จ้าวอี้อยู่ในห้องของเหนียนยวี่สักพักหนึ่งก่อนจะจากไปั้แ่ต้นจนจบ เหนียนอีหลานคอยยืนขนาบข้างกายเขา ใบหน้านางยิ้มแย้ม คงซึ่งมารยาทงดงามอยู่ตลอดเวลา
เหนียนยวี่เฝ้ามองท่วงท่าอันงดงามเพียบพร้อมของพี่สาวผู้นี้นางเพียงแย้มยิ้ม มิเอ่ยสิ่งใด
ยามที่จ้าวอี้กลับไปเหนียนอีหลานไปส่งเขาด้วยตัวเอง และมิได้กลับเข้ามาหาเหนียนยวี่อีก
ยามเย็นแสงอาทิตย์โพล้เพล้อนุสามเซวียอวี่โหรวแห่งจวนเหนียน นางยกน้ำแกงถ้วยหนึ่งมาให้ตนทำให้เหนียนยวี่รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เื่ที่องค์หญิงใหญ่ลงโทษตนเกรงว่าทุกคนในจวนคงรับรู้แล้ว ผู้คนต่างหลีกเลี่ยงที่จะเข้าหานางทว่าอนุสามกลับยกน้ำแกงมาให้นางด้วยตัวเองใน่เวลาเช่นนี้
เหนียนยวี่อดคิดถึงวันนั้นไม่ได้เื่ที่อนุสามเอ่ยขึ้นมายังคงค้างคา เดิมทีนางคิดอยากจะถามทว่าในห้องนางนั้นมีสองสาวใช้คอยเป็หูเป็ตาอยู่ เหนียนยวี่จึงล้มเลิกความคิดนี้
เซวียอวี่โหรวจากไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ
สองสาวใช้รอจนกระทั่งเหนียนยวี่เข้านอนจึงค่อยเดินออกไป
ครั้นแสงไฟในห้องดับลงเหนียนยวี่ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงหวนนึกคิดเื่ที่เกิดขึ้นในตำหนักองค์หญิงใหญ่วันนี้ เวลาล่วงเลยไปนานนางกลับยังคงมิอาจข่มตาหลับลง
ทันใดนั้นเสียงเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยที่ดังมาจากนอกหน้าต่าง ทำให้เหนียนยวี่ตื่นตัวทันใดกลิ่นอำพันทะเลอันคุ้นเคยลอยมาตามลมเหนียนยวี่พลันขมวดคิ้วและเอ่ยออกมาอย่างแ่เบาว่า “ท่านแม่ทัพหลวงช่างมีงานอดิเรกที่แปลกประหลาดเสียจริงท่านชื่นชอบการปีนหน้าต่างห้องผู้อื่นถึงเพียงนี้เลยหรือเ้าคะ?”
ท่ามกลางยามราตรีอันมืดมิดครั้นชายหนุ่มผู้นั้นเข้ามาสายตาของเขาพลันสอดส่องมองหาที่นั่งพลางฟังคำพูดจิกกัดของเหนียนยวี่ไร้ซึ่งอารมณ์เกรี้ยวโกรธ ทั้งยังมิเอื้อนเอ่ยตอบโต้อะไรสักคำ
ในห้องที่เงียบสงบเสียงลมหายใจอันแ่เบาของบุรุษผู้นี้จึงดังชัดเจนเป็พิเศษ เหนียนยวี่รู้สึกคาดเดาความคิดของบุรุษผู้นี้ไม่ออกเขามาหานางสองคืนติดต่อกัน และยังอยู่นานถึงค่อนคืนแท้จริงแล้วเขา้าสิ่งใดกันแน่?
เหนียนยวี่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างพลางหยั่งเชิงเอ่ยถามเขาทันทีว่า “ท่านแม่ทัพหลวง คืนนี้ก็ยังคงมาหาข้าสตรีผู้ยั่วโทสะองค์หญิงใหญ่ชิงเหออีกหรือ หญิงสาวที่โดนเขี่ยทิ้งเยี่ยงข้าผู้ที่มิอาจไต่เต้าปีนขึ้นที่สูงได้ท่านคงคิดว่าตัวข้าช่างน่าเวทนาเสียจริงใช่หรือไม่?
มุมปากของฉู่ชิงภายใต้หน้ากากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย"ข่าวลือภายนอก ไม่ใช่ทุกเื่จะน่าเชื่อถือ"
ความหมายในคำพูดนี้คือเขาไม่เชื่อหรือว่านางไปยั่วโทสะองค์หญิงใหญ่?
