"เสี่ยวหมาน เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนู?" อาฝูเดินออกมาจากเรือน เมื่อเห็นเสี่ยวหมานแบกซ่งอวี้กลับมา อีกทั้งสีหน้าของซ่งอวี้ก็ซีดขาว นางจึงเข้าใจว่าซ่งอวี้าเ็ตอนอยู่บนหุบเขา จึงรีบเดินไปดูอาการของผู้เป็นายทันที
เสี่ยวหมานเห็นอาฝูคล้ายเจอที่พึ่งพิง นางพูดเสียงสะอื้น "พี่อาฝู คุณหนูไม่สบายเ้าค่ะ สีหน้าไม่สู้ดียิ่งนัก พี่อาฝูรีบไปตามท่านหมอมาเถอะเ้าค่ะ"
คุณหนูเป็คนดี ควรจะอายุยืนยาว นางไม่อยากให้คุณหนูล้มป่วยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ซ่งอวี้ปรับอารมณ์มาตลอดทาง ตอนนี้นางข่มความรู้สึกของตนได้แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวหมาน นางก็รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย "อาฝู เ้าอย่าฟังที่เสี่ยวหมานพูด ข้าไม่ได้เป็อะไร ข้าสบายดี"
เด็กคนนี้ดีทุกอย่าง แค่ใสซื่อเกินไปเท่านั้น นางเติบโตมาได้อย่างไรเนี่ย?
อาฝูมองซ่งอวี้ด้วยความเป็ห่วง "คุณหนู ตามท่านหมอมาดูอาการดีหรือไม่เ้าคะ? จากเจ็บป่วยเล็กน้อยจะได้ไม่กลายเป็ป่วยหนัก"
แม้เสี่ยวหมานและอาฝูจะเป็ห่วงนางมาก ซึ่งนั่นทำให้ซ่งอวี้ตื้นตันใจยิ่งนัก แต่นางยังคงปฏิเสธเสียงหนักแน่นแสดงให้เห็นว่าตนแข็งแรงดีไม่ได้ล้มป่วย
"พวกเ้าลืมไปแล้วหรือ? ข้าเป็หมอ ป่วยหรือไม่ป่วย ข้ารู้ดีกว่าพวกเ้า" ซ่งอวี้พูดด้วยความจนปัญญา
จริงด้วย คุณหนูของพวกนางเป็หมอ ทั้งยังเป็หมอที่เก่งมากด้วย อาฝูและเสี่ยวหมานตระหนักขึ้นมาได้ทันที
อืม...ไม่เพียงแค่เสี่ยวหมานเท่านั้นที่ใสซื่อ ความเป็จริงมองจากบางมุมแล้วอาฝูเองก็ใสซื่อยิ่งนัก
ซึ่งความใสซื่อนี้ก็ต้องดูที่สภาพแวดล้อมด้วย
เมื่อไม่นานมานี้อาฝูและเสี่ยวหมานเพิ่งค้าตัวเป็ทาส มีซ่งอวี้เป็นายคนแรก พวกนางจึงไม่เคยผ่านการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในตระกูลใหญ่มาก่อน ดังนั้นในความคิดของพวกนางจึงไม่ได้เห็นซ่งอวี้เป็นายหญิง แต่เห็นเป็เสาหลักของครอบครัว
ในครอบครัวหนึ่ง ผู้ใดจะล้มก็ได้ ผู้ใดจะไม่อยู่ก็ได้ แต่ว่าหัวหน้าครอบครัวไม่อาจล้มได้ หัวหน้าครอบครัวเป็เหมือนเสาค้ำมหาสมุทร มีนางอยู่ ครอบครัวนี้จึงจะดำรงอยู่ได้
ดังนั้น สำหรับเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับซ่งอวี้ พวกนางจึงอ่อนไหวเป็พิเศษ กลัวจะเกิดเื่ร้ายขึ้นกับซ่งอวี้ แม้กระทั่งเื่ที่ซ่งอวี้เป็หมอก็ลืมไปเสียสนิท
"แม่นางกลับมาแล้วหรือ?" ขณะที่ซ่งอวี้และสาวใช้ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นไม่รู้ว่าหรงจิ่งเดินออกมาั้แ่เมื่อใด ผิวที่ไม่โดนแดดมาหลายวันซีดขาวเล็กน้อย เขาจับราวที่อยู่ข้างๆ ช่วยพยุงร่างกายมองไปที่ซ่งอวี้แล้วยิ้มบางๆ
