“35,000 หินหยวนระดับกลาง ชายผู้นี้ต้องบ้าไปแล้ว เขาเป็แค่คนธรรมดา แต่ไปเอาหินหยวนตั้งมากมายมาจากไหนกัน! ข้าว่าเขามาก่อความวุ่นวายเสียมากกว่า” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าว เขาไม่เชื่อว่าเย่เฟิงจะมีหินหยวนมากมายเพียงนี้ แม้แต่องค์ชายเหลียงปู้ผั่วเองก็ยังมีไม่มากถึงเพียงนั้นจึงถอนตัวไป แต่เย่เฟิงเป็แค่คนธรรมดาไร้ซึ่งกองกำลังสนับสนุน ไม่มีทางที่จะมีกำลังทรัพย์มหาศาลถึงเพียงนี้
ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดเชื่อว่าเย่เฟิงจะสามารถนำหินหยวนมากมายเพียงนี้ออกมาได้
จ้าวหยางชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเขาหันไปมองเย่เฟิง เขาคือองค์ชายแห่งอาณาจักรจ้าว หนึ่งในสี่อัจฉริยะบุรุษแห่งแดนชิงอวิ๋น มีอัจฉริยะประเภทไหนบ้างที่ยังไม่เคยเจอ?
เย่เฟิงถือเป็คนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน เห็นชัดว่าอีกฝ่ายเป็เพียงคนธรรมดา ในเมื่อเป็คนธรรมดาที่ไม่มีฐานะพิเศษ แต่ไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกันถึงสามารถนำหินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อนออกมาได้?
“เ้าแน่ใจหรือว่าจะแข่งกับข้า?” จ้าวหยางเอ่ยถามเย่เฟิงด้วยท่าทีโอหัง
“ทุกคนในงานประมูลมีสิทธิ์ประมูลได้ไม่ใช่หรือ? อะไรกัน หรือเ้าจะห้ามไม่ให้ข้าประมูล?” เย่เฟิงขมวดคิ้ว พร้อมแสดงท่าทีรังเกียจจ้าวหยาง
“ฮ่า ๆ ๆ!”
จ้าวหยางได้ยินเช่นนั้นก็ะเิหัวเราะด้วยท่าทีดูถูก “ข้าจะห้ามผู้อื่นประมูลไปไย เพียงแต่ข้าสงสัยว่าเ้ามีหินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อนจริง ๆ หรือไม่!”
“เ้าไม่จำเป็ต้องห่วงเื่นี้ ตอนผู้อื่นประมูลก็ไม่เห็นมีผู้ใดแสดงกำลังทรัพย์ของตนว่ามีพอหรือไม่” เย่เฟิงกล่าวพลางยิ้มจาง ๆ
“ก็แค่คนธรรมดาแต่กล้าดียังไงมาอวดดีต่อหน้าข้า? หากเ้าพิสูจน์กำลังทรัพย์ของตนเองไม่ได้ เช่นนั้นการประมูลของเ้าก็ไร้ผล ส่วนจูกั่วหมื่นปีผลนี้ก็เป็ของข้า” จ้าวหยางกล่าวเสียงเย็นพร้อมเผยสีหน้าอึมครึม ราวกับว่าคำพูดของเขาคือคำตัดสินว่าจูกั่วหมื่นปีจะตกเป็ของใครอย่างไรอย่างนั้น
“ผู้าุโ ข้าขอบังอาจถามท่าน งานประมูลของท่านใครก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้ใช่หรือไม่?” เย่เฟิงเอ่ยถามชายชราผู้ดำเนินการ โดยไม่สนใจจ้าวหยาง
“ใช่ แต่ก่อนอื่นเ้าต้องมีหินหยวนมากเพียงพอ” ชายชรากล่าว เขานั้นนึกไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะปรากฏตัวกลางทางเช่นนี้
“ใต้เท้าคือคนแปลกหน้าสำหรับหอการค้าเทียนจี๋ ข้าขอแนะนำให้ใต้เท้าพิสูจน์กำลังทรัพย์เสียจะดีกว่า หากมีมากพอ แน่นอนว่าประมูลได้ตามสบาย”
ชายชรานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อเช่นนั้น เขาเองก็ไม่เชื่อในราคาที่เย่เฟิงเสนอมา หากเย่เฟิงเป็คนบ้าที่มาก่อความวุ่นวายจริง ๆ เช่นนั้นงานประมูลคงปั่นป่วนน่าดู
“ก็แค่สวะขั้นยุทธ์แท้ที่ 2 คิดว่าตัวเองเป็ใคร? แล้วจะมีหินหยวนตั้งมากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ข้าว่าเขาตั้งใจก่อความวุ่นวาย!”
