เยว่ชิงเฉี่ยนก้าวเท้ามาข้างหน้าแล้วยื่นหญ้าลมหนาวให้ผม“เฮ้อ ที่จริงฉันกะจะเก็บไว้เป็ของที่ระลึกสักหน่อยนะเนี่ย”
“ของที่ระลึกอะไรของเธอ?เดี๋ยวหลอมออกมาเป็ยากินเข้าไปก็เข้าไประลึกในท้องได้เหมือนกันนั่นแหละ”
“แอสซาซินไม่ต้องใช้มันนี่แค่ค่าพลังงานก็พอแล้ว”
“ก็ได้ๆฉันจะกลับเมืองไปหลอมโอสถแล้ว เธอจะไปด้วยกันไหม? โอสถลมหนาวเลเวล4 สามารถฟื้นฟูค่า MP ได้ 300 พอยต์ ปรากอยากได้มันหรือเปล่าล่ะ?”
“อยากได้สิ”
ดวงตาของเยว่ชิงเฉี่ยนเปล่งประกาย“การต่อสู้เมื่อกี้มีนักเวทของเราหลายคนเรียกใช้สกิลเจาะทะลุผาหินเพื่อฆ่าบอสจนทำให้ค่า MP ถูกใช้ไปจนหมด เป็เพราะมี่เวลาที่ต้องหยุดไปเลยทำให้เราพ่ายแพ้ให้นายพลพวกนั้นไม่งั้นหลี่มู่กับหวางเจี่ยนคงถูกพวกเราฆ่าตายไปตั้งนานแล้ว”
ผมพยักหน้า “ได้งั้นเธอใช้วาร์ปกลับเมืองปาหวางพร้อมฉันเลยแล้วกัน”
“อื้อ”
……
สวบ สวบ!
หลังจากเกิดแสงสว่างออกมาสองเส้นประตูมิติของเมืองปาหวางก็ปรากฏร่างคนทั้งสองในเวลานี้ผู้เล่นที่มีเงินถึงหลักเหรียญทองมีไม่มากและมีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถซื้อวาร์ปกลับเมืองในราคา 1 เหรียญทอง
เมื่อมาถึงคลังสินค้าผมก็หยิบเตาหลอมโอสถและน้ำยาปลุกจิติญญาที่ซื้อเก็บไว้ก่อนหน้านี้ออกมาจากนั้นก็ยืนอยู่ข้างคลังสินค้าพร้อมเรียกตารางเพื่อหลอมโอสถขึ้นหลังจากใส่วัตถุดิบแรกลงไปและเริ่มหลอม ไม่นานโอสถก็ปรากฏขึ้นบนมือผม
ติ๊ง!
ข้อความจากระบบ :ยินดีด้วย ท่านได้หลอม [โอสถลมหนาว] เลเวล 4 สำเร็จ เนื่องจากท่านเป็ผู้เล่นคนแรกที่หลอมโอสถเลเวล 4 สำเร็จ ท่านจะได้รับค่าเสน่ห์ +1
……
ค่าเสน่ห์ในเวลานี้ 13 พอยต์แล้ว ถึงแม้ผมจะยังไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรแต่ที่มันปรากฏขึ้นบนค่าสถานะหลัก แสดงว่ามันจะต้องมีประโยชน์มากแน่ๆ
ในเวลาเดียวกันเยว่ชิงเฉี่ยนก็ยืนมองการหลอมโอสถอยู่ข้างๆผมด้วยแววตาเป็ประกาย
ผมหรี่ตาพร้อมพูดขึ้น“ชิงเฉี่ยนคนสวย โอสถลมหนาวเลเวล 4 เธอจะซื้อในราคาเท่าไร?”
เยว่ชิงเฉี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ฉันขอปรึกษาลุงใหญ่ก่อนนะ เื่นี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้”
“ได้สิ”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็เงยหน้าขึ้น“ลุงใหญ่บอกว่า โอสถดวงดาราเจ็ดดวงเลเวล 3 จะให้นาย 4เหรียญเงินต่อหนึ่งขวด ส่วนโอสถลมหนาวเลเวล 4 ในเมื่อมันสามารถฟื้นฟูได้50% งั้นราคาก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เอาเป็ว่า 6 เหรียญเงินต่อหนึ่งขวด นายโอเคหรือเปล่า?”
