หลายวันให้หลัง ในเรือนของหลิ่วเหอ
หลังวุ่นวายอยู่นาน ในที่สุดงานศพของหลิ่วไห่ก็เสร็จสิ้น พวกหลิ่วเหอพ่อลูกได้นั่งรับประทานอาหารอย่างวางใจมื้อหนึ่ง
หลิ่วเหอหยิบตะเกียบขึ้นมา ยังไม่ทันได้กินก็ถูกหลิ่วเทียนฉีขวางไว้
“ทำไมหรือฉีเอ๋อร์?” หลิ่วเหอมองบุตรชายด้วยสีหน้าฉงน
“ท่านพ่อ ท่านลุงรองถูกวางยาพิษจนตาย อย่างไรพวกเราก็ควรรอบคอบสักหน่อยขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีว่าพลางหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมา
“ลุงถง รบกวนท่านตรวจสอบอาหารบนโต๊ะสักหน่อย!”
“ขอรับ นายน้อยเจ็ด!” หลิ่วถงขานรับพลางรับเข็มเงินมา
“เ้าลูกคนนี้นี่นะ เอาเข็มเงินมาจากไหนกันฮึ?” เห็นลูกชายรอบคอบเช่นนี้ หลิ่วเหอจึงยิ้มถาม
“วันนั้นตอนข้าไปส่งหมอเหยา ลูกขอหมอเหยาไว้ขอรับ หมอเหยาให้เข็มเงินข้ามาสามเล่ม งานศพของท่านลุงรองหลายวันนี้พวกเราล้วนทานอาหารที่บ้านท่านลุงรอง อาหารที่นั่นจึงมีคนตรวจสอบ ข้าคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในเรือนของพวกเรานั้นไม่มี ทำให้ข้ากังวลใจอยู่นิดหน่อยขอรับ!” พูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ
“ลูกพ่อช่างมีความคิดละเอียดดั่งเม็ดฝุ่นจริงเชียว! แต่ลุงรองของเ้าเพิ่งเสียไป ข้าคิดว่าลุงใหญ่คงไม่กล้าลงมือในเวลานี้หรอก?” อย่างไรหลิ่วเจียงก็ยังไม่ถึงขั้นเสียสติคลุ้มคลั่งล่ะนะ
“ท่านพ่อ ใจคิดทำร้ายคนไม่อาจมี ใจคิดป้องกันคนไม่อาจขาด ท่านน่ะ ให้ค่าความผูกพันของพี่น้องมากเกินไปแล้วขอรับ!”
“ใช่แล้วขอรับ นายน้อยเจ็ดพูดถูก ระมัดระวังย่อมล่องนาวาได้หมื่นปี นายท่านสามขอรับ หลังจากนี้อาหารและเครื่องดื่มของท่านกับนายน้อยเจ็ดต้องตรวจสอบให้ดี ข้าว่าเข็มเงินเล่มนี้ไว้กับบ่าวที่นี่แล้วกันขอรับ!” หลิ่วถงเอ่ยอย่างเห็นด้วย
“ได้ เช่นนั้นต้องลำบากลุงถงแล้ว!”
“นายน้อยเจ็ดเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!” ผู้เฒ่าโบกมือพลางยิ้ม
“ฮ่าๆๆ พวกเ้านี่นะ!” หลิ่วเหอเห็นทั้งสองมีสีหน้าเคร่งเครียดประหนึ่งปักษากลัวธนูก็ส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา
“นาย นายท่านสาม!” ทันใดนั้น ผู้เฒ่าพลันร้องเสียงดัง
หลิ่วเหอกับหลิ่วเทียนฉีมองไปทางอีกฝ่ายทันที
หลิ่วถงถือเข็มเงินขึ้นส่งมาตรงหน้าสองพ่อลูก
“อาหารมีพิษจริงหรือ?” หลิ่วเทียนฉีมองหลิ่วถง เขาถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“ไม่ ไม่ใช่อาหาร เป็ชาของนายท่านสามขอรับ ในชามีพิษ” หลิ่วถงพูดพลางชี้ไปที่ถ้วยชาของหลิ่วเหอ
หลิ่วเหอได้ยินก็ตื่นตะลึงอย่างยิ่ง
“น่าชังนัก ถึงกับกล้าวางยาพิษพ่อข้า หลิ่วถง เร็ว รีบไปเชิญหมอเหยามา!”
“ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้!” หลิ่วถงวางเข็มเงินลง รีบหมุนตัวเดินออกไป
หลิ่วเหอยื่นมือไปหยิบเข็มเงินบนโต๊ะขึ้นมาช้าๆ เขามองเข็มเงินที่กลายเป็สีดำด้วยหัวใจที่เ็ป
“หลิ่วเจียง พวกเราเป็พี่น้องร่วมบิดาต่างมารดากันนะ!”
เห็นท่าทางโศกเศร้าของบิดา หลิ่วเทียนฉีถอนหายใจอย่างแ่เบา “ท่านลุงใหญ่กับท่านลุงรองเป็พี่น้องร่วมบิดามารดากันนะขอรับ? ท่านลุงใหญ่เคยสนใจที่ไหนเล่า?”
“หลิ่วเจียง ข้ากับเ้าหากไม่ตายคงไม่เลิกรากันสินะ!” หลิ่วเหอตบโต๊ะทีหนึ่งแล้วลุกขึ้น ก้าวเท้าจะไปคิดบัญชีกับหลิ่วเจียง
“ท่านพ่อ ท่านอย่าเพิ่งไป ให้หมอเหยามาตรวจท่านก่อนค่อยว่ากันดีกว่าขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีว่าพลางรีบร้อนดึงแขนเสื้อบิดาไว้
“ฉีเอ๋อร์!” หลิ่วเหอหันไปมองบุตรชาย
“ท่านพ่ออย่าบันดาลโทสะนัก ระวังพิษกระจายเร็วขึ้น มาตรงนี้ขอรับ กินโอสถแก้พิษเม็ดหนึ่งนะขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีตาแดงพูดพลางส่งโอสถให้
“อืม!” หลิ่วเหอพยักหน้า รับโอสถมากลืนลงไป
ไม่นานหมอเหยาก็มาถึง เขาจับชีพจรให้หลิ่วเหอ
“หมอเหยา ท่านพ่อข้าเป็อย่างไร?” หลิ่วเทียนฉีมองท่านหมอพลางเอ่ยถามอย่างกังวล
“ใช่ นายท่านสามเป็อย่างไรขอรับ?”
“นายน้อยเจ็ดไม่ต้องกังวล เมื่อครู่นายท่านสามมีร่องรอยการถูกพิษเพียงเล็กน้อยเท่านั้นขอรับ ต้องพิษยังไม่ลึกมาก หากกินโอสถแก้พิษเข้าไป ผ่านไปเวลาดื่มชาหนึ่งถ้วยก็ไม่เป็ไรแล้วขอรับ” หมอเหยากล่าว
“เช่นนั้นก็ดี ดีจริงเชียว!” หลิ่วเทียนฉีได้ยินก็วางใจ
ตอนเช้าเขาใส่ของเหลวจากก้นแมลงผายลมลงไปในชาของบิดานิดหน่อยเท่านั้น เป้าหมายไม่ใช่เพื่อทำร้าย แต่เพื่อให้บิดาเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลิ่วเจียงให้เร็วที่สุด ทว่า พอเห็นบิดาดื่มชาที่ตนชงให้โดยไม่สงสัยสักนิด ในใจเขาพลันกังวลยิ่ง กลัวบิดาจะต้องพิษจริง
“หมอเหยา นี่คือชาของข้า เชิญท่านตรวจสักหน่อย!” หลิ่วเหอพูดพลางส่งถ้วยชาของตนให้
หมอเหยาตรวจดูอย่างละเอียดพักหนึ่งก็พยักหน้าหลายหน
“ในชามีพิษขอรับ พิษนี้ช่างประหลาดนัก ข้ามองไม่ออกว่าเป็พิษอะไร แต่มีเื่หนึ่งข้ามั่นใจ คือพิษนี่กับพิษที่วางยาทำร้ายนายท่านรองนั้นเหมือนกัน สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือปริมาณพิษในน้ำแกงกระดูกของนายท่านรองมากกว่าในชาของนายท่านสามขอรับ”
“หมอเหยาหมายถึง คนที่วางยาพิษพ่อข้าไม่ได้้าสังหารท่านในทันที แต่ปรารถนาที่จะสังหารท่านอย่างช้าๆ หรือ?” หลิ่วเทียนฉีถาม
“อืม มีความเป็ไปได้ขอรับ!” หมอเหยาพยักหน้า เขาคิดเช่นนี้เหมือนกัน
“อืม ข้าทราบแล้ว หลิ่วถงส่งหมอเหยา!”
