เฮือก...!
ทุกๆคนตกตะลึงจนอ้าปากค้างกับคำสั่งที่แสนโหดร้ายของเจียงเฉิน เพราะสิ่งที่เขาสั่งนั้นไม่ได้หมายถึงแค่คนเดียวหรือสองคน แต่มันหมายถึงทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลมู่หรง รวมถึงเหล่าคนที่รับใช้ตระกูลมู่หรงอีกด้วย
ในฐานะผู้ฝึกตน การทำลายพลังบ่มเพาะของพวกเขานั้นเปรียบเสมือนฆ่าพวกเขาทั้งเป็
"เฉินเอ๋อร์ ไม่คิดว่านี่มันโหดร้ายไปหน่อยหรือ"
เจียงเจิ้นไห่ ได้ถามออกมาขณะที่คิ้วของเขาขมวดแน่น
"เจียงเฉิน.... เ้ามันปีศาจ เ้ามันไม่ใช่คน"
"ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อ ข้าจะฆ่าเ้า!"
เสียงคร่ำครวญได้ยินในทุกหนทุกแห่งในตระกูลมู่หรง พวกเขาเ่าั้เคียดแค้นจนดวงตาแดงก่ำ และปรารถนาที่จะฆ่าเจียงเฉินให้ตายจากก้นบึ้งของหัวใจ
"ท่านพ่อดูสิ ถ้าปล่อยพวกมันไปในวันนี้ พวกมันก็ย้อนกลับมาแทงเราในวันหน้า เป็อันตรายแก่พวกเรา ลูกเมตตาพวกเขาแล้ว ที่ไม่ได้สังหารพวกเขา"
เจียงเฉิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ท่านพ่อ ในาไม่มีถูกผิด มีเพียงแค่ชนะและแพ้พ่าย กฎในโลกฝึกตนเองก็เช่นเดียวกัน ท่านอย่าได้ปรานีต่อศัตรูเด็ดขาด เพราะศัตรูหาได้มีซาบซึ้งใจไม่ หากท่านปล่อยพวกมันไป และมันจะก่อเกิดเมล็ดพันธุ์ความเกลียดชังขึ้นมา สิ่งที่พวกมันทำนั้นมิผิดเพราะเป็ส่วนหนึ่งของา แต่พวกมันจะต้องแบกรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง"
เจียงเฉิน เอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส ในเมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนเซียงนั้น ผู้คนยังไม่เคยเห็นศึกาที่แท้จริง การต่อสู้ระหว่างขั้วอำนาจขนาดใหญ่ สามารถที่จะทำลายและเข่นฆ่าผู้บริสุทธ์เป็จำนวนมาก เช่นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และปีศาจ โลหิตหลั่งไหลปกคลุมนับพันๆลี้
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะต้องข้ามผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยการนองเืและกองกระดูก
"ลูกจะยกให้ท่านพ่อเป็ผู้จัดการเื่นี้"
หลังจากพูดจบ เจียงเฉินหันหลังกลับ
เจียงเจิ้นไห่มองไปที่เจียงเฉิน คลื่นแห่งความหวาดกลัวปกคลุมความคิดของเขา แต่ั์ตาของเขามีความเด็ดเดี่ยวขึ้นมา เขาได้หันไปมองคนจากตระกูลมู่หรงที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา และกล่าวออกมา
"ทำตามที่นายน้อยสั่งซะ ผู้แซ่มู่หรงจะต้องถูกทำลายการบ่มเพาะ ตัดแขนข้างนึง และเนรเทศออกจากเมือง"
เจียงเจิ้นไห่รู้ว่าเจียงเฉินเป็คนที่มีความทะเยอทะยาน คงไม่จมปลักกับเมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนเซียงเป็แน่ และเมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนที่มีผู้ฝึกตนที่แท้จริงอยู่ อันที่จริงวิธีการที่เจียงเฉินใช้นั้นเป็วิธีการที่โหดร้าย แต่ด้วยทัศนคติเช่นนี้จะทำให้เจียงเจิ้นไห่อยู่ได้อย่างสงบสุขในอนาคต
ในค่ำคืนนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เปลวเพลิงและโลหิตมีอยู่ในทุกๆที่ในเมือง ทุกๆอย่างในตระกูลมู่หรงถูกโดยตระกูลเจียงใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง ผู้คนมากมายล้มตายหรือาเ็สาหัส ผู้นำตระกูลมู่หรง.. มู่หรงเจิ้น ได้ถูกเจียงเฉินสังหารอย่างโหดร้าย นับแต่นี้ต่อไปจะไม่มีตระกูลมู่หรงอยู่ในเมืองเทียนเซียงอีก
