หลินจือโมรา อายุร้อยปีเป็รูปเป็ร่าง อายุพันปีมีจิติญญา
หลินจือโมราต้นนี้เหมือนพัดขนาดใหญ่ มีลวดลายเป็เส้นใยสีแดงเป็วงๆ มากกว่ายี่สิบวง มันจะลอกเปลือกออกทุกๆ ร้อยปี และลวดลายยี่สิบวงนี้แสดงให้เห็นว่าหลินจือโมรามีอายุมากกว่าสองพันปีแล้ว!
หลินจือโมราอายุสองพันปี เทียบได้กับขั้นเซียน!
“น่าแปลก สองพันปีแล้วกลับไม่มีใครมาเก็บไปเลย คนในโลกนี้ไม่เห็นค่าของสิ่งล้ำค่าเช่นนี้เลยหรือ”
เสิ่นเสวียนลอยอยู่ตรงหน้าหลินจือโมราต้นนี้พลางกล่าวด้วยความสงสัย
“มิน่าล่ะ!”
เสิ่นเสวียนมองหลินจือโมราต้นนี้ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เห็นค่าของมัน ทว่ามันมีพลังป้องกันตัวที่แข็งแกร่งมาก จึงไม่มีใครเข้ามาเห็น
รากของหลินจือโมราต้นนี้ยาวลู่ลงไปถึงบ่อลาวาด้านล่างพอดี หลินจือโมราทั่วๆ ไปใช้ความร้อนของูเาไฟในการเจริญเติบโต และต้นนี้ก็ใช้ลาวาเป็อาหาร ไอพลังหลอมรวมเข้ากับูเาไฟทั้งลูก และนี่คือสาเหตุที่ก่อนหน้านี้เขามิอาจพบเจอหลินจือโมราต้นนี้
“นี่คือ!”
ขณะที่เสิ่นเสวียนกำลังสังเกตไปรอบๆ จู่ๆ เขาก็เบิกตาโพลง แววตาลุกวาวขึ้นมา
บนหน้าผาภายในูเาไฟ แสงสีแดงเพลิงเปล่งประกายออกมาจากรอบๆ ต้นหลินจือโมราที่เหมือนกับพัดขนาดใหญ่ มันเติบโตอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบสงบ รากของมันหยั่งลึกลงไปในลาวาเบื้องล่าง
สิ่งที่ทำให้เสิ่นเสวียนตาลุกวาวคือ รากที่เขาเห็นนั้นต่างออกไป
เส้นไหมทองคำ!
เส้นไหมทองคำเล็กละเอียดซ่อนตัวอยู่ภายในเหง้าของมัน มันไม่ได้สะดุดตา จะปรากฏให้เห็นเลือนรางขณะที่ลาวากำลังเดือดพล่าน คนอื่นอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขารู้
นั่นคือรากจักรพรรดิ!
หลินจือโมรายิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสที่จะแปรเปลี่ยนไป รากของมันจะแปรเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม กลายเป็รากจักรพรรดิในตำนาน ทว่าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก ต่อให้เป็ดินแดนยิ่งใหญ่ก็มิอาจเจริญเติบโตขึ้นมาได้
รากจักรพรรดิคือสมุนไพรชั้นดี เมื่อกินรากจักรพรรดิเข้าไปแล้วจะกลายเป็เซียนได้
คำกล่าวนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรากจักรพรรดิ แต่มิใช่ว่าใครก็สามารถกินรากจักรพรรดิเข้าไปได้ หาก้าให้ร่างกายสามารถทนต่ออานุภาพของรากจักรพรรดิได้ อย่างน้อยต้องฝึกถึงขั้นะเสียก่อน
กล่าวได้ว่า หากผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งฝึกฝนถึงขั้นะและได้รับรากจักรพรรดิไป การฝ่าด่านเคราะห์มีโอกาสสำเร็จมากขึ้นอีกสองส่วน ของล้ำค่าเช่นนี้หากปรากฏขึ้นในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ต้องก่อให้เกิดการเข่นฆ่าสังหาร เืไหลนองเป็สายน้ำ
ในชาติก่อนเขาเกือบได้รากจักรพรรดิมาแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่ฝ่าด่านเคราะห์ล้มเหลว ทำได้เพียงสลายร่างให้กลายเป็เซียนพเนจรเท่านั้น ต้องทนลำบากเข้าฝ่าด่านเคราะห์อัสนีมากว่าพันปี
“เสี่ยวเหยียน ข้าอยากลงไปลึกกว่านี้อีก เ้าช่วยข้าได้ไหม”
เสิ่นเสวียนหันมองเสี่ยวเหยียนที่ลอยอยู่ข้างๆ แล้วถามอย่างจริงจัง
ภายในบ่อลาวาร้อนจัดจนน่ากลัว หากลงไปด้วยร่างเนื้อธรรมดาๆ ต้องโดนย่างสดอย่างแน่นอน แม้จะมีเกราะขั้นศาสตราิญญาก็อาจตายอยู่ในนั้นได้
เขาไม่อยากให้รากจักรพรรดิอยู่ที่อื่น หากไม่เก็บมันมาจะเกิดสิ่งไม่แน่นอนขึ้นอีกมากมาย
“จี๊ด จี๊ด”
เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าให้เสิ่นเสวียน ดูน่ารักมาก
“เยี่ยมไปเลย แล้วข้าควรทำอย่างไร”
“จี๊ด จี๊ด... จี๊ด จี๊ด...”