“ลานายท่านสามขอรับ!” หมอเหยาก้มศีรษะต่ำคำนับ หมุนตัวเดินตามหลิ่วถงออกไป
“ท่านพ่อ ท่านวางใจพักผ่อนสักครู่ ลูกจะไปห้องสักพัก ดูว่าปัญหาอยู่ที่น้ำหรือใบชากันแน่!”
“ได้สิ!” หลิ่วเหอพยักหน้าตกลง มองส่งบุตรชายออกจากห้องโถงใหญ่
เห็นบุตรชายออกไปแล้ว หลิ่วเหอก็หยิบเข็มเงินที่กลายเป็สีดำขึ้นมาก่อนเดินจากไปเช่นกัน
.........
ครึ่งชั่วยามให้หลัง หลิ่วถงรีบร้อนวิ่งเข้ามาในห้องครัว
“นายน้อยเจ็ด...”
“ลุงถง ท่านมาพอดี ข้าหาที่มาของพิษพบแล้ว เป็ใบชาที่ข้าซื้อให้ท่านพ่อ!” หลิ่วเทียนฉีถือใบชากล่องนั้นไว้ในมือ วิ่งมาตรงหน้าหลิ่วถง
“โธ่ นายน้อยเจ็ดไม่ต้องสนใบชาแล้วขอรับ ท่านรีบไปเรือนนายท่านใหญ่เถอะ นายท่านสามกับนายท่านใหญ่สู้กันอยู่ขอรับ!” หลิ่วถงเห็นหลิ่วเทียนฉีก็เอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ
“อะไรนะ ท่านพ่อไปหาลุงใหญ่หรือ?”
“ขอรับ ทั้งสองคนสู้กันอยู่ขอรับ!” หลิ่วถงตอบ
“รีบไปกันเถอะ!” หลิ่วเทียนฉีถือกล่องใบชาเดินออกจากห้องครัว วิ่งไปเรือนของลุงใหญ่กับหลิ่วถง
“พวกเ้าสองคนหยุดเดี๋ยวนี้!” หลิ่วฮั่นชิงพุ่งเข้าถึงตรงหน้าทั้งสอง ใช้ฝ่ามือแต่ละข้างแยกสองคนที่กำลังสู้กันอยู่ในทันที
“ท่านพ่อ เ้าสาม เ้าสามลงมือกับข้าก่อน!” หลิ่วเจียงที่ถูกทำร้ายจนมุมปากมีรอยเื ทั้งร่างสะบักสะบอมฟ้องเสียงดัง
“เ้าสาม!” หลิ่วฮั่นชิงหันไปมองบุตรชายคนที่สามของตน
“เขาวางยาพิษข้า!” หลิ่วเหอพูดพลางเอาเข็มเงินเล่มนั้นออกมาส่งตรงหน้าหลิ่วฮั่นชิง
“วางยาพิษ? พูดจาเหลวไหล ข้ากำลังสืบเื่น้องรองถูกวางยาพิษ จะมีเวลาที่ไหนไปวางยาพิษเ้ากันเล่า?” หลิ่วเจียงถลึงตาใส่หลิ่วเหอ รู้สึกไม่เข้าใจอีกฝ่าย
“เ้าสาม เกิดเื่อะไรขึ้น?” หลิ่วฮั่นชิงมองหลิ่วเหอ เอ่ยถามสีหน้าเคร่งขรึม
