ตอนที่ 21 กลยุทธ์ลูกโซ่ [1] 1
พอโบยได้ไม่กี่ไม้ก็ได้ยินเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ของบางอย่างในห่อผ้าสีน้ำเงินร่วงจากตัวหลี่ฟู่กุ้ย ก้อนเงินสี่ก้อนด้านในกระเด็นออกมา มูลค่ารวมสองร้อยตำลึงเงินถ้วน
เมื่อไป๋เซียงจู๋เฝ้าดูถึงตรงนี้ รอยยิ้มที่มุมปากก็เยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม เป็ไปดังที่นางคาดการณ์ไว้จริงๆ ยามนางกลับมาอย่างกะทันหัน น้าสะใภ้ย่อมร้อนใจจนลนลาน คิดหาร้อยแปดพันเก้าวิธีใส่ร้ายนางว่านางเสียความบริสุทธิ์แล้ว หาก้าวานบ่าวไพร่พวกนี้ทำงานให้ แน่นอนว่าจะขาดเงินมิได้เลย และหลี่ฟู่กุ้ยผู้นี้ก็มีนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือหวงแหนเงินทองมาก เขาชอบพกตั๋วเงินหรือก้อนเงินจำนวนมากติดตัวไปไหนมาไหน รอจนสงบสติอารมณ์ได้แล้วค่อยไปธนาคารเพื่อฝากมัน! ดูเหมือนว่าเงินนี่ยังไม่อุ่น [2] ด้วยซ้ำ อีกอย่างเมื่อไป๋เซียงจู๋กลับมานางก็จับจ้องหลี่ฟู่กุ้ยและแม่เฒ่าตู้ไม่ปล่อย แม้หลี่ฟู่กุ้ย้าไปฝากเงินที่ธนาคารก็ไม่มีเวลาอยู่ดี
เซียงจู๋หัวเราะเบาๆ หยิบผ้าสีน้ำเงินชิ้นนั้นขึ้น ก้อนเงินข้างในกลิ้งออกมาจนหมด
หลี่ฟู่กุ้ยเห็นเช่นนี้แล้วก็ใมาก ส่วนฮูหยินเฒ่าที่อยู่อีกด้านสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
่นี้อวี๋ซื่อพร่ำบ่นเสมอว่าค่าใช้จ่ายในจวนสูง เงินทองไม่เพียงพอ เร่งเร้าขอให้นางนำกุญแจคลังเก็บของฝั่งตะวันตกมาให้โดยตลอด บอกว่าจะขายเพชรนิลจินดาบางส่วนไปเปลี่ยนเป็เงิน บัดนี้กลับเห็นเงินจำนวนไม่น้อยอยู่กับบ่าวคนหนึ่ง อารมณ์จะยังดีได้อย่างไร
“เงินไม่ใช่น้อย หลี่ฟู่กุ้ยนี่ร่ำรวยสมชื่อ [3] เสียจริงๆ นะ!” ไป๋เซียงจู๋พูดเย้าอย่างขบขัน
อวี๋ซื่อเห็นเงินนั่นก็รู้ทันทีว่าไม่ดีแน่ ยิ่งมองสีหน้าของฮูหยินเฒ่าแล้วยิ่งตื่นตระหนก นางอยากจะยืนขึ้นอธิบายถึงที่มาของเงินพวกนี้ ทว่าถูกหลี่ฟู่กุ้ยตัดหน้าไปเสียก่อน
“นี่คือเงินของบ่าวเองขอรับ!”
เมื่อคำพูดนี้สิ้นสุดลง ใจของอวี๋ซื่อหล่นดังตุ้บ ิญญาแทบหลุดออกจากร่าง
เซียงจู๋ลุกขึ้น ชำเลืองหลี่ฟู่กุ้ยด้วยความชิงชัง “ก็ดี เช่นนั้นข้าขอถามเ้า เ้าเคยร่วมมือกับแม่เฒ่าตู้ทำร้ายท่านพี่ ถือโอกาสใส่ร้ายข้าหรือไม่”
“ไม่เคย!”
“เ้าเคยขโมยเสื้อผ้าในหีบของข้าไป จงใจสร้างสถานการณ์ว่าข้าลักลอบพบกับท่านพี่ที่หน้าผาหรือไม่”
“ไม่เคย!”
“เ้าเคยรับเงินจากผู้อื่น วางแผนปรักปรำข้าหรือไม่”
“ไม่เคยขอรับ!”
“เ้าเคยสมรู้ร่วมคิดกับโจร ชิงทรัพย์สินของท่านพี่ ให้คนทำร้ายเขาจนาแเต็มตัวและทิ้งไว้ข้างหน้าผาหรือไม่”
“ไม่เคยเลย!”
“ถ้าอย่างนั้นเ้าได้เงินเดือนเดือนละเท่าไร!”
“สะ สองตำลึงเงินขอรับ!”
ไป๋เซียงจู๋คลี่ยิ้มและหยุดซักถาม “เ้าบอกว่าเงินพวกนี้เป็ของเ้าเอง แล้วเ้าหาเงินมากมายขนาดนี้มาได้อย่างไร!”
หลี่ฟู่กุ้ยรู้ตัวว่าพลั้งปาก สีหน้าเปลี่ยนไปขนานใหญ่
แม่เฒ่าตู้รีบแก้ต่าง “คุณหนูใหญ่ เดิมทีนี่มันมีของข้าด้วย...”
