รถม้าค่อยๆ เคลื่อนออกไป...
มู่หรงจิ่งหลีไม่ปล่อยให้เสียโอกาส รีบถามโจวชิงหวาทันที “พี่ชิงหวา ท่านและแม่นางหนีเติบโตมาด้วยกัน แสดงว่าท่านต้องรู้แน่ว่านางโปรดปรานสิ่งใด”
โจวชิงหวาย่นคิ้วเข้าหากัน ดวงตาลดต่ำมองแหวนหยกที่สวมอยู่บนนิ้วหัวแม่มือของตน ก่อนตอบเสียงเรียบ “ั้แ่เด็ก คุณหนูรองก็แตกต่างจากสตรีอื่นๆ ข้าจึงก็ไม่อาจแน่ใจได้ ว่านางโปรดปรานสิ่งใดเป็พิเศษ แต่...”
เขาเงียบไป ก่อนขมวดคิ้วแน่น ราวกับกำลังครุ่นคิด
มู่หรงจิ่งหลีจึงโน้มตัวเข้าไปใกล้ พลางถามอย่างใคร่รู้ “แต่อะไรหรือ?”
โจวชิงหวาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ดูเหมือนข้าจะจำได้รางๆ ว่าครั้งหนึ่ง นายท่านสกุลหนีเคยซื้อแมวสีขาวให้คุณหนูใหญ่ตัวหนึ่ง นางโปรดปรานมันมากจนอุ้มไปด้วยทุกที่ ส่วนคุณหนูรองก็ได้แต่เดินวกวนอ้อมแมวตัวนั้นไปมา ข้าคิดว่านางอาจจะนึกอิจฉา อยากเลี้ยงแมวบ้าง แต่ก็เป็เพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น”
มู่หรงจิ่งหลีเกิดในราชวงศ์ จึงเห็นเหล่าสตรีที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา แต่ก็ไม่ยอมรับว่าตนอยากชิงดีชิงเด่นมานักต่อนักแล้ว
ดังนั้นเมื่อได้ยินเื่นี้ ก็คิดว่าหนีเจียเอ๋อร์คงไม่ต่างจากสตรีเ่าั้ ที่นึกอิจฉาคุณหนูใหญ่ ซึ่งได้รับแมวจากนายท่านสกุลหนี...
เขาจึงรีบเปิดม่าน “จอดรถ!”
“ฮี้...!”
ข้ารับใช้รั้งสายบังเหียน ทำให้รถม้าหยุดลง
“ไม่ไปด้วยกันแล้วหรือ?” โจวชิงหวาถามด้วยความฉงน
“ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีบางอย่างต้องทำ ไว้ว่างเมื่อใด พวกเราค่อยหาเวลามาดื่มกัน” อีกฝ่ายกล่าวทิ้งท้ายไว้เท่านั้น ก่อนเดินจากไปอย่างมีความสุข
“ไปกันเถอะ” โจวชิงหวาลดม่านลง ทำให้ไม่มีใครเห็น ว่าบัดนี้ใบหน้าของเขากำลังเปื้อนยิ้มร้าย
ชายหนุ่มเอนกายพิงหน้าต่าง แล้วหลับตาลงด้วยความสบายใจ
...
วันนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม ดูเหมือนฝนกำลังจะตก
ยามนี้ เสี่ยวเสวียนกำลังเดินกลับจากโรงครัว พร้อมอ่างล้างหน้าของหนีเจียเอ๋อร์ แต่ทันทีที่เปิดประตูก็ต้องสะดุ้งใ จนอ่างในมือหล่นกระทบพื้นเสียงดังลั่น
“คุณหนู... คุณหนูเ้าคะ รีบออกมาดูนี่ เร็วเ้าค่ะ!” นางรีบถลาเข้าไปในห้องนอนของเ้านายทันที
“อะไรกัน! เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเ้าถึงดูตื่นตระหนกขนาดนั้น?” หนีเจียเอ๋อร์เดินออกมา พลางจัดระเบียบเสื้อผ้าของตน
หญิงสาวเดินนำเสี่ยวเสวียนออกไปด้วยท่าทีสงบนิ่ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อพบว่าภายในสวนของตนเต็มไปด้วยแมวขาว ที่กำลังส่งเสียงร้องดังหนวกหู
“อะไรกัน! นี่เป็ฝีมือผู้ใด?” หนีเจียเอ๋อร์ตวาดเสียงเกรี้ยว
“ข้าก็ไม่รู้เ้าค่ะ ตอนเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นพวกมันเต็มไปหมดแล้ว” เสี่ยวเสวียนพูดอย่างโมโห
ใครกัน ที่กล้าทำเื่เลวร้ายเช่นนี้?
ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณหนูของนางแพ้ขนแมว... จงใจตั้งใจกลั่นแกล้งกันชัดๆ!
“คุณหนู ชอบของกำนัลที่ข้านำมามอบให้หรือไม่?”
จู่ๆ มู่หรงจิ่งหลีในชุดสีขาวสะอาดก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วเดินเข้าไปในสนามหญ้า ก่อนอุ้มแมวตัวใหญ่ขึ้นมาลูบขนนุ่มเบาๆ
“อย่าเข้ามานะ!” หนีเจียเอ๋อร์จ้องเขม็ง ขนาดอยู่ห่างๆ ตนยังจามถี่ขนาดนี้...
