ดวงตาของเหลยอวิ๋นถิงฉายแววกระตือรือร้น เขาเชื่อถือเซียวเฉินโดยสมบูรณ์ สีหน้าเปลี่ยนจากสงสัยเป็นับถือ ถึงขั้นยอมกราบเซียวเฉินเป็อาจารย์ เซียวเฉินก็อึ้งกับเื่นี้ จากนั้นยิ้มกล่าว “ไม่จำเป็ต้องกราบอาจารย์ เ้าช่วยข้าไว้ ถือเป็การตอบแทนน้ำใจเท่านั้น”
จากนั้น เซียวเฉินถาม “เล่าสภาพการณ์ของที่นี่ให้ข้าฟังหน่อย ที่นี่คือที่ใด? อยู่เขตแดนใด?”
เหลยอวิ๋นถิงลุกขึ้น อธิบายให้เซียวเฉินฟัง “หมู่บ้านเหลยถิงอยู่ภาคกลางของทิศตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ในเขตแดนแคว้นเยี่ย หมู่บ้านเหลยถิงเราถือเป็กลุ่มอิทธิพลที่ไม่อาจดูเบาได้ของที่นี่” เอ่ยถึงตรงนี้ เหลยอวิ๋นถิงก็เผยสีหน้าภาคภูมิใจ
“ที่นี่อยู่ห่างจากแคว้นชางหวงเพียงใด?” เซียวเฉินถาม
เหลยอวิ๋นถิงครุ่นคิด จากนั้นกล่าวว่า “ตอนแรกข้ากับน้องสาวพบเ้าในเทือกเขาแห่งหนึ่ง หมู่บ้านเหลยถิงเราอยู่ค่อนไปทางภาคกลางของแคว้นเยี่ย อยู่ห่างจากแคว้นชางหวงหลายแสนหลี่”
เซียวเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยวาจา
หลังตนเองจากมา ลั่วเทียนอู่จะสร้างความลำบากให้สถานศึกษาชางหวงหรือไม่?
เบื้องหน้าปรากฏเงาร่างขึ้นหลายสาย คนเ่าั้คือสหายของเขา แววตาหดหู่สิ้นหวัง เซียวเฉินไม่ตำหนิพวกเขา ถึงอย่างไร สถานการณ์ก็เห็นๆ อยู่ ออกมาคือตาย
เพียงแต่การจากกันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงได้พบพาน...
จากนั้น เซียวเฉินยื่นมือไปััร่างของเหลยอวิ๋นถิงแล้วขมวดคิ้วนิดๆ พร์ของเหลยอวิ๋นถิงเรียกได้ว่าธรรมดาอย่างยิ่ง ผู้ฝึกวิชายุทธจะฝึกวิชาได้นั้น ชีพจริญญาต้องทะลวงหกจุด แล้วชีพจริญญาของเขาก็ทะลวงแค่หกจุด วันหน้าอย่างมากที่สุดก็บรรลุได้แค่ขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้าเท่านั้น มีพร์แค่นี้เอง มิน่าเล่า พยายามมากเพียงไรก็ไม่ได้รับผลตอบแทน
จากนั้น เซียวเฉินบอกเหลยอวิ๋นถิงว่า “คุณสมบัติของเ้าเรียกได้ว่าธรรมดาอย่างยิ่ง วันหน้าอย่างมากที่สุดก็บรรลุได้แค่ขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้าเท่านั้น ดังนั้น ข้าจะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของเ้า แต่เ้าจำเป็ต้องใคร่ครวญสิ่งที่ข้าจะกระทำให้รอบคอบ”
เซียวเฉินมีสีหน้าและน้ำเสียงเคร่งขรึม
เหลยอวิ๋นถิงพยักหน้า กล่าวว่า “เ้าบอกมาได้เลย”
เซียวเฉินกล่าวว่า “ข้าจะทำลายทิ้ง จากนั้นสร้างขึ้นใหม่ ให้เ้าเริ่มทุกอย่างใหม่ั้แ่ต้น เ้าคิดดูเองเถอะ”
ประโยคเดียว ทำให้เหลยอวิ๋นถิงเหม่อลอย
ทำลายพลังฝีมือทั้งหมดของตนเอง เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...
เซียวเฉินเห็นความลังเลของเหลยอวิ๋นถิงก็เอ่ยว่า “เ้าต้องครุ่นคิดให้กระจ่าง ไม่เช่นนั้น เมื่อข้าทำแล้วเ้าสำนึกเสียใจภายหลังก็สายเกินแก้ หากเ้าคิดจะเก็บความสามารถในตอนนี้ไว้ อนาคตเ้าก็บรรลุได้แค่ขั้นเสวียนฟ้าเท่านั้น หรือจะเริ่มต้นใหม่ เดินบนเส้นทางของผู้เข้มแข็ง เ้าคิดดูให้ดี”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็หันกายจะจากไป แต่เหลยอวิ๋นถิงเรียกเขาไว้
“รอเดี๋ยว”
เซียวเฉินหันไปมองเหลยอวิ๋นถิง เห็นเหลยอวิ๋นถิงมีสีหน้าจริงจังราวกับตัดสินใจครั้งใหญ่ เหลยอวิ๋นถิงกล่าวว่า “ข้ายินดีเริ่มต้นใหม่ เดินบนเส้นทางของผู้เข้มแข็ง!”