“ยังอยากโดนตบปากอีกหรือ!” ไป๋เซียงจู๋มองค้อนด้วยสายตาเ็า ทำให้แม่เฒ่าตู้ใจนไม่กล้าพูด “เ้า้าบอกว่า เดิมทีในนี้ก็มีส่วนของเ้าด้วยใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าก็จะคำนวณเงินก้อนนี้โดยละเอียด! พวกเ้าสองคนหนึ่งเดือนได้เงินเดือนสี่ตำลึงเงิน พวกเ้าต้องเก็บหอมรอบริบถึงเจ็ดปีจึงจะครบ ถูกหรือไม่”
แม่เฒ่าตู้เหมือนเจอเชือกช่วยชีวิต พยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา “ใช่ ใช่เ้าค่ะ เก็บมาเจ็ดปีอย่างยากลำบาก!”
ไป๋เซียงจู๋กลับหันไปกล่าวกับไป๋ชิงโหรวแทน “ชิงโหรว เ้าดูแลบัญชีกับท่านน้ามาั้แ่เล็กแต่น้อย เชี่ยวชาญการคำนวณเป็ที่สุด เ้าว่าพี่คำนวณผิดหรือไม่”
ไป๋ชิงโหรวส่งเสียงหึในลำคอและตอบอย่างภาคภูมิใจ “ใช่เ้าค่ะ เมื่อครู่โหรวเอ๋อร์คำนวณอยู่ในใจ ท่านพี่ไม่ได้คำนวณผิด”
แต่ขณะที่นางยังพูดไม่จบ จู่ๆ ใบหน้าก็แข็งทื่อ นางติดกับแล้ว!
ไป๋เซียงจู๋แสยะยิ้ม “น้องรัก คิดผิดแล้ว!”
ไป๋ชิงโหรวยั้งมารดาไม่ทัน อวี๋ซื่อหัวเราะเย้ยหยันพร้อมกับกล่าวอย่างลำพองใจ “ผิดพลาดอย่างไร สิ่งที่เ้าก่อในวันนี้ทำเอาทั้งจวนไม่เป็สุข ตอนนี้ก็ควรจะพอได้แล้ว คุกเข่าคำนับโหรวเอ๋อร์เสีย และพวกข้าจะไม่ถือโทษเ้าในเื่นี้!”
ไป๋เซียงจู๋ส่ายศีรษะน้อยๆ จากนั้นก็เดินไปยังหน้านายหญิงไป๋ “เมื่อครั้งท่านยายยังสาวท่านมักไปหาซื้อสินค้าในต่างแดนกับท่านตา ท่านแตกฉานด้านนี้ที่สุดแล้ว ท่านรู้อย่างแน่นอนว่าผิดตรงไหน จู๋เอ๋อร์ขออนุญาตอธิบายแทนท่านยายเ้าค่ะ”
การที่นางกล่าวเช่นนี้ ทั้งเป็การยกย่องฮูหยินเฒ่าไป๋ และเป็การตั้งโล่กำบังให้แก่ตัวนางเอง “เก็บสองร้อยตำลึงเงินภายในเจ็ดปีจะต้องไม่กินไม่ใช้ อีกอย่าง่ปีแรกๆ ที่พวกเ้าเข้าจวนก็ไม่ได้ได้รับเงินเดือนเยอะขนาดนั้น ท่านน้าเพิ่งเพิ่มให้พวกเ้าทั้งสองหลังจากเริ่มบริหารกิจในจวนต่างหาก เงินเหล่านี้เ้าเสกขึ้นมาจากกลางอากาศหรืออย่างไร ในสามเดือนที่ผ่านมาท่านตาและท่านน้าสาม้าเงินจำนวนมากเพื่อซื้อใบชาที่ต่างแดน ท่านยายจึงสั่งให้ทั้งจวนประหยัด ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่ท่านน้าจะใจกว้างตบรางวัลให้พวกเ้า!”
คำพูดดังกล่าวตัดบทอวี๋ซื่อที่้าแย้งว่าเงินเหล่านี้เป็ส่วนที่ปูนบำเหน็จให้พวกเขาทั้งสองใน่ที่ผ่านมา หากอธิบายแบบนี้ในตอนนี้ ฮูหยินเฒ่าก็จะคิดทันทีว่าตนไม่ประหยัดมัธยัสถ์ตามคำสั่งของนาง นอกจากเื่ราวจะแย่ลง ยังจะทำให้นางถูกสอบสวนในท้ายที่สุดด้วย ถึงเวลานั้น...
ใบหน้าของอวี๋ซื่อเริ่มซีด แม้อยากควบคุมก็ทำไม่ได้
เชิงอรรถ
[1]连环计 กลยุทธ์ลูกโซ่ คือ กลยุทธ์หนึ่งในตำราพิชัยาสามสิบหกกลยุทธ์ เป็กลยุทธ์ว่าด้วยหากศัตรูมีจำนวนไพร่พลมากเกินรับมือ อย่าปะทะตัวต่อตัว จงใช้กลอุบายหลอกล่อให้ศัตรูทำลายตนเองแทน
[2]เมื่อนำสิ่งของใดๆ แนบไว้กับกายสักพัก จะทำให้ของสิ่งนั้นอุ่นขึ้น ในที่นี้จึงมีความหมายว่า หลี่ฟู่กุ้ยเพิ่งจะได้เงินส่วนนี้มา ยังไม่นานพอจะทำให้มันอุ่นขึ้น
[3]คำว่าฟู่ 富 ในชื่อของหลี่ฟู่กุ้ยมีความหมายว่าร่ำรวย ไป๋เซียงจู๋จึงกระแนะกระแหนเขาว่ามีเงินเยอะสมกับชื่อ