เมื่อได้ยินว่ามู่หรงเจิ้นได้ถูกเจียงเฉินฆ่าตาย โจวเป่ยเฉิน ทั้งตะลึงทั้งใกว่าสามนาทีจะตั้งสติได้ เมื่อตั้งสติได้ก็หายใจเข้าลึกๆและถอนหายใจ
"นายน้อยเป็บุคคลที่์เลือกสรร เขาสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ เขาเปรียบเสมือนัและในที่สุดเขาจะบินออกสู่ฟากฟ้าไป"
โจวเป่ยเฉินอยู่มาครึ่งศตวรรษ ตัวเขามีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าคนอื่นๆ เขายังมีจิตใจที่งดงาม ตัวเขาไม่เคยพบผู้ใดเหมือนเจียงเฉินมาก่อน และความสำเร็จของเจียงเฉินทำให้ผู้คนหันมาสนใจได้ ความคิดพวกเขาได้ถูกเจียงเฉินเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเจียงเฉินได้ออกคำสั่งให้พวกเขาบุกจู่โจมตระกูลมู่หรง หลายๆคนคิดว่าเขามุทะลุเกินไป แม้กระทั่งโจวเป่ยเฉินยังรู้สึกกังขาในตัวเขา....แต่ไม่มีใครคิดว่าตระกูลมู่หรงจะโดนทำลายรวดเร็วเช่นนี้ มันสามารถพูดได้ว่า ทุกอย่างเป็ฝีมือของเขาเพียงคนเดียว
การวางแผนาครั้งนี้เจียงเฉินเป็ผู้วางแผนเพียงผู้เดียว อีกทั้งตัวเขายังสังหารมู่หรงเจิ้นลงได้อีกด้วย
ในวันรุ่งขึ้น!
แสงตะวันสาดส่องทางทิศตะวันออก มันเป็อีกวันที่แดดแรงและความสงบสุขได้กลับมาสู่เมืองเทียนเซียง แต่ยังมีบางสถานที่ที่ยังคงมีกลิ่นคละคลุ้งเืหลงเหลือ ทำให้เมืองเทียนเซียงดูแย่ลง
ตระกูลเจียงได้บดขยี้ตระกูลมู่หรง มันหาใช่เื่สำคัญสำหรับโลกแห่งการฝึกตน แต่มันเป็เื่ใหญ่ะเืฟ้าดินในเมืองเทียนเซียง
ข่าวไม่ได้ขึ้นหัวข้อนานนัก ถึงแม้ไม่ได้ขึ้นหัวข้อข่าว ทุกคนในเมืองต่างทราบกันดีว่ามีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืน
ตระกูลมู่หรงได้หายไปจากเมืองเทียนเซียงในชั่วข้ามคืน ผู้คนยังไม่สามารถยอมรับได้เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป เมื่อวานทั้งสองตระกูลต่างสู้รบกัน และตอนนี้ตระกูลหนึ่งในสองที่สู้รบกันหายไปอย่างถาวร
"รวดเร็วเกินไปแล้ว ตระกูลมู่หรงถือว่าเป็หนึ่งในกำลังหลักของเมืองเทียนเซียงเลยนะ และตอนนี้พวกเขาโดนขยี้เพียงแค่คืนเดียวนี่นะ.....นี่มันเื่จริงหรือนี่"
"ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ ... ตระกูลเจียงลงมือได้รวดเร็วจริงๆ"
"ข้าคิดว่าเป็เพราะนายน้อยเจียงเฉิน พวกเ้าได้ยินเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานไหม ว่านายน้อยเป็คนสั่งการให้จู่โจมตระกูลมู่หรง และเขาได้ก้าวสู่ระดับฉีไห่แล้ว เขาสามารถสังหารมู่หรงเจิ้นได้ มู่หรงเจิ้นที่อยู่ระดับฉีไห่ขึ้นปลายเชียวนะ ไม่น่าเชื่อ น่ากลัวเกินไปแล้ว"
"ข้าได้ยินมาว่าเจียงเฉินได้มอบโอกาสมู่หรงเจิ้นสู้กับเขาตัวต่อตัว และเขาก็เอาชนะมู่หรงเจิ้นได้อีกด้วย....เขาต้องเป็ปีศาจแน่ๆ"
"อืม ตระกูลมู่หรงวางแผนที่จะกำจัดตระกูลเจียงโดยยืมมือตระกูลหลี่ แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าตระกูลเจียงชิงลงมือก่อน"
