“ท่านอาสาม ไม่พบกันเสียนานนะขอรับ!”
เฉิงชิงยิ้มกรุ้มกริ่มทักทายอีกฝ่าย
เฉิงจือซู่มาเยี่ยมเยียนเพื่อขออภัย
ขายหน้าคนเพราะเื่นี้ แม้กระทั่งเฉิงจือซวี่ยังไม่อยากออกหน้า เฉิงจือซู่ไม่ยอมน้อยหน้า ลากนางหวงผู้เป็ภรรยามาด้วยกัน
นางหวงไร้หนทาง ตามเฉิงจือซู่มาขายหน้าคนด้วยกัน ยามนี้เดินขึ้นหน้ามาเป็คนไกล่เกลี่ย
“รู้ว่าเมื่อวานพวกเ้าคงยุ่งอยู่กับการรับแขก ข้าและอาสามของเ้าจึงเลือกมาเยี่ยมเยียนวันนี้ ชิงเกอ เ้าก็รับความตั้งใจเล็กน้อยนี้ไว้เถิด!”
ด้านหลังคือของขวัญหลายหาบ หาบแรกคือกระดาษเซวียนจื่อและพู่กันหูปี่[1] หาบที่เหลือนั้นมีเสื้อผ้าและของบำรุง
ไหนเลยจะเป็ความตั้งใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากระอักเืออกมาก้อนใหญ่
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉิงชิงหุบลง “ท่านอาสะใภ้สาม สิ่งของเหล่านี้ข้ามิกล้ารับขอรับ”
ซือเยี่ยนพึมพำ “นายน้อยไหนเลยจะกล้ารับ วันนี้รับเอาไว้ มิอาจรับรองได้ว่าพรุ่งนี้จะไม่ถูกบังคับให้คืนกลับไป เหมือนเงินสองร้อยตำลึงเงินเมื่อปีที่แล้ว!”
เด็กรับใช้ที่ดีคืออะไร นี่อย่างไรล่ะ!
หากเฉิงชิงเอ่ยคำนี้จะดูโหดร้าย แต่เมื่อซือเยี่ยนเอ่ยกลับไม่เป็อะไร เด็กรับใช้ไม่รู้เื่รู้ราว
ก็เหมือนเซียวอวิ๋นถิงและหญิงรับใช้ข้างกาย แต่ไหนแต่ไรมาเซียวอวิ๋นถิงไม่ต้องรับบทเป็คนร้าย คำพูดที่ไม่น่าฟังล้วนให้หญิงรับใช้เอ่ยแทน
ใบหน้าเฉิงจือซู่เขียวคล้ำ “นี่เ้า—— เ้าจะเอาอย่างไรกันแน่?”
เฉิงชิงก้มหน้า “วันนั้นท่านอาสามกล่าวว่าบิดาของข้าเป็ผู้ที่ไม่จงรักภักดี อกตัญญูและไร้คุณธรรม ไม่มีคุณสมบัติที่จะถูกฝังเข้าสุสานบรรพชนและไม่อาจตั้งโลงศพไว้ที่บ้านรอง บัดนี้ราชสำนักชำระมลทินชื่อเสียงให้แก่บิดาข้าแล้ว เขาเป็ขุนนางที่ดีซึ่งเสียชีวิตในหน้าที่ ท่านอาสามเหมือนยังติดค้างคำขอโทษแก่บิดาข้าอยู่!”
“เ้า——”
รังแกคนเกินไปแล้ว เ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมรังแกคนเกินไปแล้วจริงๆ เฉิงจือซู่อยากจะตีคน นางหวงผู้เป็ภรรยาก็ดึงแขนเสื้อเขา กล่าวเสียงเบา “สามี อย่าลืมคำกำชับของพี่รอง”
หากราชสำนักตัดสินว่าเฉิงจือหย่วนมีความผิด เื่ที่บ้านรองเคยทำก็ไม่นับว่าเป็ความผิดใหญ่อะไร ราษฎรในอำเภอวิจารณ์กันไม่กี่ประโยค คนของบ้านรองก็ไม่มีทางเสียหาย
แต่เมื่อมีราชโองการลงมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว!