“ท่านพ่อ ข้าพบว่าในน้ำชาของข้ามียาพิษ หมอเหยาบอกว่ามีคนวางยาข้า และพิษนี้ยังเหมือนพิษที่ทำร้ายพี่รองทุกประการ ต่างแค่ปริมาณที่อีกฝ่ายใส่ให้ข้าน้อย ไม่อยากให้ข้าตายเร็ว ราวกับตั้งใจให้ข้าทรมานอย่างช้าๆ! ส่วนนี่คือเข็มเงินนั่น!” พูดพลางส่งเข็มเงินให้
“อะไรนะ ยังมีคนกล้าวางยาพิษอีก!” หลิ่วฮั่นชิงได้ยินก็ไม่อยากเชื่อ
“คารวะท่านปู่ นี่คือกล่องใบชาของท่านพ่อ และนี่เป็เข็มเงินตรวจสอบพิษ เชิญท่านปู่ดูขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีพูดพลางส่งกล่องใบชากับเข็มเงินสีดำไปให้
“เ้าจะบอกว่า ใบชาของบิดาเ้าถูกวางยาพิษหรือ?”
“ใช่ขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีพยักหน้า เอ่ยอย่างมั่นใจ
“พ่อบ้าน ไปเชิญหมอเหยามาตรวจ!”
“ขอรับ!”
ไม่นานหมอเหยาถูกเชิญกลับมาอีกครั้ง ตรวจสอบพิษในกล่องใบชา ยืนยันว่าเป็ชนิดเดียวกันกับพิษที่สังหารหลิ่วไห่
“เ้าสาม ใบชานี้เ้าซื้อที่ไหน?”
“ไม่ใช่ข้าซื้อ ฉีเอ๋อร์ซื้อมาตอบแทนบุญคุณข้า!”
“ถ้าเช่นนั้นก็เป็ลูกชายเ้าวางยาพิษแล้ว!” หลิ่วเจียงรีบตอกกลับทันที
“เหลวไหล พี่รองดื่มพิษในน้ำแกงที่ต้มจากกระดูกที่หลิ่วซือซื้อกลับมา ตอนนั้นเ้าก็ว่าหลิ่วซือ้าสังหารพี่รอง ตอนนี้ข้าดื่มพิษในชาที่ลูกชายข้าซื้อให้ เ้าก็ยังมาว่าลูกชายข้าจะสังหารข้าอีก บ้าบอโดยแท้!” หลิ่วเหออ้างเหตุผลเถียง ไม่กลัวพี่ใหญ่ของตนสักนิด
“ไม่ใช่ลูกเ้าแล้วเป็ข้าหรือไง?” หลิ่วเจียงเห็นหลิ่วเหอโกรธแค้นก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างไร้เหตุผลเสียจริง
“นอกจากเ้าแล้วยังมีใครได้อีก?” ในใจหลิ่วเหอคิดว่าเป็หลิ่วเจียงกระทำอย่างแน่นอน
“หลิ่วเหอ เ้า เ้าหาเื่โดยไม่มีเหตุผลชัดๆ!”