ทุกๆคนบนถนนต่างกล่าวถึงาที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เจียงเฉินมีชื่อเสียงมากขึ้นในชั่วข้ามคืน เขาสังหารมู่หรงเจิ้นที่เปรียบเสมือนบุคคลที่ไม่ควรแตะต้องในเมืองเทียนเซียง พวกเขาต่างแปลกใจว่ามันเป็เื่จริงหรือไม่
ชายหนุ่มวัย 15 ปี ผู้ซึ่งไร้ความปรานี เขาลงมือด้วยความกล้าหาญและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ และเขายังเฉียบแหลมยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก๋าด้วย เขาทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัว ในการขยี้ตระกูลมู่หรงในคืนเดียวมันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้
"ในความคิดข้านะ ตระกูลมู่หรงนั้นรนหาที่ตายเอง เจียงเฉินไม่ใช่บุคคลที่จะปรานีและยิ่งกว่านั้นพวกนั้นยังยืมมือตระกูลหลี่เพื่อทำลายตระกูลเจียง จะให้พวกนั้นได้ทำตามใจชอบโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เจียงเฉินย่อมไม่ปล่อยให้ผ่านไปได้แน่"
"ใช่แล้ว ดูผลลัพธ์สิ พวกเขาโดนเจียงเฉินจัดการภายในคืนเดียว"
"ข้าได้ยินว่า เจียงเฉินได้ทำลายการบ่มเพาะของผู้รอดชีวิตตระกูลมู่หรง และตัดแขนออกข้างนึง กับผู้ที่เกี่ยวข้องตระกูลมู่หรงทุกคน เขาช่างโหดร้ายยิ่งนัก"
"โหดร้ายบ้านเ้าสิ ทั้งสองตระกูลต่างสู้เป็ตาย การที่เขาไว้ชีิวตก็นับว่ามีเมตตาแล้ว"
การสนทนาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเจียงเฉินทั้งสิ้น ชื่อนี้ได้เปลี่ยนความคิดของผู้คนในเมืองทั้งหมด จากคนที่โง่เง่าและไร้ประโยชน์กลับกลายเป็สุดผู้เชี่ยวชาญผู้สามารถทำลายตระกูลมู่หรงได้ในคืนเดียว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป
นี่เป็เหตุการณ์ครั้งใหญ่สำหรับผู้คนในเมืองเทียนเซียง ทุกๆคนพูดคุยเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครที่จะลืมส่วนสำคัญนั่นคือ ตระกูลหลี่แห่งเมืองชื่อ เจียงเฉินได้สังหารนายน้อยแห่งตระกูลหลี่ พวกเขาไม่มีทางที่จะปล่อยเจียงเฉินไปแน่
"หากว่าตระกูลเจียงโดนตระกูลมู่หรงทำลาย ตระกูลมู่หรงก็จะเข้ามายึดเมือง และสิ่งที่เลวร้ายก็จะตามมาหาพวกเขาที่เป็ประชาชน"
"ถูกต้อง ตระกูลหลี่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวที หายนะกำลังจะมาเยือนเร็วๆนี้"
"ชิ... ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงไปหมด ใช่.. เจียงเฉินอาจมีความสามารถที่จะทำลายตระกูลมู่หรง แต่ตระกูลมู่หรงนี่เอามาเทียบกับตระกูลหลี่ไม่ได้เลย"
"หากตระกูลหลี่จัดการตระกูลเจียงแล้ว เมืองนี้ก็จะไม่มีผู้สินะ และภายในเมืองก็จะเกิดฝันร้ายขึ้น ขุมกำลังใหม่ก็จะมาแย่งชิงว่าใครจะเป็ผู้ครองเมือง"
ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกเป็กังวล ชาวบ้านก็้าที่จะอาศัยอย่างสงบสุข แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี่ อนาคตดูมืดมน ชีวิตของพวกเขาจะกลับสู่ปกติ เมื่อตระกูลเจียงสามารถควบคุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ภายในโถงประชุมคฤหาสน์เ้าเมือง บุคคลระดับสูงของตระกูลเจียงนั่งด้านซ้ายและด้านขวา โดยที่มีเจียงเฉินและเจียงเจิ้นไห่นั่งอยู่ตรงกลาง
