จ้าวเหว่ยใ
“ไม่เป็อะไร พวกเดียวกัน” ฉินหลางพูดขึ้นอย่างนิ่งเรียบ
เมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว ฉินหลางหันไปพูดกับฮานซานฉาง “อาฉาง นี่จ้าวเหว่ยเป็เพื่อนสนิทผม”
“สวัสดีน้องชาย” ฮานซานฉางขับรถขับรถไปด้วย กล่าวทักทายไปด้วย
“คุณ…คุณคือพี่ฉาง?” เ้าเหว่ยรู้ว่าฮานซานฉางเป็ใคร ได้ยินฮานซานฉางเรียกเขาว่า ‘น้องชาย’ ตื่นเต้นไม่น้อย แต่เพียงไม่นานเขาก็ตระหนักได้ ฮานซานฉางเรียกเขาว่าน้องชายเพราะให้เกียรติฉินหลาง เขาแค่พูดด้วยมารยาทเท่านั้น จ้าวเหว่ยจึงพูดขึ้น “พี่ฉาง พี่เรียกผมว่าจ้าวเหว่ยก็ได้ครับ”
“งั้นฉันเรียกนายว่าน้องจ้าวแล้วกัน” ฮานซานฉางกล่าว จากนั้นจึงหันไปพูดขึ้นกับฉินหลาง “พี่ฉิน ยังดีที่พี่ออกมาแล้ว! ไอ้สารเลวซางคุนมันติดสินบนผู้คุมสถานกักกัน ให้ลงมือจัดการกับพี่—แต่ ผมได้ยินมาว่าเฉินกังโดนพี่ต่อยจนหมอบกับพื้นจริงเหรอครับ? ไอ้หมอนั่นอาศัยว่าตัวเองเป็นักชกมวยใต้ดิน ปกติมันเหิมเกริมจะตาย ไม่มีใครอยู่ในสายตาเลย!
“ฉินหลาง นายเก่งการต่อสู้ด้วยเหรอ? เชี่ย! เท่ชะมัดเลย!” จ้าวเหว่ยพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“อันนี้ไม่สำคัญ” ฉินหลางพูดกับฮานซานฉาง “เื่ที่ฉันออกมาคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ เพียงแต่ ซางคุนกับอันเต๋อเซิ่งหูตาสับปะรด อีกไม่นานพวกมันต้องรู้แน่ อาฉาง นายไปรวบรวมสมุนที่ต่อยตีได้มาให้หมด”
“มีอะไรรึเปล่าพี่ฉิน พี่จะบวกกับซางคุนแล้วเหรอ? ผมกำลังรอคำนี้ของพี่เลย ไอ้สารเลวซางคุน สองวันมานี้มันเหิมเกริมใหญ่แล้ว!” ฮานซานฉางพูดด้วยความเคียดแค้น
“พี่รวบรวมคนก่อน” ฉินหลางพูดขึ้น “เร็วๆ นี้มีเื่ให้พวกเขาทำ แต่ไม่ใช่ไปบวก”
ฮานซานฉางได้ยินแล้ว ถึงแม้เขาจะผิดหวัง ทว่ามันคือสิ่งที่ฉินหลางมอบหมาย เขากลับยังใส่ใจ ฮานซานฉางรู้สถานการณ์ตอนนี้ของตัวเองดี ถ้าฉินหลางพ่ายแพ้ ล้มลง พวกซางคุนไม่มีมีทางปล่อยเขาไปแน่
“ฉินหลาง มีอะไรที่ฉันจะช่วยนายได้บ้างไหม?” จ้าวเหว่ยกล่าวถามฉินหลาง
“นายเพิ่งช่วยฉันแก้ปัญหาใหญ่แล้ว” ฉินหลางพูด แต่เหมือนเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้อีก “จริงสิ ในโรงเรียน มีข่าวลืออะไรที่เกี่ยวกับฉันรึเปล่า?”
