ขณะที่กู่ไห่กำลังมองท้องฟ้าด้วยสายตาเคร่งขรึม หมากบนกระดานก็เกิดการเปลี่ยนแปลง รูปหมากเดิมที่เดินค้างไว้กลับเปลี่ยนไป หมากดำและหมากขาวสลับที่กัน
ทว่า กู่ไห่ยังคงถือครองหมากดำเช่นเดิม
ชิ้ง!
ทันใดนั้น กระบี่ยาวร้อยจั้งก็โผล่ออกจากกลุ่มเมฆดำ และชี้ตรงไปทางกู่ไห่ ราวกับกำลังจะพุ่งเข้าไปผ่าร่าง ให้แยกเป็สองซีกในไม่ช้า
"กระบี่์กำลังจะพุ่งเข้าสังหารท่านหัวหน้ากู่แล้ว เวลาสามสิบอึดใจใกล้หมดเต็มที!"
“กู่ไห่ยังไม่วางหมากอีกหรือ? กระบี่์กำลังจะพุ่งเข้าใส่แล้ว วางอย่างที่หัวหน้าเิเคยวางก่อนหน้านี้สิ... รีบวางหมากเร็วเข้า!”
“รีบวางหมากเร็ว!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มะโเร่ง
"ผู้มีพระคุณ รีบวางหมากเร็วเ้าค่ะ เร็วเข้า!" เสี่ยวโหรวร้องบอกอย่างร้อนใจ
บนเวที รังสีสังหารพุ่งตรงเข้าสู่หัวใจ สีหน้ากู่ไห่เปลี่ยนเป็เ็า
ชายหนุ่มยื่นมือไปหยิบหมากดำ
ก๊อก!
กู่ไห่วางหมากลงไปบนกระดาน
ฟิ้ว!
รังสีสังหารของกระบี่จางหายไป ชายหนุ่มมองดูกระดานหมาก
"เอ๊ะ! นี่มิใช่ตำแหน่งที่ท่านหัวหน้าเิเคยวางก่อนหน้านี้นี่?"
"หัวหน้ากู่กำลังทำอะไรอยู่? เขาวางพลาดเช่นนั้นหรือ?"
สีหน้ากังวลปรากฏบนใบหน้าของคนหลายคน
เิไท่ที่ถูกเหล่าศิษย์หออี้ผินโอบล้อมปกป้องอยู่ หรี่ตาลง “กู่ไห่วางหมากไว้ที่ตำแหน่งเก้าห้า? ตำแหน่งจักรพรรดิเก้าห้า[1]?”
ก๊อก!
หมากขาวถูกวางลงไปบนกระดานอย่างรวดเร็ว การประลองระหว่างกู่ไห่ และค่ายกลหมาก์ เริ่มขึ้นอย่างเป็ทางการแล้ว!
กู่ไห่ค่อยๆ นั่งลง และยังคงวางหมากอีกเม็ด โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“เหตุใดท่านหัวหน้าสังกัด จึงเปลี่ยนตำแหน่งวางหมาก? เหตุใดไม่วางตามที่เิไท่เคยวาง?” เฉินเทียนซานกล่าวอย่างกังวล
เกาเซียนจือที่อยู่ใกล้ๆ ส่ายหน้า กล่าวว่า "ตำแหน่งนั้นเป็ตำแหน่งที่ผิด เหตุใดยังต้องไปเดินซ้ำรอยอีก?"
“แม้ว่าเิไท่จะแพ้ แต่ความสำเร็จของเขาก่อนหน้านี้ ก็น่าทึ่งนัก บางที...” เฉินเทียนซานกล่าว พลางขมวดคิ้ว
"ไม่มีบางที แพ้คือแพ้ ท่านหัวหน้าไม่มีทางซ้ำรอยเขาแน่!" เกาเซียนจือกล่าว ก่อนส่ายหน้า
"เช่นนั้นเขาจึงเลือกเดินอีกแบบ! แต่นั่นเป็กลหมากสุดท้าย ที่ผู้าุโกวนฉีทิ้งไว้เชียวนะ ท่านหัวหน้าจะเอาชนะได้หรือ?" เฉินเทียนซานถามด้วยท่าทีกังขา
“ข้าเชื่อว่าท่านทำได้!”
เฉินเทียนซานมองเกาเซียนจือ ด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองคนบ้า
...