เซียวเฉินยิ้ม
หากเขาเดินจากไปแล้วเหลยอวิ๋นถิงยังไม่เอ่ยปากรั้งไว้ ต่อให้วันหน้าเหลยอวิ๋นถิงคิดดีแล้วมาหาเขาภายหลัง เขาก็จะไม่ช่วยเหลือ เพราะคนที่ลังเลตัดสินใจไม่เด็ดขาดถูกกำหนดแล้วว่าเป็คนทำการใหญ่ไม่ได้
แต่เหลยอวิ๋นถิงครุ่นคิดแค่ครู่เดียวก็ตัดสินใจได้แล้ว แม้สาเหตุส่วนหนึ่งเป็เพราะเขาอับจนหนทาง แต่ก็แสดงถึงความกล้าหาญของเขาเช่นกัน
ถึงอย่างไร ทำลายพลังบำเพ็ญเพียรของตนเองแล้วเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้
แค่ความกล้าหาญและการตัดสินใจเช่นนี้ก็ทำให้เซียวเฉินตกลงใจที่จะช่วยเขาแล้ว
เซียวเฉินยิ้มกล่าว “เ้าไม่กลัวว่าข้าจะเป็คนชั่วที่จงใจล่อลวงเ้า จากนั้นทำให้เ้ากลายเป็คนพิการหรือ?”
เหลยอวิ๋นถิงกลับเฉยชาต่อเื่นี้ เขาเอ่ยยิ้มๆ อย่างไม่อินังขังขอบ “เ้าไม่ได้ประโยชน์อะไรสักหน่อย จะวางแผนการแบบนั้นไปทำไม? ต่อให้เป็อย่างที่เ้าบอกจริงๆ ข้าก็ยอมรับ เพราะข้าหมดหนทางถอยแล้ว ข้าต้องเสี่ยงดูสักครั้ง!”
“ดี ด้วยนิสัยของเ้า ข้าเซียวเฉินขอคบหาเ้าเป็สหาย”
“อืม”
...
ภายในห้องของเซียวเฉิน เซียวเฉินกางเขตแดนเพื่อป้องกันมิให้เสียงร้องโหยหวนของเหลยอวิ๋นถิงดังไปดึงดูดความสนใจของผู้คน เวลานี้ ภายในห้องมีเพียงเซียวเฉินและเหลยอวิ๋นถิง เซียวเฉินมองเขา
“อวิ๋นถิง เ้าเตรียมตัวพร้อมหรือยัง?”
เหลยอวิ๋นถิงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเอ่ยช้าๆ “มาเถอะ”
ตูม!
เซียวเฉินปลดปล่อยสภาวะบนร่างออกมาอย่างบ้าคลั่ง แสงเสวียนเจิดจรัสจับตา ดุจดาราบนฟากฟ้า ในใจของเหลยอวิ๋นถิงเฝ้ารอ ตื่นเต้น ไร้ความหวาดกลัว
พลังเสวียนอันทรงพลังรุกรานเข้าสู่ร่างของเหลยอวิ๋นถิงและทำลายล้างในพริบตา เหงื่อหยดจากหน้าผาก ความเ็ปราวกับจะฉีกกระชากเขา แต่เขาก็ยังฝืนทนไม่ส่งเสียงร้องอุทานอย่างเ็ปออกมา
นี่คือความมุ่งมั่นระดับใด!
เซียวเฉินยิ่งรู้สึกว่า ภายภาคหน้าเหลยอวิ๋นถิงต้องสำเร็จการใหญ่!
วิ้งวิ้ง!
