เย่เฟิงจับหวังเส้าตงแล้วลากเขาลงน้ำ
หวังเส้าตงกรีดร้องเสียงยาว เขาคิดว่าตัวเองถูกปลาฉลามกัดและลากออกไป ทันทีที่ถูกกัดกร่อนจากน้ำทะเลอันเย็นเฉียบ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ชายหนุ่มนึกเสียใจที่ตัดสินใจผิดพลาด เขาไม่น่ามาที่บัดซบแบบนี้เลย ตอนนี้ชีวิตจบเห่แล้ว จบแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง...
เย่เฟิงคิดจะลากตัวอีกฝ่ายลงน้ำทะเลให้ขาดอากาศหายใจตายเพื่อจบเื่ราว ทว่าก่อนที่หวังเส้าตงจะขาดใจตาย โดยไม่คาดคิด เย่เฟิงก็รับรู้ด้วยจิตหยั่งรู้ว่าเซียวเยว่ะโน้ำตามลงมา
‘ผู้หญิงคนนี้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?’
เย่เฟิงแปลกใจที่เซียวเยว่กล้าลงน้ำมาในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้ นี่เธอไม่กลัวปลาฉลามหรืออย่างไร? หรือจะบอกว่าหวังเส้าตงสำคัญมากจนไม่สามารถปล่อยไปได้?
ชายหนุ่มไม่คิดอะไรมากความ คลื่นั์ลูกหนึ่งโถมซัดเข้ามาในขอบเขตของจิตหยั่งรู้พอดี หลังจากคลื่นลูกนี้ซัดผ่านไป น้ำทะเลที่ท่วมทั้งหมู่บ้านจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีกหลายเิเ
วินาทีที่เซียวเยว่ลงไปในน้ำก็คือการรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้เย่เฟิงจะไม่ไยดีเธอ แต่ถ้าเธอถูกคลื่นซัดไปคงได้ตายไร้ที่ฝังแน่
หาก้าทราบสถานการณ์ใต้ท้องทะเลตอนนี้ แม้แต่หลงโม่หรานและคนอื่นๆ ยังไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงหน้าอกหน้าใจใหญ่แต่ไม่มีสมองคนนี้!
เย่เฟิงโคจรพลังชี่ให้ปะทุขึ้นมา ก่อนตัดเส้นชีพจรของหวังเส้าตงให้ขาดคามือ จากนั้นปล่อยให้ร่างไร้ลมหายใจถูกเกลียวคลื่นพัดพาไป หวังเส้าตงตอนอยู่เซี่ยงไฮ้ก็ไม่ใช่คนดีอะไร เขาทำชั่วและทำร้ายผู้หญิงนับไม่ถ้วน ก็สมควรถูกเย่เฟิงกำจัดจนไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูกแบบนี้
ฆ่าแล้วโยนลงทะเล ใครมันจะรู้?
ความคิดแรกเริ่มของหวังเส้าตงเกิดขึ้นจริงกับตัวเองแล้ว นับจากนี้ไปิญญาจะกลับสู่ทะเล
คลื่นั์โถมซัดเข้ามา เพียงเวลาสั้นๆ ก็พัดพาร่างไร้ลมหายใจของหวังเส้าตงออกไป แต่เย่เฟิงและเซียวเยว่ถูกคลื่นซัดไปด้วยเช่นกัน ชายหนุ่มดีหน่อยที่ใช้เคล็ดวิชาเต่าัอุดลมปราณได้ทัน เพียงไม่นานร่างกายก็ปรับสภาพได้ แต่เซียวเยว่ไม่สามารถทำอย่างเขาได้
คลื่นั์โถมซัดโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
ภายใต้สภาพอากาศอันเลวร้ายทำให้บริเวณโดยรอบมืดสนิท ฟ้าผ่าติดต่อกันหลายครั้งจากที่ไกลๆ เซียวเยว่ไม่เห็นสักนิดว่าคลื่นกำลังซัดเข้ามา! ตอนนี้ยังไม่พบหวังเส้าตงเลย แต่ตัวเองกลับถูกคลื่นซัดเข้าแล้ว แต่เธอไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป หากเธอหาหวังเส้าตงไม่พบ เมื่อกลับเซี่ยงไฮ้จะต้องถูกตระกูลหวังบีบจนหมดหนทางแน่นอน และสุดท้ายต้องกลับเมืองเยี่ยนจิง... นี่คือสิ่งที่เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เธออยู่เซี่ยงไฮ้มาั้แ่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่น นี่คือทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากกรงขังของตระกูลได้
ท่ามกลางคลื่นถาโถม เธอไม่สามารถทรงตัวได้ ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วร่างกายที่ถูกกระแสน้ำพัดพาไกลออกไปเรื่อยๆ และสติก็เลือนรางมากขึ้นทุกที ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตนถูกใครบางคนคว้ามือไว้
“ไป” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้นข้างหู เรียกสติของเธอให้กลับมา จากนั้นหญิงสาวรู้สึกว่าถูกคนลากเข้าฝั่ง
คนที่เข้ามาช่วยเธอได้ แน่นอนว่ามีเพียงเย่เฟิงเท่านั้น เขาฆ่าหวังเส้าตง เพราะอีกฝ่ายคิดจะฆ่าเขาก่อน ชายหนุ่มแค่ตอบสนองกลับไปด้วยวิธีการเดียวกันเท่านั้น แต่เซียวเยว่เป็ผู้บริสุทธิ์ เย่เฟิงไม่อาจเฝ้าดูเธอตายในคลื่นั์แบบนี้ได้
ถึงอย่างไรก็เป็เื่ที่ต้องช่วยเหลือ
ท่ามกลางน้ำทะเลเย็นะเื เย่เฟิงดึงเซียวเยว่ไว้แล้วว่ายน้ำเข้าฝั่ง โดยหลบเลี่ยงเศษน้ำแข็งตามทาง ในที่สุดก็ถูกคลื่นั์ซัดเข้าฝั่งจนมาติดอยู่ในป่าบนูเาลูกเล็ก
เมื่อคลื่นถอยกลับก็เผยให้เห็นร่างเปียกโชกของคนทั้งสอง และประจวบกับเย่เฟิงทับร่างอีกฝ่ายไว้ อิริยาบถนี้ช่างดูล่อแหลมเหลือเกิน
“แค่กๆ... แค่ก...”
เซียวเยว่ไม่มีแรงคิดเื่นี้ เพราะตอนนี้เธอเวียนหัวไปหมด ไม่รู้กระทั่งมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แค่รู้สึกว่ามีคนช่วยชีวิตเธอไว้เท่านั้น แต่ทำไมถึงรู้สึกอึดอัดและหนักที่หน้าอกเหมือนถูกใครทับไว้?
“กลับไปเถอะ อย่าหาเื่ให้ตัวเองเลย”
เย่เฟิงพูดเสียงต่ำ หยัดกายลุกขึ้นแล้วใช้จิตหยั่งรู้สำรวจรอบๆ พบว่าหลงหว่านเอ๋อร์กำลังวิ่งมาหาจากอีกฝั่ง
“นายไม่เป็ไรนะ?” เสียงไพเราะของหลงหว่านเอ๋อร์ราวกับนางฟ้าในค่ำคืนอันมืดมิด อย่างน้อยสำหรับเซียวเยว่ มันฟังเหมือนเสียงของนางฟ้ามากเลย เพราะทำให้เธอรับรู้ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่จริง
“ฉันไม่เป็ไร พวกเราไปกันเถอะ”
เย่เฟิงเตรียมเดินจากไปทันที
“แค่ก... หวัง... แล้วหวังเส้าตงล่ะ?”
เซียวเยว่จับต้นไม้ไว้แล้วยืนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
“ถูกฉลามลากออกไปแล้ว ผมขอโทษที่ช่วยชีวิตเขาไม่ได้” เย่เฟิงพูดเสียงต่ำ
ประกายแสงของฟ้าแลบที่เกิดขึ้นเป็ครั้งคราว ทำให้หน้ากากหน้าผีที่ชายหนุ่มสวมอยู่ปรากฏขึ้นในสายตาของเซียวเยว่
“เป็นายเองเหรอ!” เซียวเยว่อุทานอย่างคาดไม่ถึงว่าจะเป็ชายสวมหน้ากากที่ช่วยเธอไว้ในสถานการณ์แบบนี้
“ถ้าคุณยังคิดะโลงทะเลฆ่าตัวตายอีกก็เชิญ ผมช่วยคุณได้แค่ครั้งเดียว ไม่มีเวลามาช่วยคุณเป็ครั้งที่สองหรอกนะ” สิ้นสุดคำพูดที่แสนเ็า เย่เฟิงจับมือหลงหว่านเอ๋อร์แล้วเดินจากไปทันที
“เดี๋ยวก่อน!”
เซียวเยว่ยังจำได้ดีว่าจุดประสงค์ที่เธอกับหวังเส้าตงมาที่นี่ก็เพื่อตามหาชายสวมหน้ากาก ตอนนี้พบชายสวมหน้ากากแล้ว แต่กลับไม่พบตัวหวังเส้าตง...
