เมื่อคิดเช่นนี้ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นและถอยกลับไปด้านข้างอย่างเงียบๆ นั่งลงและเตรียมที่จะดูละคร ฉินอ๋อง ข้ารอดูผลงานของท่าน!
เมื่อใต้เท้าเหยากุ่ยพูดจบ ริมฝีปากของตวนมู่ไป๋เย่ก็ยกขึ้นและพูดอย่างเหน็บแนม “ฉินอ๋อง ก็แลกเปลี่ยนกันเท่านั้นเอง อย่าจริงจังเกินไปเลย”
หลังจากที่เขาพูดจบ ก็ถอยกลับไปด้านข้าง ห้องทั้งห้องก็เงียบลง สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่หลงเฟยเยี่ย เต็มไปด้วยความประหม่าและคาดหวัง
โดยไม่คาดคิด ปฏิกิริยาแรกของหลงเฟยเยี่ยทำให้ผู้คนต่างไม่ทันตั้งตัว สายตาเ็าของเขาจับจ้องไปที่มือของตวนมู่เหยา พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไร้เมตตา เพียงพริบตาเขาก็เข้าไปใกล้ตวนมู่เหยาได้
ชายผู้นี้ขี้ขโมยจริงๆ!
หานอวิ๋นซีถึงกับสะดุ้งใ ทว่าไม่นานก็ได้สติกลับคืนมา และอยากที่จะะโให้กำลังใจหลงเฟยเยี่ยเหลือเกิน
แม้ว่านางจะรู้ว่าหลงเฟยเยี่ยแค่ทำเพื่อให้ได้ยาเซิงเสวี่ยตานมา แต่นางก็ยังมีความสุขมาก ศิษย์พี่ศิษย์น้องจะสู้กันให้ตายอย่างไรนางไม่สนใจ นางตัดสินใจให้อภัยชายผู้นี้สำหรับสิ่งที่เขาทำในหุบเขางูแล้ว
ไม่มีสิ่งใดน่าแปลกใจไปกว่าการที่ตวนมู่ไป๋เย่และตวนมู่เหยาเป็พี่น้องกัน ตวนมู่เหยาก้าวถอยหลัง พร้อมกับดวงตานางก็เปลี่ยนเป็สีแดงในทันที
แม้ว่าศิษย์พี่จะเพิกเฉยต่อนางเสมอ แต่ก็เป็เพราะนิสัยเ็าของเขา หลายปีที่ผ่านมา ศิษย์พี่ไม่เคยแย่งของของนางเลย!
วันนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาแย่งบางอย่างจากนางเพราะหานอวิ๋นซี เขา้าที่จะเอาของของนางไปให้หานอวิ๋นซี!
ไม่ได้เด็ดขาด!
ตวนมู่เหยาไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ นางมองไปที่หานอวิ๋นซีอย่างดุร้าย เกลียดจนอยากจะปรี่เข้าไปฉีกผู้หญิงคนนั้นให้เป็ชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนี้!
ตวนมู่ไป๋เย่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยว “หลงเฟยเยี่ย เ้าคิดจะแย่งของจากผู้หญิงงั้นหรือ?”
“สิ่งนั้นไม่ใช่ของนาง!” หลงเฟยเยี่ยตอบโต้อย่างแข็งกร้าว
ตวนมู่ไป๋เย่ที่ทำท่าทางรังเกียจอยู่ตรงหน้า ถูกโต้เถียงกลับมาจนพูดอะไรไม่ออก ตวนมู่เหยามองไปที่หลงเฟยเยี่ยด้วยความโกรธ นางซ่อนถังเช่าเจ็ดดวงดาราไว้ในอกและพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า “ศิษย์พี่ ช่างเป็โอกาสที่หาได้ยากนัก เรามาสู้กันดีกว่า ถ้าอยากได้ก็มาเอาไปก็แล้วกัน!”
นี่…
ทันใดนั้นบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยความเงียบ จากนั้นใต้เท้าเหยากุ่ยก็ะเิเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า” น้ำเสียงของเขาบางครั้งก็ฟังดูแปลกประหลาด บางครั้งก็ทุ้มต่ำและชรา แต่บางครั้งก็สดใสดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
“ดี! ดี ช่างเป็วิธีที่ดีจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
มุมปากของหานอวิ๋นซีกระตุกขณะที่มอง ตวนมู่เหยา เ้านี่มันโหดร้ายเหลือเกิน มีความไร้ยางอายหน่อยได้หรือไม่!
