“เฉินเอ๋อร์ ข้าอาจจะต้องออกเดินทางไกล ข้าว่าจะไปพบสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในแคว้นตงเหยียนและแคว้นหนานอัน เพื่อหารือแผนการแก้แค้นกับพวกเขา และถือโอกาสนำเงินส่วนหนึ่งไปให้พวกเขาด้วย พวกเขาจะได้ขยายความแข็งแกร่งต่อไปได้” ซ่งผิงวางแผนจะเริ่มนำเงินส่วนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
“ท่านพ่อ เจิ้นกั๋วกงเป็ผู้ติดตามที่ภักดีของเสด็จพ่อ ข้าคิดว่าเขาคงมิขัดขวางหากเราจะก่อฏ” ซ่งจื่อเฉินมิได้คาดหวังว่าเจิ้นกั๋วกงจะช่วยเขา เขาเพียงหวังว่าเจิ้นกั๋วกงจะมิขัดขวางการแก้แค้นของเขา
“ใจคนยากแท้หยั่งถึง พวกเราต้องระมัดระวังและรอบคอบ เวลานี้พวกเราหัวเดียวกระเทียมลีบ ได้แต่ป้องกันไว้ทุกฝีก้าว” ซ่งผิงเองก็มิแน่ใจว่าเวลานี้เจิ้นกั๋วกงมีท่าทีอย่างไร แม้เจิ้นกั๋วกงจะห่างไกลจากการแก่งแย่งชิงดีในราชสำนัก แต่เครือข่ายข่าวกรองและเส้นสายของเขายังอยู่ที่นั่น ฮ่องเต้เฉียนยังต้องเกรงกลัวเขาถึงสามส่วน ทหารยศสูงหลายคนในกองทัพก็เป็อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเจิ้นกั๋วกงทั้งนั้น
เพียงเจิ้นกั๋วกงพูดออกมาคำเดียว พวกเขาพร้อมจะเสี่ยงชีวิต เพื่อเจิ้นกั๋วกงแน่นอน
“ยังเป็ท่านพ่อที่รอบคอบ เช่นนั้นข้าฟังท่านขอรับ พวกเราจะใช้อำเภอซิ่งหยางเป็ศูนย์กลางพัฒนาเครือข่ายข่าวกรองของพวกเรา อำเภอซิ่งหยางตั้งอยู่ตรงพรมแดนเชื่อมระหว่างสามแคว้น เป็ตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งนัก โดยเฉพาะูเาชางเยี่ยน หากจะใช้ พวกเราสามารถใช้ที่นี่ได้อย่างเหมาะสมขอรับ”
“ูเาชางเยี่ยนอันตรายเกินไป ข้าปล่อยเ้าไปเสี่ยงอีกมิได้” เมื่อนึกถึงูเาชางเยี่ยน ซ่งผิงก็กลัว เขากลัวว่าซ่งจื่อเฉินจะเสียความสามารถในการเดินไปเหมือนคราก่อน
“ท่านพ่อ เซวียนเซวียนนำสมุนไพรวิเศษที่อาจารย์เหลือไว้ให้นางมาให้ข้ากิน เวลานี้ข้ามีพลังอย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบปีขึ้นไป กวาดตามองทั่วแผ่นดินนี้แล้ว มิมีผู้ใดสามารถทำร้ายข้าได้ขอรับ” ซ่งจื่อเฉินอยากสร้างฐานทัพลับในูเาชางเยี่ยน เพื่อใช้ฝึกกองกำลังทหาร
“พลังหนึ่งร้อยห้าสิบปี นี่มันร้ายกาจมาก!” ซ่งผิงมองซ่งจื่อเฉินอย่างใ เขาพบว่ามีเื่สำคัญเกิดขึ้นกับซ่งจื่อเฉินมากเกินไปจนเขาตั้งรับมิทัน