นอกหุบเขาไร้โศก
สัตว์อสูรนับพัน ปักหลักล้อมหุบเขาทุกทิศทาง เมฆดำทะมึนปกคลุมไปทั่ว ทำให้กลายเป็ดินแดนแห่งความสิ้นหวัง ที่ไม่มีผู้ใดหลบหนีออกไปได้
บนยอดเขารอบๆ หุบเขา ชายชุดดำหลายคน กำลังมองดูใจกลางเมฆดำที่ปั่นป่วน มีไอน้ำจำนวนมากรวมตัวกันเป็จอภาพขนาดใหญ่
ในจอนั้น กำลังแสดงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหุบเขา ทั้งสายตาหวาดกลัวของผู้คน และกู่ไห่ที่กำลังวางหมากอยู่บนเวทีประลอง ทุกอย่างถูกฉายเบื้องหน้ากลุ่มชายชุดดำ
บนยอดเขาอีกจุดหนึ่ง ชายชุดแดงหรี่ตาลง ขณะมองดูภาพกระดานหมากซึ่งปรากฏในจอไอน้ำ
“คุณชายเก้า ผู้าุโใหญ่ยังมิได้มีคำสั่งใดๆ ลงมาขอรับ!” ชายชุดดำรายงานด้วยท่าทีเคารพ
คุณชายเก้ากล่าว พร้อมยิ้มเย็น “ในที่สุดชายชราเ่าั้ก็ปล่อยให้ข้าลงมือ? หึ! พวกเขาน่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว มิเช่นนั้น มีหรือที่อี้เทียนเก๋อจะเสียสมบัติไปมากมายถึงเพียงนี้!”
"คุณชายเก้า นี่เป็คำสั่งของท่านประมุขเมื่อครานั้นขอรับ!" ชายชุดดำกล่าวอย่างกังวล
"หึ! เป็คำสั่งที่ท่านประมุขทิ้งไว้ เป็คำสั่งใดกัน คนสั่งเองก็ตายไปแล้ว พวกเขาควรทำอย่างที่ข้าบอก สั่งสอนผู้รุกรานเหล่านี้ ให้รู้ซึ้งถึงบทเรียนไปเสียตั้งนานแล้ว” คุณชายเก้ากล่าวอย่างเ็า
ชายชุดดำที่แสดงท่าทางเคารพก่อนหน้านี้ เปลี่ยนท่าทีกะทันหัน “คุณชายเก้า โปรดระวังคำพูด วาจาของท่านประมุขถือเป็คำสั่งเด็ดขาด ในใจของทุกคนในอี้เทียนเก๋อ ต่างให้ความสำคัญยิ่ง แม้ว่าท่านประมุขจะจากไปแล้ว คุณชายเก้าก็ไม่ควริ่เกียรติท่านเช่นนี้!"
"หือ? แม้แต่ตาแก่พวกนั้น ก็ยังไม่เคยสั่งสอนข้าเช่นนี้ เ้าถือสิทธิ์ใดมาสั่งสอนข้า?" คุณชายเก้าจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
"มิกล้า! ผู้น้อยคิดว่า ที่เหล่าผู้าุโอนุญาตให้คุณชายเก้า นำพวกเรามาสั่งสอนคนนอกเหล่านี้ มิใช่เพราะ้าจะขัดคำสั่งท่านประมุข
แต่้าให้คุณชายเก้า รีบฝ่าด่าน 'ค่ายกลหมากล้อมเก้าตำหนัก' เสีย เพื่อที่ท่านจะสามารถออกไปข้างนอกได้โดยเร็ว นั่นเป็เหตุผลที่ว่า เพราะเหตุใดผู้าุโทุกท่าน จึงยอมให้ท่านทำตัวกำเริบเสิบสานเช่นนี้" ชายชุดดำกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“เ้าก็รู้ว่าข้าสามารถฝ่าด่านค่ายกลหมากล้อมเก้าตำหนักได้ มิใช่หรือ? ยังจะกล้าพูดเช่นนี้อีก?” คุณชายเก้าถามเสียงเย็น
"เป็เื่ยาก ที่จะฝ่าด่านค่ายกลหมากล้อมเก้าตำหนัก แต่ข้าคิดว่าในหมู่ผู้าุโ คงมีบางท่านที่สามารถฝ่าด่านได้ เพียงแต่เหล่าผู้าุโ ้าถูกฝังร่วมกับท่านประมุข นี่คือเหตุผล ที่ไม่มีผู้ใดเข้าไปท้าทายมัน! ข้าขอร้องคุณชายเก้า โปรดระวังคำพูดด้วย!" ชายชุดดำกล่าว
"หึ!" คุณชายเก้าแค่นหัวเราะออกมา
เขาหันไปมองภาพที่ปรากฏอีกครั้ง ในจอนั้น หมากขาวกำลังครองพื้นที่ส่วนใหญ่บนกระดาน และกู่ไห่กำลังวางหมากดำ
กู่ไห่พยายามอย่างหนัก เพื่อยึดพื้นที่ให้กลับมาเป็ของหมากดำ
บนเวที จิตใจเขา ค่อยๆ จมดิ่งลงสู่กระดานหมาก
“ผู้าุโกวนฉี ช่างเก่งกาจสมคำร่ำลือจริงๆ!”
