พรรคเทพหมาป่า์ ยอดเขาหยั่งรู้กระบี่
จางเจิ้งเต้ามองหวังเค่อนำพิมพ์เขียวออกมาทีละแผ่นด้วยตาเบิกโพลง
“นี่ นี่มันของเล่นปาหี่อันใด? นี่คือบ้าน? ไฉนถึงได้แปลกแบบนี้?” จางเจิ้งเต้าอุทาน
“นี่คืออาคารเสินหวัง! อีกไม่นานก็จะถูกสร้าง! สร้างที่เมืองหลางเซียน!” หวังเค่ออธิบาย
“อาคาร? อะไรคืออาคาร? นี่คือพิมพ์เขียว? เป็ชั้นๆ? สามสิบชั้น? นี่ไม่ใชู่เาขนาดย่อมแล้วรึ? นี่จะเป็ไปได้ยังไง อีกอย่าง กำแพงพวกนั้นทำมาจากผลึกแก้ว? เ้าจะไปหาตัดผลึกแก้วชิ้นใหญ่ขนาดนั้นมาจากไหน?” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างแปลกใจ
“เ้าจะไปเข้าใจอะไร นี่เขาเรียกว่ากระจก! บิดาคิดค้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เพียงแต่ไม่ได้เอาให้พวกไร้การศึกษาอย่างเ้าดูเท่านั้น!” หวังเค่อเอ่ยอย่างเหยียดหยาม
“อ๋า?” จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้างุนงง
เดิมทีจางเจิ้งเต้าคิดว่าตัวเองล่วงรู้ความลับมากพอแล้ว แต่ดูหวังเค่อสิเพียงพลิกมือก็สามารถนำพิมพ์เขียวออกมาเป็ตั้งๆ ได้ ว่าแต่นี่คืออะไร? เคล็ดลับการหลอมสร้างอาวุธ? ไม่สิ สิ่งที่มันกำลังจะสร้างหาใช่อาวุธแต่เป็บ้านพิลึกกึกกือต่างหาก? พับผ่าสิ ทำไมข้าถึงไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยเล่า!?
หวังเค่อไม่ไปแยแสสนใจจางเจิ้งเต้า ตนไม่มีทางใช้นวัตกรรมล้ำยุคแบบสมัยที่อยู่บนโลกเพื่อสร้างบ้านได้ อย่างไรเสียอารยธรรมก็แตกต่างกัน แต่ของที่สามารถนำวัสดุจากโลกแห่งการฝึกตนมาทดแทนได้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ หรือ? ตัวอย่างเช่นแทนที่หลอดไฟด้วยโคมไฟราตรีวิเศษเป็ต้น
อาคารสมัยใหม่ข้าถอดแบบออกมาไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเป็ของย้อมแมวข้าจะทำไม่ได้เชียวหรือ?
หวังเค่อมองดูลูกน้องของตัวเอง
“เตรียมการกันไปถึงไหนแล้ว?” หวังเค่อถามถามเสียงขรึม
“รายงานท่านประมุข วันที่ท่านสั่งการลงมาพวกเราได้ทำการกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากของเมืองหลางเซียนเอาไว้แล้ว แน่นอน สืบเนื่องจากท่านประมุขมีฐานะเป็รองเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาจึงไม่มีใครกล้ามาก่อหวอดระรานที่ดินเหล่านี้ พวกเราจึงหาซื้อมาได้ในราคาต่ำสุด สามารถเริ่มงานได้ทุกเวลา!” ลูกน้องคนหนึ่งรายงานอย่างนอบน้อม
“ดี ตอนที่อยู่เมืองชิงจิงข้าเคยพาพวกเ้าไปฝึกฝีมือโครงการใต้ดินกันมาบ้างแล้ว ดังนั้นพวกเ้าก็น่าจะรู้แนวทางกันดี หนำซ้ำยังตระเตรียมคอนกรีตเสริมเหล็กในสภาพที่ดีที่สุดไว้เสร็จสรรพ ในทำนองเดียวกันงานท่อตลอดทั้งโครงการจะต้องจัดการให้เรียบร้อย ทางน้ำใต้ดิน ถังบำบัดน้ำเสียทั้งหมดล้วนต้องดูแลก่อสร้างไปพร้อมกัน! จำไว้ว่าความปลอดภัยมาเป็ลำดับแรก! ทราบ?” หวังเค่อเอ่ยอย่างเป็การเป็งาน
