บทที่ 133 ความสุขของพ่อ หนูไม่้า
ค่ำคืนที่ไร้ซึ่งคำพูด
เช้าตรู่วันต่อมา แม่ของเย่จื่อเฉินไปส่งเถียนเถียนที่โรงเรียนอนุบาล
เมื่อในบ้านไม่มีคนอยู่แล้ว เย่จื่อเฉินก็รีบทำงานทันที
การฟื้นคืนชีพให้หลิวฉิงจะต้องสำเร็จ ถึงแม้ว่าของทุกอย่างมันจะหายาก แต่เื่นี้ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เย่จื่อเฉินจะไม่ลงมือทำ
เหอเซียนกู่ เย่จื่อเฉินยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จัก
ส่วนไท่ซางเหล่าจวิน ก็อยู่ใน่าเย็น
ดูเหมือนว่าในตอนนี้ เื่ที่เขาสามารถทำได้จะมีแค่ต้องเอาเนตรัมาไว้ในมือให้ได้ก่อน
ถ้าพูดถึงการสังหารั องค์ชายสามคือผู้เชี่ยวชาญที่สุดแล้ว บางทีถ้าทักไปหาเขาก็อาจจะได้เนตรัพันปีก็ได้
เย่จื่อเฉิน : องค์ชายสาม องค์ชายสาม
องค์ชายสามนาจา : มีอะไรท่านเง็กเซียน?
รูปโปรโฟล์น่ารักขององค์ชายสามแวบเข้ามาในหัวทันที
เย่จื่อเฉิน : องค์ชายสามฆ่าัมาเยอะแล้วใช่ไหม?
องค์ชายสามนาจา : แน่นอน
เมื่อพูดถึงการสังหารั ถ้าบอกว่านาจาเป็ที่หนึ่งก็ไม่มีใครกล้าเป็ที่สองแล้ว
องค์ชายสามนาจา : ัที่โดนข้าสังหารมีประมาณแปดร้อยตัวหรือหนึ่งพันตัวนี่แหละ ว่าแต่ท่านเง็กเซียนถามเื่นี้ทำไมเหรอ?
เย่จื่อเฉิน : ข้าอยากขอเนตรัที่บำเพ็ญเพียรมาเป็เวลาหนึ่งพันปีจากองค์ชายสามหน่อยน่ะ
องค์ชายสามนาจา : บำเพ็ญเพียรพันปี?
องค์ชายสามนาจาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
องค์ชายสามนาจา : เหมือนว่าข้าจะยังไม่เคยสังหารัที่บำเพ็ญเพียรถึงหนึ่งพันปีเลยนะ
“...”
หัวใจของเย่จื่อเฉินวูบโหวงทันที เมื่อได้เห็นข้อความนี้
ถ้าแม้แต่นาจายังไม่มี ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีโอกาสที่จะหาเนตรัพันปีบน์ได้แล้วล่ะ
องค์ชายสามนาจา : จริงสิ ในตอนที่ข้าเพิ่งเข้ามาในกลุ่ม ข้าเคยส่งัไปแล้วตัวหนึ่ง ัตัวนั้นเป็ัที่บำเพ็ญเพียรมาหนึ่งพันปีแล้ว
จู่ๆ องค์ชายสามนาจาก็ได้ส่งข้อความกลับมา
เย่จื่อเฉินคลำเนตรัในกระเป๋ากางเกงโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นข้อความนี้
เย่จื่อเฉิน : ท่านบอกว่าัตัวนั้นเป็ัที่บำเพ็ญเพียรมาหนึ่งพันปีเหรอ!
องค์ชายสามนาจา : ใช่แล้ว
องค์ชายสามนาจาตอบกลับ
องค์ชายสามนาจา : ถ้าท่านเง็กเซียน้า ข้าจะช่วยไปถามให้ท่านว่าใครเป็คนได้เนตรัไป
เย่จื่อเฉิน : ไม่ต้องหรอก เนตรัอยู่กับข้านี่แหละ
เย่จื่อเฉินรีบตอบกลับ
องค์ชายสามนาจา : อืม เนตรัอันนั้นเป็เนตรัพันปีท่านเง็กเซียนยังมีเื่อะไรอีกไหม?
ดูท่าว่าองค์ชายสามนาจาจะอยากกลับไปนอนแล้ว เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วแล้วส่งข้อความถามกลับไป
เย่จื่อเฉิน : แล้วบน์มีใครมีรากบัววิเศษเก้ารูบ้างไหม?
