ในโรงเตี้ยมตู้ชื่อดังเต็มแน่นไปด้วยผู้คนต่างเดินกันพลุกพล่าน เสียงพูดคุยดังต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง ดีที่ทางโรงเตี้ยมยังมีห้องรับรองแบ่งแยกไว้ชั้นบน สำหรับลูกค้าที่้าเป็ความส่วนตัว
ซึ่งถือเป็ห้องประจำที่ไม่ว่ามากี่ครั้ง คุณชายตระกูลหรงจะต้องเปิดให้ใช้งาน
ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน
"ซูเจินไปไหนเสียแล้ว" เสียงหวานถามหาสหาย พร้อมคีบอาหารเข้าเต็มปาก เพราะหลังจากเข้าโรงเตี้ยมมา นางก็ไม่เห็นอีกฝ่ายตามเข้ามานั่งโต๊ะทานอาหารด้วยกัน
"จะกินหรือจะพูด เลือกเอาสักอย่างเถอะ" นิ้วเรียวเช็ดมุมริมฝีปากบางที่เปื้อนน้ำมันจากผัดผัก ยามหญิงสาวคีบใส่ปากให้ด้วยความคุ้นชิน
"ซูเจินออกไปซื้อถังหูลู่ให้เ้าไง เมื่อครู่ตอนนั่งรถม้าร้องอยากกินมิใช่หรือ"
"ให้คนของเ้าออกไปซื้อให้ก็ได้ มิเห็นต้องไปเองเลย ดูสิอาหารใกล้หมดแล้ว"
เลี่ยงหรงมองร่างเล็กที่ถามหาซูเจิน กลัวว่าอาหารจะหมดก่อนสหายจะกลับมา แต่มือนางกลับไม่คิดหยุดคีบอาหารเข้าปาก จนเขาต้องแอบส่งสัญญาณให้คนสนิทสั่งอาหารเข้ามาเพิ่ม
"คืนนี้พาข้าไปอีกนะ พี่ลู่เจียนแอบกระซิบกับข้าเมื่อคืน ว่าคืนนี้จะมีแขกคนสำคัญมาหา ถ้าข้าไปจะให้แอบดูด้วย"
ั์ตาสีเข้มสะท้อนภาพหญิงสาวข้างกาย ดวงตากลมโตช้อนมองเขาด้วยความเว้าวอน ที่ก้นนางหากมีหางคงกระดิกอ้อนเขาจนหลุดออกเป็พวง
เพราะเหตุนี้ ั้แ่เล็กจนโตเมื่อนาง้าสิ่งใด เขาถึงไม่เคยขัดได้สักครั้ง
"กินให้ดีดี ซูเจินของเ้ากลับมาแล้ว" แม้ประตูยังทันได้ไม่เปิดออก เลี่ยงหรงที่มีประสาทััไวจากการฝึกยุทธ ก็สามารถทราบได้ว่าสหายที่หญิงสาวรอคอยกำลังเดินเข้ามาใกล้
ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวทั้งสองพูดคุยกันตามประสาสตรี มิได้เข้าไปขัดบทสนทนาของพวกนาง แต่มือใหญ่ยังคงคอยช่วยเช็ดริมฝีปากที่เปื้อนออกให้ร่างเล็กข้างกายเป็ระยะ ทั้งยังคีบอาหารใส่ชามให้มิคาด ถึงจะเป็ผู้เอ่ยปากว่านางทานไปมากแล้วก็ตาม
ซูเจินมองการกระทำของสหายทั้งสองด้วยความคุ้นชิน นางอยากจะทราบนักว่าเมื่อใดพวกเขาจะรู้สึกตัวเสียที ว่าที่กำลังกระทำกันอยู่นั้น มิใช่สิ่งที่สหายพึงกระทำให้กัน
บิดามารดาของนางที่เป็สามีภรรยากัน ยังไม่แสดงออกให้เห็นถึงเพียงนี้
บุรุษร่างเล็กแต่งกายภูมิฐาน ยืนมองหอคณิกาด้านหน้าสลักชื่อเลี่ยงซิ่ว ก่อนจะเดินตามร่างหนาเข้าด้านในด้วยใบหน้าระรื่น
เหล่าหญิงคณิกาที่เห็นบุรุษทั้งสองเดินเข้ามา ก็ทำเพียงยิ้มแย้มให้การต้อนรับ แต่มิได้เข้ามาถึงเนื้อถึงตัวดั่งบุรุษอื่นที่มาเยือน
เหตุเพราะทราบดี ว่าบุรุษทั้งสองนี้เป็ผู้ใด