ใบหน้าของผมเปลี่ยนเป็สีเขียว“ลุงใหญ่บอกเธอแบบนั้นเหรอ? นี่กิลด์ปรากกำลังจะล้มละลายแล้วงั้นเหรอถึงได้ให้ราคาฉันต่ำขนาดนี้? นี่ชิงเฉี่ยนฉันไม่ได้จะขูดเืขูดเนื้อเธอหรอกนะ แต่โอสถลมหนาวเลเวล 4 ฉันจะขายในราคา10 เหรียญเงิน ฉันเชื่อว่าถ้าเอาของพวกนี้ไปขายให้กิลด์อื่นต่อให้ราคา 30 เหรียญเงินพวกเขาก็ยอมซื้อทั้งนั้นแหละ เฮ้อลุงใหญ่เยี่ยนจ้าวนี่ขี้ตืดชะมัด!”
เยว่ชิงเฉี่ยนหัวเราะ“ฮ่าๆ โอเคๆ 10 เหรียญเงินก็ได้พี่เซียวเหยานี่คนจริงชะมัดเลยนะเนี่ย”
ผมกระตุกมุมปาก“ก็แค่อยากได้เงิน แล้วก็ได้เพื่อนเพิ่มก็เท่านั้นแหละ...”
“อื้อๆ เข้าใจแล้ว”
……
เยว่ชิงเฉี่ยนนั่งอยู่ข้างๆผมพร้อมเปิดแผงลอยระหว่างรอโอสถลมหนาว พลางคุยกับผมไปด้วย
“นี่เซียวเหยานายรู้หรือเปล่าว่าหลี่มู่ประเมินความสามารถของนายไว้สูงมากเลยนะแถมยังบอกด้วยว่านายเป็ฮีลเลอร์อันดับ 1 ของเมืองปาหวางที่มีการโจมตีแข็งแกร่งที่สุด”
“พูดเกินจริงชะมัด”ผมใช้มือถูจมูกตัวเองพร้อมพูดต่อ “เธอเองก็เห็นแล้วนี่ว่า ถ้าฉันไปไหนมาไหนคนเดียวก็ไม่มีทางที่จะสู้คนพวกนั้นได้แค่เผชิญหน้ากันก็อาจถูกฆ่าตายภายในเวลาแค่หนึ่งวินาทีด้วยซ้ำจะว่าไปแล้วพลังโจมตีของฉันถ้าเทียบกับพวกเธอละก็ ห่างกันราวฟ้ากับเหวไม่มีทางจะชนะใครได้ด้วยตัวคนเดียวหรอก”
เยว่ชิงเฉี่ยนยิ้ม“ถ่อมตัวเกินไปหรือเปล่าเนี่ย ที่นายถูกหวางเจี่ยนโจมตีแบบต่อเนื่องจนตายภายในไม่กี่วินาทีนั่นก็เพราะนายใส่เกราะผ้าซึ่งเป็ของที่ไม่ควรจะอยู่บนตัวหากคิดจะเข้าร่วมโจมตีในระยะประชิดนายดูอย่างคนพวกนั้นที่ใส่เกราะผ้าสิ พวกเขาทำได้แค่หลบไปมาอยู่ไกลๆ เท่านั้นแหละถ้าถูกลากเข้าไปในระยะประชิดเมื่อไร ก็มีแต่ตายสถานเดียวอีกอย่างการฮีลของนายก็นับว่ายอดเยี่ยมมาก ฉันเล่นเกมมาตั้งหลายปี เจอคนเก่งๆแบบนายไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ”
“เธออายุเท่าไรเชียวถึงได้กล้าบอกว่าเล่นเกมมาตั้งหลายปี?”
เยว่ชิงเฉี่ยนยืดอกที่ดูเหมือนว่าจะเป็คัพC ก่อนพูดว่า “ฉันอายุ 19 แล้วและเล่นเกมมานานถึง 3 ปีแล้วด้วย!”