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องกล่าวรับคำ
“ครั้งนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องใช้เงินไปเท่าไหร่ แรงงานเซียนเทียนทุกคนจงกระจายกันไปตามแต่ละเมืองตลอดทั้งสิบหมื่นมหาบรรพต สร้างสมอำนาจและชื่อเสียง อาคารเสินหวังนี้คือสำนักงานใหญ่แห่งแรก มีผลเหมือนเป็หลักชัยแสดงถึงความสำเร็จของเรา ข้าไม่อยากเก็บตัวเงียบ แต่้าให้ทั่วหล้าล่วงรู้ถึงกัน!” หวังเค่อประกาศเสียงเข้ม
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องรับคำด้วยความเคารพ
“ต่อไปจงจ่ายงานประปา อ่างน้ำ น็อตตะปูทุกแบบ หินอ่อน กระเบื้อง งานแขวน และอุปกรณ์ช่างให้หมด ให้โรงงานใหญ่ที่รับทำอุปกรณ์เครื่องมือตลอดเจ็ดสิบสองเมืองเซียนของสิบหมื่นมหาบรรพตรับคำสั่ง สื่อสารกับพวกเขาให้ชัดเจน พวกเราไม่ได้ทำการค้าแบบขายสินค้าครั้งเดียวแล้วล้มเลิกกิจการ อาคารเสินหวังนี้เป็แค่จุดเริ่มต้น ต่อไปยังมีสาขาแยกย่อยอีกมากมาย ใครกล้าเล่นตุกติกหลอกเอาเงินพวกเราก็อย่าหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันอีกเลย!” หวังเค่อเอ่ยเสียงเคร่ง
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องรับคำอย่างยำเกรง
“ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องใช้เงินมากแค่ไหน สิ่งที่บิดามีก็คือเงิน! รอจนอาคารเสร็จสมบูรณ์ดี จงเลือกสรรแต่ของดีมาตกแต่งแบบติดที่หรือยักย้ายได้ทั้งหมด อาคารเสินหวังจะต้องดำเนินไปตามการออกแบบภายในของข้าอย่างเคร่งครัดทุกฝีก้าว แล้วก็ให้พี่หญิงเล็กมาดูแลการตกแต่งภายใน นางมีสุนทรียศาสตร์เหนือกว่าพวกเ้า!” หวังเค่อสั่งการ
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องรับคำอย่างเคารพ
“เร่งมือเข้า! ให้ข้าดูหน่อยว่าตระกูลหวังของเราทำงานกันรวดเร็วแค่ไหน!” หวังเค่อว่า
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องรับคำอย่างเคารพ
“คัดลอกพิมพ์เขียวพวกนี้ออกไป ต้องเป็ไปตามขนาดที่ข้ากำหนดไว้ทุกกระเบียดนิ้ว! ใครหละหลวมพลาดพลั้งให้ไปรับโทษกับท่านตาสาม!” หวังเค่อเอ่ยเสียงเข้ม
“ทราบ!” เหล่าลูกน้องขานรับ
คนงานบนยอดเขาหยั่งรู้กระบี่ลงมือเคลื่อนไหวโดยไม่รอช้า
จางเจิ้งเต้าอ้าปากมองหวังเค่อด้วยความตกตะลึง สรุปว่าทำอะไรกันแน่? ไม่ใช่ว่าแค่สร้างบ้านหรอกหรือ ทำไมถึงต้องเวอร์วังขนาดนี้? อาคารเสินหวังประเสริฐเลิศเลอเพียงนั้น?
