เมื่อตกกันได้แล้วป้าลู่ ก็กลับไปเก็บของนางเชื่อใจเด็กน้อยมาก และมั่นใจว่ายา ที่ให้ไปนั้นเด็กน้อยเป็ผู้ปรุงขึ้นมาเองเพราะนางเป็คนพาไปซื้อหม้อปรุง และหมอที่รักษาท่านแม่ก็บอกว่ายาพึ่งปรุงขึ้นมาไม่เกินห้าวันจะมีใครได้ถ้าไม่ใช่เด็กน้อย
“ นี่ข้าปรุงยาเยอะขนาดนี้เลยรึ ขวดกระเบื้องที่ป้าลู่ซื้อมาไม่พอใส่ ชุดสุดท้ายก็ใส่ไว้ในหม้อปรุงยาเลยก็แล้วกัน คงไม่มีใครตรวจข้าป่วยเสียขนาดนี้ ถุงย่ามก็ใส่หนังสือเสื้อผ้าสามชุด ก็มัดติดเอวไป”
“ เ้าดำพรุ่งนี้เ้าไปรอข้าที่ตีนเขานะ หรือจะไปรอที่บ้านเลยอย่าให้ใครเห็นเ้าล่ะ”
“ ชิ่วอิงเราออกไปกันเถอะ ข้าไปบอกอาจารย์ใหญ่แล้ว แต่ทางสำนักจะไม่จ่ายเงินให้ข้า สองสามวันที่ทำมาเพราะข้ามีลาไปเยี่ยมท่านแม่ด้วย”
“ ป้าลู่ไม่ต้องเป็ห่วงเ้าค่ะท่านก็รู้ว่าข้ามีเงิน แค่ท่านพาข้าไปเท่านั้น”
ป้าลู่หิ้วของพะรุงพะรังผิดกับชิ่วอิงที่มีถุงย่ามแค่ใบเดียว ถ้ามีใครสังเกตก็จะเห็นว่านางเป็เด็กตัวเล็กพุงโต
ป้าลู่ถูกตรวจค้นสิ่งของที่หิ้วออกจากสำนัก ชิ่วอิงเปิดถุงย่ามให้ดูเห็นแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น พวกเขาตรวจดูไม่ละเอียด รู้ว่าเด็กป่วยกลัวจะติดเชื้อแค่ชะโงกน่าดูเท่านั้น
ชิ่วอิง“ ตรวจดูเท่านี้รึข้าอุตส่าห์เอาของซ่อนไว้หลายที่ รอบเอวแน่นตึงจนอึดอัดไปหมดแล้ว”
“ป้าลู่ รู้จักร้านขายยาที่ไหนบ้างเ้าคะข้า้าขายยา ยังไม่กลับบ้านตอนนี้”
“ชิ่วอิง ยาที่เ้าให้ข้ามาเป็ยาที่เ้าปรุงเองใช่หรือไม่ ข้าจะพาเ้าไปขายกับร้านใหญ่เองเพราะเขาดูยาแล้วว่าเป็ยาดี หาได้ยากในแคว้นนี้”
“ เ้าค่ะป้าลู่ แต่ท่านต้องบอกกับทางร้านขายยาว่าเป็อาจารย์ของข้าที่รักสันโดษแวะมาหาได้เอายา ที่เพิ่งปรุงใหม่ ให้มาจำนวนมากนะเ้าค่ะ และมีจำนวนเท่านี้ไม่มีมาเพิ่มอีก แต่ถ้าอาจารย์ข้ามาเมื่อไหร่ก็อาจจะมียามาขายให้ แต่ให้คำตอบไม่ได้ ว่าจะมาเมื่อไหร่”
ทั้งสองพากันก่อนเดินมาถึงตีนเขา ชิ่วอิงกินยาไปหนึ่งเม็ด“ ป้าลู่หารถม้ารับจ้างไปเ้าค่ะ เผื่อมีใครพบเห็นจะได้รู้ว่าข้าไม่มีแรงเดิน”
ชิ่วอิง มองหาเ้าดำแต่ไม่เจอ “ น่าจะกลับบ้านไปแล้วเพราะมาที่นี่ถูกก็ต้องกลับบ้านถูก”