เหนียนยวี่ประหลาดใจอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเขา "ไม่น่าเชื่อถืออย่างไรหรือ?"
“ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะตื่นเต้นจนทำถ้วยชาตกแตกต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ”คำพูดของฉู่ชิงชัดเจนทุกถ้อยคำ เหนียนยวี่คนที่เขารู้จักนั้นสงบนิ่งและมั่นคง ภายในร่างกายผอมบางร่างนั้นประหนึ่งมีจิติญญาผู้คุ้นเคยกับโลกใบนี้สิงอยู่ทว่าเหตุใดนางถึงต้องยั่วโทสะและทำตัวเสียอากัปกิริยาต่อหน้าบุคคลที่ใจดีกับนางด้วยเล่า?
แล้วเหตุใดถ้วยน้ำชาถึงตกแตกทั้งยังเื่ที่มีข่าวลือหลุดออกไป แล้วเหตุใดจึงมีข่าวลือเช่นนี้ออกมาได้แม้นในใจเขาจะสงสัย ทว่าตัวเขาเองนั้นรู้ดีว่าเื่บางเื่ก็มิควรไถ่ถาม
เหนียนยวี่ใเล็กน้อยนางไม่คิดว่าฉู่ชิงจะประเมินนางไว้สูงส่งเช่นนี้
ทันใดนั้นเหนียนยวี่พลันตระหนักได้ว่า ไม่ควรหยิบยกประเด็นนี้มาพูดกับฉู่ชิงให้ยืดยาวนางเอนกายลงบนเตียงอย่างสงบเงียบ ในเมื่อเขาไม่พูด นางจึงนิ่งเงียบไม่จำเป็ต้องกล่าวอะไรออกไปเช่นกัน
ฉู่ชิงนั่งต่อไปอีกครู่ใหญ่จากนั้นจึงค่อยลุกจากไป ยามที่กำลังจะออกไปนั้นเขาพลันกล่าวบางสิ่งกับเหนียนยวี่ขึ้นมาประโยคหนึ่ง
"สิ่งของบางอย่างไม่เหมาะกับเ้า เ้าเป็คนฉลาดอะไรที่ไม่เหมาะก็ควรเอาไปคืนเ้าของเดิมเสีย นั่นเป็หนทางที่ดีที่สุด"
ฉู่ชิงเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะจากไปฉับพลันนั้นเขาลับหายไปในความมืดมิด คำพูดของเขายังคงดังก้องอยู่ข้างหูเหนียนยวี่นางพลันขมวดคิ้วแน่น
เขาหมายความว่าอย่างไร?
คืนเ้าของเดิมงั้นหรือ?
แม่ทัพหลวงผู้นี้มาห้องนางกลางดึกกลางดื่นเพื่อพูดเื่เช่นนี้หรอกหรือ?
เวลาล่วงเข้าสู่่เช้าในวันถัดมายามที่เหนียนยวี่ตื่นขึ้น นางกลับเห็นสิ่งของมากมายวางอยู่บนโต๊ะนางจึงรู้ได้ทันทีว่า จุดประสงค์ที่ฉู่ชิงมาหานางเมื่อคืนนี้ มิใช่เพียงแค่นี้แน่
เหนียนยวี่จ้องมองปิ่นหยกในกล่องหยกสีขาวราวมันแพะ[1]ชิ้นนี้เหมือนกับปิ่นหยกที่จ้าวเยี่ยนมอบให้นางวันนั้น ไม่ว่าจะปิ่นหยกอันใดล้วนเป็หยกที่งดงามล้ำค่า ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่แตกต่าง นั่นคือลวดลายที่แกะสลักลงบนปิ่นหยกของจ้าวเยี่ยนเป็ดอกเหมยทว่าปิ่นหยกชิ้นตรงหน้านี้ กลับมิได้ดูสดใสเฉกเช่นดอกเหมยของจริง
ทันใดนั้นเหนียนยวี่หวนนึกถึงสิ่งที่ฉู่ชิงพูดออกมาเมื่อคืนนี้ทันที
"คืนเ้าของเดิม..." เหนียนยวี่พึมพำ นางเข้าใจความหมายของเขาแล้วเขากำลังเตือนนางว่า นางควรขีดเส้นความสัมพันธ์กับจ้าวเยี่ยนให้ชัดเจนงั้นหรือ?
มุมปากเหนียนยวี่ยกยิ้มแม้ไม่มีคำเตือนจากเขา ไม่ว่าอย่างไรนางต้องคืนสิ่งของมากมายที่จ้าวเยี่ยนส่งมาให้นางอย่างแน่นอนทว่าใต้เท้าเสนาบดีผู้นี้ทิ้งปิ่นหยกให้นางเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่?