“จางเจิ้งเต้า เ้าเองก็ไปจับตาดูพวกมันซะ ดูตามงบการเบิกจ่ายของตระกูลหวัง หากมีพวกไร้ั์ตากล้ามาก่อความวุ่นวายตามโรงงานรับทำอุปกรณ์ เ้าก็เล่นพวกมันให้หน้าหงายไปเลย หากทำไม่ได้ก็ไปเรียกศิษย์พี่รองมา บอกไปก็ได้ว่าข้าขอความช่วยเหลือ! ให้เขาพาศิษย์มาสะสางเื่ราว!” หวังเค่อเอ่ยเสียงขรึม
“หวังเค่อ เ้าตั้งใจจะก่อการใหญ่โตแค่ไหนกัน? กว้านซื้อตลอดเจ็ดสิบสองเมืองเซียน? เ้ามีเงินมากขนาดนั้นเลย?” จางเจิ้งเต้าอุทาน
หวังเค่อกลอกตาใส่จางเจิ้งเต้าอย่างหัวเสีย ไอ้ประสาทกลับ ถ้าข้าไม่มีเงินข้าจะสร้างอาคารผีสางอันใดออกมาได้?
ตนไม่เหลียวแลจางเจิ้งเต้าอีกต่อไป หวังเค่อกลับยอดเขาหยั่งรู้กระบี่เพื่อไปหลอม ‘หยกวิถีิญญา’ ต่อ
ในเมื่อหวังเค่อเตรียมเปิดบริษัทเสินหวังจะให้มันดีแต่พูดได้อย่างไร? เมื่อหลายปีก่อนตอนอยู่ว่างไม่มีอะไรทำมันก็ร่างพิมพ์เขียวเอาไว้แล้ว แม้จะเป็แค่ของย้อมแมวที่มีแค่เค้าโครงไม่ครบถ้วนพร้อมมูล แต่ในเมื่อไม่ได้จะเข้าอยู่ แค่เค้าโครงก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
ด้วยมรดกสินทรัพย์ของตระกูลหวังย่อมเพียงพอที่จะสร้างอาคารหลังนี้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีคนหนุนหลังก็เลยไม่กล้าสร้างออกมา ต้องเที่ยวหาเงินไปทุกที่กระทั่งว่าต้องเช่าอยู่เพื่อต่อชีวิต
ตอนนี้ยังต้องกลัวคนหาเื่? ตนเป็ถึงรองเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาพรรคเทพหมาป่า์เชียวนะ! เป็นายท้ายเกาะเทพัลัทธิมารเลยนะ!
ให้ตายเถอะ สองขั้วดำขาวธรรมะอธรรมข้าล้วนเป็ั์ใหญ่! ตัวข้าในตอนนี้ยังต้องกลัวใครหน้าไหนอีก?
สำหรับเื่เงินทอง? ่ที่ผ่านมาตนทำเงินได้กี่มากน้อย? ยังไม่ต้องไปพูดถึงอะไรอื่น เอาแค่กรุสมบัติจากรังของาาอสรพิษบนเกาะเทพัก็มากพอที่จะใช้สร้างอาคารในครั้งนี้แล้ว
ในที่สุดหวังเค่อก็สามารถย่อยสลายหยกวิถีิญญาหลอมสร้างตราทางการของบริษัทเสินหวังได้อย่างสงบใจ ไหนเลยจะมีเวลาต่อความยาวสาวความยืดกับจางเจิ้งเต้า?
เพียงสามวันหลังจากนั้น คนของพรรคเทพหมาป่า์ก็ค้นพบการเปลี่ยนแปลงนอกเมืองหลางเซียน
“ครืนนนน!”