ซ่งอวี้ใเล็กน้อยที่เขารู้ว่าเมื่อคืนนางไม่กลับมา นางพยักหน้าแล้วตอบกลับ "เมื่อวานมีหมอกปกคลุมกลางป่ากะทันหันทำให้มองไม่เห็นทาง ข้ากับเสี่ยวหมานจึงหลบอยู่ในเรือนกลางป่าจะได้ไม่ต้องหลงทางแล้วกลายเป็เื่ยุ่งยากมากกว่าเดิม"
พูดจบนางก็เพิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ "ทำไมหรือ เมื่อวานไม่มีหมอกปกคลุมหมู่บ้านหรือ"
อาฝูส่ายหน้าด้วยความฉงน "ไม่มีเ้าค่ะ เมื่อวานอากาศดียิ่งนัก แม้กระทั่งตอนกลางคืนก็ยังไม่มีหมอกปกคลุม"
ดังนั้นตอนที่ซ่งอวี้ไม่กลับเรือนเมื่อคืนนางจึงร้อนใจเช่นนี้ นางกลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเื่ไม่คาดคิดกับซ่งอวี้และเสี่ยวหมานบนหุบเขาทำให้ไม่อาจกลับมาได้ นางนอนไม่หลับทั้งคืน มิเช่นนั้นตอนที่ได้ยินเสียงคงไม่รีบเดินออกมาเช่นนี้
ซ่งอวี้ใบ้รับประทาน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
อากาศบ้าอะไร มีหมอกปกคลุมบนหุบเขาทว่าล่างหุบเขากลับไม่มี? นางคิดว่ามีหมอกปกคลุมหมู่บ้านเสี่ยวหนิว คนที่เรือนจึงไม่ต้องเป็ห่วงเสียอีก
เื่มาถึงขั้นนี้แล้ว ครุ่นคิดไปก็ไร้ความหมาย ซ่งอวี้จึงมองข้ามเื่นี้ไปแล้วหันไปพูดกับหรงจิ่ง "ร่างกายของท่านยังอ่อนแออยู่มาก ยังไม่ควรลุกเดิน รีบกลับไปพักเถอะ หากาแของท่านแย่ลงเพราะเื่นี้จะเป็การเพิ่มภาระให้ข้าไม่ใช่หรือ"
คำพูดของซ่งอวี้ฟังดูใจร้ายเล็กน้อยแต่ล้วนเป็ห่วงจากใจจริง เดิมทีาแใกล้จะหายดีแล้วแต่หากแย่ลงเพราะเื่เล็กน้อยแค่นี้ คาดว่าคงไม่อาจหายง่ายๆ ยุคสมัยนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง นางไม่มีวิธีฆ่าเชื้อโรคที่ดีกว่านี้แล้ว
หรงจิ่งยกมุมปากขึ้น "แม่นางวางใจเถอะ ข้ารู้ดี"
เขาเองก็เป็คนร่ำเรียนด้านการแพทย์จะไม่รู้ความพอดีได้อย่างไร ยาที่ซ่งอวี้จ่ายให้เขาล้วนเป็ยาอย่างดี าแหายดีแล้ว ลุกจากเตียงแล้วเดินบ้างเป็ครั้งคราว าแไม่ปริแน่นอน
สาเหตุที่สีหน้าของเขายังซีดขาวเป็เพราะเสียเืมากเท่านั้น ขอเพียงหลังจากนี้บำรุงเืสักเล็กน้อยก็หายดีแล้ว
หลังจากกลับมา ราวกับซ่งอวี้ความจำเสื่อมอย่างไรอย่างนั้น นางไม่พูดถึงเื่คืนนั้นแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่อนุญาตให้เสี่ยวหมานพูดด้วย ดังนั้นแม้แต่อาฝูที่สนิทสนมราวกับเป็คนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่รู้ว่าค่ำคืนนั้นยังมีชายสวมหน้ากากอีกคนหนึ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างกายซ่งอวี้ตลอดทั้งคืน
ซ่งอวี้เริ่มเชื่อแล้วว่าหลี่เฉิงมีบางอย่างที่ยากจะพูดจริงๆ เขาจึงไม่กลับมา นางตัดสินใจแล้วว่าจะรอเขา รอวันที่เขาบอกกับนางด้วยตนเองว่าเื่เ่าั้คืออะไร
วันเวลาผ่านไป เพียงชั่วพริบตา ก็ผ่านไปห้าวันแล้ว