“ยังต้องถามอีกเหรอ—มันต้องมีอยู่แล้วแหละ!” จ้าวเหว่ยพูดขึ้น “ราวกับเป็หัวข้อยอดฮิตงั้นแหละ! ั้แ่ตอนที่โจวหลิงหลิงเกิดเื่ ก็มีคนปล่อยข่าวออกมาแล้ว—บอกว่านายกับหลิงหลิงเป็คนรักกันแบบลับๆ ยังบอกอีกว่านายมีคนใหม่แล้วก็เบื่อคนเก่า ชอบออกซื้อบริการตลอดๆ สุดท้ายนายเอาโรคมาติดโจวหลิงหลิง เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองเป็โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เธอก็เสียใจแล้ว นายยังจะมาทิ้งเธอไปอีก เพราะฉะนั้นเธอถึงได้ฆ่าตัวตาย”
“เชี่ย! ใครมันแม่ง! แต่งเื่เก่งขนาดนี้วะเนี่ย!” ฉินหลางสบถ ก่อนจะหันไปบอกจ้าวเหว่ย “นายไปช่วยฉันสืบหน่อยสิ ว่าใครที่เป็คนปล่อยข่าวพวกนี้ออกมา”
“เดี๋ยวจะสืบให้ ไม่มีปัญหา!” จ้าวเหว่ยเชี่ยวชาญเื่การหาข่าวลือ ข่าววงในเป็ที่สุด เขาน่าจะมีวิธีหาต้นตอของข่าวลือพวกนี้
ฉินหลางให้ฮานซานฉางไปส่งจ้าวเหว่ยที่โรงเรียน แล้วจึงโทรออกไปหาเถารั่วเซียง
ตอนเห็นสายโทรข้าวของฉินหลาง เถารั่วเซียงกำลังนั่งอยู่ในห้องพักครู ความรู้สึกแวบแรกคือ อย่าบอกนะว่าเ้าเด็กนี่แหกคุกออกมา แต่เพียงไม่นานเธอก็ตระหนักได้ว่าถ้าเขาแหกคุกจริงๆ มันเป็ไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมาใช้เบอร์เดิม เธอกดรับสาย ทว่าทันทีที่ได้ยินเสียงฉินหลาง เธอก็รู้สึกสับสนวุ่นวายขึ้นมาในใจ ทั้งที่เธอควรจะเกลียดฉินหลางเข้ากระดูกดำ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ภายในใจเธอกลับรู้สึกเป็ห่วงเขา
“นี่ฉันเป็ห่วงเดรัจฉานจริงๆ เหรอเนี่ย?” ขนาดเถารั่วเซียงเองยังรู้สึกว่ามันเป็ไปไม่ได้เลย!
“นายโทรมาหาฉันทำไมมีอะไรก็ว่ามา? ถ้านายแหกคุกออกมาละก็ ฉันแนะนำให้นายกลับไปมอบตัว!” เถารั่วเซียงบังคับตัวเองให้พูดด้วยน้ำเสียงเ็าและไร้เยื่อใย
“ผมได้รับการประกันตัวออกมาชั่วคราว” ฉินหลางพูดขึ้นอย่างนิ่งเรียบ “อาจารย์เถาพอจะมีเวลา ออกมาเจอผมแป๊ปนึงได้ไหมครับ ที่ร้านกาแฟ เหลียงมู่ย๋วนได้มั๊ยครับ ที่นี่คนเยอะ คุณจะได้ไม่ต้องห่วงว่าผมจะคิดไม่ซื่อกับคุณ”
“ฉันคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นะ” เถารั่วเซียงยังคงเ็า เธอไม่อยากเจอหน้าฉินหลางด้วยซ้ำ
“จำเป็สิครับ!” ฉินหลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น “ตอนนี้ผมเป็แค่ผู้ต้องสงสัย ยังไม่ได้เป็ผู้ต้องหา เพราะฉะนั้นโรงเรียนยังไล่ผมออกไม่ได้ ดังนั้นคุณก็ยังเป็อาจารย์ผมอยู่ ผมขอความช่วยเหลือจากคุณในฐานะนักเรียนของคุณ สถานการณ์แบบนี้ คุณคงจะไม่ปฏิเสธผมใช่ไหมครับ”
เถารั่วเซียงครุ่นคิด เหตุผลของฉินหลางฟังดูสมเหตุสมผลดี สุดท้ายก็ตอบตกลงไปเจอเขา
ฉินหลางนั่งอยู่ในมุมของร้านเหลียงมู่ย๋วน ร้านนี้อยู่บนถนนเส้นหน้าโรงเรียน มีนักเรียนสัญจรไปมาตลอด ดังนันฉินหลางจึงดูไม่สะดุดตานัก