เสียงการปรับหน้าดินสนั่นหวั่นไหวไปถึงพรรคเทพหมาป่า์ ดึงสายตาสงสัยใคร่รู้มาเป็จำนวนมาก
แรงงานชั้นเซียนเทียนที่เกณฑ์มาจากทั้งเจ็ดสิบสองเมืองเซียน ไม่สิ ยอดฝีมือชั้นเซียนเทียนต่างมาถึงกันทีละกลุ่มสองกลุ่ม พวกมันต่างรับการฝึกพิเศษจากศิษย์ตระกูลหวังเพื่อมารับหน้าที่นี้ แต่ละคนได้รับหมวกนิรภัยกันคนละใบ
ที่พักหน้าตาธรรมดาสามัญของคนงานถูกจัดสร้างไว้ด้านข้าง ขอบเขตเซียนเทียนนับไม่ถ้วนเห็นแล้วก็ต้องเผยสีหน้าไม่พอใจออกมา
ถึงไม่พอใจแต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะว่าครั้งนี้ผู้ที่สั่งการลงมาคือเ้าตำหนักของพรรคเทพหมาป่า์ แถมพรรคเทพหมาป่า์ก็ตั้งอยู่ข้างเคียง ใครจะกล้าทำตัวหุนหันพลันแล่นกัน? ดูจางเจิ้งเต้านั่นสิ คอยจับตาดูพวกตนอยู่ทุกวี่วัน
หวังเค่อให้เถี่ยหลิวหยุนช่วยระดมศิษย์ร่วมสำนักมาเป็หัวหน้าคนงาน เถี่ยหลิวหยุนตอบตกลงโดยไม่พิรี้พิไร หวังเค่อเองก็กระทำการอย่างยุติธรรม ในเมื่อบรรดาศิษย์พี่มาช่วยข้าดูพื้นที่ก่อสร้าง จะไม่ให้ค่าตอบแทนก็กระไรอยู่ถูกหรือไม่? เงินค่าแรงที่ควรต้องจ่ายก็ยังคงจ่าย พวกศิษย์พี่ที่มาช่วยดูพื้นที่ก่อสร้างจึงชมหวังเค่อไม่หยุดปาก
ได้ขอบเขตเซียนเทียนมาปรับหน้าดินละม้ายคล้ายใช้รถเกลี่ยดินกับรถบดถนนที่เดินเครื่องเต็มเหนี่ยวสุดกำลังตลอดเวลาอย่างรวดเร็วสุดประมาณ
สิบวันต่อมา พรรคเทพหมาป่า์ ภายในตำหนักหมาป่าบูรพา
มู่หรงลวี่กวงเพิ่งกลับมาจากการตามล่าถงอันอันสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวในเมืองหลางเซียนที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนักจึงสอบถามศิษย์น้องในสำนัก
“นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? หวังเค่อไปเกณฑ์คนเยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน? พวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่? ส่งเสียงดังโครมครามแบบนี้แล้วจะให้ฝึกฝีมือกันอย่างไร?” มู่หรงลวี่กวงนิ่วหน้าถาม
“พวกเราเองก็ไม่แน่ใจขอรับ! ตอนแรกก็ปรับหน้าดิน ต่อมาก็ขุดหลุม เสียงดังโป้งเป้งที่ได้ยินตลอดสองวันนี้เห็นว่ามาจากการลงเสาถมปูนขอรับ!” ศิษย์น้องคนหนึ่งรายงาน
คำเหล่านี้มู่หรงลวี่กวงฟังเข้าใจทั้งหมด แต่พอมาจับรวมกันแล้ว ไฉนถึงได้ฟังไม่รู้เื่เลยเล่า? ลงเสา? ถมปูน? ทั้งหมดนี้เพื่ออะไร?
“ท่านประมุขปล่อยให้หวังเค่อก่อการตามอำเภอใจ?” มู่หรงลวี่กวงถามเสียงขรึม
“เมื่อวานท่านประมุขไปถามหวังเค่อมาแล้วขอรับ หวังเค่อบอกว่าครั้งก่อนเคยยกเื่ทำการค้าขึ้นมาพูดกับทุกคนแล้ว มันกำลังสร้างบ้านเป็ร้านค้า คลับคล้ายจะเรียกว่าอาคารเสินหวังหรือไงนี่แหละขอรับ” ศิษย์คนนั้นบอก
มู่หรงลวี่กวง “…!”