กู่ไห่วางหมากไปด้วย ถอนหายใจไปด้วย! ั์ตาไร้ความตึงเครียดใดๆ ตรงกันข้าม กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
ไม่ได้พบคู่ต่อสู้ที่คู่ควรมาถึงสามสิบปี บัดนี้กลหมากกระบี่์ ทำให้ชายหนุ่มได้ััถึงความรู้สึกของการเดินหมาก แบบที่ไม่ได้เจอมานานอีกครั้ง
ตอนเดินหมากกับซ่งฉิงซู ไม่ต่างจากแมวตะปบหนู ช่างน่าเบื่อนัก
หมากดำถูกวางบนกระดานทีละเม็ด แสงดาวที่ห่อหุ้มร่าง ทำให้รู้สึกได้ว่าพลังชี่ในร่าง เชื่อมโยงเข้ากับแสงดาว ราวกับจะหลอมรวมเข้ากับค่ายกล
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังงุนงง ก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่กลางหมู่เมฆ และกำลังเดินหมากกับชายชราผมขาว ซึ่งค่อยๆ วางหมากบนกระดาน
ก๊อก!
ก๊อก!
ก๊อก!
กู่ไห่วางหมากดำเม็ดที่ยี่สิบลงบนกระดาน แต่ทั้งหมากดำและหมากขาวต่างก็กินกันไม่ลง
"เป็ไปตามที่คาดไว้ หัวหน้าสังกัดกู่เก่งสู้ท่านหัวหน้าสังกัดเิไม่ได้! ครานั้น หัวหน้าสังกัดเิเดินสิบแปดตา ก็สามารถกินหมากของผู้าุโกวนฉีได้หนึ่งเม็ดแล้ว แต่นี่หัวหน้าสังกัดกู่เดินมายี่สิบตาแล้ว ยังกินไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว”
"หัวหน้าสังกัดกู่ควรจะวางหมากตามตำแหน่ง ที่ท่านหัวหน้าสังกัดเิเคยวาง!"
"เฮ้อ!… หัวหน้าสังกัดกู่จบสิ้นแล้ว! อีกไม่นานคงถึงคราวพวกเรา ที่ต้องถูกเลือก และบังคับให้ไปตายอีกครั้ง"
“ข้ายังไม่อยากตาย!”
ยิ่งกู่ไห่วางหมากบนกระดานไปมากเท่าใด ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่างก็ยิ่งหวาดหวั่นและตื่นกลัว ความสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้าผู้คนอีกครั้ง
กู่ไห่ยังคงวางหมากต่อไป ในที่สุด หมากเม็ดที่ยี่สิบหกก็ถูกวางลงบนกระดาน
ก๊อก!
"หมากขาวถูกล้อม! หมากขาวถูกล้อมไว้แล้ว!" มีคนะโขึ้น
เสียงดังกล่าว ทำให้ั์ตาที่ดูสิ้นหวังของผู้คน สว่างวาบขั้นมา
ชิ้ง!
กระบี่์พุ่งลงมาจากหมู่เมฆ ตรงเข้าใส่กู่ไห่
แต่ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจ พลังชี่ในร่างเขา ถูกดึงออกไปทันที
โฮก!
วิชาัแรกกำเนิด ได้รวบรวมพลังชี่ และแปลงร่างเป็ั
ัแห่งพลังชี่สีม่วงยาวหนึ่งจั้ง ทะยานไปบนฟากฟ้า อ้าปากพุ่งเข้าใส่กระบี่์
ตูม!
