สัตว์อสูรระดับสี่ที่เทียบได้กับระดับบรรพชนิญญาของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นยอมจำนนให้จริงๆหรือ?
ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นาาอสรพิษเกล็ดดำที่ลำตัวยาวกว่าสามสิบหมี่พุ่งเข้ามานั้นทั้งถังเซียว ทั้งเฉียนหม่านควง และคนอื่นๆ ต่างก็แทบจะฉี่ราด แต่ในเวลานี้พวกเขากลับต้องอ้าปากค้างจนหุบปากไม่ลง
น่ะ...นี่มันเป็เื่ที่น่าทึ่งเกินไปแล้ว
ศิษย์น้องจ้าว...ไม่ได้ๆๆ ต้องศิษย์พี่จ้าว ก็ไม่ถูกอีก เพราะในเวลานี้จ้าวหนีอิ่งสามารถกำราบสัตว์อสูรระดับสี้ให้กลายมาเป็สัตว์เลี้ยงได้ เรียกได้ว่าเก่งกว่าเหล่าผู้าุโในสำนักเสียอีก! ต่อไปคงต้องเรียกนางว่า “ผู้าุโ” เสียแล้วกระมัง?
ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกตกตะลึงอย่างบอกไม่ถูก
บนท้องฟ้าก็มีเสียงฟ้าร้องดัง ‘ครืนๆ’ ติดต่อกัน
พร้อมกันนั้นก็มีเสียงน้ำไหลเข้ามาในหู ในเวลานี้ทุกคนถึงได้รู้สึกตัวว่าธารน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้ากำลังละลายอย่างรวดเร็วจนน่าใ เสียงน้ำไหลที่ดังขึ้นมาก็คือเสียงน้ำแข็งที่กำลังละลายกลายเป็น้ำไหลลงมา
จ้าวหนีอิ่งที่อยู่กลางอากาศก็ขยับตัวพร้อมกับความคิดในหัว
“ฟ่อ!” งูตัวเล็กสีดำก็กลายร่างเป็งูั์ยาวสามสิบหมี่อีกครั้ง แล้วจ้าวหนีอิ่งก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่บนตัวของมัน
าาอสรพิษเกล็ดดำเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับส่งเสียงร้อง ร่างกายขนาดใหญ่ของมันเหาะขึ้นไปในอากาศ
ทางด้านฉินหรูเยียนเองก็เหาะขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับะโเสียงดัง “อิ่งเอ๋อ!”
พร้อมด้วยบรรยากาศอันสูงส่ง เสียงที่เ็าลอยมาจากไกลๆ “นังเด็กน้อย คราวหน้าถ้าเ้ากล้าเรียกข้าด้วยชื่อนี้อีก ข้าจะกระชากฟันเ้าให้หมดปาก ถ้าเ้าไม่อยากจมน้ำตายก็รีบหนีไปที่นี่เร็ว!”
หลังจากนั้นไม่กี่สิบชั่วอึดใจ าาอสรพิษเกล็ดดำก็กลายเป็เพียงจุดดำเล็กๆ หายไปในกลุ่มก้อนเมฆ!
“อิงเอ๋อ” ฉินหรูเยียนที่ตกลงมาที่พื้นอย่างแรง จนน้ำแข็งกระเด็นไปทั่ว ในขณะที่น้ำแข็งละลายกลายเป็น้ำไหลอยู่นั้น นางก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางที่จ้าวหนีอิ่งหายไปแล้วส่งเสียงร้องด้วยความโศกเศร้าออกมา จากนั้นก็คุกเข่าลงไปนั่งในน้ำแข็งที่กำลังไหลเทลงมาเสียงดังซูซ่า
“นั่นไม่ใช่อิ่งเอ๋อ หรือต้องพูดว่านั่นไม่ใช่อิงเอ๋อคนเดิมแล้ว” เสียงที่ทุ้มต่ำดังขึ้น
ใบหน้าอันงดงามที่กำลังโศกเศร้าก็เงยขึ้นมาราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ฉินหรูเยียนจ้องมองไปทางเซียวหลิงอวิ๋นอย่างหนักแน่นและพูดพึมพำออกมา “ใช่แล้ว นั่นไม่ใช่อิงเอ๋อ อิงเอ๋อที่ข้ารู้จักจะไม่ทำเช่นนี้กับข้าแน่”
“นั่นคือร่างกายของอิงเอ๋อไม่ผิด แต่จิติญญาข้างในได้เปลี่ยนไป หรืออาจจะเรียกได้ว่าจิติญญาอีกดวงที่ซ่อนอยู่ในร่างของนางได้ตื่นขึ้นแล้ว ขอศิษย์พี่หญิงอย่าได้กังวลไปเลย สักวันข้าจะทำให้ศิษย์พี่หญิงอิงเอ๋อกลับมาให้ได้เอง!” เซียวหลิงอวิ๋นมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ทั้งรู้สึกเสียใจและสงสารอย่างบอกไม่ถูก จึงได้กล่าวคำมั่นสัญญาออกมาด้วยเสียงค่อยๆ!
“ดี!” ฉินหรูเยียนยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้า และลุกขึ้นยืน!
หลังจากนั้นไม่นาน กระสวยแสงสายัณลำหนึ่งกับยานเหาะทองพิสุทธิ์สองลำก็พุ่งทะยานลอยขึ้นสู่อากาศ ทุกคนยืนอยู่บนของวิเศษบินได้สามลำ มองไปยังพื้นดินที่เป็ธารน้ำแข็งเบื้องล่าง ไม่สิ ในเวลานี้จากพื้นดินที่เป็ธารน้ำแข็งได้กลายเป็มหาสมุทรไปเสียแล้ว
...
หิมะทั้งสองข้างทางไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาทั้งหุบเขาก็มีน้ำที่ละลายจากหิมะจนสูงถึงหนึ่งฉื่อ!
สัตว์อสูรหลายพันตัวเตะขาไปมาอย่างกระวนกระวายในน้ำที่สูงถึงเข่าตัวเอง
“ครืนๆ” ทันใดนั้นก็ปรากฏลำแสงสีดำที่พุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
“ฉึก!” จากนั้นก็มีแสงดาบขนาดั์ที่ดูราวกับก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากลำแสงสีดำนั้นอีกที
“ปึก...เปรี๊ยะ!” เสียงดังก้อง ตามด้วยเสียงที่เหมือนเปลือกไข่แตก
สัตว์อสูรตัวรอบนอกสุดหลายตัวก็ตัวเซถลาออกไปด้านนอก! เมื่อก้าวขาออกไปหนึ่งก้าวก็กลายเป็ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีขนาดใหญ่แทน
อาคมปิดผนึกพลังพังทลายแล้ว
ท่ามกลางหิมะที่ไหลเทลงมาและน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก สัตว์อสูรหลายพันตัวที่มีขนาดและสายพันธุ์ที่ต่างกันต่างก็ส่งเสียงร้องคำรามและพุ่งทะยานออกมา วิ่งไปยังทุ่งหญ้าสีเขียวขจีอันกว้างใหญ่ด้านนอก!
...
“นั่นเสียงอะไรน่ะ?” บนทุ่งหญ้า ศิษย์สำนักรวมสมบัติิญญา ร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก็ขยับหู หูทั้งสองข้างของเขาฉับไวมาก
“แย่แล้ว ฝูงสัตว์อสูร!” ในขณะที่คนในกลุ่มคนอื่นๆ ยังคงงุนงงอยู่นั้น สีหน้าของศิษย์คนนี้ก็เปลี่ยนไปทันทีและะโเสียงดังออกไป
ทั้งสิบคนวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง
แต่ก่อนที่จะวิ่งไปได้หลายลี้ ก็มีเสียงดังสนั่นมาจากด้านหลัง ศิษย์สำนักรวมสมบัติิญญาคนหนึ่งก็มองไปที่ด้านหลัง สีหน้าก็ซีดเผือดลงทันที
ฝูงสัตว์อสูรหลายพันตัวพากันวิ่งเข้ามาราวกับคลื่นั์
“ยานเหาะทองพิสุทธิ์ เร็ว เร็ว เร็ว!”
ยานเหาะทองพิสุทธิ์สองคันก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า แต่เพิ่งจะบินขึ้นไปได้แค่ร้อยจั้ง ศิษย์สำนักรวมสมบัติิญญาคนหนึ่งก็ส่งเสียงะโดังขึ้น “บินหลบไปด้านข้างเร็ว!”
เมื่อศิษย์ทั้งสองคนที่ทำหน้าที่ควบคุมยานเหาะได้ยินเสียงนี้และหันไปมองด้านหลัง หัวใจของพวกเขาก็แทบจะะโออกมาจากปาก
รีบควบคุมให้ยานเหาะวิ่งแยกออกไปคนละด้านแล้วหนีไป
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องใก็คืองูั์ที่มีเกล็ดสีดำเต็มตัว เพียงแค่มันเหลือบมองพวกเขาก็ทำให้รู้สึกหนาวสั่นแล้ว มันพุ่งตัวผ่านระหว่างกลางของยานเหาะทั้งสองคันที่วิ่งแยกทางกันเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ถูกลมแรงพัดจนทำให้ยานเหาะทั้งสองคันลอยออกไปถึงหลายร้อยหมี่จึงจะหยุดอยู่นิ่งๆ
“พวกเ้าดูนั่นสิ บนงูั์ตัวนั้นมีคนขี่อยู่บนตัวมันด้วย แถมยังสวมชุดของสำนักิญญาเมฆา!” ศิษย์คนหนึ่งที่มีสายตาแหลมคมก็ต้องเบิกตากว้างและส่งเสียงร้องออกไปด้วยความใ!