“ท่านพ่อ เซวียนเซวียนเป็สตรีที่อยากอยู่กับข้าด้วยใจจริง ต่อให้หนทางแก้แค้นจะยากลำบากเพียงใด ข้าเชื่อว่าขอเพียงท่านพ่อเมตตา สามีภรรยาร่วมใจและพี่น้องปรองดอง พวกเราต้องทำสำเร็จแน่ขอรับ” อนาคตของซ่งจื่อเฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ก่อนหน้านี้ขาทั้งสองข้างของเขาเดินมิได้ เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยากเสียจริง แต่เมื่อนึกถึงความแค้นที่ฝังรากลึก เขาจึงสู้ต่อ เขาคิดไว้แล้วว่าต่อให้มิอาจชิงแคว้นคืนมาได้ เขาก็ต้องฆ่าศัตรู ล้างแค้นให้ท่านพ่อท่านแม่
“ั้แ่เซวียนเซวียนเข้ามาในบ้านหลังนี้ พวกพี่ใหญ่ของเ้าดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ความจริงพวกเขาเองก็น่าสงสาร หากเวลานั้นข้ามิได้เก็บพวกเขามาเลี้ยง พวกเขาคงหิวตายในป่ารกร้างกันไปแล้ว” ซ่งผิงรู้สึกได้ว่าพวกลูกเลี้ยงของเขาเปลี่ยนไป ขอเพียงพวกเขายอมให้เขาเป็พ่อ เขาก็จะปฏิบัติกับพวกเขาอย่างดี บนโลกนี้นอกจากความแค้น ยังมีโชคชะตาที่นำพาญาติๆ ที่มีค่ามาทำให้เขาเกิดความหวงแหน ความปรารถนาที่สูงสุดของเขาคือช่วยซ่งจื่อเฉินแก้แค้น จากนั้นก็คือให้พวกลูกเลี้ยงมีชีวิตที่ดี
“ท่านพ่อ ท่านเดินทางไกลหนนี้ นอกจากให้เงินคนของเราแล้วควรบอกให้พวกเขาซื้อที่นาเอาไว้บ้าง เมื่อใดที่าเริ่มขึ้นอาหารจะเป็สิ่งจำเป็ และบอกให้พวกเขาแอบซื้ออาวุธไว้สักหน่อย อาวุธโดยทั่วไปอยู่ภายใต้การดูแลของราชสำนัก พวกเราลงมือคงมิดี คงได้แต่ซื้อจากพ่อค้าอาวุธในราคาสูงขอรับ” หลังจากที่ซ่งจื่อเฉินพูดจบ เขาก็วกกลับมาเื่ที่ดินใหม่ เขาเติบโตมาในชนบท รู้ดีว่าที่ดินและเสบียงอาหารมีความหมายสำหรับชาวบ้านอย่างไร
“ข้าจะจัดการเื่นี้เอง เ้ากับเซวียนเซวียนอยู่บ้านต้องเอาใจใส่ครอบครัวอื่นให้มากๆ ข้ากังวลว่าเมื่อธุรกิจของพวกเ้าเจริญขึ้นแล้ว พวกเขาจะอิจฉาพวกเ้า” ซ่งผิงกำชับและออกไปบอกลาทุกคน
“คนของบ้านเ้าสาม อีกสักครู่พวกพี่ใหญ่ของเ้ากลับมา เ้าบอกพวกเขาว่าข้าจะออกเดินทางไกล ใช้เวลาหลายวันถึงจะกลับ พวกเ้าอยู่บ้านต้องสามัคคี อย่าทะเลาะและหาเื่กันเล่า” ซ่งผิงมาถึงลานหน้าบ้าน พบเพียงพานซื่อและซ่งหยวนหยวน
“ท่านปู่ ท่านจะไปที่ใดหรือเ้าคะ?” ซ่งหยวนหยวนรู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย เมื่อเห็นท่านปู่ของนางกำลังจะออกเดินทางไกล