ครึ่งชั่วยามต่อมา เหลยอวิ๋นถิงหมดสติโดยสิ้นเชิง ส่วนเซียวเฉินก็ถอนแรงคืน ถึงอย่างไร พลังของเซียวเฉินยังฟื้นฟูไม่เต็มที่และอยู่ในสภาพเสียหายอย่างหนัก ดังนั้น เขาจึงอยู่ในสภาพหมดสติต่อ
“ฟู่ว ในที่สุดก็สำเร็จ...” เซียวเฉินยิ้ม มองเหลยอวิ๋นถิงที่ล้มไปกองกับพื้นแล้วก็หัวทิ่มหมดสติไป
คนทั้งสองนอนอยู่เช่นนี้สามวัน
สามวันผ่านไป ทั้งสองได้สติคืนมาช้าๆ ยามนี้ เหลยอวิ๋นถิงสีหน้าซีดขาวเพราะถูกทำลาย เรียกได้ว่าไม่มีเรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง สู้ไม่ได้แม้กระทั่งเด็กน้อย
ส่วนเซียวเฉิน แม้สีหน้าซีดขาว แต่เขาก็สามารถฟื้นฟูจิตใจถึงสภาพสุดยอด เพราะคัมภีร์หงสาานิรวาณหล่อเลี้ยงร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่กี่เดือนก็จะฟื้นฟูพลังได้เต็มที่
เซียวเฉินมองเหลยอวิ๋นถิงแล้วใช้ดัชนีจิ้ม แสงเสวียนสายหนึ่งจู่โจมเข้าสู่การรับรู้ของเหลยอวิ๋นถิง เขากล่าวว่า “นับจากนี้ไป เ้าต้องเริ่มฝึกพื้นฐานใหม่อีกครั้ง ใช้เคล็ดวิชาที่ข้าให้เป็พื้นฐาน แล้วฝึกฝนตามนี้”
“วิชาอัสนีคลั่ง...”
เหลยอวิ๋นถิงเอ่ยช้าๆ จากนั้นร่างสะท้าน
“เคล็ดวิชาขั้นดิน!”
ต้องรู้ก่อนว่า ในหมู่บ้านเหลยถิงมีเคล็ดวิชาขั้นดินอยู่น้อยนิด ต้องเป็ผู้าุโและประมุขตระกูลเท่านั้นจึงจะสามารถฝึกได้ แต่ตอนนี้เซียวเฉินถึงกับให้เคล็ดวิชาขั้นดินแก่เขาชุดหนึ่ง!
“ตั้งใจฝึกฝน ตอนนี้เ้ายังต้องพยายามฝึกวิชา อยากแข็งแกร่งกว่าผู้อื่นก็ต้องขยันกว่าผู้อื่น ไม่เช่นนั้น ต่อให้เ้ามีเคล็ดวิชาขั้นฟ้า เ้าก็ยังถูกคนเหยียบย่ำดังเดิม!” คำพูดของเซียวเฉินดังก้องในหูของเหลยอวิ๋นถิง
เหลยอวิ๋นถิงพยักหน้าซ้ำๆ
“อืม ข้าต้องเดินในเส้นทางของตนเอง”
เซียวเฉินเก็บเขตแดน คนทั้งสองเดินทอดน่อง เซียวเฉินอธิบายเคล็ดวิชาอัสนีคลั่งให้เหลยอวิ๋นถิงฟัง
“เคล็ดวิชาอัสนีคลั่งค่อนข้างเหมาะสมกับเ้า แกร่งกร้าวทรงพลัง รุกได้รับได้ เป็ได้ทั้งเคล็ดวิชาจู่โจมและวิชายุทธร่างกาย สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อได้”
“นายน้อยอวิ๋นถิง แย่แล้ว”
เวลานี้เอง มีบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งมาหาเหลยอวิ๋นถิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เกิดอะไรขึ้น?” เหลยอวิ๋นถิงถาม
บ่าวรับใช้ผู้นั้นกล่าวว่า “คุณหนูชิงโหรวกับนายน้อยเหลยคุนทะเลาะกัน ท่าทางจะลงไม้ลงมือแล้ว”
เหลยอวิ๋นถิงมีสีหน้าแปรเปลี่ยน
“นำทาง” เหลยอวิ๋นถิงจะไปดูเพราะเป็ห่วงน้องสาว แต่เซียวเฉินห้ามเขาไว้
“เ้ามีสภาพแบบนี้ หากไปด้วยตนเองก็เปล่าประโยชน์ เ้าอยู่ที่นี่แล้วตั้งใจฝึกวิชาเถอะ ข้าจะไปดูแทนให้” เซียวเฉินตบไหล่เหลยอวิ๋นถิง เหลยอวิ๋นถิงพยักหน้า
เป็ดังที่เซียวเฉินกล่าว ตอนนี้เหลยอวิ๋นถิงเป็คนพิการ ต่อให้เป็ตอนที่ยังมีความสามารถอยู่ เขาก็มิใช่คู่ต่อสู้ของเหลยคุน หากเซียวเฉินไปเขาก็เบาใจ
“อืม ความสามารถของเหลยคุนอยู่ขั้นแรกกำเนิดเจ็ดชั้นฟ้า พี่ชายของเขาคือเหลยเผิง อยู่ขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้าเหมือนกับเ้า”
เซียวเฉินยิ้มให้กับคำพูดของเหลยอวิ๋นถิง
“วางใจเถอะ”
เอ่ยจบ เซียวเฉินก็บอกบ่าวรับใช้ผู้นั้นว่า “พาข้าไปดูหน่อย”