บุรุษร่างสูงโปร่งเดินนำหน้าพาบุรุษร่างเล็กเข้าห้องประจำที่คุ้นเคย ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งในห้อง มือใหญ่โบกมือไล่สาวใช้ที่เดินตามหลังมา เมื่อจัดการวางอาหารจนแล้วเสร็จ ก็ให้ออกจากห้องไป ให้ภายในห้องเหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น
"นี่อาหรง คืนนี้ดูคนจะเยอะกว่าทุกวันไหม เมื่อครู่เห็นแต่บุตรชายขุนนางหรือคหบดีใหญ่ทั้งนั้น คืนนี้มีอันใดหรือ" ลี่หลินนั่งลงข้างชายหนุ่ม เอ่ยถามด้วยความสงสัย
ทุกครั้งที่นางมา แม้จะมีผู้คนมาใช้บริการอยู่มาก แต่ครั้งนี้ถือว่ามากกว่าเดิมนัก
ในแต่ละชั้นต่างมีบุตรชายขุนนางที่นางคุ้นหน้า หรือแม้กระทั่งตัวขุนนางมียศเองก็ยังมีมาอยู่หลายคนด้วยกัน
ดูท่าคืนนี้ จะมีเื่น่าสนุกให้นางได้ดูเป็แน่
"ประมูลพรหมจรรย์นางโลมคนใหม่ หากอยากดูก็เปิดหน้าต่างออกไป แต่ห้ามโพล่หน้าออกเกินผ้าโปร่งนั่นเด็ดขาด"
"เหรอ เื่ดีเช่นนี้เ้ากลับไม่บอกข้า ถ้าคืนนี้ข้าไม่ร้องให้พามา คงไม่ได้ดูเสียแล้ว" ลี่หลินเปิดหน้าต่างออกตามที่ชายหนุ่มบอก ทั้งยังเชื่อฟังคำสั่งเขาเป็อย่างดี นางทำเพียงลอบแอบมองผ่านผ้าโปร่งบางที่ปิดกันไว้เท่านั้น
ทว่าความน่าสนใจกลับใกล้หมดลงเรื่อยเรื่อย เมื่อรออยู่นานสองนาน ก็ไม่เห็นกลางเวทีมีความเคลื่อนไหว ประกาศงานประมูลที่นางรอคอย
"อาหรงเมื่อไหร่จะเริ่มสักที ข้ายืนรอจนเมื่อยแล้วนะ"
"เมื่อยก็นั่งลง"
"เอาเก้าอี้มาแค่ตัวเดียว ทั้งเ้ายังนั่งเรียบร้อยแล้ว จะให้ข้านั่งตรงไหนกัน" หญิงสาวมองเก้าอี้ที่สหายยกมาให้ แต่เขากลับนั่งลงก่อนนาง แล้วจะให้นางนั่งตรงไหน
"ก็นั่งบนตักข้า หากนั่งเฉพาะบนเก้าอี้ เ้ามองเห็นหรือว่าข้างล่างเป็อย่างไร เตี้ยถึงเพียงนี้"
"อย่ามาว่าข้าหนักแล้วกัน เ้าให้ข้านั่งเอง หากตอนหลังมาบ่นว่าหนักข้าก็ไม่ลุกให้หรอกนะ" ลี่หลินไม่อยากยอมรับ แต่มันเป็ความจริงที่ว่า หากนางนั่งเพียงบนเก้าอี้อย่างเดียวจะมองไม่เห็นด้านล่าง ทำให้หญิงสาวจำต้องนั่งบนตักสหายอย่างเลี่ยงไม่ได้
หลังจากหญิงสาวนั่งลงบนตักตน มุมริมฝีปากชายหนุ่มก็ยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย โดยที่ร่างเล็กไม่มีโอกาสได้เห็น
น้ำหนักลี่หลินแทบไม่กระทบกับเลี่ยงหรงสักนิด ทั้งที่นางชอบทานเป็ที่หนึ่ง ร่างเล็กกลับยังคงมีน้ำหนักเบา ผิดกับทรวดทรงที่อวบอิ่มผิวกายเต่งตึง ยามได้ััเนียนนุ่มชวนหลงใหล
ทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มต้องระงับมิให้ฝ่ามือร้อนฉวยโอกาสโอบกอดเอวบาง เขาได้แต่ทำเพียงวางมือไว้ที่พยักพิงด้วยความอดกลั้น
ยังมีก้นกลมนิ่มยามนางขยับกายบนหน้าขา ทำให้เขายิ่งต้องข่มไม่ให้บางสิ่งลุกตื่นขึ้น
นานแล้วที่นางมิได้นั่งบนตักเขาเช่นนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาต้องเป็เก้าอี้ให้ร่างเล็กนั่งมาตลอด จนกระทั่งนางอายุเข้าสิบปี
