ชีเหนียงพยักหน้าอย่างงุนงง “หรือว่าเขายังไม่หายดี?”
หลิงชางไห่มองนางด้วยด้วยสายตาตำหนิ “เ้าทึ่มคนนี้ดันไม่พูดอะไรสักอย่าง”
“ตาเฒ่า ท่านอย่าทำให้ข้าในะ เขาสามารถะโโลดเต้นได้ ไหนเลยจะเหมือนยังไม่หายดี นอกจากนี้คนสกุลจ้าวรับเขากลับไป ก็นับว่าเป็การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว” ชีเหนียงรู้สึกว่าในเมื่อคนสกุลจ้าวทำไม่ดีกับจ้าวจือชิง แต่ตอนนี้มีคนของทางการ คนสกุลจ้าวเองคงไม่กล้าทำเกินกว่าเหตุไป
“อะไรนะ! เขายังจะกลับบ้านสกุลจ้าว! นี่เขาอยากตายหรือ!”
หลิงชางไห่ไม่มีแก่ใจจะอธิบายกับพวกเขาให้มากความ จึงรีบหิ้วโคมไฟออกไปตามหาจ้าวจือชิง
ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ยินคำพูดของชีเหนียงกับฝูอัน นึกว่าจ้าวจือชิงทำให้ชีเหนียงโมโห จึงเกิดเื่นี้ขึ้น ใครจะรู้ว่าเ้าทึ่มคนนี้กลับจะกลับไปรนหาที่ตายในบ้านสกุลจ้าว
“เ้ารอง รีบตามตาเฒ่าไป อย่าให้เขาหกล้ม”
ชีเหนียงรีบกำชับให้ลั่วจิ่งซีตามไป ส่วนตัวนางเอง หลังจากจัดแจงไหลไหลน้อยกับลั่วจิ่งเฉินเรียบร้อย ก็ตั้งใจจะตามออกไปภายหลังเช่นกัน
“ไหลไหล ท่านตาเคยบอกเื่ของลุงจ้าวกับเ้าหรือไม่?”
ชีเหนียงรู้สึกว่าไหลไหลที่คอยตามติดหลิงชางไห่ คงรู้เื่อันใดบ้าง
ไหลไหลน้อยส่ายหน้า “เหมือนท่านลุงจ้าวมักจะอยู่ในห้องลำพังกับท่านตา่เวลาหนึ่งทุกวัน ทว่าท่านตาไม่ให้ไหลไหลถาม บอกว่านั่นคือเื่ส่วนตัวของท่านลุงจ้าว”
ชีเหนียงได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นควาสงสัยในแววตาของลั่วจิ่งเฉิน สองแม่ลูกจึงคิดไปในทางเดียวกัน
“จิ่งเฉิน เ้าดูแลไหลไหลอยู่บ้าน แม่ไปประเดี๋ยวเดียวก็กลับ”
ขณะพูด ชีเหนียงก็หิ้วโคมไฟออกไปยามค่ำคืน ชีเหนียงเดินอยู่ในหมู่บ้านแต่กลับไม่รู้ว่าควรไปตามหาที่ไหน
เสียแรงที่ตนคลุกคลีกับจ้าวจือชิงมานานเช่นนี้ แต่กลับไม่รู้กระทั่งว่าปกติเขาชอบไปสถานที่ใด หลังจากเดินวนรอบหมู่บ้านอย่างหมดหวัง นางจึงทำได้เพียงกลับไปรอที่บ้าน
ส่วนหลิงชางไห่พุ่งไปที่พักอาศัยก่อนหน้านี้ของจ้าวจือชิงบนเขา เพียงแต่ที่นั่นไร้ซึ่งเงาคน กระทั่งกระท่อมเรียบง่ายที่สร้างไว้ก็มีร่องรอยของสัตว์ป่าเข้าออก
ทั้งสองเห็นว่าไม่มีผู้ใด ก็ไม่กล้าอยู่ต่อและทำได้เพียงรีบลงจากเขา
......
“หาตัวเจอหรือไม่?” เมื่อเห็นพวกเขากลับมา ชีเหนียงจึงรีบถาม
หลิงชางไห่ส่ายหน้าและถอนหายใจ “เ้าหนุ่มนี่ไม่ได้กลับขึ้นเขาด้วยซ้ำ หรือว่าจะกลับบ้านสกุลจ้าวจริงๆ รังหมาป่าแบบนั้นยังจะกลับไปทำอะไร” ขณะพูดก็มองชีเหนียงและมีท่าทีโกรธเคือง
“ปกติจ้าวจือชิงกินมากไปสักหน่อย แต่เ้าไม่ถึงกับต้องไล่เขาไปนี่นา บ้านสกุลจ้าวไม่ใช่สถานที่ที่คนอยู่ได้”
ชีเหนียงไม่รู้ว่าระหว่างนั้นตกลงเกิดอะไร ถึงได้ถูกต่อว่าตลอด บวกกับตามหาคนไม่พบ ในใจทั้งกระวนกระวายและหวาดกลัว ตอนนี้พอถูกตำหนิ สีหน้าจึงดูย่ำแย่นัก
“ตาเฒ่า ท่านต่อว่าข้าตลอด แต่ก็ไม่พูดให้ชัดเจนว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? แม้คนสกุลจ้าวจะทำไม่ดีกับเขา แต่เสือยังไม่กินลูกมัน ตอนนี้เขาได้รับการปกป้องจากทางการ คนสกุลจ้าวคงไม่กล้าทำอะไรเขา ท่านเป็ห่วงเขาถึงเพียงนี้เพราะอะไรกันแน่?”