“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราควรไปห้าม...?” ศิษย์คนนั้นนิ่วหน้าถาม
“ไม่ต้อง ฮึ่ม หวังเค่อไม่มาหาเื่ข้า ข้าก็จะไม่ไปหาเื่มัน จะได้ไม่ถูกหาว่าข้าหาเื่มันเพราะองค์หญิงโยวเยว่อีก ฮึ่ม ก่อการตามอำเภอใจนอกพรรคสำนักโดยที่ไม่มีมหากลคุ้มภัย ข้าจะรอดูว่าสุดท้ายแล้วมันจะมีจุดจบเช่นไร!” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยเสียงเย็น
“ทราบ!” ศิษย์คนนั้นพยักหน้า
“ศิษย์พี่ใหญ่ ล่าตัวถงอันอันมาได้หรือไม่ขอรับ” ศิษย์คนนั้นถามต่อ
“ก็พอมีความคืบหน้าอยู่บ้าง ฮึ่ม ถงอันอันเหมือนจะระดมศิษย์ลัทธิมารอยู่ แต่ไม่สำคัญหรอก มันหนีไปไหนไม่ได้แน่ ข้าพบว่าลัทธิมารเองก็ส่งคนมาตามจับมันอยู่เหมือนกัน!” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยเสียงเย็น
“ศิษย์พี่ใหญ่มีความคืบหน้าเป็เื่ดี! ศิษย์พี่ใหญ่ครั้งนี้หากจับตัวถงอันอันมาได้จะต้องได้รับความเชื่อใจจากศิษย์น้องมากขึ้นไปอีก หวังเค่อนั้นรู้จักแต่สร้างปัญหา ไหนเลยจะมีคุณสมบัติเป็รองเ้าตำหนักหมาป่าบูรพา? ศิษย์น้องขอให้ศิษย์พี่ใหญ่ได้เป็เ้าตำหนักหมาป่าบูรพาโดยไว!” ศิษย์น้องคนนั้นกล่าวอย่างยินดี
“แน่นอน!” มู่หรงลวี่กวงเผยความมาดมั่น
บนพื้นที่ก่อสร้างเมืองหลางเซียน
ยากที่หวังเค่อจะมีเวลามาตรวจดูงาน ชายหนุ่มผงกศีรษะมองดูคนงานชั้นเซียนเทียนที่เปล่งประสิทธิภาพร้ายกาจหลังผ่านการฝึก
คอนกรีตเสริมเหล็ก? จริงอยู่ที่ตอนอยู่บนโลกจำต้องใช้สารพัดเครื่องมืออุปกรณ์ แต่สำหรับที่นี่น่ะหรือ? คนงานชั้นเซียนเทียนเพียงออกแรงฮึบเดียวคอนกรีตเสริมเหล็กก็เปลี่ยนรูปตาม้า ไม่จำเป็ต้องลำบากหลายขั้นตอนเลยสักนิด
ปั้นจั่นแบบบนโลก? นั่นก็ไม่จำเป็สำหรับที่นี่เช่นกัน คนงานก่อสร้างชั้นเซียนเทียนสามารถยกกระสอบปูนเป็ตั้งๆ ก่อนะโพรวดเดียวขึ้นมาถึงชั้นสามได้เลย
นั่งร้าน? นั่นไม่จำเป็เลยสักนิด ชนชั้นเซียนเทียนโผตัวลงมาจากยอดตึกแค่ปัดฝุ่นตรงบั้นท้ายนิดหน่อยก็หายห่วงแล้ว
“หวังเค่อ เป็อย่างไรบ้าง? คืบหน้าไปถึงชั้นสามแล้วนะ!” จางเจิ้งเต้าขยับเข้าใกล้พลางเอ่ยอย่างภาคภูมิ
“เพิ่งเสร็จไปแค่ส่วนหนึ่ง ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน!” หวังเค่อส่ายหน้า
“นี่ก็เร็วมากแล้วเถอะ! เ้าดูสิว่าตัวเองเกณฑ์ชนชั้นเซียนเทียนมากี่มากน้อย เ้าไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ? ไม่ใช่เป็การผลาญเงินทิ้งหรอกหรือ? พี่หญิงเล็กของเ้าควักเงินออกจากกระเป๋าได้ทุกวัน พอเห็นแล้วหัวใจของข้าเป็ต้องสั่นตามไปด้วยทุกที!”จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้าหวาดกลัว
“เงินแค่นี้นับเป็อะไรได้? หากเ้าไม่ยอมเสียเงินทำให้เห็นเป็รูปเป็ร่าง คนอื่นจะยอมโง่มาให้เ้าหลอกมั้ยล่ะ? เพ้ย! ไม่ใช่! ยอมซื้อสินค้าจากเ้ามั้ยล่ะ?” หวังเค่อเอ่ยอย่างดูถูก
“เ้า เ้าจะขายอะไรกันแน่?” จางเจิ้งเต้าพิศวงงงงวย
“ไม่ต้องร้อนใจ ข้าคิดแผนส่วนต้นไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอชื่อเสียงขจรขจายไปเท่านั้น!” หวังเค่ออธิบาย
“อ๋า?” จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้างุนงงไม่อาจเข้าใจ
สามชั้น สิบชั้น สิบห้าชั้น!