เมื่อสิ้นเสียงชายชรา พลันมีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ซึ่งผู้พูดคือเฉินซง เขาเห็นเย่เฟิงเข้าร่วมประมูลจูกั่วหมื่นปีโดยไม่เจียมตัวเอง ทำให้เฉินซงทนไม่ไหว ในความคิดของเขา หากเย่เฟิงไม่มีสหายอย่างฉวนเถี่ยจู้ คงไม่มีทางเข้าร่วมงานประมูลนี้ได้อย่างแน่นอน แล้วจะมีสิทธิ์เข้าร่วมประมูลได้อย่างไร?
“หินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อน พูดเล่นหรือ? หินหยวนมากขนาดนี้พอ ๆ กับค่าใช้จ่ายในหนึ่งปีของสำนักไท่อีข้าเลยนะ แต่เ้าอยู่แค่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 2 จะมีหินหยวนมากขนาดนี้ได้ยังไง มิสู้ไล่เขาออกไปเสียดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา” จิ้งหยากล่าวดูถูกเย่เฟิง นางและเฉินซงไม่มีทางเชื่อว่าเย่เฟิงจะสามารถนำหินหยวนอันมหาศาลออกมาได้
“กบในกะลา!”
เย่เฟิงเหลือบมองไปที่เฉินซงและจิ้งหยาด้วยสายตาดูแคลน ก่อนจะหันไปมองชายชราผู้ดำเนินการ ทันใดนั้นแสงกะพริบที่ด้านหน้า ก่อนจะโยนแหวนมิติไปให้ชายชรา จากนั้นเย่เฟิงใช้พลังจิตเปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งในแหวนมิติ จึงทำให้ชายชราเพ่งพลังจิตเข้าไปในแหวนได้และทำการตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในนั้น
ก่อนที่เย่เฟิงจะเข้าร่วมงานประมูล เขาจัดสรรหินหยวนไว้เรียบร้อยและเก็บไว้ในแหวนมิติอีกวง ซึ่งในแหวนมิติที่อยู่ในมือของชายชรามีหินหยวนระดับสูง 100 ก้อน
เมื่อคำนวณตามมูลค่า หินหยวนระดับสูง 100 ก้อนจะเท่ากับหินหยวนระดับกลาง 10,000 ก้อน ทว่าบัดนี้หินหยวนระดับสูงที่แผ่นดินใหญ่มีค่าเป็อย่างมาก เพราะการปรุงยา หลอมอาวุธ หรือการสร้างลวดลายเทวะล้วนจำเป็ต้องใช้หินหยวนระดับสูงในการสนับสนุน ดังนั้นมูลค่าของหินหยวนระดับสูงจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามตลาดใหญ่ ๆ การแลกเปลี่ยนหินหยวนระดับสูง 1 ก้อนเป็หินหยวนระดับกลาง 100 ก้อนจึงเปลี่ยนไปเพิ่มขึ้นเป็ 300 ก้อน แม้กระทั่งบางคนที่้าแลกอย่างเร่งด่วนก็เต็มใจที่จะแลกหินหยวนระดับสูงในราคาสูง
ดังนั้นหินหยวนระดับสูง 100 ก้อนในแหวนมิติวงนั้นจึงมีมูลค่าเท่ากับหินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อน
วินาทีที่ชายชราขับเคลื่อนพลังจิตของตนเข้าสู่แหวนมิติของเย่เฟิง เขาก็ตื่นใอย่างมากและเหลือบมองไปที่เย่เฟิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ แต่ชายชรากลับไม่พูดอะไร เขาเพียงประกาศว่า “กำลังทรัพย์ของคนผู้นี้มีมากพอที่จะประมูลจูกั่วหมื่นปีได้”