ที่ดินที่ซ่งอวี้เพิ่งซื้อเริ่มมีการปลูกเรือนหลังใหม่แล้ว แน่นอน ยังผ่านไปไม่นานเท่าใดนัก ดังนั้นจึงเสร็จแค่บางส่วน ยังเป็แค่โครงเท่านั้น
นี่คือเรือนที่นางจะอยู่ในอนาคต แน่นอนว่าต้องใส่ใจให้มาก แม้ปกติจะงานยุ่งเพียงใดก็ต้องหาเวลาออกมาดู หากตำแหน่งใดไม่เหมือนกับที่นางคิดไว้ นางจะได้ทักท้วงแล้วให้หวังเสี่ยวลิ่วแก้ทันที
ค่าแรงของทุกคนคิดเป็รายวัน แม้การทำงานจะยืดยาวก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ขอเพียงไม่ติดค้างค่าจ้างพวกเขาก็พอแล้ว ถึงขั้นมีบางคนอธิษฐานในใจหวังว่าระยะเวลาในการทำงานจะนานขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อเป็เช่นนี้พวกเขาจะได้มีงานทำนานขึ้น
"ยัยหนูซ่ง วันนี้เ้าออกมาดูความคืบหน้าอีกแล้วหรือ?" คนงานเห็นซ่งอวี้เดินออกมาจึงกล่าวทักทายอย่างเป็มิตร
คนอื่นๆ ได้ยินต่างก็หัวเราะเสียงดัง "เ้าพูดอะไรเนี่ย ยัยหนูซ่งยังสาว จะใช้คำว่าดูความคืบหน้าได้อย่างไร? ไม่ใช่คนแก่เสียหน่อย"
คนจำนวนมากเห็นด้วยกับถ้อยคำนี้ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนพูดขึ้น "คนไม่มีการศึกษาอย่างพวกเ้าจะเข้าใจอะไร เขาเรียกว่ามาดูงาน เข้าใจหรือไม่? มาดูงานคือการที่เ้าของเรือนออกมาดูเรือนของตน"
ทุกวันที่ซ่งอวี้ออกมาล้วนถูกล้อเล่นเช่นนี้เสมอ เวลานี้นางรับมุกของพวกเขาได้โดยหน้าไม่เปลี่ยนสีแล้ว นางมองที่นี่ครู่หนึ่งโดยอิงจากความคิดของตนเอง ถามนั่นนี่เล็กน้อย แล้วกลับเรือนไปทำงานของตนและร่ำเรียนตำราแพทย์ต่อ
ระยะหลังมานี้คล้ายว่าท่านจ้าวกำลังยุ่งกับเื่บางอย่าง เขาไม่สั่งการบ้านนางเลย ซ่งอวี้จึงทำได้เพียงอ่านทวนหนังสือที่ท่านจ้าวส่งมาให้วนไปมา นางได้แิมากมาย ่นี้กำลังทดลองแิเ่าั้
หลานชายของผู้ใหญ่บ้านเจอซ่งอวี้ คล้ายว่านางกำลังจะกลับเรือน เขาจึงเดินมาหาแล้วพูดเสียงเบา "ยัยหนูซ่ง ข้ามีเื่อยากจะพูดกับเ้า เ้าสะดวกหรือไม่?"
ซ่งอวี้มองเขาครู่หนึ่ง หลานชายของผู้ใหญ่บ้านเป็คนที่ขึ้นชื่อเื่ความซื่อตรงมาก ถึงขั้นที่ว่าถูกเลือกให้เป็บุคคลตัวอย่างของหมู่บ้านเสี่ยวหนิวได้เลย ดังนั้นซ่งอวี้จึงพยักหน้า แล้วเขาก็พานางเดินไปยังพื้นที่กว้างๆ ซ่งอวี้จึงไม่กลัวว่าเขาจะทำอะไรตนแม้แต่น้อย
หลานชายของผู้ใหญ่บ้านถูมือตัวเองไปมาคล้ายกับว่ากำลังหาคำพูด นานครู่หนึ่งกว่าเขาจะพูดออกมา "ข้ารู้ว่าไม่ควรนินทาผู้อื่นลับหลัง แต่ท่านลุงบอกให้ข้าดูแลเ้า ข้าจึงไม่อาจเพิกเฉย เ้า..."
พูดถึงตรงนี้ คล้ายภายในใจของหลานชายผู้ใหญ่บ้านทุกข์ทรมานอย่างมาก สีหน้าของเขาลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความยากลำบาก "่นี้เ้าต้องระวังตระกูลฉีให้ดี คล้ายว่าพวกเขามักจะจับตาดูเ้า ข้าเห็นหลายครั้งแล้ว"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้