พริบตา กระบี่ยาวร้อยจั้ง ก็ถูกัตัวเล็กที่ยาวเพียงหนึ่งจั้ง กลืนกินไป
ัตัวนั้นพลันขยายขนาด จนมีความยาวสองจั้ง ขณะเดียวกัน คลื่นพลังแห่งกระบี่์ ก็กำจายออกจากร่างของมัน ราวกับไม่อาจย่อยพลังนั้นได้ ท้ายที่สุดแล้ว พลังชี่ของกู่ไห่ กลับแย่กว่าเิไท่มาก
แต่สุดท้าย กระบี่์ก็ถูกกลืนหายไปสิ้น
ัตัวเล็กยาวสองจั้ง อ้าปากคำราม
โฮก!
เสียงคำรามดังทะลุฟ้า ที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆสีดำ
"หมากกระดานนี้?" คุณชายเก้าที่อยู่นอกหุบเขา พลันเบิกตากว้าง
เิไท่ที่อยู่ในหุบเขา ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน "หมากลูกโซ่[2]? กระดานนี้....."
ก๊อก!
ก๊อก!
เมื่อหมากขาวถูกวางลง หมากดำก็วางตามไปเช่นกัน ทันใดนั้นหมากขาวอีกเม็ดก็ถูกล้อม
"กินอีกเม็ดแล้ว? นี่!... หยุดไม่อยู่แล้ว?"
ชิ้ง!
โฮก!
ัชี่กลืนกระบี่์อีกเล่มลงไป
ก๊อก!
ก๊อก!
"อีกแล้วหรือ? กินอีกเม็ดแล้วหรือ? กินสามครั้งติดกันแล้ว หัวหน้าสังกัดกู่วางหนึ่งหมากก็สามารถกินได้หนึ่งเม็ด?"
"ก่อนหน้านี้ หัวหน้าสังกัดเิเดินตั้งหลายตา กว่าจะกินได้สักเม็ด! ไฉนเลยจะเทียบชั้นหัวหน้าสังกัดกู่ ที่กินต่อกันสามตารวดเช่นนี้?"
"ดู! ดูนั่น… หัวหน้าสังกัดกู่กำลังกินเพิ่มอีกเม็ดแล้ว!"
เสียงวางหมาก และเสียงกลืนกินกระบี่์ของัชี่ ดังผสมปนเป ภายใต้สายตาผู้คน ที่มองมาอย่างตกตะลึง ัชี่ได้กลืนกระบี่์ลงไปสิบเล่มติดต่อกัน ก่อนที่จะลดความเร็วในการกลืนกิน
หมากยังคงถูกวางบนกระดาน ทั้งหมากขาวและหมากดำ ยังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ
หมากขาวและหมากดำยังเหมือนเดิม ัชี่เหนือศีรษะกู่ไห่นั้น บัดนี้มีขนาดใหญ่ถึงร้อยจั้งแล้ว มันกลืนกินกระบี่์ไปเป็จำนวนมาก ทำให้รูปลักษณ์เปลี่ยนไป
เกล็ดบนร่างของัชี่ ได้เปลี่ยนเป็เกล็ดที่มีรูปร่างคล้ายกระบี่์ มันมิใช่ัชี่ธรรมดาอีกแล้ว แต่เป็ัร้ายที่ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยกระบี่์
ัร้ายอันน่าครั่นคร้าม บินวนเหนือศีรษะกู่ไห่ ลมหายใจของมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันตราย พลังชี่ร้ายกาจพุ่งตรงเข้าไปในหัวใจผู้คน ทำให้พวกเขาต่างใจเต้นไม่เป็ส่ำ
ัชี่ของเิไท่ มีความยาวเพียงหกสิบจั้ง แต่ัร้ายของกู่ไห่ กลับมีความยาวเพิ่มขึ้นถึงร้อยจั้ง และกลายพันธุ์จนมีขนาดมหึมา ทั้งยังมีกระบี่ยื่นออกไปทั่วร่าง มันส่งเสียงคำรามขึ้นฟ้า
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป เช่นเดียวกัน ัร้ายก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกันนั้น ความหวังที่จะรอดชีวิต ก็ปรากฏขึ้นรางๆ ในใจผู้คน เหล่าผู้ฝึกตนต่างกำหมัดแน่น มองกู่ไห่วางหมาก ด้วยใจที่เต้นระทึก
โฮก!
"มันใหญ่ขึ้นอีก ัร้ายขยายขนาดอีกแล้ว พลังที่แผ่ออกมา ช่างน่ากลัวนัก!"
"เยี่ยม! โตขึ้นอีก!… โตขึ้นอีก!"
"โตขึ้นอีกๆๆ!"