ฮูหยินผู้เฒ่าจูและเฉิงจือซู่ไม่ใส่ใจคำวิจารณ์ของผู้อื่น แต่เฉิงจือซวี่กลับใส่ใจอย่างยิ่ง
เขาเป็ขุนนางของราชสำนัก ไหนเลยจะงัดข้อกับราชสำนักได้ ราชสำนักให้ชื่อเสียงแก่เฉิงจือหย่วนหลังเสียชีวิต บ้านรองกลับไม่อนุญาตให้ตั้งโลงศพเฉิงจือหย่วนและจัดงานศพ แม้จะยังดีที่เฉิงจือซวี่อยู่ที่หนานอี๋ แต่ก็ไร้วิธีแสร้งทำเป็ไม่รู้เื่ หากข่าวแพร่ออกไปแล้ว ชื่อเสียงขุนนางของเขาก็คงจบเห่แล้ว!
พระเมตตาอันกว้างใหญ่ไพศาลของฝ่าามาอย่างกะทันหัน เฉิงจือซวี่ยังไม่ทันเข้าใจชัดเจนว่าเกิดเื่อะไรขึ้น ทำให้คดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติพลิกผัน กระทำสิ่งต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวัง ไม่มีทางให้คนจับจุดอ่อนได้
เมื่อคืนบ้านรองปิดประตู ทั้งครอบครัวหารือเื่นี้กันดีแล้ว ในใจเฉิงจือซู่แค้นนักที่ไม่อาจตบเฉิงชิงลงไปกองกับพื้นได้ เมื่อนึกถึงคำกำชับของพี่รอง ก็ยังต้องอดกลั้นความอัดอั้นตันใจไว้อย่างไม่เต็มใจ
อนาคตของพี่รองก็คืออนาคตของบ้านรอง หากพี่รองได้รับผลกระทบที่เลวร้าย หลังจากนี้บ้านรองจะทำอะไรไม่ใช่ว่าต้องมองสีหน้าเ้าเด็กเวรนี่หรือ?
เฉิงจือซู่ก้มศีรษะอันสูงส่งลง
“ขอโทษ!”
“ท่านอาสาม ท่านขอโทษผู้ใด ขอโทษเื่อะไร ต้องเอ่ยให้ชัดเจน”
เฉิงชิงค่อยๆ กดดัน เฉิงจือซู่ส่งเสียงอึกอักในลำคอ สีหน้าจากแดงกลายเป็ม่วง
“…ข้าขอโทษพี่ใหญ่ ที่เคยสงสัยในคุณธรรมของพี่ใหญ่!”
“เพราะข้าทำร้ายพี่ใหญ่ โลงศพของพี่ใหญ่เก็บไว้ที่บ้านโลงศพเป็เวลานานไร้หนทางฝังร่าง ข้า ข้ามันสารเลว!”
“์มีตา พระเมตตาของฝ่าากว้างใหญ่ไพศาล ทำให้พี่ใหญ่สามารถขจัดมลทิน ข้าดีใจแทนพี่ใหญ่”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ชิงเกอเอ๋อร์ หลานสาวทั้งสาม พวกเ้ายกโทษให้ข้าเถอะ——”
เฉิงจือซู่ลอกหนังหน้าแล้ว เอ่ยแต่ละประโยคเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
นางหลิ่วพิงบานประตู พวกเฉิงฮุ่ยพี่สาวน้องสาวทั้งสามเองก็ไม่ออกมา แต่พวกนางได้ยินคำขออภัยของเฉิงจือซู่แล้ว!
เฉิงจือซู่ไม่ได้สำนึกผิดอย่างจริงใจ เพียงแต่ถูกบีบจนไร้ทางเลือกถึงได้มาเยี่ยมเยียนเพื่อขออภัย
ปากเอ่ยถ้อยคำขออภัย ในใจย่อมแค้นพวกนางทั้งครอบครัวอย่างหนัก
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
ยามนี้เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็เฉิงชิงหรือพวกนางหลิ่ว ในใจล้วนสะใจเป็อย่างมาก
หากแม้นไม่บังคับเฉิงจือซู่ให้ขออภัย อีกฝ่ายเองก็ไม่มีทางชอบพวกนางทั้งครอบครัวอย่างจริงใจ เช่นนั้นไหนเลยต้องเสแสร้งใจกว้างปล่อยวางคนของบ้านรองไปโดยง่ายเล่า——จำเป็ต้องเอ่ย ภายใต้การซึมซับอิทธิพลของเฉิงชิงโดยไม่รู้ตัว มุมมองในการมองดูเื่ราวของพวกนางหลิ่วทั้งสี่คนล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลง
สีหน้าเฉิงจือซู่ม่วงคล้ำ เฉิงชิงรู้สึกดีทั่วทั้งร่าง สุดท้ายปล่อยเฉิงจือซู่ไปอย่างใจกว้าง
“หากท่านอาสามสำนึกผิดอย่างจริงใจจริงๆ ผู้เป็หลานก็ไม่อาจทำให้ท่านอาสามลำบากใจต่อ หากแพร่ออกไป คนนอกก็จะด่าว่าข้าได้ เอาล่ะ อย่างไรก็เป็คนตระกูลเฉิงด้วยกันทั้งนั้น หลานจะจดจำความแค้นต่อท่านอาสามจริงๆ ได้อย่างไรเล่าขอรับ!”
เฉิงจือซู่ฝืนกลืนความคาวร้อนในลำคอลงไป
เ้าเดรัจฉานน้อยเพิ่งจะยกตนข่มท่าน พริบตาเดียวก็แสร้งทำเป็ใจกว้าง เอาเขามาเล่นเป็ลิงหรือ[2]?
เดิมควรหารือกับเฉิงชิงเื่รับโลงศพของเฉิงจือหย่วนกลับมาจากบ้านโลงศพ เฉิงจือซู่ไม่อยากเป็คนโง่อยู่ที่ตรอกหยางหลิ่วอีกแม้แต่เค่อเดียว หันกายจากไป นางหวงเอ่ยถ้อยคำตามมารยาทอย่างห้วนๆ ไม่กี่ประโยคก็จากไปด้วย ซือเยี่ยนเ้าเด็กซนคนนี้ก็ยังตะเบ็งคอะโไล่หลัง
“ท่านสาม ท่านสาม ท่านลืมสิ่งของของท่านไว้แล้วขอรับ ของขวัญเหล่านี้นายน้อยไม่้า!”
เฉิงชิงกลั้นยิ้มให้ความร่วมมือด้วย “ไม่เป็ไร ท่านอาสามไม่ขาดเงินเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้หรอก ซื่อเยี่ยน เ้าหาโรงรับจำนำสักแห่ง เอาสิ่งของที่ท่านอาสามทิ้งเอาไว้ไปเปลี่ยนเป็เงิน สามารถทำไปบริจาคมอบให้สถานเมตตาเด็ก”
กลุ่มเพื่อนบ้านหัวเราะกันทันที
“เ้าหนุ่มเฉิง นี่คือกลัวท่านสามเฉิงแล้วหรือ”
กลุ่มเพื่อนบ้านรู้สึกว่าท่าทีของเฉิงชิงที่แสดงออกมาว่า ไม่้ามีความเกี่ยวพันด้านการเงินกับบ้านรองมีอะไรไม่ถูกต้อง
คนเขาไม่อยากได้เงินของบ้านรองไม่ได้หรือ ยินดีที่จะบริจาคแก่สถานเมตตาเด็กจึงไม่รับไว้ทั้งหมด
หากบ้านรองสงสารครอบครัวเฉิงชิงจริง ยามครอบครัวเฉิงชิงถูกกักบริเวณก็คงไม่มีทางนิ่งเฉย
ตอนนี้ถูกบีบบังคับจนไร้ทางเลือกถึงได้มาเยี่ยมเยียนเพื่อขออภัย กล่าวคำทำเื่ล้วนเห็นชัดถึงความไม่จริงใจหลายส่วน
เพิ่งทำให้เฉิงจือซู่โกรธจากไป หญิงค้าทาสก็พาคนมาถึงที่แล้ว
นางขายสาวใช้ที่ดูร่างกายแข็งแรงต่อนางหลิ่วอย่างสุดความสามารถ นายน้อยตระกูลใหญ่ไหนบ้างที่ข้างกายไม่เลี้ยงสาวใช้หน้าตางดงามไว้สักหลายคน?
