้อกสั่นขวัญแขวน ฉีกกระชากร่างของอสรพิษขาวให้แหลกเป็ชิ้นๆ ได้ในการโจมตีเดียว
เมื่อจิตอสูรถูกทำลาย ไป๋ซีหย่าก็ถูกพลังิญญาสะท้อนกลับเช่นกัน เืจำนวนมากไหลออกมาตามทวารทั้งเจ็ดของนาง ร่างกายอ่อนยวบล้มพังพาบลงไปกับพื้น
“ในเมื่อพูดดีๆ กันไม่รู้เื่ อย่ามาหาว่าข้าลงมืออย่างไร้ไมตรีก็แล้วกัน”
หัวหน้าชายชุดดำเผยความดุร้ายในแววตา มองดูสองสาวที่าเ็หนักนอนอ่อนระทวยอยู่กับพื้น มือถือกระบี่ยาวย่างสามขุมเข้าไปใกล้ๆ ทั้งสอง
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ข้ายอมไปกับเ้าแล้ว”
จีชิงเสวี่ยสังเกตเห็นแววตาหื่นกระหายของหัวหน้าชายชุดดำ จึงะโบอกอีกฝ่ายด้วยใจที่สั่นระรัว
“มากลัวเอาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้วล่ะ”
พรรคพวกล้มตายไปสามคนแล้วตนเองยังาเ็สาหัสอีก หัวหน้าชายชุดดำโกรธจนหน้ามืดตามัว พอเห็นใบหน้างดงามของจีชิงเสวี่ยและไป๋ซีหย่าจึงเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น
“ถ้าเ้ากล้าทำอะไรพวกข้า ไม่ว่าจะตระกูลจีของข้าหรือตระกูลเจียงที่จ้างเ้ามาก็จะไม่มีวันปล่อยเ้าไปแน่” จีชิงเสวี่ยสงบสติอารมณ์แล้วกล่าวเตือนอีกฝ่าย
“ตระกูลเจียง...”
พอคิดถึงฐานะของจีชิงเสวี่ยและผู้เป็นายของตนเองขึ้นมา หัวหน้าชายชุดดำก็ดูจะสงบลงหลายส่วน สายตาเ็าเบี่ยงทิศไปทางไป๋ซีหย่าผู้งดงามไม่แพ้กันแทน
“บิ...บิดาข้าเป็ถึงเ้าเมืองไป๋ตี้ หากเ้าแตะต้องข้า บิดาข้าจะต้องตามสังหารเ้าแน่นอน” เมื่อเห็นสายตาของหัวหน้าชายชุดดำหันมาทางตนเอง ไป๋ซีหย่าก็รู้สึกเหมือนเป็เหยื่อที่รอหมาป่ามาฉีกกระชาก ขนทั่วร่างลุกชูชัน นางข่มขู่อีกฝ่ายด้วยความวิตก
“ที่แท้เ้าก็เป็บุตรสาวเ้าเมืองไป๋ตี้นี่เอง ข้าก็ว่าทำไมงดงามถึงเพียงนี้ ์ช่างมีเมตตากับข้าเสียจริงเชียว”
หัวหน้าชายชุดดำเผยรอยยิ้มหื่นกระหายระคนบ้าคลั่ง ปลดปล่อยเส้นไหมิญญาสะกดการเคลื่อนไหวของจีชิงเสวี่ย ก่อนจะอุ้มร่างที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงขัดขืนของไป๋ซีหย่าขึ้นพาดบ่า เดินไปตรงที่โขดหินเรียบลื่นแถวๆ นั้น
“เดรัจฉาน เ้าปล่อยข้าลงนะ เ้าไม่ตายดีแน่ ์จะไม่มีทางปล่อยเ้าไป”
ไป๋ซีหย่าที่ถูกหัวหน้าชายชุดดำแบกพาดบ่าดีดดิ้นอย่างร้อนรน นางวาดมือทุบตีร่างของเขาไม่ยอมหยุด เพียงแต่กำปั้นที่ไร้เรี่ยวแรงของนางแทบไม่ส่งผลอะไรต่อชายชุดดำเลย
“แหกปากเข้าไป เ้าร้องให้คอแตกก็ไม่มีประโยชน์หรอก ที่นี่ไม่มีใครช่วยเ้าได้แล้ว” หัวหน้าชายชุดดำวางร่างของไป๋ซีหย่าลงบนโขดหินเย็นเฉียบ เอ่ยขึ้นอย่างโหดร้าย
เมื่อเห็นไป๋ซีหย่ากำลังตกอยู่ในอันตราย จีชิงเสวี่ยที่ถูกเส้นไหมิญญาสะกดเอาไว้ก็ใจหล่นวูบ น่าเสียดายที่จิตอสูรของนางถูกทำลายย่อยยับ ทำให้ร่างกายของนางอ่อนแอจนไม่อาจดิ้นให้หลุดจากการสะกดได้
“แกมันชั่วช้า ข้าจีชิงเสวี่ยขอสาบานว่าสักวันหนึ่งข้าจะต้องสับร่างเ้าเป็หมื่นชิ้นให้จงได้” จีชิงเสวี่ยที่ต้องทนดูไป๋ซีหย่าล่วงหล่นสู่ขุมนรกไปทีละนิด นางเ็ปหัวใจเหมือนโดนมีดกรีด ะโก้องอย่างคับแค้น
“วางใจเถอะ นายน้อยเจียงไม่ปล่อยให้เ้ามีโอกาสได้ทำหรอก รอให้เ้าตกไปอยู่ในมือของนายน้อยเจียงก่อนเถอะ ข้าว่าจุดจบของเ้าคงน่าอนาถกว่านางเยอะเลย” หัวหน้าชายชุดดำเอ่ยขึ้นอย่างลำพองใจ
“เจียงซานสุ่ย เขามาที่เมืองไป๋ตี้ด้วยรึ” เมื่อได้ทราบข้อมูลดังกล่าว ดวงตาของจีชิงเสวี่ยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
นางไม่คิดเลยว่าตระกูลเจียงจะบ้าคลั่งถึงเพียงนี้ ถึงได้ตามมาล้างแค้นนางอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ชั่ว ต่อให้ข้าตายกลายเป็ผีก็ไม่มีวันปล่อยเ้าแน่” ไป๋ซีหย่าที่น้ำตาไหลนองใบหน้าะโด่าเสียงดัง
ภายใต้แสงจันทร์นวลอ่อน ไป๋ซีหย่ายอมแพ้และเลิกดิ้นรนขัดขืน นางเตรียมใจที่จะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย
ในตอนที่ใบหน้าดุร้ายของชายผู้นั้นยื่นเข้ามาใกล้และไป๋ซีหย่ากำลังจะกัดลิ้นตัวเองตาย จู่ๆ ดวงตาของนางก็เบิกกว้าง
นางเห็นเงาร่างเลือนรางที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ปรากฏกายขึ้นราวกับปีศาจร้ายที่ด้านหลังของหัวหน้าชายชุดดำ และกำลังจะโจมตีหมายปลิดชีพของอีกฝ่าย