ทั้งสองนั่งรถม้าจากตีนเขา ไปยังร้านขายยาหรือโรงหมอ ก่อนถึงร้านขายยาชิ่วอิงเอาผ้าที่พันหน้าตาออก เสื้อผ้าที่สวมใส่จนหนาเตอะ และสิ่งที่ถูกมัดอยู่บนเอว
“ชิ่วอิง เ้าไม่ได้ป่วยจริงด้วยแถมผิวพรรณเ้าดูสดใสเรียบเนียน เพียงแค่ไม่ได้เจอเ้าไม่กี่วัน เ้าใส่ชุดใหญ่คลุมทั้งตัว และใส่เข้าไปสองชุดนี้เองแถมเ้าทำผ้ารัดไว้ที่รอบเอวอีก ข้าก็ว่าอยู่ว่าทำไมเ้าดูอ้วนขึ้น”
ทั้งสองคนลงมาจากรถม้าป้าลู่พาชิ่วอิง พบหมอใหญ่ที่เคยพาท่านแม่มารักษาหลายครั้งแล้ว
“ เ้ามีอะไรกับข้ารึ หรือว่าแม่ของเ้าป่วยอีกแล้ว แต่ยาดีขนาดนั้นคงไม่กลับไปป่วยอีกนาน ที่เ้ามาพบข้าวันนี้มีเื่อะไรก็รีบพูดมาเดี๋ยวตอนสายคนไข้จะเยอะ”
ชิ่วอิงยกขวด กระเบื้องขวดเล็กที่ข้างในบรรจุยารักษาโรค สารพัดแก้ไข้แก้ปวดหัวตัวร้อน เ็ปจากาแแมลงกัดสัตว์ต่อย นี่คือข้อความที่เขียนไว้ข้างขวดกระเบื้อง
“นี่มัน!ยา? ที่เ้าให้แม่ของเ้ากินแค่เม็ดเดียว อาการก็ดีขึ้นแต่วันนี้ดูเหมือนกลิ่นและสีจะเข้มข้นกว่าด้วยซ้ำเ้าหมายความว่ายังไงยาพวกนี้ ้าขายให้ข้าใช่หรือไม่”
“ ใช่เ้าค่ะท่านลุงหมอนี่คือยาที่อาจารย์ของปรุงขึ้นมา ไม่กี่วันนี้เองแล้วตอนนี้ท่านก็เดินทางไปที่อื่นแล้วและจะไม่กลับมาอีกนาน”
“ได้ๆ แม่หนูน้อยข้าจะให้ราคาเ้ายังยุติธรรมที่สุด แต่มียาอย่างอื่นอีกหรือไม่เช่นยาห้ามเื สมานาแ ข้า้าจำนวนมาก ทางร้านค้าแทบไม่มีเลยหลานชายที่ทำศึกาอยู่แนวหน้ามาทีก็ขนไปหมด”
“ มีเ้าค่ะ ยาห้ามเืและสมานแผลร้านของท่านต้องใช้เยอะขนาดนั้นเลยรึเ้าค่ะ บ้านเมืองก็ดูสงบดีมีา ด้วยรึเ้าค่ะ”
“ ไม่ใช่าใหญ่หรอก ส่วนมากก็เป็ชนกลุ่มน้อยบ้างกลุ่มโจรบ้าง ไหนจะมีพวกสัตว์ป่าอีก เขาจำเป็ต้องใช้ยาห้ามเืและสมานแผลค่อนข้างเยอะ”
“ ไว้เจออาจารย์ข้าจะขอให้ท่านปรุงยาขึ้นเป็พิเศษแต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอ”
“ ไม่เป็ไรอย่างนั้นตอนนี้เ้ามี ยาอะไรก็เอาออกมาให้หมดข้ายินดีจะรับซื้อทั้งหมดที่เ้ามี ”
ชิ่วอิงเอายาออกมากองเต็มบนโต๊ะ นางเก็บไว้แค่ในขวดกระเบื้องเล็กเท่านั้น
“ นี่ยาเ้าเยอะขนาดนี้เลยรึ? ดีมาก” ท่านหมอเ้าของร้านรีบเอาขวดยามานับจำนวนใส่ เพราะมีจำนวนเยอะที่ไม่ได้อยู่ในขวดกว่าจะเสื่อมสภาพลงก่อน”
