ณ เรือนอันใหญ่โตของจวนเยี่ยน ลมมรสุมนั้นไม่เคยนิ่งสงบ อย่างไรเสีย ‘ที่ใดมีคน ที่นั่นย่อมมีแม่น้ำ’ [1] และแม่น้ำของจวนเยี่ยนนั้น ก็ประกอบด้วยสตรีจริงๆ สองสามคน และ ‘สตรี’ ปลอมๆ อีกหนึ่งคน
ดังนั้น เพื่อให้เป็ไปตามหลักการที่ว่า ‘มีเพียงสตรีและคนถ่อยเท่านั้นที่ยากจะคบค้า’ [2] สตรีทุกผู้ในจวนเยี่ยนจึงพยายามอยู่เื้ัอย่างไม่ท้อถอย แต่หากจะถามว่าผู้ที่พยายามมากที่สุดในนั้นคือใคร? สวี่ชิวเยวี่ย จะต้องมีชื่อนี้อยู่แน่นอน
หลังจากผ่านเหตุการณ์แพ้ถั่วลิสงมา สวี่ชิวเยวี่ยก็สงบนิ่งไป่หนึ่ง ถึงอย่างไรเื่นั้นก็ก่อปัญหาไว้ใหญ่โต แม้แต่แม่ทัพเยี่ยนที่มิใช่พวก ‘เรือนหลัง’ ก็ยังต้องตื่นใจนต้องออกคำสั่งด้วยตัวเอง ห้ามไม่ให้สวี่ชิวเยวี่ยเข้าใกล้สถานที่ที่อาจารย์อวี้และเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วอาศัยและทำการเรียนการสอนอีก
เื่นี้สำหรับสวี่ชิวเยวี่ยในตอนนั้นแล้ว เรียกได้ว่าเป็การโจมตีที่ร้ายแรงมาก ถึงอย่างไรท่ามกลางจวนเยี่ยนแล้ว ผู้เดียวที่สวี่ชิวเยวี่ยสามารถพึ่งพิงได้ก็คือฮูหยินเยี่ยน แต่ที่พึ่งของฮูหยินเยี่ยนก็คือแม่ทัพเยี่ยน ดังนั้นสวี่ชิวเยวี่ยที่ได้ล่วงเกินแม่ทัพเยี่ยนนั้น ก็เท่ากับว่าได้สูญเสียแรงหนุนและที่พึ่งพิงของตนไปแล้ว หมดหนทางที่จะเชิดหน้าชูตาอยู่ในจวนเยี่ยนได้
แต่ความเย่อหยิ่งและทิฐิดื้อรั้นเข้ากระดูกดำของสวี่ชิวเยวี่ย กลับทำให้นางไม่สามารถหยุดมือได้ นางจะต้องขับร้องบทเพลงแห่งความเป็ไท และได้ที่ยืนในจวนใหม่ให้ได้ และภารกิจแรกที่สำคัญที่สุด ก็คือการเข้าใกล้ท่านป้าของตนอีกครั้ง ทำให้ฮูหยินเยี่ยนเป็บันไดไปสู่ตำแหน่งกุ้ยเชี่ย และเป็เกราะคุ้มกันของตน
สวี่ชิวเยวี่ยที่นิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหวมานาน เดินป้วนเปี้ยนอยู่ที่รอบนอกของจวนเยี่ยนมา่หนึ่ง เดิม้าจะสังเกตการณ์ต่อไป แล้วรอโอกาสที่ดีกว่านี้ไปอีกสักพัก แต่ใน่บ่ายที่แสนบังเอิญวันหนึ่ง สวี่ชิวเยวี่ยถือขนมที่ทำด้วยตนเองมาส่งที่เรือนของฮูหยินเยี่ยน กลับได้ยินข่าวที่ไม่ใช่เื่ดีสำหรับตนอย่างยิ่ง
มันเป็่บ่ายวันหนึ่งไม่ได้ต่างไปจากปกติ สวี่ชิวเยวี่ยที่ตรงไปหาฮูหยินเยี่ยนหลังจากทำขนมเสร็จ กลับหยุดฝีเท้าอยู่ที่ประตูเรือนของฮูหยินเยี่ยน
“แม่หนูชิวเยวี่ยผู้นั้น... เ้าตัวก็ไม่เลวหรอก แต่อย่างไรก็มาจากตระกูลสามัญ...”
ผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฮูหยินเยี่ยนคือใครกัน? สวี่ชิวเยวี่ยไม่รู้แน่ชัด แต่ฟังคำพูดของนางแล้ว สวี่ชิวเยวี่ยก็พอจะคาดเดาได้ว่าคงจะเป็หนึ่งในฮูหยินขุนพลที่มีหน้ามีตาไม่กี่คนในเมืองหลวงแห่งนี้ ถึงแม้ฮูหยินเยี่ยนจะปฏิบัติต่อสวี่ชิวเยวี่ยไม่เลวนัก แต่กลับไม่เคยพาสวี่ชิวเยวี่ยไปพบพวกนางอย่างเป็ทางการเลย
มือที่ถือขนมของสวี่ชิวเยวี่ยบีบเกร็งแน่นขึ้นมา เหมือนกับในมือของทั้งสองคนในห้องนั้น กำลังกุมชะตาชีวิตของตนเอาไว้อย่างแ่า และราวกับว่าหากมือของนางในยามนี้คลายลงเพียงนิด ก็จะสูญเสียโอกาสที่ขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่หวังไว้
ฮูหยินเยี่ยนประคองชาจรดริมฝีปากแล้วจิบเบาๆ ท่าทางราวกับยังคงลังเลและคิดไตร่ตรองอยู่
แต่ฮูหยินขุนพลที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางกลับรั้งรอไม่ไหวแล้ว จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ข้ารู้ว่าเ้าวางนางเอาไว้ในใจแล้ว แต่จวนเยวี่ยมีอำนาจเพียงใดในเมืองหลวง เ้าไม่รู้เลยหรือ?”
ตระกูลเยวี่ยและเยี่ยน อำนาจในเมืองหลวงนั้นเรียกได้ว่าทัดเทียม แทบจะเสมอกัน แต่หากว่าจวนเยี่ยนก้าวก่ายเื่การแต่งงานของบุตรธิดามากจนเกินไป ทำให้เยวี่ยเยียนหรานกลับจวนเยวี่ยด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เกรงว่ามรสุมจะโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้ง... ฮูหยินเยี่ยนย่อมเข้าใจความสำคัญในเื่นี้ดี แต่หากไม่มีคนที่สามารถถ่วงดุลเยวี่ยเยียนหรานได้ แล้วจะปล่อยให้เยวี่ยเยียนหรานทำตามอำเภอใจไม่สนกฎเกณฑ์ประเพณีเช่นนั้นหรือ?
สำหรับตัวเลือกนั้น สวี่ชิวเยวี่ยย่อมเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด ประการแรก สวี่ชิวเยวี่ยเกิดในตระกูลยากจนเล็กๆ ย่อมไม่ใฝ่สูงเกินตัว หากมีอิทธิพลขึ้นมาภายหลังจะได้ไม่คิดคด ประการที่สอง แม่บังเกิดเกล้าของสวี่ชิวเยวี่ยก็เป็น้องสาวต่างมารดาของฮูหยินเยี่ยน แม้ไม่ใช่ญาติสนิทแต่ก็นับว่ามีสายเืเดียวกันอยู่บ้าง
ยิ่งกว่านั้น ตระกูลของสวี่ชิวเยวี่ยก็พึ่งอำนาจของแม่ทัพเยี่ยนไม่น้อย คงไม่กล้าคิดที่จะก่อความวุ่นวายขึ้นมา สำหรับฮูหยินเยี่ยนแล้ว สวี่ชิวเยวี่ยย่อมเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้
ดังนั้นฮูหยินเยี่ยนจึงยังใคร่ครวญกับคำพูดของอีกฝ่ายอยู่เล็กน้อย ครู่หนึ่งจึงเอ่ยเสริมขึ้น “ที่เ้าพูดก็มีเหตุผล แต่อย่างไรนางก็ถือว่าเป็หลานสาวของข้า หากจะส่งให้คนอื่นนั้น ข้ากลับไม่อาจวางใจได้”
“เ้าก็ช่างใจอ่อนนัก ยังมัวคิดถึงความสัมพันธ์ทางสายเืที่ไม่นับว่าใกล้ชิดสักเท่าไรกับมารดานางอีก...” อีกฝ่ายกลับราวกับใจแข็งดั่งเหล็ก ไม่เห็นด้วยกับความคิดของฮูหยินเยี่ยนอย่างยิ่ง “แต่คนรู้หน้าไม่รู้ใจ เ้าจะไม่เข้าใจเชียวหรือ?”
ยามนี้ฮูหยินเยี่ยนไม่ได้เอ่ยตอบ นางเพียงนิ่งเงียบ อีกฝ่ายจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง หากเ้าเชื่อนาง เ้าก็สามารถเชื่อเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อมีแม่เ่าั้ได้เช่นกัน คิดดูแล้วพวกเขาเกิดมาในความยากจน ไร้ที่พึ่งพิง เทียบกับสวี่ชิวเยวี่ยแล้วจะไม่น่าไว้วางใจยิ่งกว่าหรอกหรือ?”
และทั้งสองฝั่งก็เงียบลงอีกครั้ง ทำให้ในใจของสวี่ชิวเยวี่ยเกิดความคิดและความหวาดระแวงขึ้นมามากมาย หากว่าตนยังไม่เคลื่อนไหวอะไรอีก เกรงว่าคงจะกลายเป็คนไร้ประโยชน์ที่ถูกทอดทิ้งของฮูหยินเยี่ยนเป็แน่แท้!
ไม่ได้เด็ดขาด!