แล้วสายตาทั้งสิบคู่ก็จับจ้องไปที่ด้านหลังสิ่งที่กำลังเคลื่อนที่จากไปอย่างรวดเร็วนั้น ทั้งสิบปากอ้าค้างไว้เป็รูปตัว O อยู่ครึ่งวันก็ยังไม่อาจหุบ
“ศิษย์พี่ ท่านดูนั่นสิ ฝูงสัตว์อสูรด้านล่างดูเหมือนจะถูกผู้าุโของสำนักิญญาเมฆาที่อยู่บนท้องฟ้าไล่ต้อนให้วิ่งไปอยู่เลยนะ?”
“อ๊ะ จริงด้วย!”
“แต่แปลกจัง ทำไมถึงเป็ผู้าุโของสำนักิญญาเมฆาที่เป็คนไล่ต้อนฝูงสัตว์อสูร แต่ไม่ใช่ผู้าุโของสำนักคุมสัตว์ิญญาล่ะ?”
“งูั์ตัวนั้นน่ากลัวมาก น่าจะเป็สัตว์อสูรระดับสี่แน่ แค่มันมองมาผ่านๆ ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องใต้ดินที่หนาวเหน็บไปทั้งตัวเลย”
“ศิษย์พี่ พวกเราควรตามไปดูดีหรือไม่?” หลังจากที่วิกฤตผ่านพ้นไป ความคิดที่จะหาเื่ตายก็ผุดขึ้นมาในใจของศิษย์คนหนึ่ง
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาก็ถูกคนอื่นๆ รุมประณามทันที “ถ้าเ้าอยากรนหาที่ตาย ก็อย่าลากคนอื่นไปตายด้วยสิ”
“เ้าหนุ่มน้อย เ้าเบื่อชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ? ถ้าอยากจะตามไปดูก็ะโลงแล้วตามไปเลย พวกเราไม่ไปกับเ้าด้วยหรอกนะ!”
เ้าของยานเหาะและผู้ควบคุมไม่พูดอะไรทั้งนั้น หันหัวยานเหาะทันทีแล้วบินจากไปอย่างรวดเร็วในทิศทางตรงกันข้ามกับฝูงสัตว์อสูร
พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าฝูงสัตว์อสูรหลังจากที่หายเข้าไปในทุ่งหญ้าไกลๆ แล้ว ก็หายไปอย่างลึกลับราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
...
หลังจากที่ฝูงสัตว์อสูรหายไปอย่างลึกลับได้สองชั่วยาม
งูั์สีดำตัวหนึ่งก็พาหญิงสาวที่งามเลิศลอยมาถึงยอดเขาแห่งหนึ่ง
ในอีกสองชั่วยามต่อมา
แสงสีรุ้งส่องสว่างอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่งบนยอดเขา
มีการเปิดใช้งานอาคมเคลื่อนย้ายเล็กๆ ที่มีรูปร่างเป็ดาวห้าแฉกปรากฏขึ้น
จ้าวหนีอิ่งพาเ้างูดำตัวน้อยที่ยาวประมาณหนึ่งฉื่อเข้าไปในอาคม กระทั่งปรากฏแสงสว่างวาบขึ้นมา แล้วทั้งหญิงสาวและเ้างูน้อยก็หายไป ภายในไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีเสียงดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้ง
ยอดเขาขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างแปลกประหลาดปิดกั้นอาคมเคลื่อนย้ายขนาดเล็กนั้นเอาไว้จนมิด
ในขณะเดียวกัน
ที่ด้านนอกโลกเร้นลับ ตี๋จั๋วรื่อและโหยวต๋าจวิ้นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกันและมองไปยังทางทิศใต้ คิ้วของชายชราทั้งสองขมวดเข้าหากันในเวลาเดียวกัน คนหนึ่งเก่งเื่การทำนาย อีกคนหนึ่งมีพลังยุทธ์ที่ลึกล้ำที่สุด พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ในเวลาแทบจะพร้อมกันว่าที่ท้องฟ้าทางนั้นมีความแปรปรวนของมิติที่ผิดปกติ
...
ณ โลกปีศาจอันไกลโพ้น แดนปีศาจที่สิบเก้าเพลิงคลั่งไฟนรก ปีศาจร่างสูงใหญ่ที่มีเขาเล็กและโค้งมนห้าเขาบนหัว ดวงตาทั้งสองข้างของมันเปล่งแสงที่น่ากลัวออกมาทันที
ผนึกทั้งห้าอันบนแท่นบูชา อันที่อยู่ล่างสุดถูกปลดออกแล้ว!