“ ท่านหมอในหม้อปรุงยานี้ก็มีเ้าค่ะอาจารย์ข้าปรุงก่อนที่ท่านจะเดินทางไปข้าไม่มีขวด กระเบื้องใส่เ้าค่ะ”
“ห้ะ! มีอีกเป็หม้อรึ ดูเหมือนจะเป็ยารักษาสารพัดโรคใช่หรือไม่ ถ้าจำไม่ผิดและกลิ่นแบบนี้”
“ ใช่เ้าค่ะ อาจารย์ข้าท่านชอบการปรุงยามากขอแค่ให้มีสมุนไพรเท่านั้น ในเมืองนี้มีที่ไหนมีสมุนไพรขายจำนวนเยอะบ้างเ้าคะ”
“ ทางร้านเราปกติจะไปซื้อแถวแนวชายแดนที่ติดกับป่าหมอก ที่นั่นจะมีสมุนไพรจำนวนมากที่ชาวบ้านปลูกและขึ้นเองตามป่าเขาก็มี”
“ ไม่แน่ว่าอาจารย์ของข้าอาจจะอยู่แถวนั้นแล้วก็ได้ วันหลังข้าต้องไปแถวนั้นบ้าง อาจจะเจอกับอาจารย์ของข้า”
เมื่อนับเม็ดยาทั้งหมดแล้ว ชิ่วอิงได้รับเงินมาทั้งสองพันสามร้อยตำลึงทอง ชิ่วอิงขอรับเป็ตั๋วเงินสองพันตำลึงและอีกสามร้อยเป็ตั๋วเงินใบละร้อยตำลึงสองใบขอเป็ตำลึงทองอีกหนึ่งร้อย
“ชิ่วอิงเ้าจะให้ป้าเยอะขนาดนี้ไม่ได้นะแค่สิบตำลึงทอง ข้าและครอบครัวก็อยู่ได้นานหลายปีแล้ว เ้าเก็บไว้เถอะ”
“ ไม่ได้เ้าค่ะป้าลู่ ข้าให้ท่านเอาไปทำทุน จะค้าขายหรือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องกลับไปเป็ลูกจ้างของ สำนักหอมหมื่นลี้อีก”
ชิ่วอิงเอาตั๋วเงินสองร้อยตำลึงทองและอีกห้าสิบตำลึงทองให้ ป้าลู่ขัดเด็กน้อยไม่ได้ รับตำลึงทองและตั๋วเงินด้วยมืออันสั่นเทาเพราะชีวิตนี้แค่ตำลึงทองธรรมดาได้จับไม่กี่ครั้งเอง
“ ป้าลู่เรียกรถม้า ไปส่งบ้านข้าด้วยเ้าค่ะท่านเองก็ไปด้วยจะได้รู้จัก เผื่อวันหน้าข้างหน้าจะได้ไปมาหาสู่กันได้ให้รถม้าวิ่งผ่านบ้านของท่านด้วยนะเ้าค่ะจะได้จำไว้ว่าอยู่ตรงไหน”
รถม้าที่จ้างโดยไม่ต่อรองสักอีแปะวิ่งพาทั้งสองคนอ้อมไปมา พาไปบ้านป้าลู่แต่ไม่ได้แวะชี้แค่ให้รู้ว่าหลังไหนเท่านั้น และพาไปยังบ้านของชิ่วอิง
“ ท่านป้าบ้านของข้าคือหลังนี้เ้าค่ะท่านไม่ต้องแวะ หรือลงจากรถม้าให้วิ่งกลับที่บ้านท่านเลยเ้าค่ะ ข้ายังบอกอะไรท่านไม่ได้ตอนนี้ เอาเป็ว่าเพื่อความปลอดภัยของท่านก็แล้วกัน”
ชิ่วอิงเอาตำลึงเงินจ่ายค่ารถม้าและ ให้คนขับรถม้าเพิ่มอีกหนึ่งตำลึงเงินพื่อให้ ส่งป้าลู่เดินทางโดยปลอดภัย คนขับรถม้าดีใจและขอบคุณเป็การใหญ่