เถารั่วเซียงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามฉินหลาง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “นายมีอะไรจะพูดอีกก็ว่ามา ถ้าหากว่านายรับสารภาพและยอมซัดทอดต่อ ฉันจะทำเื่ขอลดโทษให้”
ฉินหลางไม่ได้ตอบในทันที เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเถารั่วเซียง เพียงคืนเดียวเธอโทรมลงไปมาก จู่ๆ เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าตัวเองมีน้ำหนักเท่าไรในใจเถารั่วเซียง บางทีเธออาจจะแคร์เขาไม่น้อยเลยก็ได้
ใจที่บอบช้ำของฉินหลาง เริ่มสั่นไหวอีกแล้ว แต่ทว่าเขารู้ว่าต้องห้ามแสดงออกมา เพราะตอนนี้ในสายตาเถารั่วเซียงเขาเป็แค่เพียง ‘เดรัจฉาน’ ตัวหนึ่งเท่านั้น ฉินหลางจึงพูดขึ้นนิ่งเรียบ “ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะครับอาจารย์เถา แต่ว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ไม่ได้ทำอะไรผิด?” เถารั่วเซียงสบถเสียงเย็นเยือก “อย่าคิดว่านายมีเส้นมีสายหาคนช่วยประกันตัวออกมาก็จะจบนะ ถ้าคดีตัดสินออกว่านายเป็คนผิด ฆ่าคนตายมันเป็คดีที่มีโทษร้ายแรงนะ อาจจะต้องติดแบบไม่มีกำหนดออกเลยก็ได้”
“อาจารย์เถาครับ ผมรู้ว่าคุณมีความรู้ในเื่ของกฎหมาย แต่ที่ผมเชิญคุณออกมา ไม่ได้้าที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย และไม่ใช่การมาสารภาพเพื่อขอลดโทษด้วย แต่ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมลบล้างข้อกล่าวหา” ฉินหลางกล่าวด้วยความจริงใจ
“ฝันไปเถอะ!” เถารั่วเซียงพูดอย่างหนักแน่นด้วยน้ำเสียงเย็นะเื
“อาจารย์เถาอย่าเพิ่งตื่นเต้นสิครับ รอให้ผมบอกความจริงคุณเื่หนึ่งก่อน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้” ฉินหลางกดเสียงให้ต่ำลง “โจวหลิงหลิง เธอยังไม่ตาย!”
“อะไรนะ!” เถารั่วเซียงยืนขึ้นด้วยความใ แต่เธอตระหนักได้ว่าตัวเองเริ่มเสียมารยาทแล้ว รีบสงบสติตัวเองลง ก่อนจะจ้องมองฉินหลางตาไม่กระพริบ เหมือนกำลังจะมองให้เห็นความคิดภายในใจของเขา ว่าเป็ “เื่จริงเหรอ ไม่หลอกใช่ไหม?”
“จริงครับ!” ฉินหลางมองตาเถารั่วเซียงแล้วพูดอย่างเป็ธรรมชาติ
“ทางที่ดีอย่าโกหกฉัน!” เถารั่วเซียงสบถ พลางพูดขึ้น “นายรู้ไหมว่าพ่อแม่ของโจวหลิงหลิงเตรียมงานศพให้เธอแล้ว
“พ่อแม่ของเธอยังไม่รู้เื่นี้” ฉินหลางตอบด้วยความจริงใจ “อีกอย่าง คุณเป็อาจารย์ที่ปรึกษาทางจิต ผมหลอกคุณได้ซะที่ไหน?”
“ก่อนหน้านี้นายก็เคยหลอกฉันได้แล้ว” เถารั่วเซียงกล่าวขึ้น “หลอกให้ฉันคิดว่าถึงนายจะเป็นักเรียนที่เกเรอยู่บ้างแต่พื้นฐานจิตใจของนายเป็คนดี น่าเสียดาย ใครจะรู้ว่าผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ใบหน้าที่แท้จริงของนายจะปรากฎ ให้เห็นว่าความจริงแล้วมันชั่วร้ายและน่าเกลียดน่ากลัวมากขนาดไหน”
“แล้วถ้าผมไม่ใช่คนเลวล่ะ?”
“คำถามนี้ฉันไม่อยากตอบ” เถารั่วเซียงพูดขึ้น “นอกจากฉันจะได้เจอเธอตอนนี้!”
“ผมก็คิดแบบนี้อยู่พอดีเลย” ฉินหลางยิ้มจางๆ เพราะเขารู้ว่าทุกอย่างมันกำลังเริ่มจะดีขึ้นแล้ว