ความน่ารังเกียจของบุรุษไม่สามารถเทียบได้กับความน่ารังเกียจของสตรี! ใบหน้าของหลงเฟยเยี่ยเปลี่ยนเป็มืดมน ในแววตาเองเต็มไปด้วยความขยะแขยง ทั้งสองฝ่ายต่างตัวแข็งทื่อ เมื่อเสียงหัวเราะของใต้เท้าเหยากุ่ยสิ้นสุดลง ทั้งบริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบ
ใต้เท้าเหยากุ่ยนั่งอยู่้าอย่างอารมณ์ดี หุบเขายาผีไม่ได้มีชีวิตชีวาเช่นนี้มานานแล้ว เขากวาดสายตามองแต่ละคน และในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องมาที่หานอวิ๋นซี จากนั้นก็หรี่ตาลงอย่างขี้เล่น
ทุกคนที่ยืนอยู่ต่างนิ่งงัน แต่สตรีผู้นี้กลับน่าสนใจ ไม่คิดว่านางจะนั่งดูการแสดงเหมือนเขา
ด้วยเหตุนี้ ท่ามกลางความเงียบ ใต้เท้าเหยากุ่ยจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เชื่องช้าและสบายๆ ว่า “ฉินอ๋อง ของของสตรีก็ควรเป็สตรีที่ไปแย่งมากกว่า เช่นนั้นจึงจะเหมาะสมหน่อย”
คำพูดเหล่านี้ชี้ไปที่หานอวิ๋นซีอย่างไม่ต้องสงสัย หานอวิ๋นซีมองใต้เท้าเหยากุ่ยด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ตาเฒ่านี่้าจะทำอะไร?
ตวนมู่ไป๋เย่และตวนมู่เหยาต่างก็มองไปที่หานอวิ๋นซี ตอนนี้เองจึงจะสังเกตเห็นว่านางกำลังนั่งอยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นท่าทางสบายๆ ของหานอวิ๋นซีแล้ว ตวนมู่เหยาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก นางมีสิทธิ์อะไรกัน!
ตวนมู่เหยาได้เห็นความขี้ขลาดและความไร้ความสามารถของหานอวิ๋นซีในหุบเขางูมาก่อนแล้ว เดิมทีนางก็ไม่้าที่จะต่อสู้กับศิษย์พี่อยู่แล้ว ถึงตอนนี้ ใต้เท้าเหยากุ่ยช่างออกความคิดเห็นได้ดีทีเดียว
ตวนมู่เหยายกยิ้มอย่างเย้ยหยันและพูดอย่างเ็าว่า “หานอวิ๋นซี ของที่อยากได้เอง ก็ต้องมาเอาด้วยตัวเองสิ ข้าให้เ้าเริ่มก่อน”
ทันทีที่พูดจบ หลงเฟยเยี่ยก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ใต้เท้าเหยากุ่ย นางไม่มีวิทยายุทธ์”
“ไม่มีวิทยายุทธ์งั้นหรือ?” ใต้เท้าเหยากุ่ยดูสงสัยเล็กน้อย แล้วเหตุใดสตรีที่ไม่รู้วิทยายุทธ์ถึงได้มานั่งอย่างสบายใจอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
ตวนมู่เหยาจะไปรู้ความจริงเื่ที่หลงเฟยเยี่ย้ายาเซิงเสวี่ยตานได้อย่างไรกัน เมื่อเห็นเขาปกป้องหานอวิ๋นซีมากๆ ดวงตาของนางก็ดูดุร้ายขึ้นมา “ถ้าไม่มีความสามารถก็อย่าออกมาให้รกหูรกตา”
หานอวิ๋นซีค่อนข้างพอใจกับการแสดงของหลงเฟยเยี่ย อย่างน้อยั้แ่แรกจนถึงตอนนี้การต่อสู้ยังคงไม่เปลี่ยนไป เมื่อเห็นตวนมู่เหยาที่ทำตัวอวดดีขนาดนั้น หานอวิ๋นซีก็ไม่ได้รีบร้อน นางยืนขึ้นช้าๆ แสร้งทำตัวน่าสงสาร “ใต้เท้าเหยากุ่ย สตรีที่ใช้มือใช้เท้ามันดูหยาบคายเหลือเกิน! นอกจากนี้ ข้าไม่รู้วิทยายุทธ์เลย เช่นนั้นไม่ลองเปลี่ยนเป็อย่างอื่นดูล่ะ?”