ถึงหลิงชางไห่ปากแข็งแต่ก็จะบอก เขาช้อนตาขึ้นมองลั่วจิ่งซีที่กำลังเงี่ยหูตั้งใจฟัง
ชีเหนียงเห็นจึงไล่ลั่วจิ่งซีออกไป
“ตอนนี้พูดได้แล้วสินะ”
“เฮ้อ” หลิงชางไห่ถอนหายใจ “เ้าคิดว่าจ้าวจือชิงเกิดมาก็เป็คนสติไม่ดีเลยหรือ? เื่ราวในนั้นน้ำนิ่งไหลลึกทีเดียว”
“ที่ท่านพูดหมายความเช่นไร?”
“เื่นี้เดิมทีข้าไม่ควรบอกเ้า เพราะถึงอย่างไรก็เป็เื่ส่วนตัวของเ้าหนุ่มนั่น แต่ข้าเดาว่า จากความรู้สึกของเ้าหนุ่มนั่นที่มีต่อเ้า แม้จะบอกเ้าไป เขาเองคงไม่กล้าทำอะไรข้า”
สุดท้ายหลิงชางไห่ก็ตัดสินใจบอกความจริงกับชีเหนียง หลังจากมีเสียงกระซิบกระซาบทุ้มต่ำสักพัก ใบหน้าของชีเหนียงก็เหลือเพียงความตื่นใกับโกรธแค้นแผ่ออกจากตัว
“ใต้หล้านี้ยังมีพ่อแม่เช่นนี้ด้วยหรือ! พวกเขาไม่คู่ควรเป็คนด้วยซ้ำ!”
ลั่วชีเหนียงคิดไม่ถึงว่าต้นกำเนิดของจ้าวจือชิงจะกระอักกระอ่วนเช่นนี้ หนำซ้ำตนเองยังผลักไสเขาไปหารังหมาป่า หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาจริง ตนเองไม่กลายเป็ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นหรอกหรือ
“เ้าเองไม่ต้องห่วงเกินไป เ้าหนุ่มนั่นก็พอรู้ในใจ มิเช่นนั้น่ระหว่างนี้คงไม่นิ่งเงียบไม่เอ่ยถึงเื่กลับหมู่บ้านชิงเหอ” หลิงชางไห่เห็นนางร้อนใจและห่วงนางว่าจะตำหนิตนเองเกินไปจึงรีบปลอบ “วันพรุ่งข้าจะไปดูที่หมู่บ้านชิงเหอ ต้องมีหนทางทำให้เขากลับมาได้อีกครั้งแน่”
“เ้าวางใจได้ ข้าออกโรงเอง จะไม่ทำให้เ้าแปดเปื้อนกับข่าวลือ”
“ท่านพูดอะไรกัน เวลานี้แล้ว ชีวิตคนสำคัญกว่า ยังจะสนใจข่าวลือทำไมกัน”
ทั้งสองหารือว่าวันรุ่งขึ้นจะทำอย่างไร เด็กทั้งสามกลับแอบฟังอยู่นอกประตู
......
เนื่องจากเสียงในห้องถูกกดให้ค่อนข้างเบา พวกเขาจึงไม่ได้ยินเนื้อหาทั้งหมด เพียงแต่รู้ว่าเหมือนชีวิตของท่านลุงจ้าวจะตกอยู่ในอันตราย
“พี่ใหญ่ ทำอย่างไรดี?”
มีสายตาสองคู่จับจ้องที่ตัวลั่วจิ่งเฉิน ชั่วขณะนั้นเขากลับหมดหวังเล็กน้อย
“ในเมื่อท่านแม่ไม่อยากให้เรารู้เื่นี้ ก็ต้องมีเหตุผลของพวกเขา เราทำได้เพียงดูแลที่บ้านให้ดี” ลั่วจิ่งเฉินยังไม่ลืมย้ำเตือนอีกรอบ “วันรุ่งขึ้นพวกท่านอาหวังจะมา พวกเ้าห้ามทำอะไรบุ่มบ่าม”
ท่านอาหวังก็คือพ่อของหวังชุนเฉ่า ซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญการทำหลุมดิน สามีของหวังชุนเฉ่าร่วมติดตามทำหลุมดินกับพ่อของนาง ่เวลานี้จึงมาที่บ้านทุกวัน
ลั่วจิ่งซีตั้งใจว่าจะแอบติดตามท่านแม่ไปหมู่บ้านชิงเหอ แต่พอถูกพี่ชายคนโตพูดเช่นนี้ จึงไม่กล้าไป ได้แต่ตอบรับอย่างว่าง่าย “รับทราบ ข้าจะอยู่เฝ้าบ้านให้ดี”
......
วันต่อมา เมื่อชีเหนียงกับหลิงชางไห่ไปบ้านสกุลจ้าว กลับไม่พบตัวจ้าวจือชิงที่บ้านสกุลจ้าว นั่นทำให้หลี่ชุนฮัวโมโหแทน
หลี่ชุนฮัวเห็นลั่วชีเหนียงก็ใส่ร้ายป้ายสี คำพูดคำจาเต็มไปด้วยความหยาบคาย
“นางสำส่อน กล้ามาเหยียบประตูบ้านสกุลจ้าวอีกหรือ ตนเองไม่มีสามี ก็เที่ยวไปอ่อยเหยื่อผู้ชายไปทั่ว สมกับเป็ผีตายโหงแต่แต่งหน้าประดับดอกไม้ [1] หน้าไม่อายนัก” หลี่ชุนฮัวด่ากราดและตั้งใจจะปิดประตูใส่
แต่ชีเหนียงหรือจะปล่อยให้รังแกกันได้ง่ายดาย นางยกเท้าถีบประตูอย่างแรง ทำให้หลี่ชุนฮัวปิดประตูไม่ได้
“คนหน้าไม่อาย ด่าใครหรือ?”
“คนหน้าไม่อาย ด่าเ้าน่ะสิ!” หลี่ชุนฮัวตอกกลับทันควัน แต่ต่อมากลับรู้สึกว่าผิดปกติ
“เ้ามาทำอะไรที่บ้านข้าแต่เช้า! เหอะ เ้าทึ่มบ้านข้าไปทำงานงกๆ ให้พวกเ้ายังไม่พอ ตอนนี้ยังกล้ามาถึงที่บ้าน คงไม่ใช่ว่าอยากยั่วยวนจ้าวเหลยของข้าไปอีกคนหรอกนะ?”
หากหลี่ชุนฮัวอารมณ์ขึ้น ไม่ว่าคำหยาบอะไรก็พูดออกมาได้ พอนางแหกปากเช่นนี้ จ้าวเหลยที่หลบอยู่ในบ้านก็ไม่กล้าซ่อนตัวต่อไป
ขืนยังให้ภรรยาสติแตกคนนี้พูดพล่ามต่อไป ไม่ทันรอให้คนของราชสำนักมา อนาคตของจือจุ่นก็คงถูกนางทำลายป่นปี้หมด
“นางเมียปากเสียตื่นแต่เช้ามาโหยหวนทำอะไร!” จ้าวเหลยยกเท้าขึ้นถีบหนึ่งที หลี่ชุนฮัวรีบลุกขึ้นจากพื้น นางที่กำลังเตรียมตัวร่ำไห้โวยวายก็หมดโอกาสที่จะได้ทำ
“เขาอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำ เ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าพวกเขามาทำอะไรที่บ้านเรา บางทีอาจจะแค่มาเยี่ยมญาติก็ได้” จ้าวเหลยปรายตามองลั่วชีเหนียง ดั่งที่คาด งดงามสะพรั่งดั่งที่คาด มิน่าเ้าทึ่มถึงได้เป็ตายร้ายดีก็ต้องไปบ้านสกุลลั่วให้ได้
ไม่ว่าอย่างไร หนนี้ก็ต้องให้เ้าทึ่มอยู่ที่บ้านให้ได้ จะปล่อยเขาไปบ้านสกุลลั่วอีกไม่ได้เด็ดขาด!
“มาเยี่ยมญาติอะไรกัน ลั่วต้าเซิงกับยายเฒ่าลั่วหนีไปนานแล้ว นางมาเยี่ยมญาติแบบใดกัน!”
หลี่ชุนฮัวถูกจ้าวเหลยถลึงตาใส่ คำพูดที่เหลือจึงไม่กล้าพูดต่อ
ชีเหนียงถึงเพิ่งรู้ว่าลั่วต้าเซิงกับมารดาได้ออกจากหมู่บ้านชิงเหอไปนานแล้ว
หลิงชางไห่จ้องมองหลี่ชุนฮัวที่อารมณ์ร้อนและไม่มีเหตุผล นับั้แ่แรก คนผู้นี้ก็ใส่ร้ายป้ายสีจ้าวจือชิงกับชีเหนียง กระทั่งยังกล้าโยนเื่สกปรกให้สามีของตน คนที่จิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะเป็คนที่สามารถทำเื่ที่ปองร้ายชีวิตผู้อื่นได้มากที่สุด
-----
[1] เป็ผีตายโหงแต่แต่งหน้าประดับดอกไม้ หมายถึง หน้าด้าน ไม่มียางอาย