แต่ชายหนุ่มหาได้สนใจคำพูดอีกฝ่าย ยังคงสาวเท้าเข้ามาใกล้ คิดจะยัดเยียดแมวตัวนั้นให้
“ว้าย!” หญิงสาวตื่นตระหนก รีบวิ่งไปหลบด้านหลังของเสี่ยวเสวียน ก่อนจะจามหนักขึ้น
เสี่ยวเสวียนรับแมวขาวมา แล้วยัดกลับไปให้องค์ชายสาม “รับไว้! คุณหนูของข้าแพ้ขนแมว ดังนั้น โปรดนำพวกมันออกไปเดี๋ยวนี้เลยเ้าค่ะ”
นางเอ่ย พลางดันชายหนุ่มออกไปให้ห่าง พลางะโบอกบ่าวอีกคน ให้มาจัดการกับแมวที่เหลือ “ชุ่ยหู ไปเรียกคนมาเอาแมวพวกนี้ออกไป!”
มู่หรงจิ่งหลีหน้าเสีย “คุณหนูรอง ต้องขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่าท่านแพ้ขนแมว”
“ฮัดชิ้ว! องค์ชายสาม โปรดออกไปเถิดเพคะ ฮัดชิ้ว!” หนีเจียเอ๋อร์จามหนักขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงที่เอ่ยในตอนนี้ จึงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ชายหนุ่มที่ยังพูดไม่ทันจบ จำต้องกลืนคำพูด แล้วหมุนตัว เดินออกจากเรือนของหนีเจียเอ๋อร์ไปในทันใด
“นั่นองค์ชายสามหรือเ้าคะ?” เสี่ยวเสวียนเบิกตากว้าง “องค์ชายสามแห่งแคว้นจิวอวี่น่ะนะ!”
หนีเจียเอ๋อร์พยักหน้า แล้วเอ่ยเสียงติดตลก “ใช่! เสียดายหรือไม่ ที่มิได้ผลักเขาให้แรงกว่านั้น?”
เสี่ยวเสวียนหน้าถอดสี “คุณหนู ทั้งๆ ที่ท่านรู้ แต่กลับไม่คิดจะห้ามปรามข้าเลย ฮือ...”
หวังว่าองค์ชายสาม จะไม่ถือโทษโกรธเคืองทาสผู้ต่ำต้อยคนนี้นะเพคะ!
หลังจากเหล่าสาวใช้นำแมวทั้งหมดออกไปแล้ว เสี่ยวเสวียนก็นำน้ำมาล้างทำความสะอาดสวน และจุดธูปไม้จันทร์เพื่อกลบกลิ่น
ทันทีที่ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ โจวชิงหวาก็เดินเข้ามา พอกวาดตามองไปทั่วพื้นที่ รอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
หนีเจียเอ๋อร์มองเขา พลางทำหน้านิ่วด้วยความเคลือบแคลงใจ “เื่นี้เป็ฝีมือเ้าหรือเปล่า?”
“มิใช่แน่!” ชายหนุ่มปฏิเสธทันที ก่อนยื่นนิ้วเรียวไปเกี่ยวปลายผมของคนตรงหน้าขึ้นมาดอมดม “หอมนัก!”
หญิงสาวดึงเส้นผมของตนกลับมา “กล้าสาบานหรือไม่? ว่านี่หาใช่ความคิดของเ้า!”
โจวชิงหวาคว้ามือเรียวของอีกฝ่ายขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วััหลังมือนางเบาๆ ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เขาถามว่าเ้าโปรดปรานสิ่งใด ข้าก็แค่บอกว่า เคยเห็นเ้าเอาแต่เดินวกวนอ้อมแมวขาวไปมา เขาจึงตีความเอาเองว่าเ้าชอบแมว เลยนำมามอบให้ อา... ข้าชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าเขาพยายามจะเอาอกเอาใจ หรือกลั่นแกล้งเ้ากันแน่!”
“เอามือของเ้าออกไป!” หนีเจียเอ๋อร์ดึงมือของตนออก ก่อนมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความโกรธเคือง “ไม่ต้องทำเฉไฉ! เห็นได้ชัดว่าเ้าจงใจให้มู่หรงจิ่งหลีส่งแมวมา”
หลังเปลี่ยนธูปเสร็จ เสี่ยวเสวียนก็เข้ามาสมทบ “คุณชายโจว สิ่งที่ท่านทำลงไปนั้น แย่จริงๆ เ้าค่ะ!”
“เสี่ยวเสวียน ส่งแขก!” หญิงสาวกล่าว
โจวชิงหวาจึงล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบหนังสือสีเหลืองเล่มหนึ่งออกมา เดินไปชูตรงหน้านาง “ตกลงเป็ความผิดของข้าหรือ? เช่นนั้น ขอโทษก็ได้”
เมื่อเห็นหนังสือในมือเขา หนีเจียเอ๋อร์ก็ตาเป็ประกายด้วยความตื่นเต้น “นี่มันตำรายากุ้ยปู้ ที่เขียนโดยท่านอาจารย์ไป๋หลี่มิใช่หรือ? เ้าได้มาจากที่ใด?”
หญิงสาวเอื้อมมือหมายจะคว้าตำรายา แต่อีกฝ่ายกลับยกมันขึ้นสูงกว่าเดิม “ยกโทษให้ข้าได้หรือไม่?”
“ได้!” หนีเจียเอ๋อร์พยักหน้ารัว
จะไม่ยกโทษให้ได้หรือ ในเมื่อตำราเล่มนี้เป็ของล้ำค่าหายาก ทั้งยังไม่มีขายตามท้องตลาดด้วย
เมื่อได้ตำรามา หนีเจียเอ๋อร์ก็รีบกลับเรือนไปศึกษาดูทันที
ส่วนโจวชิงหวาก็ขอตัวกลับ เนื่องจากมีบางอย่างต้องสะสาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้