องค์ชายสามนาจา : รากบัวเก้ารูเหรอ
อาค์ชายสามนาจาเงียบไปนาน ก่อนจะตอบกลับ
องค์ชายสามนาจา : ที่ข้าไม่มีหรอก ของแบบนี้บน์น่าจะไม่มี แต่ถ้าเทพธิดาเหอเซียนกู่ในกลุ่มเทพโป๊ยเซียน[1] ก็อาจจะมีอยู่นะ
เย่จื่อเฉิน : แล้วองค์ชายสามช่วยไปเอามาให้ข้าหน่อยได้ไหม
องค์ชายสามนาจา : ไม่ได้หรอก พวกข้าก็ไม่ได้สนิทกับเทพกลุ่มโป๊ยเซียนขนาดนั้น น่าจะช่วยท่านเง็กเซียนไม่ได้
เย่จื่อเฉิน : เข้าใจแล้ว องค์ชายสามไปนอนเถอะ
ตอนนี้เขามีเนตรัพันปีอยู่ในมือแล้ว แต่ว่ารากบัววิเศษเก้ารู้นั้นจะต้องไปขอมาจากเทพธิดาเหอเซียนกู่คนเดียวเท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าในกลุ่มแชท์จะไม่มีเทพในกลุ่มเทพโป๊ยเซียนอยู่เลย
“เ้านาย เหมือนว่าจะมีคนมาหาเ้านายนะ”
เสี่ยวไป๋วิ่งลิ้นห้อยเข้ามาในบ้าน เย่จื่อเฉินวางโทรศัพท์ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
รถรุ่นเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่นอกลานบ้าน ในขณะที่จูซือเหลียงได้ยืนอยู่บริเวณลานบ้านแล้ว
“หมอนั่นมาได้ยังไง”
เย่จื่อเฉินหรี่ตามอง เพียงครู่เดียวเขาก็นึกถึงความเป็ไปได้บางอย่าง จึงกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหน้าพูด
“เฝ้าบ้านดีๆ ล่ะ”
“รับทราบครับ!” เสี่ยวไป๋กระดิกหาง แล้วพูด “มีผมอยู่ด้วย ไม่มีใครเข้าบ้านเราได้แน่นอนครับ หรือถ้าไม่ไหวเราก็ยังมีกลุ่มลูกน้องอยู่นะครับ”
“เก่งจังนะแกน่ะ”
เย่จื่อเฉินลูบศีรษะเล็กของมัน ก่อนจะเดินออกไป
“เย่จื่อเฉิน”
จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ทำให้สายตาของจูซือเหลียงที่มองเย่จื่อเฉินเต็มไปด้วยความยำเกรง
นี่เป็ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็นอีกฝ่ายเป็คู่ปรับ
“คุณหยางเจิ้นในคุณมาหาผมเหรอ? เขาก็ยังไม่สนโลกเหมือนเดิมเลยนะ”
คิดไม่ถึงเลยว่าเย่จื่อเฉินจะเดาได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ จูซือเหลียงจึงไม่ได้พูดอะไรมาก และพยักหน้ารับ
“คุณลุงหยางให้ผมมารับคุณจริงๆ เขาอยู่เป็เพื่อนอี่ฉือที่โรงพยาบาล ผมก็เลย…”
“คุณอย่ามาช่วยเขาหาข้ออ้างเลย คุณจะให้ผมเชื่อเหรอว่าเขาพูดแบบนี้?” เย่จื่อเฉินสะบัดเสียงห้วน “เขาเป็คนยังไง ผมว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าผมนะ”
“เอ่อ…”
จูซือเหลียงเอ่ยขึ้นติดขัด เขารู้ดี ถ้าไม่มีอะไรผิดคาด
ตอนนี้คุณหยางเจิ้นก็น่าจะกำลังคุยเื่งานอยู่
“พอเถอะ อย่าเสียเวลาเลย พาผมไปดูหน่อย ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าคุณหยางเจิ้นเขาจะรู้สึกอะไรบ้างไหมที่เกิดเื่แบบนี้”
“งั้นก็ไปเถอะ”
จูซือเหลียงเองก็หัวเราะเสียงแ่
ห้องพิเศษ โรงพยาบาลเมืองปิงเฉิง
บอดี้การ์ดชุดดำสิบกว่าคนยืนเรียงกันเป็สองแถวติดกำแพง เวลาที่ทีมแพทย์พยาบาลเดินมาถึงตรงนี้ ทุกคนก็จะกลืนน้ำลายโดยอัตโนมัติ
ช่วยไม่ได้ ท่าทางแบบนี้มันน่ากลัวมากเกินไปจริงๆ
ภายในห้อง หยางเจิ้นไม่ได้เหมือนพ่อคนอื่นที่พอรู้ว่าลูกสาวได้รับาเ็แล้วจะใส่ใจดูแล
ั้แ่วินาทีแรกที่เขาเข้ามาในห้อง เขาก็ยังไม่แม้แต่จะวางโทรศัพท์ เขาเอาแต่ยุ่งอยู่กับการหาเงิน