“หลิ่วเจียง หากเ้าอยากฆ่าข้า พวกเราก็มาวัดฝีมือกันตรงๆ อย่าใช้อุบายชั่วช้าเหล่านี้ มาสิ วันนี้ข้ายืนอยู่ตรงหน้าเ้า เ้ามีความสามารถพอจะเอาชีวิตข้าไหมล่ะ?” หลิ่วเหอมองพี่ชายแท้ๆ ของตน ต่อว่าอย่างโกรธเกรี้ยว
“หลิ่วเหอ เ้าเลอะเทอะแล้วนะ”
“ลุงใหญ่ ข้าขอร้อง ท่านอย่าทำร้ายพวกเราพ่อลูกเลยขอรับ แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าเหลือท่านพ่อเป็ครอบครัวเพียงคนเดียวเท่านั้น ขอร้อง โปรดอย่าทำร้ายพ่อข้าอีกเลยขอรับ!” หลิ่วเทียนฉีพูดพลางคุกเข่าขอร้องอีกหน
“เ้าเด็กเวรนี่ ลุกขึ้น ใครจะทำร้ายพ่อเ้ากันฮะ?” หลิ่วเจียงเห็นหลิ่วเทียนฉีคุกเข่ารันทดจะร้องไห้อยู่บนพื้นก็ยิ่งโกรธ ในใจคิด “พ่อลูกสองคนนี้ตั้งใจเล่นละครคู่ต่อหน้าท่านพ่อหรือ?”
“พอแล้วเ้าสาม เ้ากับฉีเอ๋อร์กลับไปก่อน การตายของเ้าสองกับเื่วางยาพิษเ้า พ่อจะสืบด้วยตัวเอง ต้องให้คำอธิบายกับเ้าและเ้าสองได้แน่!”
“ท่านพ่อ ความจริงก็วางอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว เป็หลิ่วเจียง้าสังหารข้ากับพี่รอง ท่านยังปกป้องเขาอีกหรือ?” หลิ่วเหอมองบิดา เอ่ยขึ้นตรงๆ
“หลิ่วเหอ เ้าหยุดพูดจาเหลวไหลต่อหน้าท่านพ่อเสีย! ข้าไม่ได้วางยาพิษ!” หลิ่วเหอที่ถูกใส่ร้ายพลันสีหน้ากลัดกลุ้มขึ้น
“พอแล้ว พวกเ้าสองคนเลิกทะเลาะกันเสียที เื่นี้พ่อจะสืบให้กระจ่างเอง หากเป็เ้าใหญ่ทำจริง บิดาจะสังหารเขาด้วยมือ ชำระแค้นให้เ้าสองกับเ้าสามเป็แน่ แบบนี้คงได้สินะ?” หลิ่วฮั่นชิงกล่าวอย่างจนปัญญา
“เฮอะ!” หลิ่วเหอแค่นเสียงเหอะทีหนึ่งก็หมุนตัวจากไป
“ท่านพ่อ!” หลิ่วเทียนฉีรีบลุกขึ้นจากพื้นไปหาบิดา
เมื่อกลับมาถึงในเรือน หลิ่วเทียนฉีกับหลิ่วถงก็ได้ยินเสียงเครื่องกระเบื้องในห้องถูกเขวี้ยงแตก พวกเขามองหน้ากันทีหนึ่ง ครั้นเดินมาถึงหน้าประตูห้องโถงใหญ่ก็เห็นเครื่องเรือนในห้องถูกหลิ่วเหอเหวี่ยงรุนแรงจนพังไปหมด
“ท่านพ่อ บ้านนี้พวกเราคงอยู่ต่อไปไม่ได้ จะช้าเร็วอย่างไรท่านลุงใหญ่คงจ้องทำร้ายท่านถึงตาย!” หลิ่วเทียนฉีเดินเข้ามาในห้องพลางบอก การทำให้บิดาระแวงหลิ่วเจียงจนออกจากตระกูลหลิ่ว ถือเป็เป้าหมายของเขา
“ใช่ขอรับนายท่านสาม อยู่ต่อไปไม่ได้แล้วขอรับ!” หลิ่วถงพยักหน้าเห็นดัวยอย่างยิ่ง
“ท่านพ่อไม่ให้ข้าออกจากตระกูลหลิ่ว ข้าจะทำอะไรได้เล่า?” หลิ่วเหอเอ่ยอย่างไร้ทางเลือก
เขาก็อยากพาลูกชายออกไป แต่ท่านพ่อไม่อนุญาต เขาจะทำอย่างไรได้อีก?
ได้ยินคำนี้ หลิ่วเทียนฉีกับหลิ่วถงจึงเงียบไป!