บทที่ 16 งานประมูลแร่หิน
เหตุการณ์ที่เย่จื่อเฉินช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้ดึงดูดคนมุงได้จำนวนมาก แม้แต่คนขับรถส่งของเองก็ยังะโลงจากรถมาด้วยความลนลาน
แต่หลังจากที่ได้เห็นไร้ร่องรอยาแ เขาก็ยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนเห็นผี ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
ชนกระเด็นไปตั้งห้าหกเมตร แต่ไม่เป็อะไรเลยสักนิด
คนคนนี้เป็ซูเปอร์แมนหรือไงเนี่ย!
เย่จื่อเฉินก็อึ้งอยู่เหมือนกัน เมื่อครู่นี้เด็กคนนี้เรียกเขาว่าอะไรนะ?
พ่อ!
เด็กน้อยมุดอยู่ในอ้อมกอดของเขาแน่น และในทันใดนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็วิ่งมาจากห้างสรรพสินค้าฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าตื่นใ
"เถียนเถียน..."
เมื่อเด็กน้อยในอ้อมกอดได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาว ก็โผล่ออกมาจากอ้อมกอดของเย่จื่อเฉิน แล้วยื่นมือไปให้หญิงสาวอุ้ม
"คุณแม่!"
"เถียนเถียน หนูทำแม่ใหมดเลย"
หญิงสาวคุกเข่าลงตรงหน้าเถียนเถียน มองสำรวจเธอซ้ำๆ ด้วยกลัวว่าเธอจะเป็อันตราย
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ เย่จื่อเฉินก็มีอาการประหม่าไปชั่วขณะ
หญิงสาวตรงหน้าเป็คนที่สวยมาก ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพธิดาซูเหยียนเลย ที่สำคัญกว่าก็คือตัวเธอมีเสน่ห์ในแบบผู้หญิงที่เป็ผู้ใหญ่ควรมี ในความสวยหวานนั้นแฝงไว้ด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน
เย่จื่อเฉินอดคิดอยู่คนเดียวไม่ได้ว่าถ้าใครที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้...
ถ้าไม่โดนเธอสูบเงินจนหมดก็นับว่าผู้ชายคนนั้นเ็าแล้วล่ะ
เมื่อมั่นใจแล้วว่าเถียนเถียนไม่ได้รับาเ็ หญิงสาวจึงได้ลุกขึ้นเดินไปหาเย่จื่อเฉิน
"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตเถียนเถียนไว้ นี่เป็นามบัตรของฉัน ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ"
เย่จื่อเฉินรับนามบัตรมา
ร้านจิวเวลรี่ : เซียวอี้เหม่ย
"เย่จื่อเฉิน" เย่จื่อเฉินไหวไหล่ พลิกนามบัตรในมือเล่นเล็กน้อยแล้วพูด "ผมก็แค่นักศึกษาจนๆ ไม่มีนามบัตรอะไรให้คุณหรอกนะ"
"คุณพ่อ"
และตอนนี้เถียนเถียนก็จะพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเย่จื่อเฉินอีกครั้ง
ชั่วขณะหนึ่งที่สีหน้าประหม่าปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเย่จื่อเฉินและเซียวอี้เหม่ย
"เถียนเถียนไม่เรียกซี้ซั้วนะลูก"
เมื่อดึงเถียนเถียนกลับมาหาตัวเองแล้ว เซียวอี้เหม่ยก็หยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเงินหนึ่งใบแล้วยื่นให้เย่จื่อเฉิน
"ถึงการทำแบบนี้จะดูน่ารังเกียจ แต่ฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะตอบแทนคุณยังไง ในบัตรนี้มีอยู่หนึ่งแสน ก็คิดเสียว่า..."