เหตุการณ์แบบนี้ ดูเหมือนว่าหยางอี่ฉือจะชินกับมันไปแล้ว เธออยู่ในชุดคนไข้พร้อมกับหลุบตาลงอ่านนิตยสารแฟชั่นเล่มล่าสุด ทำราวกับว่าในห้องนี้ไม่มีหยางเจิ้นอยู่ั้แ่แรก
ราวกับคนแปลกหน้า
นี่แหละคือสิ่งที่พวกเขาเป็
เนิ่นนานกว่าจะจบบทสนทนาทางโทรศัพท์ หยางเจิ้นถึงได้ขมวดคิ้วมุ่นวางสาย ราวกับว่าการคุยโทรศัพท์ในครั้งนี้มันไม่เป็ไปตามที่เขา้า
“อี่ฉือ”
เพิ่งจะอ้าปากพูด โทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
หยางเจิ้นมองโทรศัพท์ ซึ่งเป็จังหวะเดียวกันกับที่หยางอี่ฉือเอานิตยสารวางไว้ข้างกาย
“ออกไปคุยข้างนอกดีกว่าไหมคะ หนู้าพักผ่อน”
“นี่แกกำลังโทษฉันอยู่เหรอ?” หยางเจิ้นไม่ได้สนใจโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด แล้วพูดขึ้น “ทุกอย่างที่ฉันทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อตัวแก เพื่ออนาคตของแกทั้งนั้น”
“หนูก็ไม่ได้ปฏิเสธมัน ไม่ใช่เหรอคะ?” หยางอี่ฉือกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสมเพชตัวเอง ก่อนจะจับผ้าห่มขึ้นคลุมตัว “ทำเพื่อหนู เพื่อหนูทั้งนั้น”
“แกอย่ามาหาเื่นะ ทำไมแกถึงไม่เข้าใจฉันสักที!”
“พ่อคะ พ่อบอกว่าหนูกำลังหาเื่ทะเลาะเหรอคะ?”
หยางอี่ฉือที่อยู่ในผ้าห่มผุดลุกขึ้นนั่งทันที ขอบตาแดงก่อนจะพูดขึ้น
“พ่อรู้หรือเปล่าว่าเมื่อวานหนูเกือบจะตายอยู่แล้ว แต่พอพ่อมาถึงแล้วพ่อทำอะไร พ่อคุยโทรศัพท์ คุยเื่งาน พ่อมาอยู่ในห้องเกินหกชั่วโมงแล้ว พ่อได้ถามอาการหนูสักคำหรือยัง ในสายตาของพ่อ พ่อเห็นว่างานมันสำคัญมากกว่าหนูใช่ไหม?”
“ก็ที่ฉันทำอยู่มันก็เพื่อแกไม่ใช่หรือไง ที่ฉันหาเงินงกๆ สุดท้ายฉันก็เก็บเอาไว้ให้แกไม่ใช่เหรอ ตระกูลจูเป็ตระกูลใหญ่ ถ้าฉันไม่พยายามเรียกค่าสินสอดมาให้แกมากพอ เกิดแกโดนตระกูลจูรังแกขึ้นมาจะทำยังไง?”
“แต่หนูไม่ได้ชอบจูซือเหลียง!”
“แกพูดอีกทีสิ!”
ใบหน้าของหยางเจิ้นดุดันทันที
“หนูบอกว่าหนูไม่ได้ชอบจูซือเหลียง!”
หยางอี่ฉือตะเบ็ง หยดน้ำตาตรงขอบตาก็ไหลหยดลงมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ได้
“หนูไม่ชอบทุกอย่างที่พ่อเตรียมไว้ให้หนู แล้วหนูก็ไม่ชอบความสุขที่พ่อบอกว่าหาไว้ให้ หนูไม่ได้้าทุกสิ่งนี้เลยสักนิด เชิญค่ะ แขกของพ่อมาหาแล้ว เชิญพ่อออกไปข้างนอกด้วย หนูจะพักผ่อน!”
“เนรคุณ!”
หยางเจิ้นยกมือขึ้นจะตบ แต่หยางอี่ฉือก็นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่หลบไปไหน ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองหยางเจิ้นเขม็ง
หมับ!
ในวินาทีที่ฝ่ามือของหยางเจิ้นกำลังจะตบลงไป จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งเข้ามาคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ทันที
“พอได้แล้ว คุณหยางเจิ้น เราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
___________________________________________________
[1] เทพโป๊ยเซียน หมายถึง เซียนทั้งแปดของจีน เป็เซียนแห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง