“อาหนูล้อเล่นแล้วท่านแม่ทัพสั่งกักบริเวณเ้า หากข้ายังบังคับให้เ้าออกมา ก็มิเท่ากับขัดคำของท่านแม่ทัพหรอกหรือ? ในเมื่อระยะนี้อาหนูไม่เหมาะจะออกมาข้างนอก เช่นนั้นก็คงมีเวลาว่างข้าจะมอบหมายรายชื่อแขกที่ต้องเชิญมาในงานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าให้เ้าให้อาหนูรับผิดชอบเขียนเทียบเชิญก็แล้วกัน”
นางจ้าวคิดสักพักจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มะเืว่า “ต้องขอให้อาหนูตั้งใจเขียนให้เรียบร้อยสักหน่อยฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชอบเห็นคนทำเป็เล่นไม่จริงจังเป็ที่สุด”
“ว่าอย่างไรนะ เทียบเชิญตั้งหลายร้อยใบให้ข้าเขียนคนเดียวต่อให้ข้าเขียนจนถึงวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังเขียนไม่เสร็จเลย” อาหนูกรีดร้องเสียงแหลม เพราะนี่เป็สิ่งที่นางควรทำที่ใดกัน
“อาหนู เ้านี่ก็ช่างประเมินความสามารถของท่านแม่ทัพต่ำเกินไปแล้วงานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าจะมีแค่คนไม่กี่ร้อยคนมาอวยพรได้อย่างไรปีนี้ท่านแม่ทัพเหมาสวนอวี้หยวนเอาไว้แล้ว แขกที่เชิญมาหากไม่ใช่พันคนก็ต้องมีเก้าร้อยคนกลับไปข้าจะให้บ่าวเอารายชื่อส่งมาให้อาหนู เ้าก็ตั้งใจเขียนให้ดีๆ เถิด”
นางจ้าวพูดโดยไม่สนใจว่าอาหนูจะตอบกลับอย่างไร ก่อนยื่นมือให้เหมยเซียงพยุงนางขึ้นแล้วเดินนวยนาดจากไป
“อ๊าย!” เสียงกรีดร้องด้วยความโมโหของอาหนูดังออกมาจากในห้อง
นางจ้าวยิ้มเย็นอยู่ในใจ ผู้คนที่คิดจะข้ามหน้าข้ามตาปีนขึ้นมาบนหัวนาง นางจะไม่มีวันปล่อยไว้สักคน
หลังได้ระบายอารมณ์กับอาหนู ที่สุดวันนี้นางก็มีรอยยิ้มอย่างสบายใจเสียที
อาหนูจ้องแผ่นหลังของนางจ้าวตาเขม็ง สีหน้าถมึงทึงน่าในัก
หลังจากส่งฮูหยินใหญ่กลับไปแล้ว จื่อเซียวต้องมาเห็นเพลิงโทสะอันน่าตื่นใของอาหนูนางก็สะท้านใจนัก หลายวันมานี้อาหนูทำสิ่งใดก็ไม่ราบรื่นพลอยทำให้นางถูกตบตีไปด้วยหลายครั้ง จนตอนนี้หน้าของนางยังบวมอยู่เลย
“ฮูหยินรอง ท่านมีวิธีรับมือเช่นใดเ้าคะ” จื่อเซียวถามอย่างระวัง
อาหนูจ้องตาจื่อเซียวลึกๆ คราหนึ่ง เอ่ยอย่างท้อใจว่า “เ้าบอกมาซิวันหน้าท่านแม่ทัพจะไม่รักข้าอีกแล้วและจะปล่อยให้ข้าอยู่ไปตามมีตามเกิดใช่หรือไม่ แม้แต่นางจ้าวที่ถูกทิ้งขว้างมาตั้งนานก็ยังมารังแกข้า”
อาหนูพูดพลางหันหน้าวิ่งกลับไปที่เตียง คว่ำตัวลงกับหมอนสะอื้นไห้ออกมา
จื่อเซียวใยกใหญ่นางได้ยินเื่ที่นางจ้าวสั่งเมื่อครู่เช่นกัน จึงรู้ว่าเหตุใดอาหนูถึงร้องไห้เพียงแต่ครานี้อาหนูไม่ได้มาระบายลงกับนาง จนนางรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยเอาเสียเลย
“ฮูหยินรองเ้าคะ ท่านยังสาว ยังมีโอกาส ฮูหยินรองโปรดวางใจนี่เป็เื่ที่เกิดขึ้นชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้นบ่าวเชื่อว่าอีกไม่นานท่านแม่ทัพก็จะคิดถึงความดีของท่าน และต้องมาหาท่านทันทีเป็แน่ถึงยามนั้นฮูหยินรองก็คอยเอาใจท่านแม่ทัพให้ดีๆ เป็พอแล้วเ้าค่ะ”
จื่อเซียวเอ่ยปลอบเบาๆ เ้านายอารมณ์ไม่ดีแล้วบ่าวจะได้รับผลดีได้อย่างไร นางปลอบอาหนูก็เป็การทำเพื่อตนเองเช่นกัน
อาหนูได้ยินที่จื่อเซียวพูด เสียงร้องไห้ของนางก็ลดน้อยลงไปมาก
“จื่อเซียว สองสามวันนี้ข้าออกไปข้างนอกไม่ได้ เ้าก็ออกไปให้มากๆเข้าไว้ คอยไปสืบข่าวของแต่ละเรือน หาวิธีไปพบกับท่านแม่ทัพทางฮูหยินเ้าก็ต้องหาโอกาสไปพบให้มากๆ ประการแรกเพื่อไปดูว่าฮูหยินมีท่าทีเช่นใดประการที่สองเพราะระยะนี้ท่านแม่ทัพจะอยู่ที่นั่นหวังว่าท่านแม่ทัพเห็นเ้าแล้วจะนึกถึงข้า จะได้มาหาข้าบ้างเช่นนี้ข้าจึงจะพอมีโอกาส”
“ฮูหยินรองวางใจเถิดเ้าค่ะ บ่าวรู้ว่าควรทำเช่นใด”จื่อเซียวพยักหน้ารับอย่างแรง นางจะต้องหาวิธีนัดท่านแม่ทัพให้มาหาอาหนูให้ได้
เมื่ออาหนูมีโอกาสรุ่งเรืองอีกครา วันคืนของบ่าวไพร่เช่นพวกนางย่อมมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
เหมยเซียงประคองนางจ้าวเดินไปไกลแล้วจึงเอ่ยว่า “ฮูหยินใหญ่เ้าคะ ยามนี้เรายังจะไปหาฮูหยินหรือไม่เ้าคะ?”
ตอนที่ฮูหยินใหญ่ออกจากเรือนก็บอกว่าจะไปที่เรือนของฮูหยินแต่ละคนเพื่อจัดสรรงานให้ทำเมื่อครู่ฮูหยินใหญ่เจอตอของอาหนูขวางทางเอา นางจึงไม่แน่ใจว่าฮูหยินใหญ่ยังมีแก่ใจไปหาเื่ฮูหยินอีกหรือไม่
“ไปสิ เหตุใดจะไม่ไปเล่า” นางจ้าวเอ่ยด้วยท่าทีร้ายกาจ
“เ้าค่ะฮูหยินใหญ่เพียงแต่บ่าวคิดไม่ออกว่าท่านจะจัดสรรงานใดให้ฮูหยินทำเ้าค่ะ” เหมยเซียงไม่เข้าใจเพราะนางคิดว่างานที่เหน็ดเหนื่อยที่สุดก็คือการเขียนเทียบเชิญซึ่งงานนี้ฮูหยินใหญ่ก็มอบหมายให้อาหนูทำแล้ว เช่นนั้นยังจะมีงานใดให้ฮูหยินทำเพื่อให้ฮูหยินใหญ่ระบายโทสะได้อีก?
“เื่นี้น่ะหรือ ประเดี๋ยวเ้าก็จะรู้เอง”นางจ้าวมีสีหน้าเ้าเล่ห์ ฝั่งของฮูหยินต่างหากจึงคือละครตอนหลักที่นางจะเอาคืนงานที่มอบหมายให้อาหนูจะนับเป็อะไรได้ หากเป็คนฉลาดก็แค่ไปหาผู้อื่นมาเขียนแทนใช่ว่าเป็งานที่ทำให้ต้องเหน็ดเหนื่อย อย่างมากก็เพียงออกปากระบายความโกรธที่มีต่อนางจ้าวเท่านั้นส่วนทางฮูหยินน่ะหรือ…
เมื่อจินตนาการว่าอีกประเดี๋ยวจะได้เห็นท่าทีจนมุมของฮูหยินนางจ้าวก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเฉียบออกมา
ณ หอหั่วเยี่ยน หลิ่วจิ้งทานอาหารเสร็จอย่างไม่ได้รสชาติ นางนั่งเท้าคางดูทิวทัศน์อยู่ข้างหน้าต่างหั่วอี้ไม่กลับมาอีกเลย เดิมทีนางอยากไปหาฮูหยินผู้เฒ่าที่เรือนเพื่อดูว่าอีกฝ่ายเป็เช่นใดบ้างแต่ก็หาแรงจูงใจมิได้ เมื่อคิดว่าไม่ว่าจะไปหาฮูหยินผู้เฒ่าช้าหรือเร็ว ท่าทีของฮูหยินผู้เฒ่าที่มีต่อนางก็คงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเช่นนั้นไว้วันพรุ่งค่อยไปก็แล้วกัน