จางฮูหยินมองว่าไม่เหมาะสมที่ให้เด็กสาวอย่างนางมานั่งตักบุรุษเช่นเขา หลังจากนั้นนางจึงถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด
เป็คำสั่งที่ขัดกับความ้าเขายิ่งนัก
"เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว โห้...พี่สาวนางนั้นทำไมข้ามิเคยเห็น งามถึงเพียงนี้ ต้องเรียกเงินให้หอเ้าได้เยอะเป็แน่"
"อย่าเอาหน้าออกไป" เลี่ยงหรงดึงร่างเล็กที่ชโงกใบหน้าออกนอกผ้าโปร่งเพื่อดูด้านล่าง ให้กลับเข้ามาภายในห้องดังเดิม
หากบุรุษห้องอื่นที่เปิดหน้าต่างดูอยู่เห็นนางเข้า ถึงจะแต่งกายเป็ชาย ด้วยใบหน้านางแล้ว ผู้ใดได้เห็นก็ย่อมจำได้เป็แน่
และเพราะร่างเล็กขัดขืนดิ้นขรุขระ ชายหนุ่มจึงได้โอกาสโอบกอดเอวบางอย่างที่หวัง ความใกล้แนบชิดทำให้เลี่ยงหรงยากจะละจากกลิ่นกายหอม เผลอออกแรงกอดร่างเล็กไว้แน่น
"อะ อาหรงกอดแน่นไปแล้ว" อยู่อยู่ลี่หลินก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อถูกสหายโอบกอดจากทางด้านหลัง
ยิ่งตอนนี้จมูกเขายังฝั่งอยู่ที่ซอกคอ ชวนให้นางรู้สึกวาบหวิวในเวลาเดียวกัน
"หากเ้าไม่เชื่อฟัง ก็ไม่ต้องดูอีก"
"ระ รู้แล้ว" ลี่หลินแสร้งสนใจกับการประมูลด้านล่างทั้งที่หัวใจเต้นระส่ำ
นางกับสหายล้วนใกล้ชิดสนิทสนมกันมานาน เหตุใดเมื่อครู่เกิดเป็เหตุการณ์ประหลาดขึ้นมาได้
เลี่ยงหรงยอมคลายวงแขนจากเอวบาง แม้มิอยากจะปล่อยก็ตาม ยิ่งเห็นใบหูขาวขึ้นสีแดงระเรื่อจากทางด้านหลัง ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งหญิงสาวมากขึ้น
ลี่หลินที่เงียบสงบว่าง่ายเช่นนี้ เป็ภาพที่หาดูได้ยากนัก
นิ้วเรียวขาวยกขึ้นนับวนไปมาไม่จบสิ้น หลังสิ้นสุดการประมูลพรหมจรรย์ ยอดเงินที่ได้จบที่หลายแสนตำลึง ทำให้หญิงสาวตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
ไม่คาดคิดว่าพรหมจรรย์สตรีจะสามารถสร้างรายได้ได้มากมายมหาศาลเช่นนี้
ทว่าน่าเสียดายนักที่นางมองไม่เห็นว่าผู้ใดกัน ที่ทุ่มเงินประมูลได้หญิงงามไป
"มัวนับอันใด" เลี่ยงหรงเห็นร่างเล็กนับวนแต่ยอดเงินในการประมูล หลังจากที่เขาพานางกลับมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม
"หากข้าเข้าประมูลพรหมจรรย์บ้าง เ้าว่าจะมีคนมาประมูลบ้างไหม"
"เ้าพูดอันใดออกมา" ชายหนุ่มถามหญิงสาวเสียงเข้ม แทบไม่เชื่อในสิ่งที่นางเอ่ยออกมา
ในหัวสมองน้อยน้อยของนาง กำลังคิดสิ่งใดอยู่กัน
ดีเท่าไหร่ที่เมื่อครู่เขาไม่สำลักสุราตาย
"ก็เ้าดูสิ ยอดเงินที่ประมูลพรหมจรรย์พี่สาวคนนั้น ยังมากกว่าค่าสินสอดบุตรสาวขุนนางบางคนเสียอีก น่าสนใจใช่ไหมละ"
"งั้นเ้าเตรียมใจไว้เลย หากเ้าอยากประมูลพรหมจรรย์เมื่อใด ข้าเนี้ยแหละจะเป็ผู้ประมูลเ้าเอง"
“........”
**************************
นิยายเื่นี้มีจัดทำเป็ E book แล้วนะคะ
สามารถเสิร์จหาจากชื่อนิยายหรือชื่อนักเขียน Hawthorn ใน meb ได้เลยค่า