“ท่านกงกง1 คนผู้นี้บอกว่าเขาคือหลินหร่านขอรับ” ทหารผู้เฝ้าประตูพาหลินหร่านเข้ามาพร้อมเอ่ยกับขันที
เมื่อครู่ หยางซานมาส่งหลินหร่านที่หน้าประตูก็พบกับทหารล้อมจวนแม่ทัพไว้
หยางซานบอกว่านี่คือเหล่าข้าหลวงผู้มาประกาศพระราชโองการ หยางซานยังบอกอีกว่า ขอแค่บอกว่าตนเองคือหลินหร่านก็จะถูกพาเข้าไป
หลังจากทำตามที่บอกตนเองก็ถูกพาเข้ามาจริง
และเมื่อเข้ามาก็ได้ยินว่าทุกคนกำลังถกเถียงกันเื่ตามหาตนเองอยู่
เื่ที่กระท่อมของเขาไฟไหม้ เขารู้จากท่านอ๋องแล้ว ท่านอ๋องพูดไม่ผิด คนเหล่านี้บอกว่าเขาตายแล้วจริงด้วย
“ท่านคือคุณชายหลินหร่านหรือ” หลังขันทีเห็นหลินหร่านก็เปลี่ยนมาแสดงท่าทีเคารพ เพราะอีกไม่นานเขาจะกลายเป็พระชายาในราชวงศ์อวี้
“ใช่ขอรับ” ดวงตาทั้งคู่ของเขาเป็ประกาย เอ่ยด้วยความเคารพพร้อมพยักหน้า
“คนก็ยังอยู่ดีมิใช่หรือ” ขันทีเหลือบมองนางเว่ยด้วยแววตามีความหมาย “ในเมื่อหาคนพบแล้ว ก็คงไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในตระกูลนี้ ขอให้จวนแม่ทัพเตรียมจัดงานอภิเษกสมรสของคุณชายให้ดี”
มารดาของบุตรทั้งสามอย่างนางเว่ยไม่พูดอะไร เมื่อได้พบหลินหร่านยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งยังสวมชุดสวยงามดูเหมาะสมก็ตกตะลึงจนแทบไม่อยากเชื่อ
คนอื่นๆ ในตระกูลหลินก็รู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของหลินหร่านเป็อย่างมาก
ไม่ใช่ว่าหลินหร่านถูกขับไล่ออกจากจวนไปอยู่ที่กระท่อมฟางทางตะวันตกหรอกหรือ ฟังที่ชาวบ้านพูดกันว่าใช้ชีวิตอย่างอเนจอนาถ
แล้วขนสุนัขจิ้งจอกนั่นมาจากไหน? หรือว่าได้พบเจอกับผู้มีระดับสูงจนมีชีวิตสุขสบายไปแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังงงงวย เหล่าข้าหลวงจากในวังก็อธิบายสั้นๆ อีกเพียงเล็กน้อยก่อนจากไป
ซึ่งนับว่าหลินหร่านได้กลับจวนแม่ทัพอย่างถูกต้องเหมาะสม
.........
ตำหนักของเทพเ้าแห่งา
เมื่ออวี้ฉู่จาวกลับมาถึงวังหลวง พระราชโองการของฮ่องเต้ก็มาถึงแล้ว
ผู้ที่มาคือขันทีระดับสูงนามว่าหลี่ิลู่ ฮ่องเต้ฉงเต๋อคงอยากรู้ว่าอวี้ฉู่จาวจะมีท่าทีเช่นไร จึงได้ส่งคนสนิทของตนเองมาสอดส่อง
หลังจากอวี้ฉู่จาวรับพระราชโองการก็ไม่แสดงท่าที ยังคงเ็าราวกับาาแห่งูเาน้ำแข็ง มีความสง่ามงามและมีกลิ่นอายที่ไม่ดึงดูดให้ผู้คนเข้าใกล้
หลี่ิลู่ยังส่งสารความห่วงใยที่ฮ่องเต้้าฝากถึงองค์ชายสามอีกด้วย ซึ่งการแสดงออกนั้นคือ ฝ่าาก็ไม่รู้จะทำเช่นไร แต่เนื่องด้วยชะตากรรมของท่านอ๋องช่างน่าเศร้าใจ ทุกอย่างที่ฝ่าาทำไปก็เพื่อท่าน
ความเป็จริง ในใจของฮ่องเต้ฉงเต๋อรู้สึกผิดเป็อย่างยิ่ง นั่นเพราะผลงานของอวี้ฉู่จาวที่ทำเพื่อเมืองอวี้อันแทบวัดค่าไม่ได้
เขาเป็โอรสที่ดีที่สุด แต่เพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง ตัวเขาไม่มีอุปสรรคในการรับตำแหน่งองค์รัชทายาทเสียด้วยซ้ำ ทว่าเื่นี้จะทำให้ตัดคุณสมบัติในการรับตำแหน่งของอวี้ฉู่จาวไป