นี่คือคุณธรรมในอาชีพของชายชรา โดยที่เขาไม่แพร่งพรายความลับของแขกให้ผู้อื่นล่วงรู้ แต่ชายชรารู้ดีว่าผู้ที่ครองหินหยวนระดับสูง 100 ก้อนได้นั้น กำลังทรัพย์คงมิได้มีเท่านี้อย่างแน่นอน
“เป็ไปได้ยังไง ชายผู้นี้จะมีกำลังทรัพย์มากขนาดนี้ได้ยังไง? มีหินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อนจริง ๆ ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม!” จู่ ๆ ผู้คนต่างพากันตกตะลึง โดยเฉพาะเฉินซงและจิ้งหยา พวกเขาเผยหน้าเขียวและรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้า ราวกับถูกตบหน้าอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่จ้าวหยางก็หน้าเปลี่ยนสี เขาไม่นึกว่าคนธรรมดาอย่างเย่เฟิงจะมีกำลังทรัพย์ถึงเพียงนี้
“หินหยวนระดับกลาง 35,000 ก้อน ตอนนี้ตาเ้าแล้ว!” เย่เฟิงไม่สนใจสายตาของเหล่าผู้คน แล้วหันไปพูดกับจ้าวหยางทันที
“36,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางกัดฟันพูด หากเขาถอนตัวตอนนี้ เขาได้เสียหน้าอย่างแน่นอน
“37,000 หินหยวนระดับกลาง!” เย่เฟิงเพิ่มราคาขึ้นไปอีก
“38,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางเผยสีหน้าดูไม่ได้ หากเขายอมแพ้ก็ต้องขายหน้าเป็แน่
“ไอ้หนู คุณภาพของจูกั่วหมื่นปีผลนั้นธรรมดามาก เ้าอย่าเสียเงินไปมากกว่านี้เลย”
เมื่อราชันมารชื่อเทียนเห็นเย่เฟิงเพิ่มราคาไม่หยุด จึงกล่าวเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เขา้าให้เย่เฟิงประมูลจูกั่วหมื่นปี โดยที่ไม่คิดว่าราคาของมันจะสูงเกิน 30,000 หินหยวนระดับกลาง บัดนี้ราคาประมูลของจูกั่วหมื่นปีใกล้แตะ 40,000 หินหยวนระดับกลางแล้ว ราชันมารชื่อเทียนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงเตือนเย่เฟิงไปเช่นนั้น
“วางใจเถอะ ข้าจะระมัดระวัง” เย่เฟิงกล่าวกับราชันมารชื่อเทียน
“40,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางกัดฟันพูด ซึ่งหินหยวนระดับกลาง 40,000 ก้อนนั้นเกินขีดจำกัดของเขาที่จะรับไหวแล้ว
“42,000 หินหยวนระดับกลาง!” เย่เฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ด้วยพลังจิตอันแกร่งกล้า เย่เฟิงััได้ว่าสีหน้าของจ้าวหยางเปลี่ยนไป จึงรู้ว่าราคาเมื่อครู่นี้ยังไม่ถึงขีดจำกัดจริง ๆ ของอีกฝ่าย
“45,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางพูดต่อ ซึ่งตอนที่เขาเสนอราคานี้ เืตาเขาแทบกระเด็น แม้จะเป็จูกั่วที่มีอายุมากกว่าหมื่นปี แต่ก็ไม่มีทางมีราคาสูงเช่นนี้ นี่ทำให้จ้าวหยางรู้สึกเสียใจ แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว เขาจะเอากลับคืนมาได้อย่างไร
“เ้าชนะแล้ว!”