เซียวอี้เหม่ยยังพูดไม่ทันจบ เย่จื่อเฉินก็ดันบัตรกลับคืนไปก่อน
"บัตรนี้ผมไม่้าหรอก ดูแล้วคุณน่าจะเป็แม่ของเถียนเถียน ที่ผมอยากพูดก็คือทีหลังอย่าปล่อยให้เถียนเถียนข้ามถนนคนเดียวอีก เขายังเด็กมาก มันอันตรายเกินไป ครั้งนี้ได้ผมช่วยเอาไว้ แต่ครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีแบบนี้แล้วก็ได้"
เย่จื่อเฉินบีบแก้มเถียนเถียนเล็กน้อย ก่อนจะปัดฝุ่นบนตัวแล้วหันหลังเดินออกไป
"คุณแม่คะ คุณพ่อไปแล้ว"
ใบหน้าเล็กของเถียนเถียนย่นเข้าหากัน ยื่นมือน้อยๆ ที่อวบอูมชี้ตามหลังเย่จื่อเฉิน
เซียวอี้เหม่ยจับมือเด็กน้อยลงแล้วส่ายหน้าพูด
"นั่นไม่ใช่พ่อนะคะ ห้ามทักคนมั่วซั่วเข้าใจไหม? ต่อไปนี้ถ้าเจออีกต้องเรียกว่าพี่ชายนะ"
เมื่อถอดจี้หยกออกจากคอ จี้หยกเดิมทีที่มีสีเขียวมรกต มาตอนนี้้าเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ขุ่นมัวไร้ประกาย
ผู้เฒ่าจันทราไม่ได้โกหกเขาจริงๆ ด้วย จี้หยกนี้สามารถช่วยชีวิตคนได้จริงๆ พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้แล้ว ถ้าหากไม่มีจี้หยกอันนี้เขาก็คงไร้ลมหายใจไปแล้ว
และทันใดนั้น โทรศัพท์ของเย่จื่อเฉินก็ดังขึ้นมา
"เย่จื่อ แชร์โลเคชั่นมา"
เมื่อเย่จื่อเฉินบอกพิกัดที่อยู่กับซูอี้อวิ๋นแล้ว อีกฝ่ายก็ตัดสายไปเลย ไม่ทันถึงสามนาทีรถสปอร์ตหรูสีแดงเพลิงคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ประตูรถถูกผลักออก ซูอี้อวิ๋นกวักมือเรียกเย่จื่อเฉิน
"ขึ้นรถ"
เย่จื่อเฉินนึกว่าซูอี้อวิ๋นมาหาเขาทำไม งงอยู่ตั้งนานจนได้รู้ว่าหมอนี่ได้รับเชิญไปงานประมูลแร่หินแล้วรู้สึกว่าไปคนเดียวมันน่าเบื่อ ก็เลยตั้งใจมาพาเย่จื่อเฉินไปเปิดหูเปิดตา
"สนใจวัดดวงไหม?"
เมื่อมองดูก้อนหินที่กองกันไว้อย่างกับูเา เย่จื่อเฉินก็ส่ายหน้า
"ทางที่ดีนายอย่าแตะต้องหินพวกนี้ ถ้านายอยากจะได้จริงๆ ก็บอกฉัน ถ้าฉันบอกให้นายซื้อนายก็ค่อยซื้อ"
"นายดูหินเป็ด้วยเหรอ?"
ซูอี้อวิ๋นถามอย่างประหลาดใจ
"ก็ประมาณหนึ่ง"
เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับไม่ได้ปฏิเสธ
ก้อนหินกองนี้ส่วนมากหน้าตาดูดี แต่สุดท้ายจะมีผลึกหยกหรือไม่นั้น เขาที่มีเนตรอัคคีแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้ว
เื่การดูหินก็คือครึ่งหนึ่งอยู่บน์อีกครึ่งก็ลงนรก
แต่ดูไปแล้ว งานประมูลสินค้าในครั้งนี้กับคนที่เข้าร่วมประมูลเกินครึ่งน่าจะลงนรก
และจู่ๆ ในงานประมูลแร่หินในครั้งนี้ก็มีประกาศว่ามีแร่หินก้อนหนึ่งที่มีมูลค่าเกินยี่สิบล้าน
ซูอี้อวิ๋นโดนพิธีกรขานราคาประมูลดึงดูดความสนใจทันที แล้วดึงเย่จื่อเฉินไปในกลุ่มคน
"เซียวอี้เหม่ย บริษัทของพวกคุณน่าจะ้าแร่หินก้อนนี้นะ?"
"หึ ฉันจะ้าหรือไม่้าแร่หินก้อนนี้ก็ไม่ต้องให้ประธานไป๋มาเปลืองสมองคิดแทนหรอกค่ะ"
คนตรงหน้าที่เข้าร่วมการประมูลคือเซียวอี้เหม่ยที่เพิ่งเจอกับเย่จื่อเฉิน เธอเป็เ้าของร้านจิวเวลรี่ สำหรับการประมูลแร่หินก็ย่อมไม่พลาดอยู่แล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ร้านจิวเวลรี่ของเธอกำลังโดนคนจงใจโจมตี เพื่อให้ร้านจิวเวลรี่ฟื้นตัวกลับคืนมาได้ เธอจึง้าแร่หินที่ตัดออกมาแล้วได้ผลึกหยกเป็จำนวนมากมาเติมเต็ม
"คุณหลิวคะ คุณแน่ใจนะคะว่าก้อนหินก้อนนี้มีผลึกหยกอยู่เยอะ?"