“ข้าอาจจะไปเมืองหลวง สหายของข้าเขียนจดหมายมาหา ให้ข้าไปเดินคุ้มกันเป็เพื่อนพวกเขา ได้เงินค่อนข้างดี หากมิมีสิ่งใดเกิดขึ้น ข้ากลับมาจากคุ้มกันหนนี้น่าจะได้เงินหนึ่งพันตำลึง ถึงเวลานั้นจะนำของขวัญมาฝากพวกเ้าด้วย” ทุกครั้งที่ซ่งผิงต้องออกเดินทาง เขาจะใช้ข้ออ้างว่าไปเดินคุ้มกันภัย และให้เงินทุกคนตอนกลับมาทุกครั้งจึงมิมีผู้ใดสงสัย
“ท่านพ่อ ท่านควรทำงานเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ให้น้อยลงนะเ้าคะ หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับท่าน พวกเราจะเป็ห่วงเ้าค่ะ” พานซื่อมิอยากให้พ่อสามีวิ่งหางานไปทั่วทุกแห่ง นางคิดว่าซ่งผิงทำงานหนักเกินไป
“มิเป็ไร งานคุ้มกันหนนี้มิอันตราย พวกสหายของข้าก็อยู่ด้วย ทุกคนคอยดูแลช่วยเหลือกัน” ความห่วงใยจากครอบครัวทำให้ซ่งผิงรู้สึกหัวใจอุ่นวาบ หลังพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับห้องไปเก็บสัมภาระ
ในเรือนโม่อวิ้นเซวียน จิ่นเซวียนกึ่งหลับกึ่งตื่น เมื่อซ่งจื่อเฉินกลับมาถึงห้อง นางจึงพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
“สามี ท่านหิวหรือไม่?” จิ่นเซวียนรู้สึกหิวเล็กน้อย นางอยากไปหาของกิน
ซ่งจื่อเฉินบอกเื่ที่ซ่งผิงจะออกเดินทางไกลกับจิ่นเซวียน จิ่นเซวียนวางแผนจะกรอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ถุงหนังสองสามถุงไปให้ซ่งผิงดื่มระหว่างทาง เพื่อใช้ปกป้องตนเอง และน้ำศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเพิ่มพลังให้เขา
“สามี ที่บ้านของพวกเรามีถุงหนังใส่น้ำหรือไม่?”
“ในบ้านมีอยู่สี่ห้าถุง” ซ่งจื่อเฉินมิรู้ว่าเพราะเหตุใดจิ่นเซวียนจึงถามหาถุงหนังใส่น้ำ เขาตอบกลับอย่างมิคิดสิ่งใด และไปหาถุงน้ำมาให้จิ่นเซวียน จิ่นเซวียนรับมา และบอกให้ซ่งจื่อเฉินไปเรียกซ่งผิงมาที่เรือนโม่อวิ้นเซวียน
เมื่อซ่งจื่อเฉินออกไป นางก็เข้าไปกรอกน้ำในมิติ
ซ่งจื่อเฉินมาถึงห้องของซ่งผิงในเวลามินาน เขาพบว่าซ่งหยวนหยวนกับพานซื่อก็อยู่ด้วย พวกนางกำลังช่วยเก็บข้าวของที่ซ่งผิงจะนำติดตัวไป
“พี่สะใภ้สาม เซวียนเซวียนหิวเล็กน้อย ท่านพอจะทำอาหารให้นางได้หรือไม่ขอรับ” ซ่งจื่อเฉินหาข้ออ้างให้พานซื่อออกไป
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” พานซื่อยิ้มตอบรับและเดินออกไป ซ่งหยวนหยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้มิคิดจะตามออกไปด้วย