ป้าลู่ เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ชิ่วอิงส่ายหน้าเป็สัญญาณว่าห้ามพูด นางมาเข้าใจตอนที่คนขับรถม้าวิ่งสวนทางกับเพื่อน
“ อะไรนะเ้าได้เงินพิเศษมาด้วยแสดงว่าคนที่อยู่บนรถม้าก็มีเงินล่ะสิ อย่างนี้เราไม่หาเงินพิเศษเพิ่มกันรึ”
“ ไม่หรอกคนที่จ่ายเงินค่ารถและให้ เงินพิเศษแก่ข้าเป็คุณหนูท่านหนึ่ง ลงรถไปแล้วที่อยู่บนรถเป็แค่คนรับใช้เท่านั้น”
ป้าลู่จับตั๋วเงินที่ซ่อนอยู่ตรงหน้าอกและ ตำลึงทองอยู่ถุงย่าม ที่ขนลงมาจากตำหนักหอมหมื่นลี้“ ชิ่วอิงขอบใจมากเป็เ้าที่รอบคอบ ไม่อย่างนั้นข้าอาจอาจจะสูญเสียทั้งตำลึงและชีวิตก็ได้พวกมันน่าเห็นต้องเดินออกมาจากร้านขายยา”
“ ทำไมที่จวนเงียบเชียบขนาดนี้หายไปไหนกันหมดน่ะ หรือว่าจะอยู่ในสวนกัน”ชิ่วอิงลงจากรถม้า เดินเข้ามาที่จนไม่เจอใครสักคน
“เมี้ยว” เ้าแมวดำร้องทัก และวิ่งเข้ามาคลอเคลีย“ เ้าดำข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเ้าต้องมารออยู่ที่นี่ แล้วเ้าเห็น ทุกคนไหมว่าหายไปไหนกันหมด”
เ้าดำหันหน้าไปทางหลังบ้าน ชิ่วอิงวางหม้อปรุงยาและถุงย่ามลง เดินไปที่สวนหลังบ้าน
“ ท่านพ่อท่านแม่ ท่านปูท่านย่า ข้ากลับมาแล้วเ้าค่ะ” เสียงของชิ่วอิงทำให้ ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนที่กำลังถอนหญ้าอยู่หันมามองด้วยความในึกว่าหูตัวเองแว่วไป
“ชิ่วอิง เ้ากลับมาได้ยังไงทางสำนักปล่อยตัวให้ลูกศิษย์กลับมาแล้วอย่างนั้นรึ”
“ นั่นสิชิ่วอิง ดูเหมือนเ้าจะขาวผิวเรียบเนียนขึ้นนะแค่ไปอยู่เดือนกว่าเอง หลานย่ามาให้ย่ากอดหน่อย แต่อย่าดีกว่าตัวย่า สกปรกมีแต่ดิน”
“ ทุกท่านใจเย็นก่อนนะเ้าคะ แล้วข้าจะเล่าทุกอย่างให้พวกท่านฟังตอนนี้อยู่ในความสงบก่อนเดี๋ยวข้างบ้านจะได้ยิน”
“ อย่างนั้นพวกเรากลับไปที่บ้านกันก่อนเถอะ มีอะไรค่อยกลับไปพูดกัน”ชายชราพูดแล้วก็เดินนำหน้า กลับเข้าไปยังบ้าน
ชิ่วอิงเล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นตอนอยู่สำนักหอมหมื่นลี้ ทั้งหมดให้ฟัง
“โธ่! หลานย่าเ้าไม่น่าลำบากขนาดนั้นสอบไม่ผ่านก็ไม่เห็นเป็ไรเราก็แค่บอกว่าอีกห้าปีเราจะไปสอบ คัดเลือกใหม่เลยอยู่ตรงนี้รอก็ได้แล้ว”