ผมยิ้ม “หึขี้อวดชะมัดเลยนะเธอเนี่ย หลังจากที่ฉันเกษียณจากการเป็ทหารั้แ่ปี 2012 จนถึงตอนนี้เป็เวลากว่า 5 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็เกม Bladeand Soul, Conquer Online หรือ Overlord ั้แ่เกมแบบ3D ไปจนถึงเกมเสมือนจริงฉันก็ไม่เคยพลาดแต่เธอเพิ่งจะเล่นได้แค่ 3 ปี...”
“หืม?”
เยว่ชิงเฉี่ยนมองผมอย่างตกตะลึง“นี่นายเคยเป็ทหารมาก่อนเหรอเนี่ย?”
ทันใดนั้นผมก็พบว่าตัวเองเผลอหลุดปากออกไปจึงรีบยิ้มก่อนพูดขึ้น“เอ่อ... ว่าแต่เยว่เวยเหลียงเป็น้องสาวแท้ๆ ของเธอเหรอ? เป็ฝาแฝดกันหรือเปล่าน่ะ เพราะหน้าตาคล้ายกันมากๆ เลย”
เยว่ชิงเฉี่ยนยิ้ม “อื้อเวยเหลียงเป็น้องสาวฝาแฝดของฉันเอง เล่นเกมด้วยกันมาหลายเกมแล้วเหมือนกัน”
“เยี่ยมเลยแล้วพวกเธอรู้จักเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงได้ยังไงน่ะ?”
“เขาเป็เพื่อนพ่อฉันเองและเป็แฟนเกมคนหนึ่ง เขารับผิดชอบในการพัฒนากิลด์ของเกมนี้ด้วยนะฉันกับน้องสาวก็เลยตามลุงใหญ่มาเล่นเกมนี้แล้วก็กลายเป็ฝ่ายบริหารจัดการกิลด์ปรากด้วย ว่าแต่นายเถอะ นายเป็ใครกันแน่?ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายทำตัวลึกลับจนมองไม่ออกเลย”
ผมตอบกลับ“ฉันก็เหมือนสายลมนั่นแหละ พลิ้วไปมา จับไม่ได้หรอก...”
“แหวะ!”
“…”
……
เวลาล่วงเลยในที่สุดการหลอมโอสถก็เสร็จสิ้นในกระเป๋าเก็บของและคลังสินค้าของผมในเวลานี้มีโอสถเลเวล 4 ทั้งหมด 900 กว่าชิ้นแต่น่าเสียดายที่หญ้าลมหนาวถูกคนยื้อแย่งกันวุ่นวายเวลาแค่หนึ่งวันทำได้มากสุดก็แค่นี้แหละ แต่ตอนนี้ค่าความชำนาญของผมถึง 49%แล้ว ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง หลังจากนี้ผมก็จะสามารถหลอมโอสถเลเวล 5ได้แล้ว ถึงเวลานั้นผมก็จะมีความเก่งกาจที่แท้จริงสักที!
หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นผมแบ่งขายให้กับเยว่ชิงเฉี่ยน 800 ขวดโดยเหลือให้ตัวเองใช้อีกประมาณ 100 ขวดจากการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ผมได้เงินมา 80 เหรียญทองเมื่อนำเงินส่วนนี้ไปวางขายในเว็บไซต์ก็พบว่า ค่าเงินได้ตกลงจากเดิมแล้วและเงินจำนวน 1 เหรียญทองก็ได้เงินมาเพียง 20 หยวนเท่านั้น ผมตัดสินใจขายเงิน 100 เหรียญทองด้วยราคา1,900 หยวนก่อนที่ราคาจะตกไปมากกว่านี้อย่างไม่ลังเล
ผ่านไปไม่กี่นาทีเงินจำนวน12,000 หยวนก็เข้ามาในบัญชีธนาคารผมอย่างรวดเร็ว จุ๊ๆร่ำรวยไปอีกขั้นแล้วสินะเนี่ย!
หลังจากที่เยว่ชิงเฉี่ยนได้โอสถไปเธอก็เตรียมตัวเดินออกไปด้วยท่าทางมีความสุข ทันใดนั้นผมก็เรียกเธอไว้ “นี่ชิงเฉี่ยน!”
“ว่าไง?”
“ฉันมีสัตว์เลี้ยง 2ตัว ในกิลด์ปรากมีใครอยากได้มันหรือเปล่า?”
“สัตว์เลี้ยงอะไรเหรอ?”