อาคารเสินหวังยิ่งมายิ่งสูงเด่นเป็สง่า ไม่ทราบว่ามีชาวเมืองหลางเซียนกี่มากน้อยที่แหงนคอตั้งบ่ากลั้นใจคอยด้วยใจจดจ่อ ไม่เพียงแต่ชาวเมืองหลางเซียนเท่านั้น แม้แต่ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เองก็พากันส่งสายตาสงสัยใคร่รู้มาเป็กระบุง
ต่อให้เป็เฉินเทียนหยวนที่เฝ้าดูความสูงเด่นของอาคารเสินหวังบนเขาิญญาทุกวันก็ยังเอ่อล้นด้วยความฉงน แต่ถึงอย่างไรตนก็เป็ถึงประมุขพรรค หากต้องคอยออกปากถามศิษย์ตัวเองอยู่ตลอดจะไม่เสียหน้าแย่หรอกรึ?
ต่อให้เฉินเทียนหยวนจะสงสัยใคร่รู้อยู่ทุกวี่วันแต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ไม่ให้ถามอะไรออกมา
ในเมื่อเฉินเทียนหยวนไม่ถาม ศิษย์ทุกคนที่เห็นดังนี้จึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้ยอมรับเื่นี้อย่างเงียบๆ จึงไม่มีใครกล้าไปตอแยเื่ราวกับหวังเค่อ
การเคลื่อนไหวนี้ยังดึงความสนใจจากสำนักเซียนบางแห่งจากสิบหมื่นมหาบรรพตมาด้วย แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็แค่การปลูกสร้างบ้านเรือน อย่างมากสำนักเซียนพวกนั้นก็แค่ส่งศิษย์ระดับปลายแถวมาสามสี่คนเพื่อสืบดูสถานการณ์เท่านั้น
จวบกระทั่งสามเดือนต่อมา อาคารสูงสามสิบชั้นก็ลงยอดตึกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ทุกคนจากที่เคยดูถูก กังขา และยิ้มเยาะก็เปลี่ยนมาเป็สงสัยใคร่รู้แทน
เมื่ออาคารเสินหวังสร้างเสร็จแล้ว อย่าคิดว่าขาดตกบกพร่องกว่าอาคารบนโลกมากนัก หวังเค่อทุ่มทุนสร้างมหาศาล ทั้งยังเชิญนักหลอมยุทโธปกรณ์มาตรวจสอบคุณภาพหาจุดบอดตั้งหลายท่าน! บนโลกอาจมีอาคารสูงบางแห่งที่มีจุดบอดเล็ดรอดสายตาไป แต่ไม่ใช่กับที่นี่ นักหลอมยุทโธปกรณ์พวกนี้มีสายตาคมกริบเพียงไหน? ความยากในการก่อสร้างอาคารหลังนี้มีหรือจะสู้ของวิเศษที่สุดแสนจะประณีตละเอียดอ่อนพวกนั้นได้? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ล้วนถูกแก้ไขในระหว่างกระบวนการการก่อสร้างไปจนหมดแล้ว
จวบจนเมื่อแนวผนังกระจกถูกประกอบติดลงไป ทัศนียภาพอันตื่นตระการตาก็ทำให้ทุกคนต้องสะท้านไปถึงทรวง
ท่านเคยเห็นบานกระจกขนาดหลายสิบจั้งมาก่อนหรือไม่? กระจกพวกนี้งดงามหาใดเปรียบไม่ต่างจากข่ายปราณของพรรคสำนักเลยสักนิด กระทั่งแลดูน่าทึ่งสะกดใจยิ่งกว่าด้วยซ้ำ
“กับอีแค่แผ่นกระจกถึงกับต้องตกอกใกันซะขนาดนี้? ผู้ฝึกฌานภาษาอะไรกัน? โลกแคบเสียจริง!” หวังเค่อแค่นเสียงดูถูก
เมื่ออักษรอาคารเสินหวังตัวโตๆ แขวนติดลงไปบนยอดตึก ทุกคนถึงค่อยรับรู้ถึงกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่นั้นได้
ป้ายชื่อ? งั้นนี่ก็คือร้านค้า?