ทุกคนต่างเปล่งเสียง ด้วยความตื่นเต้น
เสี่ยวโหรวลุ้นจนตัวโก่ง ร่างงูส่วนบนชูสูง เพื่อเอาใจช่วยกู่ไห่
ดวงตาของเฉินเทียนซาน และเกาเซียนจือ ก็เปล่งประกาย ลุ้นระทึกเช่นกัน
ในขณะที่กู่ไห่ยังคงชนะ และหมากขาวถูกนำออกไปเรื่อยๆ ัร้ายเกล็ดกระบี่ ก็มีความยาวเป็สองร้อยจั้งแล้ว!
โฮก!
ตูม!
ัร้ายคำราม พลังชี่อันร้ายกาจปะทุสู่ท้องฟ้า ประหนึ่งจะทะลุผ่านจอไอน้ำที่อยู่นอกหุบเขา ตรงเข้าสู่หัวใจทุกคน ที่เฝ้าดูอยู่ตรงนั้น
หงิงๆๆ!
นอกหุบเขา สัตว์อสูรนับพันหมอบคลานอยู่กับพื้น ราวกับถูกพลังแห่งัร้ายกดทับ จนไม่กล้าท้าทาย พวกมันต่างพากันหวาดกลัว และกระวนกระวาย สัตว์อสูรบางตัวถึงกับะโหนีหาย ด้วยความพรั่นพรึง
“คุณชายเก้า แย่แล้วขอรับ! เราจะทำอย่างไรกันต่อดีขอรับ?” ชายชุดดำโพล่งถามด้วยความใ
“คุณชายเก้า ดูเหมือนคนผู้นั้น ใกล้จะแก้กลกระบี่์ได้สำเร็จ ทำอย่างไรดีขอรับ? หรือเราจะปล่อยพวกเขาไปจริงๆ?”
"คุณชายเก้า กลหมากนั้นเกือบแก้สำเร็จแล้ว คนผู้นั้นกำลังจะแก้ค่ายกลได้แล้ว จะปล่อยพวกเขาไปหรือไม่ขอรับ?"
คุณชายเก้าเปลี่ยนสีหน้าทันที ก่อนแววดุดันจะปรากฏขึ้น “แก้ได้? หึ! นั่นเป็เพียงข้ออ้างที่ข้าใช้ เพื่อทรมานพวกมันเท่านั้น ในเมื่อทำให้ข้าหมดสนุก เช่นนั้นก็ตายเสีย! กระบี่์โจมตี!"
พูดพลาง ยื่นมือออกไปควบคุมค่ายกล
ครืนๆ!
จากนั้น เมฆดำทะมึนก็ปั่นป่วน ไม่นาน แสงสีขาวหลายสายก็ปรากฏ ภายในเมฆดำมีกระบี่แน่นขนัด ปลายกระบี่ค่อยๆ โผล่ออกจากหมู่เมฆ
...
ภายในหุบเขา
"นั่นมันอะไรกัน? ไม่ดีแล้ว! ดูบนฟ้านั่นสิ!"
“กระบี่์จำนวนมหาศาลกำลังก่อตัว... ทำอย่างไรกันดี?”
"หัวหน้าสังกัดกู่กำลังจะชนะแล้ว แต่พวกเขากลับตระบัดสัตย์?"
“ไอ้สารเลว... พวกเ้าไม่รักษาคำพูด!”
“ข้าไม่อยากตายๆ!”
ทุกคนในหุบเขา พากันมองท้องฟ้าเบื้องบนด้วยความกลัว ขนทั่วร่างลุกพรึ่บ ต่างรู้สึกได้ถึงความตายที่กำลังใกล้เข้ามา
ใบหน้าเฉินเทียนซานดูหวาดผวายิ่ง เสี่ยวโหรวมองดูท้องฟ้าเบื้องบนอย่างตื่นตระหนก
ตรงกันข้ามกับเกาเซียนจือและเิไท่ ที่ยังคงจ้องมองกู่ไห่ พร้อมกำหมัดแน่น
กู่ไห่วางมากเร็วขึ้นเรื่อยๆ และยังคงกินหมากอีกฝ่ายต่อไป ัร้ายก็กลืนกินกระบี่์อย่างต่อเนื่อง ั์ตาของมันเปลี่ยนเป็สีแดงดั่งโลหิต พลังชี่อันร้ายกาจรอบตัว ก็หนาแน่นขึ้นทุกทีเช่นกัน
"ตายเสียเถอะ!" จู่ๆ เสียงอันเย็นะเืก็ดังจากหมู่เมฆสีดำ
ตูม!