"ช่างเป็บุรุษที่เข้าใจยากเสียจริง"
เหนียนยวี่ส่ายหน้ามือหยิบปิ่นหยกชิ้นนั้นขึ้นมาวางคู่กับบรรดากริชที่ฉู่ชิงส่งมาให้ทั้งยังหยิบปิ่นหยก จี้สร้อยหยก จี้หยกอาภรณ์ และของอื่นๆอีกมากมายที่จ้าวเยี่ยนส่งมาให้ ห่อไว้ด้วยผ้าผืนหนึ่ง
เหนียนยวี่พักอยู่ในห้องถึงสามวันติดกันระหว่างสามวันนั้น นอกจากเหนียนอีหลานที่มักจะมาหาที่ห้อง คอยพูดปลอบใจนาง แม้ว่าในใจเหนียนอีหลานจะไม่แยแส
ใน่สามคืนที่ผ่านมานี้ฉู่ชิงไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลย และไม่ได้ส่งกริชมาอีกเหนียนยวี่หยิบผ้าห่อหยกออกมาและก้าวเดินออกจากลานเซียนหลานไป
เหนียนยวี่เดินเข้าไปในจวนเมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นนางเดินเข้ามา สีหน้าทุกคนฉายแววเยาะเย้ยชี้ไม้ชี้มือกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง เหนียนยวี่ที่กำลังก้าวเดิน นางได้ยินคำพูดไม่น่าฟังดังแว่วออกมารางๆทว่าเหนียนยวี่กลับทำเพียงยิ้มราบเรียบมิแยแสเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็สิ่งที่นางคาดการณ์ไว้แล้วนางคิดถึงเพียงผลลัพธ์ที่องค์หญิงใหญ่ชิงเหอจะได้รับมากกว่า
ตำหนักหลีอ๋องตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองชุ่นเทียน ครั้นฮ่องเต้หยวนเต๋อขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงรับสั่งให้สร้างที่แห่งนี้ขึ้นมา ตำหนักแห่งนี้เป็ศูนย์รวมความงดงามทางทัศนียภาพมากมายในวังหลวงที่นี่จึงถูกเรียกว่า "วังหลวงหลังน้อย" อยู่่หนึ่ง
ครั้นหลีอ๋องเติบโตจนกลายเป็ผู้ใหญ่ เขานั้นรู้สึกว่าตำหนักหลังนี้แลดูอวดโอ่เกินไปจึงทูลขอฝ่าาให้ออกพระราชอนุญาตให้สร้างใหม่นางฟังเขาบรรเลงฉินในตำหนักหลีอ๋องมานับครั้งไม่ถ้วนทว่าดูเหมือนเื่ราวนั้นได้กลายเป็เพียงเื่น่าขันในยามนี้ไปเสียแล้ว
เหนียนยวี่มาถึงหน้าประตูตำหนักหลีอ๋องแล้วทว่าเด็กรับใช้กลับแจ้งว่าหลีอ๋องไม่ได้อยู่ที่ตำหนัก เหนียนยวี่รู้สึกประหลาดใจทว่ากลับมิได้ถามไถ่สิ่งใดมากนัก นางยื่นห่อผ้าที่มีหยกอยู่ด้านในส่งให้เด็กรับใช้พร้อมกับเอ่ยขอให้เขาส่งคืนสิ่งนี้ให้หลีอ๋อง แล้วจึงจากไป
ตำหนักหลีอ๋องลานจิงหลาน
บุรุษผู้หนึ่งแต่งกายในชุดขาวท่วงท่างดงาม เผยให้เห็นเสน่ห์ยิ่งยวด เส้นผมสีนิลมัดรวบไว้ด้านหลังท่าทีแลดูไม่ปรารถนาสิ่งใดในโลกหล้า ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและสุขใจ
บุรุษที่เด็กหนุ่มเฝ้าประตูแจ้งว่าเขาไม่อยู่ที่ตำหนักแท้จริงนั้นคือ ''หลีอ๋องจ้าวเยี่ยน''
"เหนียนยวี่หรือ? ไหนนางเล่า?" ครั้นจ้าวเยี่ยนได้ฟังสิ่งที่เด็กรับใช้นำมารายงานเขาพลันขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
“ไปแล้วขอรับ นางสั่งให้บ่าวนำสิ่งนี้มามอบให้ท่านอ๋องขอรับ”เด็กหนุ่มยื่นห่อผ้าออกมาอย่างระมัดระวัง โม่ชูรีบมอบให้เ้านายของตนทันทีเขาที่คอยอยู่เคียงข้างปรนนิบัติรับใช้องค์ชายมาหลายปี ทำให้มองออกถึงนัยในคำถามที่องค์ชายเอ่ยจึงลอบถามเ้านายของตน "องค์ชาย ให้ข้าน้อยไปตามเหนียนยวี่กลับมาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
"ไม่ ไม่จำเป็" จ้าวเยี่ยนไร้ซึ่งความลังเลหากเป็ก่อนหน้านี้ เขาคงเชิญนางมาด้วยตัวเอง ทว่ายามนี้...