ท่านเคยเห็นร้านค้าไหนเทียบกับร้านค้าตรงหน้านี้ได้บ้าง? อย่าว่าแต่สิบหมื่นมหาบรรพตเลย ต่อให้เป็ข้างนอกก็ไม่เคยมีใครเห็นสิ่งปลูกสร้างลักษณะนี้มาก่อน!
เมื่อเสร็จงานโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ต่อไปก็คืองานตกแต่งอาคาร
หวังเค่อพูดถูกแล้ว พี่หญิงเล็กมีััที่เป็เลิศในเื่ความสวยความงาม ขอแค่หวังเค่อบอกแนวทางเล็กน้อย พรรณนาถึงอาคารและโรงแรมห้าดาวที่ตนเคยเห็นมาตอนที่อยู่บนโลกให้ฟังพอเป็สังเขปนางก็สามารถช่วยตนทำตามออกมาได้อย่างสมบูรณ์
พื้นหินอ่อนขัดเงา? ของแบบนี้สำหรับผู้ฝึกฌานแล้วง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก!
การเลือกสรรพื้นพรมสระน้ำและลานหญ้าเป็เื่ยากงั้นหรือ?
โถสุขภัณฑ์ เครื่องสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ กระจก รวมถึงตะเกียงศิลาิญญา โรงงานรับทำอุปกรณ์ตลอดเจ็ดสิบสองเมืองเซียนกลายเป็ผู้จัดหารายใหญ่ให้กับอาคารเสินหวัง
วัสดุแต่งบ้านและที่นั่งล้วนสามารถสั่งจากแดนมนุษย์ได้ ขอแค่มีพิมพ์เขียวทั้งหมดก็เป็เื่ง่ายทันที
การดูแลความสะอาดยิ่งไม่จำเป็ต้องพูดถึง ความขยันสู้งานของคนงานที่เกณฑ์มาจากเขตปุถุชนสามารถทำให้ท่านต้องร่ำไห้ด้วยความะเืใจเลยด้วยซ้ำ!
เพียงแค่แปดเดือน อาคารเสินหวังในขั้นพื้นฐานก็สำเร็จเป็รูปเป็ร่างในระดับความเร็วชนิดที่การก่อสร้างบนดาวโลกไม่อาจเทียบได้
คนงานชั้นเซียนเทียนจากเมืองเซียนต่างๆ ได้ถูกส่งตัวกลับไปหมดแล้ว หวังเค่อไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนงานชั้นเซียนเทียนพวกนี้พอกลับไปจะต้องช่วยประโคมข่าวให้อาคารเสินหวังอย่างแน่นอน! ประเภทที่ว่าไม่ต้องเสียเงินแต่ก็รู้ทั่วถึงกันทั้งแผ่นดิน
หวังเค่อและจางเจิ้งเต้าเดินทางมาตรวจรับอาคารเสินหวัง กลุ่มศิษย์ตระกูลหวังติดสอยห้อยตามมาอย่างเริงร่า
“ท่านประมุข ตลอดหลายวันมานี้มีคนแอบเข้ามาด้อมๆ มองๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย พวกเราจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เกรงว่าคงจะเป็ศิษย์ดวงธาตุทองคำจากพรรคเทพหมาป่า์!” พี่หญิงเล็กเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“อืม ก็เป็เื่ปกตินี่? ปากบอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับซื่อตรงนัก!” หวังเค่อยิ้ม
“ห้องโถงพวกนี้ โคมไฟระย้าพวกนี้ หวังเค่อ เ้าจะฟุ่มเฟือยไปแล้ว!” จางเจิ้งเต้าอุทาน