หลิ่วจิ้งจมปลักอยู่ในโลกของตนกลับไม่ได้มองเห็นว่านางจ้าวและเหมยเซียงเข้าประตูเรือนมาแล้ว
“ไฉ่เอ๋อร์คารวะฮูหยิน ฮูหยินสบายดีหรือไม่เ้าคะได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินเหนื่อยจนเป็ลมไปดูท่าว่าวันหน้าฮูหยินทำการใดก็ให้ใช้แรงน้อยๆ จะดีกว่าท่านแม่ทัพจะคอยดูแลเื่เล็กน้อยตั้งมากมายทั้งหมดไหวได้อย่างไรกัน”
แค่ได้ยินเสียงหลิ่วจิ้งก็รู้ว่าเป็นางจ้าวมาหา นางหันหน้าไปตามเสียงเห็นนางจ้าวกำลังยิ้มเอ่ยกับนาง แต่รอยยิ้มกลับไม่ได้ออกมาจากดวงตาซ้ำยังมีแววยินดีในความทุกข์ของนางเสียอีก
“โอ้ ฮูหยินใหญ่มา มีเื่เร่งด่วนใดจะพบท่านแม่ทัพหรือไม่ หาไม่แล้วฮูหยินใหญ่ก็คงไม่มาในยามนี้กระมัง
ต้องบอกไว้ก่อนว่าตอนที่ท่านแม่ทัพกลับมานั้นมีสีหน้าเป็กังวลนักบอกว่าสองสามวันนี้คงให้ใครไปอยู่ในห้องนอนหลักของฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้แล้วทั้งที่วันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าก็ใกล้จะมาถึง แต่นางยังต้องไปอยู่ที่ห้องข้างคิดแล้วไม่สบายใจนัก
หากมิใช่เื่เร่งด่วน ถ้าเป็ข้าก็จะไม่เลือกมาดูสีหน้าท่านแม่ทัพในยามนี้หรอก”
เมื่อเห็นว่านางจ้าวมาอย่างไม่ประสงค์ดี หลิ่วจิ้งก็ตัดสินใจจะโต้กลับนางถือคติว่าผู้อื่นไม่ล่วงเกินข้า ข้าไม่ล่วงเกินผู้อื่น เดิมทีไม่อยากขัดแย้งกับนางจ้าว หนำซ้ำยังเคยเตือนอีกฝ่ายเื่ดอกหญ้าเงาเ้าและช่วยเอาไว้ถึงสองหนนึกไม่ถึงว่านอกจากนางจ้าวจะไม่สำนึกบุญคุณแล้ว ยังหันมาบีบเค้นนางเสียอีก
โลกนี้ไม่มีคนดีเบ็ดเสร็จ และไม่มีคนชั่วโดยสิ้นเชิง ส่วนมากก็ล้วนถูกสภาพแวดล้อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย
หลิ่วจิ้งไม่คิดเหยียบย่ำซากศพเศษกระดูกของผู้อื่นเพื่อให้ตนได้แก้แค้นซึ่งนี่ก็คือสาเหตุที่นางยังคงไม่ยอมรับปากร่วมมือกับอาหนูกำจัดเด็กในท้องของนางจ้าวแต่ก็มิได้หมายความว่านางจะยอมให้นางจ้าวเหยียบหัวขึ้นมาท้าทายและข่มเหงนาง
ั้แ่ชั่วอึดใจที่นางจ้าวเห็นหลิ่วจิ้งนางก็ไม่อาจสะกดกลั้นสีหน้าแสดงความรังเกียจได้ “ฮูหยินสอนสั่งถูกต้องนักเพียงแต่ไฉ่เอ๋อร์ไม่ได้มีกลวิธีเลิศเลอเช่นฮูหยินวันหน้าไฉ่เอ๋อร์จะต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนค่อยลงมือ”
“ฮูหยินใหญ่มาด้วยเื่ใด เวลานี้ท่านแม่ทัพมิได้อยู่ในจวนหากอยากมาหาท่านแม่ทัพ ก็ต้องขอให้ฮูหยินใหญ่มาวันอื่น” หลิ่วจิ้งไม่ได้ตอบคำของอีกฝ่ายคนเช่นนางจ้าวเกินเยียวยา นางอุตส่าห์ดีด้วยกลับยังย้อนมาข่มเหงนางอีกจึงไม่คู่ควรให้นางไปทำดีด้วยอีกต่อไป
_____________________________