ทันทีที่พูดออกไป ใต้เท้าเหยากุ่ยที่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ตวนมู่เหยาก็ถามอย่างโกรธเคืองขึ้นมาก่อนว่า “หานอวิ๋นซี เ้าหมายความว่าอย่างไร? เ้าว่าใครหยาบคายกัน?”
“ใครที่ร้อนตัวก็คนนั้นนั่นแหละ” หานอวิ๋นซีพูดอย่างใจเย็น ตวนมู่เหยาที่กำลังจะโกรธเกรี้ยว ทว่าหานอวิ๋นซีก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “เป็ถึงองค์หญิงแห่งซีโจว ทั้งยังเป็ที่รู้จักกันดีในอาณาจักรซีโจว รอบรู้ในทุกด้านเช่นนี้ วิทยายุทธ์ก็ยอดเยี่ยม จะไปเป็คนหยาบคายได้อย่างไรกัน?”
คำพูดในภายหลัง ทำให้ตวนมู่เหยารู้สึกโกรธจนพูดไม่ออก ไม่ว่าความโกรธจะอยากะเิออกมามากเพียงใด นางก็ทำได้เพียงเก็บมันไว้ในใจ
ตวนมู่ไป๋เย่หรี่ตามองไปที่นาง แม้ว่าจะโกรธ แต่ในแววตากลับมีนัยของความชื่นชม สตรีผู้นี้ไม่รู้จักวิทยายุทธ์ แต่เก่งกาจยิ่งกว่าสตรีที่รู้วิทยายุทธ์เสียอีก!
มุมปากของหลงเฟยเยี่ยยกขึ้นเล็กน้อย ทว่าใต้เท้าเหยากุ่ยกลับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขาชอบฉากนี้มาก
ตวนมู่เหยาโกรธจนแทบหายใจไม่ออก นางหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้งก่อนที่จะสงบลงในที่สุด “เอาล่ะ หานอวิ๋นซี ข้าตอบตกลง เ้าอยากแข่งอะไรก็แล้วแต่เ้าเลย”
สิ่งที่หานอวิ๋นซีพูดนั้นถูกต้อง นางเป็สตรีที่มีพร์ซึ่งเป็ที่รู้จักกันดีในแผ่นดินใหญ่หยุนคง เชี่ยวชาญในทุกๆ ด้าน และการแข่งขันสำหรับสตรีที่อ่อนแอก็มีแต่วิชาเด็กน้อยอย่างเช่นดนตรี หมากรุก คัดลายมือ และจิตรกรรม
นางเบื่อที่จะเล่นกับสิ่งเ่าั้ั้แ่นางยังเด็ก หานอวิ๋นซีที่เป็บุตรสาวผู้ไร้ประโยชน์จากครอบครัวเล็กๆ จะมาเทียบกับนางได้อย่างไรกัน?
หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วและคิดว่า “เพื่อความยุติธรรม เชิญใต้เท้าเหยากุ่ยตัดสินใจดีกว่าว่าจะแข่งขันอะไร”
ใต้เท้าเหยากุ่ยตอบตกลงโดยธรรมชาติ กลับกันไม่ว่าพวกนางจะชนะหรือแพ้ อย่างไรเขาก็จะได้รับสิ่งล้ำค่าทั้งสองชิ้น และการต่อสู้ของสตรีนั้นน่าดูกว่าการดูการต่อสู้ของชายหนุ่มเสียอีก
“ดีเลย เช่นนั้นข้าตัดสินใจก็แล้วกัน!” เขาหัวเราะแปลกๆ อีกครั้ง พร้อมกับท่าทางที่ดูตื่นเต้นอย่างมาก “เช่นนั้นพวกเ้าก็แข่ง…”
เพียงแค่พูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดไป อยากให้แข่งอะไรกัน?
ใต้เท้าเหยากุ่ยสงบนิ่งลงในชั่วพริบตา หานอวิ๋นซีที่ได้ยินเสียงหัวเราะแปลกๆ ของเขาก็ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ในขณะนี้ ก็ตระหนักได้ว่าในตอนที่คนแปลกประหลาดผู้นี้เงียบลง มันน่ากลัวที่สุด
แม้ว่าจะอยู่ไกล แต่ก็ััได้ถึงความลึกลับและความน่ากลัวที่เล็ดลอดออกมาจากตัวเขา พระเ้ารู้ดีว่าเขาคงจะพูดอะไรที่น่ากลัวและแปลกประหลาดออกมาใช่หรือไม่?