เซียวอี้เหม่ยมองชายชราข้างกาย ชายชราผู้นี้ก็คือที่ปรึกษาประจำร้านจิวเวลรี่ของพวกเธอ อีกทั้งเป็ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในแวดวงการดูหินอีกด้วย
"หรือว่าประธานเซียวสงสัยในสายตาของผม แร่หินก้อนนี้มีผลึกหยกแน่นอนครับ"
ชายชราตอบอย่างไม่พอใจ ท่าทางขุ่นมัวนั้นทำให้เซียวอี้เหม่ยอดขมวดคิ้วไม่ได้
ถึงแม้ว่าชายชราผู้นี้จะเป็ผู้เชี่ยวชาญ แต่อีกฝ่ายก็แค่ช่วยเธอดูเฉยๆ แล้วเธอเองก็ให้เงินตอบแทนต่อเดือนไปตั้งหลายแสน
ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายอยู่ในฐานะเ้านายและลูกจ้าง ชายชราทำงานได้เงิน กิริยาแบบนี้ทำให้เซียวอี้เหม่ยไม่ชอบเอามากๆ
แต่มันก็ไม่มีทางอื่นแล้ว สถานการณ์ในร้านจิวเวลรี่ของเธอในตอนนี้ เธอทำได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น
"เงินลงทุนกับหินแร่หินก้อนนี้มันเยอะมาก ฉันก็ต้องรอบคอบสิ" เซียวอี้เหม่ยยิ้มตอบกลับไป และเปิดปากขานราคาขึ้น "ยี่สิบสามล้าน"
"เย่จื่อ นายคิดว่าหินก้อนนี้จะมีผลึกหยกไหม?"
ซูอี้อวิ๋นชำเลืองมองแร่หินก้อนใหญ่กลางลานก้อนนั้น แร่หินก้อนนี้ดูแล้วโปร่งใสมาก เนื้อใสกระจ่าง ดูจากภายนอกก็เห็นผลึกสีเขียวอ่อนๆ แล้ว
หากหินก้อนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติก็ต้องมีผลึกหยกแน่นอน และสินค้าก็จะมีราคาสูงไปด้วย
"ไม่มี"
เย่จื่อเฉินส่ายหน้า ถึงหินก้อนนี้จะมองดูแล้วเหมือนจะมีผลึกหยก แต่มันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
"นายแน่ใจนะ?"
"อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกมาทำให้สับสน ยิ่งเวลาที่หินพวกนี้ดูเหมือนจะมีผลึกหยกมันก็จะยิ่งไม่มี ถ้าซื้อกลับไปสุดท้ายก็ได้แค่ความว่างเปล่า"
"ยี่สิบห้าล้าน"
ราคาประมูลของแร่หินเพิ่มขึ้นเร็วมาก เซียวอี้เหม่ยกัดฟันเพิ่มราคาอีกครั้ง
"สามสิบล้าน"
ทันทีที่เอ่ยราคาสูงลิบลิ่วออกไป บริเวณโดยรอบไม่ว่าจะเป็ผู้ประมูลหรือว่าเ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ต่างก็หยุดหายใจ
เย่จื่อเฉินก็โดนราคาที่สูงลิบลิ่วนี้ดึงดูดความสนใจเหมือนกัน แต่หลังจากที่เขาได้เห็นว่าเป็ใครก็อึ้งไปทันที
"ทำไมถึงเป็เธอ"
ดูจากท่าทางของเซียวอี้เหม่ยแล้ว ดูเหมือนว่าเธอ้าจะชนะประมูลแร่หินก้อนนี้ให้ได้
แต่เมื่อนึกถึงความจริงของหินก้อนนี้ เย่จื่อเฉินก็เกิดอาการลังเลไปเล็กน้อย หรือจะตัดสินใจบอกความจริงกับเซียวอี้เหม่ยดี
ส่วนเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นมันก็เป็เื่ของเธอ