ผมยื่นมือออกไปทันใดนั้นโครงกระดูกหินเขียว 2 ตัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซึ่งตัวหนึ่งนั้นมีค่าความเป็เลิศ 75% ในขณะที่อีกตัวมีค่าความเป็เลิศ49%
……
“โห...”
เยว่ชิงเฉี่ยนมองด้วยสายตาเป็ประกาย“เป็สัตว์ที่มีการป้องกันเืที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะเนี่ย”
ผมพยักหน้า “ใช่ยิ่ง่นี้กิลด์ของพวกเธอออกไปฆ่าบอสบ่อยๆ ถึงแม้ว่าตอนที่ฆ่าบอสพระกับอัศวินจะถูกฆ่าตายไปแล้ว แต่ถ้ามีเ้าพวกนี้ก็ยังสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ พวกมันมีทั้งความแข็งแกร่งทางกายภาพและความทนทานในการป้องกันเืเลยนะ สนใจหรือเปล่าล่ะ?”
เยว่ชิงเฉี่ยนเลียริมฝีปากพร้อมกับสายตาที่ส่องประกายแน่นอนว่าเธอ้ามันแน่ๆ
ผมมองเธอก่อนจะยิ้มออกมา“เงินไม่พอใช่ไหมเนี่ย?”
“อื้อ”
เธอพยักหน้าพร้อมพูด“ตอนนี้ฉันขาดสัตว์เลี้ยงที่มีค่าป้องกันเืแต่ฉันก็ยังไม่สามารถใช้เงินของกิลด์เพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงให้กับตัวเองได้...แต่เงินที่ฉันมีตอนนี้... เฮ้อ... พ่อฉันไม่ได้ให้เงินฉันไว้ในเกมนี้เท่าไรน่ะตอนนี้ฉันมีเงินแค่ 20 กว่าเหรียญทองแค่นั้นเอง”
ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง“งั้นฉันขายเ้าโครงกระดูกหินเขียวที่มีค่าความเป็เลิศ 75% ให้เธอ 20 เหรียญทองก็แล้วกันเธอจะได้เหลือเงินเอาไว้ซื้อยาเพิ่มเืด้วย สนใจไหมล่ะ?”
“พูดจริงเหรอ?”เธอแสดงสีหน้าตื่นเต้นทันที
ผมพยักหน้า “จริงสิฉันจะไปโกหกเธอทำไม”
“ตกลง!”
หญิงสาวรีบทำการแลกเปลี่ยนทันทีเงิน 20 เหรียญทองมาอยู่ในมือของผมอีกครั้งแล้ว หึผู้เล่นที่มีการปิดผนึกสัตว์เลี้ยงระดับสูงนี่ทำเงินได้ดีจริงๆ เลยนะเนี่ยความจริงตอนนี้ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็เริ่มล่าสัตว์เลี้ยงเพื่อเอามาขายบ้างแล้วเพราะมันได้ราคาดีมากแถมบริเวณป่าไม้มีพิษก็ยังมีผู้เล่นเริ่มตามจับผึ้งสังหารเลเวล 1 ด้วย แต่น่าเสียดายที่คนพวกนั้นรู้ตัวช้าไป คนที่ได้การ์ดปิดผนึกสัตว์เลี้ยงเลเวล1 มีอยู่ไม่มากหรอกนี่แหละคือความสุขในฐานะผู้บุกเบิกที่หลายๆ คนซึ่งขาดโอกาสไม่มีทางเข้าใจ
……
หลังจากที่เยว่ชิงเฉี่ยนเดินออกไปแล้วผมก็ถือหอกโลหะโบราณมาที่ลานกว้างก่อนจะพบว่าเต็มไปด้วยแผงลอยที่มีคนนำไอเท็มมาวางขาย ทางฝั่งตะวันออกมีกลุ่มของค้างคาวแวมไพร์ผึ้งบัมเบิ้ลบี โครงกระดูกดำเลเวล 1 ถูกนำมาวางขายโดยมีการแสดงราคาและค่าความเป็เลิศของพวกมันให้เห็นด้วยน่าเสียดายที่คนพวกนั้นขายมันในราคาค่อนข้างแพงเพราะแค่ผึ้งสังหารที่มีค่าความเป็เลิศ 37% ก็ถูกตั้งราคาไว้ที่100 เหรียญทองแน่ะ
ผมรีบหาพื้นที่ว่างซึ่งแทบจะเหลืออยู่เพียงน้อยนิดตั้งแผงของตัวเองก่อนจะะโ “เร่เข้ามาๆ ขายดาบหนามอุปกรณ์ระดับเหล็กดำจ้า...มีสัตว์เลี้ยงโครงกระดูกหินเขียวพลังป้องกัน 5 ดาว พลังโจมตี 4.5ดาว เป็มอนสเตอร์เลเวล 30 ด้วยน้าใครอยากได้ของดีรีบมาให้ไวเลย พ่อค้าจะรีบออกไปหาข้าวกินแล้ว ให้เวลา 20 นาทีเท่านั้น!”