เสี่ยวเหยียนเหาะไปอยู่ด้านหน้าเสิ่นเสวียน ส่งเสียงร้องออกมาหลายครั้ง จากนั้นขนของมันก็พองขึ้น แล้วมันก็อ้าปากเล็กๆ พ่นเปลวเพลิงใส่เสิ่นเสวียน
ที่นี่น่ากลัวมาก ความร้อนรุนแรงยิ่งกว่าภายในลาวาถึงสองส่วน เสิ่นเสวียนลอยอยู่ตรงนั้นไม่ได้ต้านทานไว้ จึงโดนเปลวเพลิงพุ่งเข้าปกคลุมร่างกาย
แม้เปลวเพลิงนั้นพุ่งเข้าใส่ร่างแต่เขาไม่รู้สึกร้อนเลย ซ้ำยังหลอมรวมเข้ากับผิวของเกราะอย่างรวดเร็ว ทำให้เกราะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก จากนั้นเปลวเพลิงเหล่านี้ก็ออกห่างจากร่างกายไปหนึ่งฉื่อ ปกคลุมตลอดร่างของเสิ่นเสวียนไว้
เปลวเพลิงเหล่านี้โปร่งใส หากมองจากที่ไกลๆ จะเห็นลาวาเบื้องล่างได้ชัดเจนยิ่งกว่า ราวกับไม่มีสิ่งใดครอบคลุมอยู่
“ขอบคุณมากเสี่ยวเหยียน มากับข้าเถอะ!”
เสิ่นเสวียนมองไปรอบๆ ด้วยพลังสายตาของเขาสามารถมองออกได้ว่า เมื่อมีเปลวเพลิงเหล่านี้ปกคลุมร่างกายอยู่ ลาวาเบื้องล่างมิอาจทำอะไรเขาได้ชั่วขณะหนึ่ง
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าให้เสิ่นเสวียนอย่างเชื่อฟัง
จากนั้น เสิ่นเสวียนและเสี่ยวเหยียนก็ะโลงไปยังลาวาเบื้องล่าง
“เฮ้ย!!!”
เสิ่นล่างที่เฝ้าอยู่้ามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่างอย่างชัดเจน แต่จะเข้าไปห้ามก็สายเกินไปแล้ว
“เฮ้อ! ท่านผู้นำเติบใหญ่แล้ว...”
เสิ่นล่างถอนหายใจก่อนจะกล่าว ให้อย่างไรเขาก็ไม่กล้าลงไปยังลาวาที่น่ากลัวเบื้องล่างนั่น แม้จะมีพลังป้องกันตัวเขาก็ไม่กล้า เสิ่นเสวียนเหมือนจะเติบโตขึ้นใน่เวลาไม่กี่วัน ทว่าเขาก็รู้สึกว่าตนเองแก่ลงไปใน่เวลาไม่กี่วันเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาคือผู้ปกป้องตระกูลเสิ่น ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แล้ว
ภายในลาวาเบื้องล่าง
ลาวาร้อนแรงสีแดงเพลิงยังคงเดือดพล่านและปั่นป่วน เสิ่นเสวียนและเสี่ยวเหยียนลงไปในนั้น ทำให้ั์ตากลายเป็สีแดงเพลิง
โชคดีที่มีเปลวเพลิงป้องกันตัวของเสี่ยวเหยียน ทำให้เสิ่นเสวียนมองเห็นได้ขณะอยู่ภายในลาวา หากว่าพลังป้องกันตัวนี้เลือนหายไป เสิ่นเสวียนคงกลายเป็จุณในพริบตาเดียว
ทว่าในทางกลับกัน เสี่ยวเหยียนไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย ราวกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างอิสระ
หลังจากที่เสิ่นเสวียนปรับตัวได้แล้ว เขาก็ค่อยๆ เข้าใกล้หน้าผาแล้วเดินไต่หน้าผาลงไป ในขณะเดียวกันก็ใช้พลังส่วนหนึ่งปกป้องดวงตาเอาไว้เพื่อให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เขายังโคจรพลังได้ ทำให้เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าในระยะเกือบสองจั้งได้อย่างชัดเจน