ตวนมู่เหยายกคางขึ้นและมองไปที่หานอวิ๋นซีอย่างยั่วยุ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะชนะและความเย่อหยิ่ง ไม่ว่าจะแข่งขันอะไร วันนี้นางต้องทำให้ดีต่อหน้าศิษย์พี่ และยิ่งต้องทำให้ “ฉินหวังเฟย” ผู้นี้อับอายต่อหน้าศิษย์พี่ให้ได้
แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่ไม่ว่าจะแข่งอะไร ก็ดีกว่าแข่งวิทยายุทธ์ เดาว่าพละกำลังของนางคงสู้ตวนมู่เหยาไม่ได้
หานอวิ๋นซีที่ใจดีสู้เสือ ก็เลิกคิ้วมองไปอย่างยั่วยุเช่นกัน
เป็องค์หญิงแล้วอย่างไรล่ะ องค์หญิงของอาณาจักรตัวเองนางยังจัดการมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับองค์หญิงของอาณาจักรอื่น
หลังจากนั้นไม่นาน ใต้เท้าเหยากุ่ยก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ “ข้าตัดสินใจแล้ว!”
ทุกคนต่างมองมาที่เขาทันที ใต้เท้าเหยากุ่ยที่กำลังอารมณ์ดี ก็หัวเราะแปลกๆ ออกมาเรื่อยๆ “ตามหายา พวกเ้าสองคนต้องแข่งกันตามหายา!”
ตามหายา?
“ตามหายาอะไรกัน? แล้วจะหามันเจอได้อย่างไร?” ตวนมู่เหยารู้สึกประหลาดใจมาก มันเกินกว่าจะเดาได้สุดๆ “ข้าจะจัดเตรียมใบสั่งยาและแผนที่พืชสมุนไพรให้หนึ่งเล่ม ให้พวกเ้าค้นหามันทั่วทั้งในหุบเขายาผี และใครก็ตามที่ตามหายาทั้งหมดตามใบสั่งได้ครบก่อนก็จะเป็ผู้ชนะ” ใต้เท้าเหยากุ่ยพูดอย่างอารมณ์ดี พอใจกับความคิดของตนเองอย่างมาก
แผนการชั่วร้ายฉายแววออกมาในดวงตาของตวนมู่เหยา นางไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับยาสมุนไพร แล้วหานอวิ๋นซีล่ะ?
สตรีผู้นี้เป็คนไร้ค่าสำหรับตระกูลหาน แม้ว่าจะมีข่าวลือที่นางกลายเป็หมออัจฉริยะในชั่วข้ามคืนแพร่กระจายไปทั่วเมืองเทียนหนิง ทว่าสุดท้ายแล้วตวนมู่เหยาก็ยังไม่เชื่อ นางคิดว่ามันเป็เพียงข่าวลือที่แพร่กระจายโดยสตรีผู้นี้เอง ไม่เช่นนั้น มีคนไปขอรับการรักษาที่หน้าประตูมากขนาดนั้น นางไม่เห็นจะดูอาการให้ใครสักคนเลย?
ดังนั้นแล้ว หานอวิ๋นซีก็คงเหมือนกับนางที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยาสมุนไพร
หากหานอวิ๋นซีไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับยาสมุนไพร นางก็คงจะได้เปรียบใช่หรือไม่ ท้ายที่สุดหุบเขายาผีกว้างใหญ่อย่างมาก การค้นหายาสมุนไพรทั่วหุบเขาจึงเป็งานที่ต้องใช้แรงงานมาก
เมื่อพิจารณาจากร่างกายที่บางของหานอวิ๋นซีแล้ว นางไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน คงจะช้ากว่าหนึ่งก้าว ถึงแม้ว่าร่างกายของนางจะมั่นคง แต่ความเร็วของหานอวิ๋นซีก็ยังห่างไกลจากนางอยู่ดี!
เมื่อคิดเช่นนี้ ตวนมู่เหยาก็เปล่งเสียงออกมาทันที ตอบรับการแข่งขัน “สมกับที่เป็ใต้เท้าเหยากุ่ยผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มีความคิดแตกต่างจากคนทั่วไป แต่ข้าสงสัยว่าคนนอกจะช่วยข้าตามหายาได้หรือไม่?”