“ นั่นสิลูกรักเ้าต้องลำบากไปอยู่ผู้เดียวไหนกระท่อมมืดกลางสวน พวกเขาช่างแล้งน้ำใจเสียจริงไม่สมกับเป็ตำหนักใหญ่ที่ผู้คนนับหน้าถือตาเลย”
“ ที่ข้าตัดสินใจอยู่ก็เพราะรู้สึกไม่เป็ธรรมกับการตัดสินรอบที่สี่ ซึ่งมันมีความขัดแย้งกับเสียงที่ตบมือดังลั่นห้องสอบคัดเลือก แต่บอกว่าสอบไม่ผ่านและเสนอ ให้ข้าเป็เด็กรับใช้แค่อาจารย์ใหญ่ไม่ต้องทำอะไรวิ่งแค่ยืมหนังสือเท่านั้น”
“ เพราะหนังสือที่อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์รองให้ข้าไปวิ่งยืมนั้นเป็หนังสือที่ข้าสนใจพอดี จึงอยู่เพื่อศึกษาหนังสือพวกนั้น จนข้าสามารถบันทึกและจดจำได้หมดแล้ว”
“ แต่มีเื่ที่น่ากลัวที่พวกท่านจะต้องรู้คือพวกเขา้าให้เด็กน้อย อย่างข้าตายด้วยการเอาสมุนไพรพิษไปปลูกตรงกระท่อม เพื่อที่ข้าสูดดมทุกวัน”
“ พวกท่านไม่ต้องห่วงหนังสือที่ศึกษาอยู่ช่วยข้าได้ เลยทำเป็ซ้อนแผนว่าป่วยและออกจากตรงนั้นมา ที่ข้าอยากทำต่อคือทำยังไงก็ได้ให้พวกเขาคิดว่าข้าตายไปแล้ว”
“ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว เพราะเรายังไม่รู้ว่าทำไมพวกเขา้ากำจัดข้า ที่เป็เด็กวัยหกขวบผู้หนึ่งเท่านั้น”
“ หรือว่าพวกเราจะย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่นกัน ขนาดจะฆ่าเด็กน้อยผู้หนึ่งไม่ใช่สำนักที่ดีแล้ว ั้แ่พวกเราอพยพมาถึง ยังไม่เคยมีเื่ราวกับใครเลย”
“ ไม่ได้เ้าค่ะถ้าพวกท่านจะย้ายไปไหนไม่ได้ ตำหนักหอมหมื่นลี้เปิดมาหลายพันปี ต้องมีเส้นสายและลูกศิษย์ หรือผู้มีอำนาจอยู่เื้ั ถ้าเราย้ายหนีพวกเขาอาจจะเดาได้ว่าพวกเรารู้ตัวแล้ว”
“ แล้วพวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะหลานรักในเมื่อเ้าตกอยู่อันตรายแบบนี้ ย่าคิดไม่ออกเหตุที่พวกเขา้ากำจัดเ้า และมองไม่ออกว่าข้างหน้าจะไปยังไงกันดี”
“หลานปู่หรือเราจะปล่อยข่าว ว่าเ้าเจ็บป่วยได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่เ้าต้องหาที่ซ่อนตัว ไม่ให้พวกเขาได้เจอตัว”
“ ข้าก็คิดแบบท่านปู่เ้าค่ะ ข้ามีที่อยากไปอยู่ซ่อนตัวแล้ว ขอเพียงแค่รอให้ข้าโตกว่านี้ ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะสู้พวกเขาไม่ได้”