แม้ฮ่องเต้ฉงเต๋อจะไม่ได้สนใจถึงการปรากฏตัวของพระชายา แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้กำลังอยู่ใน่เวลาสำคัญ อวี้ฉู่จาวอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในมือและมีชื่อเสียงซึ่งอาจไม่ใช่เื่ดีแน่
การปล่อยให้เขาได้ระแวดระวัง สิ่งนี้สามารถบอกเป็นัยได้ถึงความเย่อหยิ่งของอวี้ฉู่จาวนั้นจะต้องถูกลดทอนอย่างเฉียบคม
ภายหลังส่งหลี่ิลู่กลับ อวี้ฉู่จาวมองพระราชโองการของฮ่องเต้ในมือ ถึงสีหน้าจะไม่แสดงความรู้สึกใด แต่ในใจเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เพราะนับว่าการแต่งงานของเขากับอวิ๋นซีมีสิ่งยืนยันแล้ว
ถึงกระนั้น เหล่าผู้คนในตำหนักต่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
ท่านอ๋องของพวกเขาทำอันใดผิด เหตุใดจึงถูกบังคับให้แต่งงานกับภรรยาชาย
แต่ผู้ที่มีท่าทีใมากที่สุดคงจะเป็ข้าหลวงในวังที่ทำหน้าที่ดูแลอวี้ฉู่จาวมาั้แ่ยังเด็กอย่างโจวตงหรือลุงตง
“ท่านอ๋อง...นี่...เป็ไปได้อย่างไร ต้าอวี้ไม่เคยมีภรรยาที่เป็ชายมาก่อน ฮ่องเต้ทรงทำเช่นนี้กับท่านได้อย่างไรกัน ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งรัชทายาทสืบบัลลังก์ แต่เื่ทายาทที่สืบทอดของท่านอ๋องในอนาคตจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ลุงตงอายุมากแล้ว เอวโค้งลงไปครึ่งหนึ่งเพราะความเหนื่อยล้าทางใจ
“ลุงตง ไม่ต้องคิดมากหรอก เปิ่นหวังยอมรับได้” อวี้ฉู่จาวบอกกับลุงตงด้วยใบหน้าอบอุ่น
นอกจากเสด็จอาของอวี้ฉู่จาวหรืออวี้หนานถังที่เลี้ยงดูเขาราวกับเป็ลูกแท้ๆ ก็ยังมีลุงตงอีกหนึ่งคนที่ดูแลเขาด้วยความจริงใจ เขาพลันเกิดความรู้สึกผิดที่ในชาติก่อนไม่ได้พาอีกฝ่ายหนีไปและปล่อยให้ต้องตาย
แต่สิ่งที่อวี้ฉู่จาวไม่รู้มาก่อนคือลุงตงถูกฆ่าตายเพราะปกป้องหลินหร่าน
ชาติก่อน ในตำหนักนี้ไม่มีท่านอ๋องอาศัยอยู่ มีเพียงพระชายากับลุงตงที่คอยดูแลซึ่งกันและกันเท่านั้น
นิสัยนุ่มนวลอ่อนโยนและไม่ใจร้อนของหลินหร่านทำให้ลุงตงประทับใจ อดรู้สึกเอ็นดูคุณชายน้อยที่น่าหลงใหลและใจดีผู้นี้ไม่ได้
พวกเขาช่วยกันทำร้านโจ๊กแจกจ่ายผู้คนอยู่นอกเมืองหลวง ไปเติมน้ำมันตะเกียงที่พระอาราม ทำงานแบบปิดทองหลังพระ คอยอธิษฐานเพื่ออวี้ฉู่จาวทุกคืนวัน
ทั้งสองคนจึงกลายเป็คนที่สนิทกันที่สุดในตำหนัก ต่อมามีการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่ง ด้วยความกังวล ลุงตงจึงได้โน้มน้าวให้หลินหร่านหนีออกจากเมืองหลวง
ช่างน่าเสียดาย กลับทำไม่สำเร็จ
่ที่กองทัพบุกเข้ามาจับตัวพวกเขา ลุงตงเสียชีวิตด้วยการเข้ามาขวางดาบ เขาปกป้องหลินหร่านจนได้ไปอยู่ที่ฮวางฉวน
“จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องทรงเต็มใจหรือ” ลุงตงไม่อยากเชื่อ แม้ว่าอวี้ฉู่จาวจะไม่เหมือนองค์ชายองค์อื่นที่โตมาในวัง ซึ่งมีนิสัยเอาแต่ใจและเชื่อมั่นใจตัวเองสูง แต่นั่นก็เป็ความเย่อหยิ่งที่อยู่ในสายเื เขาเต็มใจจะทำเช่นนั้นจริงหรือ
“จริงสิ” อวี้ฉู่จาวมองลุงตง หวังว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นความมุ่งมั่นในแววตา