“นี่นับเป็อย่างไรได้? มีไว้ให้ดูมีหน้ามีตาเท่านั้น! ใช้เพื่อตบตาคนอื่น ไม่ได้ให้มาตบตาตัวเอง ไม่ว่าอาคารเสินหวังจะดูโอ่อ่าแค่ไหนทารกแกนิญญาลงมือคราเดียวทั้งอาคารก็พังราบเป็หน้ากลองแล้ว! ส่วนขอบเขตเซียนเทียนคงใช้เวลาสักพักกว่าจะถล่มลงมาได้!” หวังเค่อกลอกตามองบน
“นี่จะเป็ไปได้ยังไง บ้านสวยตระการตาแบบนี้น่ะนะ!” จางเจิ้งเต้าเบิ่งตาโง่งม
“นี่มีไว้ทำเงินเฉยๆ! บังหน้าน่ะ เอาไว้บังหน้าล้วนๆ เ้ารู้เื่ไหม? หากใช้ทำเงินไม่ได้ ไม่ว่าบ้านหลังนี้จะโอ่อ่าหรูหราแค่ไหนจะมีประโยชน์ผายลมอะไร?” หวังเค่อแค่นเสียงอย่างเหยียดหยาม
“อ๋า?” จางเจิ้งเต้ารู้สึกเหมือนถูกคนราดถังน้ำเย็นใส่
“ตัวอย่างเช่น ข้าเชิญนักหลอมยุทโธปกรณ์มาช่วยสร้างลิฟต์ตัวนี้ ดูเผินๆ เหมือนจะดี แต่ในความเป็จริงใช้ประโยชน์อะไรได้? ขอบเขตเซียนเทียนลำบากกระทืบเท้าทีเดียวก็ขึ้นไปได้ไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น ยิ่งดวงธาตุทองคำยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนทารกแกนิญญาแค่กระทืบเท้าทีเดียวก็ไปถึงยอดตึกได้แล้ว! ลิฟต์ตัวนี้มีไว้แค่บังหน้า! ใช้เพื่อยกระดับตัวเอง! มีไว้แค่ตบตาคนเท่านั้น!” หวังเค่ออธิบาย
“อ้อ เช่นนี้เอง!” จางเจิ้งเต้าทำหน้าพิลึก
“ไม่ต้องหมดกำลังใจ! หาก้าทำเงินก็จะขาดการบังหน้าตบตาคนไปไม่ได้! เพื่ออาคารเสินหวังแห่งนี้ข้าทุ่มเงินไปตั้งเท่าไร หากหากลับคืนมาไม่ได้ ข้าไม่ขาดทุนป่นปี้พอดี?” หวังเค่อว่า
“หือ? งั้นบ้านหลังนี้จะทำเงินได้ด้วยวิธีไหนกัน?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างไม่เข้าใจ
“ขยายอิทธิพลออกไป! หนึ่งเดือนจากนี้คือพิธีเปิดตัว ข้าจะเริ่มขายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกตอนนั้น!” หวังเค่อว่า
“หนึ่งเดือนจากนี้? เริ่มขายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก? ผลิตภัณฑ์อะไร?” จางเจิ้งเต้ารีบถามอย่างสงสัย
“ถึงตอนนั้นก็รู้เองแหละน่า ตอนนี้ยังต้องให้เ้าใช้ทักษะหน้าไม่อายอยู่!” หวังเค่อเอ่ยอย่างขึงขัง
“ข้า? ข้าจะไปทำอะไรได้?” จางเจิ้งเต้าสับสน
“ตลอดหนึ่งเดือนนี้ เ้าจะต้องวิ่งเต้นไปทุกสำนักเซียนของสิบหมื่นมหาบรรพต! ช่วยบริษัทเสินหวังขยับขยายชื่อเสียงอิทธิพล หลอกพวกมีอันจะกินให้ส่งเงินมาให้พวกเรา! เพ้ย ไม่ใช่ เป็เชิญชวนแเื่มาร่วมงานเปิดตัวต่างหาก!” หวังเค่อกล่าวอธิบาย