สิ้นเสียงของจ้าวหยาง จู่ ๆ เย่เฟิงก็เอ่ยสามคำนั้นออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว ทำให้เหล่าผู้คนตกตะลึงกับราคาประมูล โดยไม่สนใจท่าทีของเย่เฟิงในตอนนี้
มีเพียงจ้าวหยางคนเดียวที่หน้าถอดสีเพราะคำพูดของเย่เฟิง ทั้งยังไม่รู้สึกดีใจกับความสำเร็จที่ประมูลจูกั่วหมื่นปีได้มา
“เ้าจงใจเพิ่มราคาหรือ?” จ้าวหยางกล่าวด้วยเสียงเย็นะเื นานแล้วที่เขาไม่เจอคนเล่นงานเช่นนี้
เย่เฟิงยิ้มจาง ๆ พลางกล่าวขึ้นว่า “ราคาในการประมูลล้วนขึ้นอยู่กับตนเอง ข้าไม่เคยบังคับให้เ้าเสนอราคา”
เย่เฟิงแสยะยิ้มอย่างเ็า เดิมทีเขาไม่คิดจะยั่วยุจ้าวหยางที่นี่ แต่อีกฝ่ายเป็คนเริ่มก่อน ยิ่งกว่านั้นยังดูถูกเย่เฟิงไม่หยุด
“เ้า...” คำพูดของเย่เฟิงทำให้จ้าวหยางพูดไม่ออกและไร้หนทางโต้กลับ ครั้งนี้ถือว่าเป็บทเรียนสำหรับจ้าวหยาง
“ยินดีกับพี่จ้าวด้วยที่ประมูลจูกั่วหมื่นปีมาได้!” เหลียงปู้ผั่วย่อมดูออกว่าจ้าวหยางถูกเย่เฟิงเย้าหยอก จึงอดกล่าวเช่นนั้นไม่ได้
แน่นอนว่าจ้าวหยางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเหลียงปู้ผั่วมีเจตนาไม่ดี เขาเพียงแค่นเสียงเ็า แต่มิได้โต้ตอบอะไรกลับไป
เมื่อเหลียงปู้ผั่วเห็นท่าทีของจ้าวหยางก็ยิ้มได้ใจและไม่สนใจจ้าวหยางอีก
จ้าวหยางในเวลานี้เกลียดเย่เฟิงเข้าไส้ หากเขารู้ว่าคนที่เย้าหยอกคือเย่เฟิง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เว่ยเจิ้นเทียนและหวงเหยียนิต่างก็ประหลาดใจ จึงอดมองสำรวจเย่เฟิงไม่ได้ ชายหนุ่มที่มีหินหยวนระดับกลางหลายหมื่นก้อนได้นั้น ฐานะย่อมไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจที่เย่เฟิงจะไม่สนใจผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรเว่ย
ทุกคนเผยสีหน้าต่างกันไปและต่างความคิด แต่มีเพียงจ้าวหยางและเว่ยเจิ้นเทียนที่กำลังคิดว่าจะฆ่าเย่เฟิงอย่างไรดี
“ผู้าุโเซิน ในแหวนมิติของชายผู้นั้นเป็อย่างไรบ้าง?”
จู่ ๆ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของชายชราผู้ดำเนินการ ซึ่งเป็เสียงของหวงเหยียนิ
“100 หินหยวนระดับสูง!”
หวงเหยียนินั้นคือบุตรเ้าเมืองลอยฟ้า นั่นหมายความว่าเป็นายน้อยของชายชราผู้นี้ ดังนั้นชายชราจึงไม่กล้าปกปิดความจริง
“100 หินหยวนระดับสูง? แน่ใจนะ?”
เมื่อหวงเหยียนิได้ยินเช่นนั้นก็ต้องใ เขารู้ว่าหินหยวนระดับสูง 100 ก้อนหมายถึงอะไร เขาไม่กล้าเชื่อในทันที จึงเอ่ยถามชายชราไปเช่นนั้นอีกครั้ง
“จริงแท้แน่นอน ข้าไม่มีทางโกหกท่าน!” ชายชราส่งเสียงผ่านจิตตอบกลับไป
“รวยจริง ๆ!” หวงเหยียนิได้ยินเช่นนั้นก็ตาเป็ประกาย
ไม่นานนักการประมูลรอบต่อไปก็เริ่มขึ้น ของประมูลยังคงได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย แต่มีคนไม่น้อยที่จับตามองการเคลื่อนไหวของเย่เฟิง และรู้ว่าเมื่อพวกเย่เฟิงหลุดออกจากการควบคุมจะเกิดอะไรขึ้น