เหง้าของหลินจือโมรายึดเกาะแน่นอยู่กับหน้าผาหิน เส้นไหมสีทอง้ายาวลู่ลงไปถึงด้านล่าง
เสิ่นเสวียนไม่กล่าวอะไรเลย เขาเข้าใกล้มันทีละน้อยหมายจะคว้ารากของมันเอาไว้ หลินจือโมราสองพันปีมีรากที่ใหญ่มาก ยาวลงไปเกือบสองจั้ง ยิ่งต่ำลงไปยิ่งซับซ้อนเล็กละเอียด เหมือนกับรากของต้นไม้เก่าแก่หลายพันปีรวมตัวกัน
ทว่าแม้รากของหลินจือโมราจะมีมากมาย แต่เส้นไหมทองคำกลับมีเพียงเส้นเดียว เสิ่นเสวียนจึงตามเส้นไหมทองคำนั้นไป
รากจักรพรรดิยิ่งยาวลงไปก็ยิ่งมีฤทธิ์แรง และยิ่งลึกลงไป เส้นไหมทองคำก็ยิ่งเลือนรางลงกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
เสิ่นเสวียนมองลงไปด้านล่างประมาณหนึ่งจั้ง มองเห็นรากจักรพรรดิสีทองเติบโตอยู่ภายในเหง้าของหลินจือโมราอย่างสงบสุข มันมีรูปร่างคล้ายโสม ขนาดเท่าแขนเด็กทารก ทำให้เสิ่นเสวียนรู้สึกดีใจอย่างที่สุด
ทว่าเขาดีใจได้เพียงสองลมหายใจ สีหน้าของเขากลับแข็งทื่อขึ้นมาอีกครั้ง
รอบๆ รากจักรพรรดินั้นมีสีของลาวาแตกต่างไปจากบริเวณอื่น ส่องประกายบริสุทธิ์ยิ่งกว่าลาวาที่อยู่รอบนอก ประกายนี้ปกคลุมรอบรากจักรพรรดิ เมื่อมองต่ำลงไปอีกจะเห็นดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่งกำลังมองเสิ่นเสวียนอยู่
นี่ยังนับเป็ลาวาที่ไหนกัน มันคือพญางูตัวหนึ่ง
จากปากปล่องูเาไฟลงมาถึงลาวาด้านล่างประมาณสามจั้ง มีพญางูอัคนีขดอยู่ตัวหนึ่ง!
เสิ่นเสวียนมองลงไปด้านล่างสบตากับดวงตาคู่นั้น มันแลบลิ้นแผล็บๆ อยู่ตลอดเวลาพลางจ้องเสิ่นเสวียนเขม็ง ราวกับว่าหากเสิ่นเสวียนขยับเพียงเล็กน้อยก็จะจู่โจมทันที และบดขยี้ร่างของเขาให้แหลกละเอียด
สวบ!
ทั้งสองสบตากันประมาณห้าลมหายใจ พญางูอัคนีที่อยู่ด้านล่างเริ่มเคลื่อนไหว รู้สึกได้ว่ามีมนุษย์เข้ามาในบ่อลาวาของมัน มันเลื้อยเข้ามาตรงหน้าเสิ่นเสวียนในพริบตา อ้าปากกว้างคล้ายจะกลืนกินร่างของเสิ่นเสวียนเข้าไป
ทันใดนั้นเอง เสิ่นเสวียนคว้ากระบี่ใหญ่ฟันออกไปอย่างรุนแรง
ฉัวะ!
แรงสั่นะเืที่รุนแรงสะท้อนออกไป กระบี่ใหญ่ฟันลงไปบนหัวของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ ทว่ากลับทำให้ร่างของเสิ่นเสวียนกระเด็นออกไปในทันที
พลังโจมตีของกระบี่ใหญ่ต่อต้านพลังโจมตีของพญางูอัคนีเอาไว้ได้ แต่ก็ทำให้เพลิงโทสะของมันรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“ฟ่อ!”
เสียงขู่ราวกับสายฟ้าฟาดดังขึ้น พญางูอัคนีกระโจนเข้าใส่เสิ่นเสวียนอีกครั้งด้วยความเร็วมากกว่าเดิม
“จี๊ด จี๊ด!”
ขณะนั้นเอง เสี่ยวเหยียนที่ตามเข้ามาเริ่มเคลื่อนไหว