ทันใดนั้น กระบี่์ก็ปรากฏขึ้น และพุ่งลงมา แต่ครานี้มิได้ตรงไปที่ัร้าย แต่กลับปราดเข้าจู่โจมกู่ไห่
ชิ้ง!
ปลายกระบี่พุ่งแหวกอวกาศ ตรงไปยังกู่ไห่ รังสีสังหารอันดุดันพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม ราวกับ้าจะผ่าออกเป็สองซีก
โฮก!
ัร้ายคำราม พลางทะยานเข้าใส่กระบี่์ทันที
ปัง!
เสียงะเิดังสนั่น กระบี่์เล่มนั้นแตกกระจาย ก่อนสลายไปในอากาศ
"หืม?" สีหน้าของคุณชายเก้าพลันบิดเบี้ยว
“ป้องกันการโจมตีได้ง่ายดายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” ชายชุดดำร้องอุทาน ด้วยความประหลาดใจ
“ัร้ายตัวนั้น กลืนกินกระบี่์ไปถึงสองร้อยเล่ม ตอนนี้มีความยาวนับสามร้อยจั้งแล้ว จึงแข็งแกร่งขึ้นมาก!”
สีหน้าของคุณชายเก้าเปลี่ยนเป็มืดดำ “หึ! สามารถสกัดกระบี่์ได้หนึ่งเล่ม แล้วอย่างไร? ข้ามีอีกเป็สิบ เป็ร้อย เป็พันเล่ม ดูสิ ว่าเ้าจะสกัดมันอย่างไร!”
ขณะพูด เมฆดำเหนือศีรษะกู่ไห่ ก็ปั่นป่วนขึ้นอีกครา
ชิ้งๆๆ!!!
กระบี่นับร้อยเล่มโผล่ออกมาจากเมฆดำ พลันรังสีสังหารเข้มข้น ก็ปกคลุมไปทั่วหุบเขา ผู้ฝึกตนหลายคนหนังศีรษะชาวาบ รู้สึกได้ถึงความตายที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้เืในกายเย็นเฉียบ ต่างมีสีหน้าหวาดหวั่น
กระบี่์หนึ่งร้อยเล่มชี้ไปที่กู่ไห่
ัร้ายต้านไอสังหารไว้ ทำให้กู่ไห่รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังกระวนกระวายใจอยู่ดี ทำให้มือของเขาหยุดชะงัก ชายหนุ่มเงยหน้ามองนภา ัร้ายส่งเสียงคำรามขึ้นฟ้า เผชิญหน้ากับกระบี่์หนึ่งร้อยเล่มที่กำลังใกล้เข้ามา
กู่ไห่หรี่ตา พลางยกยิ้มเ็า "เ้า้าสังหารข้าในเวลานี้ ไม่สายไปหน่อยหรือ?"
ว่าแล้ว ก็วางหมากดำลงไปที่จุดเทียนหยวนทันที
ก๊อก!
ขณะที่หมากถูกวางลง ัร้ายก็ดูเหมือนจะเปี่ยมไปด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุด
โฮก!
ัร้ายส่งเสียงคำรามก้องฟ้า ก่อนพลังชี่อันร้ายกาจ ที่ลอยอยู่รอบตัวจะปะทุขึ้น ลมพัดกระโชกแรง จนผู้ฝึกตนทั้งหมดต้องหมอบลงกับพื้น
ระหว่างที่ัร้ายส่งเสียงคำราม มันมิได้ปกป้องเหนือศีรษะกู่ไห่อีกแล้ว แต่กลับโผนทะยานขึ้นฟ้า พร้อมใบหน้าดุดัน ปราดเข้าใส่กระบี่หนึ่งร้อยเล่มบนฟ้า พุ่งฝ่าไปยังกลุ่มเมฆดำ และฉีกกระชากพวกมันออกจากกัน เพื่อทำลายค่ายกลกระบี่์!
โฮก!
-----------------------------------
[1] ตำแหน่งเก้าห้าจักรพรรดิ: ในคัมภีร์อี้จิง (易经) เลข 9 กับเลข 5 เป็เลขที่อยู่บนจุดสูงสุดของแผนผังหยินหยาง คำว่า “九五至尊” จึงหมายถึงผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุด ซึ่งหมายถึงฮ่องเต้
[2] หมากลูกโซ่ หมายถึงการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ด้วยการไม่เข้าปะทะซึ่งหน้า แต่ค่อยๆ ทำการตัดกำลังของคู่ต่อสู้แทน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้