ภายในเวลาอันรวดเร็วคนจำนวนมากก็เดินมายืนห้อมล้อมแผงลอยของผม ดาบหนามถูกขายออกไปเป็เงิน 3 เหรียญทอง ในขณะที่โครงกระดูกหินเขียวซึ่งมีค่าความเป็เลิศ 49% ยังคงถูกคนแย่งกันซื้อเรื่อยๆ พร้อมกับราคาที่พุ่งสูงขึ้น
ทันใดนั้นบาร์บาเรียนคนหนึ่งซึ่งมาพร้อมกับขวานในมือก็ะโขึ้น“เฮ้เพื่อน โครงกระดูกหินเขียวนั่นขายให้ฉันเถอะ ฉันให้ 10 เหรียญทองเลย แต่ถ้านายไม่ขายให้ฉัน ก็อย่าได้คิดจะออกนอกเมืองนี้ไปเลยเพราะถ้านายออกไปเมื่อไร ฉันฆ่านายแน่!”
เสียงของนักเวทสาวอีกคนดังขึ้น“สุดหล่อ ขายให้ฉันดีกว่า ฉันให้ 11 เหรียญทองเลย”
อันเดธอาชีพแอสซาซินแทรกตัวเข้ามาพร้อมพูดขึ้น“นี่พ่อหนุ่ม ฉันให้ 13 เหรียญทอง ถ้านายไม่ขายให้ฉันฉันจะให้นายได้ลิ้มลองความเ็ปยามที่เืไหลออกจากร่าง!”
……
เมื่อเห็นความดุเดือดของกลุ่มคนเหล่านี้ผมก็ชะงักไปในที่สุดผมก็ขายมันให้นักเวทผู้ให้ราคาสูงสุด “งั้นฉันขายให้นายแล้วกัน 19 เหรียญทอง”
หลังจากการซื้อขายเสร็จสิ้นเงิน 19 เหรียญทองก็ตกมาอยู่ในมือผม
ในเวลานั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์ของหลินหว่านเอ๋อร์ดูเหมือนว่าถึงเวลาต้องออกไปหาอะไรกินกับสาวๆ แล้วสิเนี่ย
……
ทันทีที่เดินมาถึงหอหญิงก็เห็นสาวสวยทั้งสองยืนรออยู่ด้านล่างแล้ว ผมยิ้มกล่าวทักทาย “สวัสดีตอนค่ำๆครับคุณหนู และคนสวยเยว่เอ๋อร์”
ตงเฉิงเยว่ยิ้ม“สวัสดีตอนค่ำจ้ะ พี่เซียวเหยาคนหน้าไม่อาย คิคิ”
ผม “...”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้ม“พอแล้วๆ ไปกินข้าวกันได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะรีบไปเก็บเลเวลอีกวันนี้ฉันต้องอัปให้ได้!”
“ไม่เห็นต้องซีเรียสขนาดนั้นเลยก็ได้มั้งคุณหนูว่าแต่ตอนนี้เลเวลเท่าไรแล้วล่ะ ถึงได้ร้อนใจขนาดนั้น?”
“วันนี้ฉันจะต้องถูกจัดให้อยู่อันดับ1 ของเมืองฝานซูให้ได้”
“ตกลงคุณหนูเลเวลเท่าไรแล้วเนี่ย?”
“เลเวล 30”
“อะไรนะ!!!”ผมเกิดตกตะลึงไปทันท