สวี่ชิวเยวี่ยผู้หยิ่งยโส ไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นขึ้นแน่ ตนเร่งเดินทางยาวไกลเป็พันลี้จากเจียงหนานมายังเมืองหลวง สิ่งที่้ามาตลอดก็คือตำแหน่งนั้น ถึงแม้ตามฐานะของตนจะไม่สามารถเป็ฮูหยินของเยี่ยนอวิ๋นเฟย เป็ภรรยาอันชอบธรรมที่ได้รับแต่งตั้งเป็เก้ามิ่งในราชสำนักได้ แต่ตำแหน่งกุ้ยเชี่ยก็ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด!
หากตอนนี้ตนกลายเป็คนที่ถูกทิ้ง สุดท้ายคงทำได้เพียงกลับไปเจียงหนานด้วยความสิ้นหวัง หาลูกศิษย์ของท่านพ่อมาแต่งงานสักคนแล้วสิ้นสุดชีวิตอันน่าอนาถนี้ หากเป็เช่นนั้น ความรุ่งเรือง ร่ำรวย ความหรูหราดั่งทองคำดั่งหยกที่ตนใฝ่ฝันถึงมาตลอด ทั้งหมดก็จะกลายเป็ฟองอากาศไปอย่างนั้นหรือ?!
มือของสวี่ชิวเยวี่ยบีบจานอาหารไว้แน่น แม้จะไม่เอ่ยอะไร แต่ในใจกลับบรรยายบทละครอันยิ่งใหญ่ออกมาแล้ว นางจะต้องคว้าโอกาสสุดท้ายเอาไว้ ทำให้ตนได้กลายเป็คนที่ฮูหยินเยี่ยนไว้วางใจที่สุดให้ได้! มีเพียงทางนี้เท่านั้น ตนถึงจะได้รับโอกาสที่เหลืออยู่ ถึงจะไม่เป็คนไร้ประโยชน์...
สวี่ชิวเยวี่ยไม่ได้รั้งอยู่นาน นางรีบก้าวออกไปจากหน้าห้องของฮูหยินเยี่ยน ราวกับว่าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แล้วกลับไปยังห้องของตน
ภายใต้ข้อเท็จจริงอันโหดร้าย เวลาที่เหลืออยู่ของสวี่ชิวเยวี่ยนั้นมีไม่มากแล้ว หากสวี่ชิวเยวี่ยยังไม่พยายามหาทางตอบโต้ เช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะหลุดมือไป
ั้แ่วันนั้นเป็ต้นมา สวี่ชิวเยวี่ยก็เริ่มประจบประแจงอีกครั้ง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเื่อะไรนางก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวายคอยประจบอยู่ข้างกายฮูหยินเยี่ยน ทำให้ฮูหยินเยี่ยนไม่อาจปฏิเสธได้
ในตอนแรก ฮูหยินเยี่ยนยังคิดถึงคำสั่งเมื่อคราวก่อนของแม่ทัพเยี่ยน จึงคิดจะปฏิเสธความหวังดีของสวี่ชิวเยวี่ย แต่เพราะแม่ทัพเยี่ยนไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับเื่ในเรือนหลังนัก ฮูหยินเยี่ยนจึงค่อยๆ คุ้นชินกับการเอาใจอย่างพิถีพิถันของสวี่ชิวเยวี่ยอย่างช้าๆ ถึงอย่างไรในใจของฮูหยินเยี่ยน ก็มีหลานสาวของตนผู้นี้อยู่เช่นกัน
สำหรับฮูหยินเยี่ยนแล้ว สวี่ชิวเยวี่ยนั้นเฉลียวฉลาดน่าเอ็นดู สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความเชื่อฟังไม่สร้างปัญหา จึงทำให้ฮูหยินเยี่ยนรู้สึกวางใจอย่างยิ่ง ดังนั้นในใจของนางจึงยังหวังให้สวี่ชิวเยวี่ยอยู่ข้างกายเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว ไม่ใช่เยวี่ยเยียนหรานที่ยากจะเข้าใจผู้นั้น และยิ่งไม่ใช่ใครคนอื่นด้วย
เช่นนี้แล้ว ถ้าวันใดวันหนึ่งเื่ถูกเปิดเผย เื่ที่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วปลอมเป็ชายนั้นถูกใครพบเข้า หากคนคนนั้นคือสวี่ชิวเยวี่ย... ทางรอดของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วและจวนเยี่ยน ก็จะมากขึ้นอีกสักหน่อย...
เชิงอรรถ
[1] ที่ใดมีคน ที่นั่นย่อมมีแม่น้ำ (有人的地方就有江湖) คำว่าแม่น้ำในที่นี้ หมายถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนในสังคมมนุษย์
[2] มีเพียงสตรีและคนถ่อยเท่านั้นที่ยากจะคบค้า เข้าใกล้ไปคือไร้มารยาท ตีตัวออกหากก็ขุ่นเคืองใจ (唯女子与小人为难养也,近之则不逊,远之则怨。) เป็สำนวนภาษิตที่ขงจื่อเคยว่าไว้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้