“...เอาเถอะ” หลังจากนั้นลุงตงก็ได้แต่ถอนหายใจ
“หยางซานกลับมาหรือยัง” อวี้ฉู่จาวเปลี่ยนมาถาม
“กลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ลุงตงตอบ “อยู่ที่ห้องโถงพ่ะย่ะค่ะ”
อวี้ฉู่จาวหมุนตัวเดินตรงไปทางห้องโถง ซึ่งหยางซานอยู่ด้านในแล้ว
“ท่านอ๋อง” หยางซานคุกเข่าลงถวายความเคารพ
“ลุกขึ้นเถิด อวิ๋นซีเป็อย่างไรบ้าง”
หยางซานลุกขึ้น “่ที่คุณชายกลับจวนแม่ทัพ นางเว่ยกำลังกล่าวถึงเื่ไฟไหม้ แต่ขันทีผู้ประกาศพระราชโองการของฮ่องเต้จับทางนางได้ ผู้นำตระกูลหลินจึงว่ากล่าวนางไป และยังให้คนมาดูแลคุณชายเป็พิเศษ ตอนนี้คุณชายกลับไปที่จวนแม่ทัพได้อย่างปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากหยางซานได้ฟังข่าวคราวจากองครักษ์เงาจึงกลับมาที่วังหลวง
อวี้ฉู่จาวพยักหน้า “อย่างไรก็ตาม ่นี้คอยดูอวิ๋นซีไว้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ตอนนี้อวี้ฉู่จาวต้องพิจารณาให้ดีว่าตนเองจะเดินเกมกับเสด็จพ่ออย่างไร หากทำอย่างชาติที่แล้วคงไม่ได้การแน่
.........
อีกด้านหนึ่ง จวนแม่ทัพฮวาเวยในเวลานี้ นอกจากนางเว่ยกับบุตรสาวก็ยังมีบางคนที่เริ่มอยู่ไม่สุข
“เร็วเข้า รีบถือเอาไว้ เค่อเอ๋อร์กับเสี่ยวหนานไปไหน” อนุภรรยาคนที่สองของหลินฮวาเหนียนหรือนางซ่ง หลังจากได้รับพระราชโองการและเห็นหลินหร่านกลับมา รวมถึงผู้นำตระกูลได้ส่งคนเข้ามาจัดการดูแลคุณชายน้อยโดยเฉพาะ จึงรีบคิดแผนการอย่างรวดเร็ว
ปกติแล้ว นางกับบุตรสาวบุตรชายไม่ค่อยจะลงรอยกับนางเว่ยนัก นางเว่ยที่ถูกผู้นำตระกูลกับข้าหลวงเอ่ยหักหน้าเยี่ยงนั้นคงไม่กล้าสร้างปัญหาไปอีกนาน ตอนนี้นางต้องสานสัมพันธ์อันดีกับว่าที่พระชายาขององค์ชายสามถึงจะถูก
เื่นี้ท่านอ๋องจะรู้สึกอย่างไรนางไม่รู้ หรือแม้แต่ในภายภาคหน้าหลินหร่านจะได้รับความรักและเป็คนโปรดหรือไม่นางก็ไม่อาจรู้ แต่ที่นางรู้คือในวันนี้หลินหร่านได้ถือตำแหน่งพระชายาแล้ว
“คุณชายสามกับคุณหนูรองใกล้จะกลับมาแล้วเ้าค่ะ” สาวใช้ของนางซ่งกล่าว
“ทุกวันนี้เลิกเรียนแล้วก็พากันเถลไถล ช่างเถอะ ไม่ต้องรอพวกเขา รีบเอาของมา เราต้องรีบไป อย่าให้นางเฉิน นางผู้หญิงชั่วร้ายนั่นไปถึงก่อนพวกเรา” นางซ่งเอ่ยแล้วหมุนตัวเดินออกจากประตู
นางเฉินเป็อนุภรรยาคนที่สามของหลินฮวาเหนียน
หลังจากนางเว่ยถูกแต่งตั้งขึ้นมาเป็ฟูเหรินของจวนแม่ทัพ ก็มีนางซ่งเป็อนุภรรยาคนที่สอง
ต่อจากนั้นไม่นาน นางเฉินได้ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคนก่อนที่หลินฮวาเหนียนจะไปป้องกันชายแดน มีนามว่าหลินเสี่ยวก่วน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลินหร่านได้ถูกผู้นำตระกูลแยกให้ไปอยู่ในเรือนส่วนตัว หรือก็คือเรือนชุนอวี่
นอกจากนี้ ผู้นำตระกูลยังเลือกเด็กหนุ่มรับใช้อายุ 14 ปีมาดูแลหลินหร่านอีกด้วย
---------------------------------
1 กงกง หมายถึง คำที่ใช้เรียกขันทีในวัง หรือใช้เรียกชายชราด้วยความเคารพ