บรรยากาศหนักอึ้ง มันไม่ได้หมายถึงว่าพวกเขาได้ทำลายคู่แข่งแล้วสามารถควบคุมเมืองนี้ไว้ได้ทั้งหมด ตามปกติพวกเขาควรเฉลิมฉลอง แต่ไม่มีใครยิ้มออก พวกเขาดูกังวลมาก
แน่นอนว่าตอนนี้มีบุคคลเพียงคนเดียวที่ยิ้มร่า นั่นคือ เจียงเฉิน เขาเปลี่ยนใส่ชุดสีขาวสะอาดแล้วนั่งบนเก้าอี้ไขว้ขาของเขา บนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"าเมื่อคืนจบลงด้วยดี ตระกูลมู่หรงพ่ายแพ้ยับเยิน ทุกคนสมควรที่จะมีความสุขสิ มาทำหน้าอมทุกข์กันทำไม มา มา ยิ้มสิ"
เจียงเฉินแกล้งพูดเย้าแหย่
เมื่อได้ยินเจียงเฉินพูดออกมา ทุกคนก็ยิ้มออกมา แต่เป็รอยยิ้มเจื่อนๆ พวกเขาไม่ได้ยิ้มด้วยใจจริงของพวกเขา พวกเขาสงสัยว่าทำไมเจียงเฉินยังยิ้มได้อีก ไม่รู้หรือยังไงว่าต่อไปจะต้องเจอปัญหาใหญ่อีก
"นายน้อย จริงอยู่พวกเราจัดการตระกูลมู่หรงเรียบร้อย แต่ทว่าตระกูลหลี่นี่มันไม่ใช่เื่ง่าย ข้าเชื่อว่าภายใน 3 วันตระกูลหลี่ก็จะมาที่นี่และมาจัดการพวกเรา พวกเราจะรับมือกับพวกนั้นอย่างไรดีขอรับ"
โจวเป่ยเฉินได้ถามออกมา ทุกๆคนรวมถึงเจียงเจิ้นไห่ต่างมองมายังเจียงเฉิน สิ่งที่เจียงเจิ้นไห่กังวลมากถึงมากที่สุดนั่นก็คือตระกูลหลี่ ตอนนี้เจียงเฉินได้กลายเป็เสาหลักของตระกูลเจียงแล้ว
"ท่านพ่อ ท่านลุงโจว ทุกท่านคิดว่าตระกูลหลี่ ไร้เทียมท่านพ่ายแพ้ไม่เป็หรือ? ทุกท่านคิดว่าเมื่อตระกูลหลี่มาถึง พวกเราจะต้องทำตามที่ตระกูลมู่หรงสั่งรึหรือพวกเราจะโดนกำจัดรึอย่างไร? "
เจียงเฉินกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส โดยที่ไม่มีท่าทีเป็กังวลแม้แต่น้อย
ทุกๆคนเงียบและลองครุ่นคิดในสิ่งที่เจียงเฉินกล่าวออกมา
"นายน้อย ตระกูลหลี่ในเมืองชื่อมันไม่ใช่ระดับที่ตระกูลมู่หรงสามารถเทียบได้เลยนะขอรับ พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นมนุษย์อยู่ด้วยนะครับ และผู้นำตระกูลอยู่ระดับขั้นปลายของแก่นมนุษย์ด้วยนะขอรับ... ด้วยกำลังของพวกเราตอนนี้ไม่มีทางที่พวกเราจะสามารถต้านพวกนั้นได้เลย"
ชายอ้วนทั้งสองพูด
"เฉินเอ๋อร์ อย่าบอกนะว่าเ้ามีวิธีรับมือแล้ว?"
ดูจากความมั่นใจของเจียงเฉิน เจียงเจินไห่อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
"ท่านพ่อ พวกเราเพิ่งทำลายตระกูลมู่หรงไปเมื่อคืนนี้ ดังนั้นจึงมีภาระการงานอีกจำนวนมาก ธุรกิจต่างๆซึ่งจะหมายถึงการเงินและความมั่งคั่งทั้งสิ้น พวกเราต้องจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน"
เจียงเฉินไม่ตอบคำถามเจียงเจิ้นไห่
"เฉินเอ๋อร์ พวกเราต้องเผชิญกับตระกูลหลี่ และคนของตระกูลเราความภักดีต่ำ พวกเขาไม่สามารถที่จะให้ความสนใจกับอย่างอื่นได้ตอนนี้"
เจียงเจิ้นไห่กล่าว ว่าสถานการณ์่นี้ละเอียดอ่อนภัยคุกคามจากตระกูลหลี่ใกล้จะมาถึง ความภักดีของพวกเขาไม่ใช่แค่ต่ำ ยังทั้งหวาดกลัวและเป็กังวลเป็อย่างมากด้วย
"พวกเ้าทุกคนไม่จำเป็ต้องเป็กังวลกับตระกูลหลี่ ไม่ว่าพวกมันจะเป็ใคร ถ้าหากพวกมันมาที่นี่ ข้าจะส่งมันกลับไปเมืองของพวกมันเอง"
ขณะที่เขาลุกขึ้น เจียงเฉินดวงตาทอประกาย
"ทุกคนจงฟัง ปฎิบัติหน้าที่ตามปกติของพวกเ้า ถ้าหากเมืองเทียนเซียงถูกเล่นงาน พวกเ้ายังมีข้ายืนอยู่ข้างหน้าและคอยดูแลพวกเ้าอยู่"