หญิงสาวไม่ใช่คนพิการทางสมอง เธอรู้ว่าภายใต้สถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ ถ้ากลับลงทะเลไปอีกก็เป็การฆ่าตัวตายชัดๆ จึงทำได้เพียงล้มเลิกความคิดตามหาหวังเส้าตง
เซียวเยว่รีบตามเย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์ไปทันที แต่พอไม่มีไฟฉายแล้ว เธอก็มองไม่เห็นแม้แต่เงาของทั้งสองคน เธอรู้สึกราวกับว่าตนถูกทิ้งไว้เพียงลำพังในป่าบนูเาเล็กๆ แห่งนี้
ตอนนี้เซียวเยว่พอเข้าใจแล้วว่าตอนที่เซียวฉี่ได้รับการช่วยเหลือจากชายสวมหน้ากากถึงสองครั้งน้องสาวรู้สึกอย่างไร
ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?
เซียวเยว่รู้ว่าตนควรกลับไป แต่จะให้การเดินทางครั้งนี้เปล่าประโยชน์เหรอ? ความตั้งใจของเธอคือการตามหาชายสวมหน้ากาก จากนั้นเตือนเขาว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเซียวฉี่ น้องสาวของเธอ
พอมาคิดตอนนี้มันช่างน่าหัวเราะ
เขาช่วยเซียวฉี่ไว้สองครั้งโดยไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยสักนิด! หากจะมีก็คงเป็เซียวฉี่ที่คิดไปเองคนเดียว เธอควรไปสั่งสอนน้องสาวตัวเอง ไม่ใช่ชายสวมหน้ากากคนนั้น
เดิมทีเธอคิดว่าชายสวมหน้ากากคิดจะเหยียบเรือสองแคม...
เซียวเยว่เองก็ได้รับความช่วยเหลือจากชายสวมหน้ากากเช่นกัน เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่รู้ว่าชายคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับเย่เฟิงแห่งเมืองเยี่ยนจิงกันแน่
หญิงสาวคิดในใจแล้วรีบเดินกลับไปอย่างไม่รอช้า แต่เดินไปได้ครึ่งทางก็ได้ยินเสียงคนเอะอะมาจากข้างหน้า
…………
“คนที่อยู่ข้างหน้า หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากเครื่องขยายเสียง พูดด้วยท่าทีคุกคาม “พบบุคคลน่าสงสัย พาตัวพวกเขาไปให้หมด!”
ทันใดนั้นก็ปรากฏเงาคนหลายคนขึ้นในป่าบนยอดเขาซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากไฟรถยนต์ด้านหลัง ทว่าเป็หลินซือฉิงและเซียวฉี่ หญิงสาวสองคนที่มาพร้อมกับทหารสี่นายจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ และสิ่งที่แสงไฟส่องถึงก็คือชายชุดดำคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กหนุ่มที่ไม่ได้สติไว้ นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกคนเดินอยู่ข้างๆ
หนานฟาง ชูชู และเด็กหนุ่มจากตำหนักไท่จี๋
ตอนที่เย่เฟิงโจมตีหวังเส้าตงเมื่อสักครู่ เขาให้หนานฟางพาชูชูและเด็กหนุ่มจากตำหนักไท่จี๋เดินทางออกมาก่อน คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะถูกพวกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสกัดไว้ได้
หนานฟางหยุดฝีเท้าแล้วสอดส่ายสายตาสังเกตทางข้างหน้า
มีเื่ยุ่งยากเข้าแล้ว หรือว่าจะถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเชิญไปดื่มน้ำชาจริงๆ? ถึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคนของยุทธจักรตามฆ่า แต่การตกอยู่ในมือของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็คงไม่เจอจุดจบที่ดีเหมือนกัน...
“ใช้ทักษะล่องหนแล้วลงมือพร้อมกัน” เย่เฟิงกระซิบบอกหลงหว่านเอ๋อร์ก่อนใช้ทักษะล่องหน
เดิมทีทั้งสองคนคิดจะไปยังโพ้นทะเล แต่เมื่อจิตหยั่งรู้ตรวจสอบเห็นสถานการณ์ด้านนี้แล้ว พวกเขาจึงต้องมาช่วยหนานฟางจัดการพวกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอย่างเสียไม่ได้
ร่างล่องหนของคนทั้งคู่พุ่งเข้าใกล้หน้ารถบรรทุกทหารของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอย่างรวดเร็ว!