ซ่งผิงรู้ว่าซ่งจื่อเฉินมีเื่จะคุยกับเขา เขาจึงหยิบเงินก้อนเล็กยัดใส่มือซ่งหยวนหยวน “หยวนหยวน ข้าเดินทางไกล จะมิกลับบ้านนาน คงมิได้อยู่ดูแลพวกเ้า เ้าเอาเงินค่าขนมนี้ไปซื้อของที่อยากกินเถิด”
“ขอบคุณท่านปู่เ้าค่ะ!” ซ่งหยวนหยวนได้เงินค่าขนม จึงวิ่งเริงร่าออกไป
“ท่านพ่อ เซวียนเซวียนขอให้ท่านไปที่เรือนโม่อวิ้นเซวียน นางเตรียมของขวัญไว้ให้ท่านขอรับ”
“เด็กผู้นั้นเพิ่งมาถึงบ้านเรามิกี่วันก็ดูแลพวกเราดีเช่นนี้ ข้ารู้สึกเกรงใจยิ่งนัก” ซ่งผิงพูดพลางหยิบห่อผ้าขึ้น ใส่กุญแจประตูแล้วเดินตามซ่งจื่อเฉินไปที่ห้องโถงใหญ่ของเรือนโม่อวิ้นเซวียน
“ท่านพ่อ นี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่าน มันช่วยเพิ่มทักษะการฝึกฝนพลังภายในของท่าน ท่านพกติดตัวเอาไว้และค่อยๆ ดื่มนะเ้าคะ จริงสิ ท่านแบ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้กับทหารเดนตายได้นะเ้าคะ ท่านบอกพวกเขาว่าขอเพียงพวกเขาภักดีต่อพวกเรา ข้ากับพี่จื่อเฉินจะกลั่นยาลูกกลอนช่วยเพิ่มพลังภายในให้ ช่วยให้พวกเขาก้าวไปอยู่จุดสูงสุดของวิทยายุทธ์เ้าค่ะ”
เมื่อจิ่นเซวียนพูดจบ นางจึงบอกให้ซ่งจื่อเฉินห่อถุงน้ำให้ซ่งผิง
ซ่งผิงใมิน้อย เมื่อเห็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกกรอกเอาไว้เต็มสี่ถุงใหญ่
ท่าทีของซ่งผิงเหนือความคาดหมายของจิ่นเซวียนยิ่งนัก “ท่านพ่อ ท่านออกเดินทางไปทำงานเพื่อพวกเราสามีภรรยา พวกเราเป็ห่วงท่านเสมอ ข้าจึงหวังว่าท่านจะแข็งแกร่งขึ้น หากเป็เช่นนั้นพวกเราก็มิต้องพะว้าพะวงว่าจะปกป้องท่านอย่างไรเ้าค่ะ”
“เซวียนเซวียน ขอบใจเ้ามาก” ซ่งผิงซาบซึ้งใจยิ่งนัก จิ่นเซวียนเต็มใจนำของดีๆ มาแบ่งปันกับเขา แสดงว่านางมิใช่คนเห็นแก่ตัว มีน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ศักยภาพของพวกเขาจะเพิ่มหลายขึ้นเท่าตัว เมื่อถึงเวลาต่อสู้ก็จะมีพลังมากมาย
“เซวียนเซวียน ข้ามิอยู่บ้าน เ้ากับเฉินเอ๋อร์ดูแลตนเองให้ดีๆ ส่วนเป่าจูนั้น เมื่อควรสั่งสอนก็ต้องสอน” ซ่งผิงสะพายห่อผ้า กำชับไม่กี่คำและเดินออกไป
“ภรรยา เ้านอนอีกสักหน่อยเถิด ข้าขอให้พี่สะใภ้สามทำอาหารให้เ้าแล้ว” ซ่งจื่อเฉินดึงจิ่นเซวียนขึ้นมากอดไว้บนตัก จิ่นเซวียนพลิกตัวคร่อมตักของซ่งจื่อเฉินเอาไว้ นางยื่นมือไปกุมใบหน้าของซ่งจื่อเฉินไว้แล้วจรดริมฝีปากลงไป
“สามี ท่านไปบ้านซู่ซู่มา โจวซู่ซินมาหาท่านใช่หรือไม่?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้