เหนียนยวี่ที่ได้รับการลงโทษจากองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ...หึสำหรับเขาแล้ว มิจำเป็ต้องไปใส่ใจ
จ้าวเยี่ยนหยิบห่อผ้าจากมือโม่ชู เปิดดูสิ่งของข้างใน คิ้วที่คลายออก ยามนี้พลันขมวดมุ่นเข้าหากันอีกครั้ง
นางมาเพื่อคืนหยกพวกนี้งั้นหรือ?
เฮ้อเหนียนยวี่ผู้นั้น นางไม่รู้สึกหวั่นไหวในความเมตตาของเขาเลยหรือไร?
"โม่ชู ข้าองค์ชายผู้ไร้แก่นสารผู้นี้ มิว่าผู้ใดก็สามารถดูถูกได้งั้นหรือ?"จ้าวเยี่ยนพึมพำราวกับเอ่ยถามทว่าเขาแค่้าพึมพำกับตัวเองเท่านั้น
โม่ชูชะงักไปเล็กน้อยกล่าวตอบอย่างจริงใจปนหวาดกลัว “องค์ชายพวกเราแคว้นเป่ยฉีมีองค์ชายเพียงสองคนเท่านั้น องค์ชายเองก็เป็หนึ่งในสองท่านนั้นแน่นอนว่าต้องสูงส่งไร้ผู้ใดเทียบเทียมได้พ่ะย่ะค่ะ ผู้ใดจะกล้าดูถูกองค์ชายได้พ่ะย่ะค่ะ?”
"เทียบกับมู่อ๋องจ้าวอี้แล้วเป็อย่างไร?" บนใบหน้าของจ้าวเยี่ยนผุดรอยยิ้มสง่างามแลสงบนิ่งทว่ากลับมีอารมณ์อะไรบางอย่างพาดผ่านดวงตาเขา
“ท่านอ๋องมู่…” ดวงตาของโม่ชูเป็ประกาย เขากล่าวอย่างหนักแน่นทันทีว่า“ท่านทั้งสองเป็ดั่งัคู่แสนสูงส่ง ฝ่าาทรงรักและให้ความสำคัญไม่ต่างกันเพียงแต่นิสัยขององค์ชายมิสนใจชื่อเสียงเงินทอง มิชื่นชอบว่าราชการ”
“ัหรือ?” จ้าวเยี่ยนวางถุงหยกในมือลง หันหลังให้โม่ชู ทอดถอนหายใจเล็กน้อย“ัคู่แล้วอย่างไร ในโลกใบนี้ มีัได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น”
ในเมื่อเป็ดั่งัทั้งคู่ เช่นนั้นย่อมมีัตัวหนึ่งที่ต้องตกต่ำลง!
โม่ชูจ้องมองแผ่นหลังของจ้าวเยี่ยน ทันใดนั้นกลับรู้สึกว่าท่านอ๋องหลีในยามนี้ดูต่างไปจากเดิมเล็กน้อยทว่าเขามิสามารถบรรยายความต่างได้อย่างละเอียดนัก
สายลมคิมหันต์พัดผ่านลงบนใบหน้าของผู้คนสร้างความสดชื่นและเย็นสบาย จ้าวเยี่ยนยืนมือไพล่หลัง มิเอ่ยสิ่งใด สำหรับโม่ชูนั้นคุ้นชินกับความเงียบของท่านอ๋องหลีเช่นนี้แล้ว
ขณะที่เขาคิดว่าท่านอ๋องหลีจะยืนเฉย มิเอ่ยอะไรเช่นนี้ไปอีกหลายชั่วโมงเฉกเช่นในยามปกติทว่าฉับพลันนั้น จ้าวเยี่ยนกลับเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกครั้ง
"ฝั่งชิงโหยวกว่านนั้น มีจดหมายส่งกลับมาบ้างหรือไม่?"
[1]หยกเนื้อดี ราคาแพง เป็สีขาวปนเหลืองอ่อน