เมื่อมีใบหน้าที่งดงาม เงินค่าตัวย่อมสูงขึ้น เด็กสาวที่สวยที่สุดคนนั้น หญิงค้าทาสเรียกราคาสามสิบตำลึง นางหลิ่วเกือบจะถูกหญิงข้าทาสกล่าวให้หวั่นไหว เฉิงชิงรีบเข้าไปขวาง ไม่เลือกผู้ที่สวยที่สุดกลับเลือกสองคนที่หน้าตาเรียบร้อย มองไปแล้วค่อนข้างซื่อบื้อ
“สองคนนี้แล้วกัน คนหนึ่งติดตามท่านแม่ ส่วนอีกคนรับใช้พวกพี่สาว คนเฝ้าประตูและทำอาหารซื้อไว้ต่างหาก ไม่เอาที่หน้าตาดี”
หญิงค้าทาสจนปัญญาอย่างมาก
อุตส่าห์คิดวางแผนมาแล้วอย่างดี คิดไม่ถึงเลยว่านายน้อยเฉิงชิงผู้นี้จะเป็ผู้ที่ไม่สนใจเื่รักใคร่ผู้หนึ่ง
ไม่้าสาวใช้หน้าตางดงาม คาดไม่ถึงว่าซื้อเพียงสาวใช้ที่หน้าตาธรรมดาสองคน ค่าตัวไม่สูง เงินที่หญิงค้าทาสได้จึงไม่มาก
ผู้ที่งดงามที่สุดผู้นั้นมองเฉิงชิงอย่างน่าสงสาร เฉิงชิงใจแข็งดั่งหินผา ขอโทษนะพี่สาว ทุกคนต่างเป็เพศเดียวกัน เ้าจะมาโปรยเสน่ห์ใส่ข้าก็ไม่มีประโยชน์
หญิงค้าทาสมีความคิดในใจ แต่บนหน้าก็ไม่กล้าไม่เคารพ เฉิงชิงยังอายุน้อยเกินไป มิเช่นนั้นคงเป็ขุนนางสืบทอดตำแหน่งแล้ว ข้าหลวงใหญ่ที่ราชสำนักส่งมาก็ยังไม่จากไป หญิงข้าทาสไหนเลยจะกล้าล่วงเกินครอบครัวเฉิงชิง
ใช้เวลาเพียงวันเดียว ข้ารับใช้ของครอบครัวเฉิงชิงก็ซื้อมาเรียบร้อยแล้ว จะสอนข้ารับใช้ที่มาใหม่อย่างไรนั้นไม่ต้องให้นางกังวลใจ นางหลิ่วดีเลวอย่างไรก็เคยเป็ฮูหยินนายอำเภอ เดิมครอบครัวก็เคยมีข้ารับใช้ นางหลิ่วไม่ขาดความสามารถในการควบคุมข้ารับใช้เพียงไม่กี่คน
สองวันต่อมา เฉิงชิงวิ่งยุ่งอยู่กับการจัดพิธีศพ
เมื่อระบายความโกรธเกลียดไปแล้ว ในที่สุดนางก็สามารถนั่งหารือเื่พิธีศพของเฉิงจือหย่วนกับคนบ้านรองได้อย่างสงบ
ทั้งสองฝ่ายรักษาสันติภาพบนฉากหน้าไว้ โลงศพถูกย้ายจากบ้านโลงศพมาไว้ที่บ้านรองซึ่งเป็บ้านเดิม สถานที่ที่เฉิงจือหย่วนถือกำเนิดและเติบโต จัดพิธีศพและฝังร่างที่บ้านเดิม ชีวิตอันแสนสั้นของเฉิงจือหย่วนจึงนับว่าเริ่มต้นและสิ้นสุดลงด้วยประการฉะนี้
เฉิงชิงสวมชุดไว้ทุกข์ เชิญิญญาโยนกระถาง ยามเอาดินกลบโลงศพ นางก็หลับตาลง
ผู้ที่จากไปเชิญหลับให้สบาย เื่อื่นมอบให้นางไปทำเถิด!
วันที่สองหลังจากพิธีศพของเฉิงจือหย่วน ชุยเยี่ยนที่กลับบ้านเดิมไปเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอก็กลับมายังหนานอี๋แล้ว
[1] พู่กันหูปี่ คือพู่กันจากเมืองหูโจวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือมีปลายแหลม ขนเรียบ หัวกลม และแข็งแรงทนทาน ผลิตโดยใช้ขนแกะ กระต่าย และอีเห็น มีกรรมวิธีในการผลิตกว่า 17 ขั้นตอน
[2] เอามาเล่นเป็ลิง หมายถึง ถูกแกล้งทำให้เป็คนโง่