“ในเมื่อเป็การแข่งขันระหว่างพวกเ้าสองคน แน่นอนว่าคนนอกไม่สามารถช่วยได้” ใต้เท้าเหยากุ่ยตอบอย่างจริงจัง
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ตวนมู่เหยาก็มั่นใจมากขึ้น หากปราศจากความช่วยเหลือจากหลงเฟยเยี่ย ขาทั้งสองของหานอวิ๋นซีจะไปได้ไกลแค่ไหนกันเชียว? แล้วจะเดินได้เร็วแค่ไหน?
ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย นางก็คงเดินได้แค่ครึ่งวัน
“ใต้เท้าเหยากุ่ย ข้ายอมรับคำท้า!” ตวนมู่เหยาตอบตกลงอย่างเต็มใจ
ใต้เท้าเหยากุ่ยพอใจอย่างมากและมองไปที่หานอวิ๋นซี “ฉินหวังเฟยล่ะ?”
“มันค่อนข้างยาก...” หานอวิ๋นซีถอนหายใจเบาๆ
“เ้ายอมรับความพ่ายแพ้ตอนนี้เลยก็ได้นะ” ตวนมู่เหยาเย้ยหยันทันที
ใครจะไปรู้ว่าหานอวิ๋นซีจะพูดอย่างจริงจังว่า “ถึงแม้มันจะยาก แต่ข้าก็มาจากครอบครัวหมอ การแข่งขันตามหายานี้ มันจะไม่ยุติธรรมกับองค์หญิงหรือไม่?”
ตวนมู่เหยายิ้มอย่างประชดประชันและพูดว่า “ว่ากันว่าเ้าเป็คนไร้ประโยชน์คนแรกในประวัติศาสตร์ของตระกูลหาน ช่างน่าสมเพชเสียจริง! ข้าจะปล่อยเ้าไปก็แล้วกัน”
“พูดเช่นนี้ องค์หญิงคิดว่าการแข่งขันนี้ยุติธรรมแล้วใช่หรือไม่?” หานอวิ๋นซีถามอีกครั้ง
ตวนมู่ไป๋เย่ที่ฟังอยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด ตวนมู่เหยาที่ไม่รู้โดนผีตัวไหนเข้าสิง เมื่อนึกถึงปัญหาทางร่างกายของหานอวิ๋นซี ก็แทบรอไม่ไหวที่จะพูดว่า “มันยุติธรรมมากๆ เลยล่ะ ถ้าเ้าตอบตกลง ก็เริ่มกันเลย”
หานอวิ๋นซีพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ตกลง”
เอาเถอะ...ในเมื่อมีคนอยากทำให้ตัวเองขายหน้า นางจะทำอย่างไรได้ล่ะ? หานอวิ๋นซีไม่เคยบอกตวนมู่เหยาว่าตอนที่นางเรียนแพทย์แผนจีน นางเคยฝึกฝนอยู่ระยะหนึ่งเพื่อตามหายาบนูเา!
ลักษณะการเจริญเติบโตของยาสมุนไพรแต่ละชนิดแตกต่างกัน สถานที่ที่พวกมันเติบโตก็ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นสมุนไพรบางชนิดก็โตพร้อมกันและบางชนิดเป็ไปไม่ได้เลยที่จะโตพร้อมกัน
ตราบใดที่คุ้นเคยกับนิสัยและรูปแบบการเติบโตของยาสมุนไพรเหล่านี้ ไม่ต้องพูดถึงหุบเขาหรอก ต่อให้จะเป็ูเาทั้งลูก นางก็ยังสามารถหายาสมุนไพรที่กำหนดได้ในเวลาอันสั้น!
ไม่มีเคล็ดลับดีๆ แล้วจะชนะได้อย่างไรล่ะ?
เมื่อได้ยินคำตอบของหานอวิ๋นซีแล้ว ริมฝีปากของตวนมู่เหยาก็โค้งงอเป็รอยยิ้ม นางอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นนางทำให้ยาเซิงเสวี่ยตานของหลงเฟยเยี่ยหายไป
“ดีมาก พูดแล้วห้ามกลับคำเด็ดขาด ถ้าพวกเ้ากลับคำ ข้าจะไม่มีความสุขมากๆ!”
เสียงหัวเราะนั้นของใต้เท้าเหยากุ่ย ดูเหมือนจะเป็เื่ตลก แต่ก็เป็คำเตือนเช่นกัน หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านและเดินไปที่โต๊ะเพื่อเขียนใบสั่งยาพร้อมกับเดินมาอย่างสง่างาม
สมุนไพรในหุบเขายาผีมีมากมายขนาดนี้ เขาจะเขียนใบสั่งยาแบบไหนกันนะ?